
ACT เผยปัญหาอาคาร สตง.-กสทช.ใช้งบพันล้านแต่สร้างไม่เสร็จ พบที่มาจาก 3 สาเหตุได้แก่เจ้าหน้าที่ไร้ประสิทธิภาพ แก้แบบหลายครั้ง เบิกเงินล่าช้า-ปัญหาผู้รับเหมาขาดประสบการณ์ ลดสเปกไม่ได้ ก็ทิ้งงาน-ปัญหาทุจริต จ่ายเงินใต้โต๊ะ ล็อคทีโออาร์
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org)รายงานว่าเมื่อวันที่ 6 พ.ค. องค์กรต่อต้านคอรัปชันประเทศไทยหรือ ACT ได้ทำเอกสารข่าวแจกระบุว่า นายมานะ นิมิตมงคล ประธาน ACT กล่าวถึงกรณีการก่อสร้างอาคารสำนักงบประมาณและอาคารสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม(กสทช.)ซึ่งใช้งบประมาณหลักพันล้านบาท รวมถึงอาคารที่สร้างก่อนหน้านี้ อาทิโครงการสร้างบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน สมุทรปราการ มูลค่ากว่า 30,000 ล้านบาท โครงการสร้างสถานีตำรวจทั่วประเทศ 396 แห่ง มูลค่า 5,848 ล้านบาท หรือโครงการคือ “อควาเรียมหอยสังข์” จังหวัดสงขลา มูลค่า 1,400 ล้านบาท
แต่ทั้งหมดกลับประสบปัญหาสร้างไม่เสร็จว่าที่ไปของปัญหาดังกล่าวนั้นแบ่งได้เป็น 3 หัวข้อได้แก่ 1.ปัญหาเจ้าหน้าที่ด้อยประสิทธิภาพ2.ปัญหาผู้รับเหมา และ3.ปัญหาทุจริต
1.กรณีเจ้าหน้าที่ผิดพลาดหรือด้อยประสิทธิภาพ เช่น (1) แบบก่อสร้างไม่ชัดเจน มีการแก้แบบ เพิ่มงาน ของานแถม แล้วโยนเป็นภาระผู้รับเหมา (2) หน่วยงานมีปัญหาการเบิกจ่ายเงิน เช่น ช่วงโควิดหน่วยงานรัฐต่างถูกตัดงบประมาณจำนวนมาก
(3) หน่วยงานขาดประสบการณ์บริหารงานก่อสร้าง พิจารณาอนุมัติแบบเพื่อก่อสร้างจริง อนุมัติวัสดุ/อุปกรณ์ล่าช้า การตรวจรับงาน/เบิกจ่ายเงินล่าช้า เป็นเหตุให้ผู้รับเหมาขาดเงินหมุนเวียน(4) เจ้าหน้าที่ เช่น กรรมการตรวจรับงาน ช่างคุมงาน ไม่มีความรู้เพียงพอ ขาดประสบการณ์ ในการคุมงานและตัดสินใจ ขั้นตอนการบริหารงานที่ซับซ้อนและมากเกินความจำเป็น
(5) การแบ่งงวดงาน/งวดเงิน ไม่สอดคล้องกับเนื้องานที่ทำจริง ทำให้ผู้รับเหมาต้องลงทุนเยอะ แต่เบิกเงินได้น้อย (6) งานเริ่มล่าช้าเพราะหน่วยงานมีข้อติดขัด ส่งผลให้แผนงานผู้รับเหมาผิดพลาด เช่น การส่งมอบที่ดิน (7) เจ้าหน้าที่สั่งงานปากเปล่า ทั้งที่ยังไม่ผ่านขั้นตอนอนุมัติของราชการครบถ้วน
2.กรณีผู้รับเหมา ปัญหาที่พบเช่น (1) ผิดพลาดในการบริหารจัดการ เช่น ขาดประสบการณ์ในงานลักษณะนั้น เจองานที่ต้องใช้เทคนิคซับซ้อน รับงานในราคาต่ำกว่าจริง คำนวณต้นทุนผิดพลาด เงินขาดสภาพคล่อง/หาแหล่งกู้ยืมไม่ได้ตามแผนหรือรับหลายงานพร้อมกัน ราคาวัสดุก่อสร้างแพงขึ้นมากเกินคาด ขาดแรงงานมีฝีมือ ฯลฯ
(2) ถูกโกงหรือไปร่วมขบวนการโกง เช่น ซื้องานมาจากนายหน้า รับเหมาช่วง แล้วถูกเอาเปรียบหรือถูกหักค่านายหน้ามากเกินไป ถูกผู้มีอิทธิพลบีบจนไม่สามารถซื้อวัสดุก่อสร้างในพื้นที่ได้ ถูกเจ้าถิ่นบังคับให้จ้างคนของเขามาถมดินในราคาแพงหรือเรียกค่าเงินกินเปล่าค่าถมดิน เป็นต้น
(3) ตั้งใจทิ้งงาน เมื่อได้รับเงินงวดตามต้องการแล้ว (4) เจอปัญหาใหญ่แบบคาดไม่ถึง ทำให้ไปต่อไม่ได้ เช่น พื้นดินทรุดตัวมาก เกิดโรคโควิด 19 เป็นต้น
“หลายโครงการพบว่า เมื่อเจ้าหน้าที่เข้มงวดรัดกุมมาก จนผู้รับเหมาไม่สามารถลดสเปก ลดเนื้องาน ขอแก้แบบ หรือขอขยายเวลาก่อสร้างได้เหมือนที่เคยปฏิบัติมา สุดท้ายจบด้วยการทิ้งงาน เหมือนที่คนวงในอธิบายเรื่องอาคาร สตง. ประจำจังหวัดถูกทิ้งงานนับสิบแห่งเมื่องานก่อสร้างไปต่อไม่ได้ กลายเป็นภาระให้หน่วยงานรัฐเริ่มขั้นตอนหาผู้รับเหมารายใหม่มาดำเนินการต่อ ทำให้งานล่าช้าและเสียงบประมาณเพิ่มขึ้นอีก” นายมานะกล่าว
3.ปัญหาทุจริต เช่น (1) จ่ายเงินใต้โต๊ะ ค่าฮั้ว ล็อคทีโออาร์เพื่อล็อคผู้รับเหมา ล็อคสเปกวัสดุอุปกรณ์ ค่านายหน้า ทุกอย่างต้องจ่ายหนักมากจนไม่เหลือกำไร
(2) จ่ายเงินค่าเร่งเวลาเมื่อขออนุมัติวัสดุอุปกรณ์ หรือจ่ายเมื่ออยากใช้ของราคาถูก จ่ายทุกขั้นตอนการตรวจรับงาน เบิกจ่ายเงิน อนุมัติขั้นตอนก่อสร้าง การแก้ไขแบบรูปรายการและการบริหารสัญญา
(3) มีการล็อกสเปกวัสดุอุปกรณ์บางอย่างที่ผู้รับเหมาไม่รู้มาก่อน หรือไม่สามารถซื้อหามาได้
(4) ถูกเจ้าหน้าที่กลั่นแกล้ง เพราะไม่ยอมจ่ายเบี้ยใบ้รายทาง หรือไม่ใช่พวกพ้อง หรือแหวกฮั้วเข้ามา
(5) ถูกคนที่อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยงานอื่นมารีดไถ เช่น ตำรวจ เทศกิจ ตม. แรงงาน อปท.ฯลฯ
“ถามว่า ปัญหานี้ฟ้องร้องค่าเสียหายได้มั้ย คำตอบคือ แม้จะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายได้ก็ไม่คุ้ม และบางครั้งก็ไม่มีหลักประกันว่างานนั้นจะเสร็จได้หากมีการโกงกินหนักมากอยู่แล้ว ผมคิดว่า ผู้รับเหมาที่ดีมีอยู่จำนวนมาก แต่ปีศาจที่ไม่เคยเปลี่ยนเลยคือ เจ้าหน้าที่ในหน่วยงานเจ้าของโครงการและนักการเมืองที่คดโกงคอยอาศัยช่องโหว่ของระบบและอำนาจที่มี เพื่อกอบโกยให้ตนเองและพวกพ้อง”ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) กล่าว

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา