
ป.ป.ช.สงขลา เผยแพร่มติ ป.ป.ช.ชุดใหญ่ เอกฉันท์ชี้มูลความผิด 'ชฎามณี ชาติวัฒนา' อดีตเจ้าพนักงานธุรการเทศบาลเมืองคลองแห สงขลา คดีจ้างเหมาโครงเหล็กทำถังขยะสำเร็จรูปราคาแพง ไม่มียื่นเสนอราคาจริง-ตรวจรับงานจ้างไม่เป็นไปตามข้อกำหนด เผยเจ้าตัวเจอแค่โทษวินัย -พวกที่เหลือโดนอาญาด้วย
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ประจำจังหวัดสงขลา ได้เผยแพร่มติคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดคดีกล่าวหา นางชฎามณี ชาติวัฒนา เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเจ้าพนักงานธุรการชำนาญงาน เทศบาลเมืองคลองแห อำเภอหาดใหญ่จังหวัดสงขลา กับพวกกรณีจ้างเหมาจัดทำโครงเหล็กทำถังขยะสำเร็จรูปในราคาที่สูงเกินจริง ไม่มีการยื่นเสนอราคากันจริงและตรวจรับงานจ้างไม่เป็นไปตามข้อกำหนดในใบสั่งซื้อสั่งจ้าง
สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดสงขลา ระบุว่า คดีนี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้รับเรื่องกล่าวหากรณีกล่าวหา นางชฎามณี กับพวก ไว้พิจารณาและดำเนินการไต่สวน โดยมอบหมายคณะผู้ไต่สวนเบื้องต้นเพื่อดำเนินการไต่สวนเบื้องต้น พร้อมทั้งจัดทำรายงานการไต่สวนเบื้องต้นเสนอต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อพิจารณา
คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณามีมติเป็นเอกฉันท์ ด้วยคะแนนเสียง 6 เสียง โดยมีมติในกรณีกล่าวหาผู้ถูกกล่าวหาแต่ละรายดังนี้
การกระทำของนางชฎามณี ชาติวัฒนา ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 ซึ่งได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าหน้าที่พัสดุในการจ้างเหมาจัดทำโครงเหล็กถังขยะสำเร็จรูป ไม่ได้ทำการกำหนดราคากลาง และไม่ได้ติดต่อตกลงราคากับผู้รับจ้างเองโดยตรง เป็นการไม่ปฏิบัติหน้าที่เจ้าหน้าที่พัสดุในการจัดจ้างทำโครงเหล็กถังขยะสำเร็จรูป อย่างครบถ้วนแต่เนื่องจากการแต่งตั้งให้ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 ปฏิบัติหน้าที่เจ้าหน้าที่พัสดุดังกล่าวนั้น เป็นการแต่งตั้งที่ไม่ตรงกับสายงานของผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 ประกอบกับผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 ไม่เคยผ่านการอบรมหลักสูตร เกี่ยวกับงานด้านพัสดุมาก่อนจึงไม่มีความรู้และไม่มีประสบการณ์เกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้าง
การที่ผู้ถูกกล่าวหา ที่ 1 ไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ให้ครบถ้วนถูกต้องจึงเป็นความบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่ ให้ส่งเรื่องให้ผู้บังคับบัญชา ดำเนินการทางวินัยตามหน้าที่และอำนาจตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกัน และปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 64
การกระทำของนางพรทิพย์ จันทร์ศิริ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 และนายภูณัฐปพน หนูบ่ม ผู้ถูกกล่าวหาที่ 4 ในฐานะคณะกรรมการตรวจรับพัสดุ ได้ดำเนินการตรวจรับโครงเหล็กถังขยะสำเร็จรูปโดยไม่ได้ทำการวัดความสูงของโครงเหล็กถังขยะ ทั้งที่มีความสูงลดลงจากที่กำหนดในใบสั่งซื้อสั่งจ้างถึง 35 เซนติเมตร แต่กลับรับรองข้อเท็จจริงในใบตรวจรับการจัดซื้อจัดจ้างว่างานถูกต้องครบถ้วนตามสัญญาและเห็นควรเบิกจ่ายเงินให้แก่ผู้รับจ้าง ทั้งที่ความสูงของโครงเหล็กถังขยะมีขนาดไม่เป็นไปตามใบสั่งซื้อสั่งจ้าง จึงมีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหาย แก่ผู้หนึ่งผู้ใด และฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ทำเอกสาร รับเอกสารหรือกรอกข้อความลงในเอกสาร กระทำการรับรองเป็นหลักฐานว่าตนได้กระทำการอย่างใดขึ้นหรือว่าการอย่างใดได้กระทำต่อหน้าตนอันเป็นความเท็จและรับรองเป็นหลักฐานซึ่งข้อเท็จจริงอันเอกสารนั้นมุ่งพิสูจน์ความจริงอันเป็นความเท็จ ตามประมวล กฎหมายอาญา มาตรา 157 และมาตรา 162 (1) (4) และฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้น การปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหาย แก่ผู้หนึ่งผู้ใดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 (ปัจจุบันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172)
นอกจากนี้ ยังมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรงฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบ เพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นได้ประโยชน์ที่มิควรได้ ตามประกาศคณะกรรมการพนักงานเทศบาลจังหวัดสงขลา เรื่อง หลักเกณฑ์เกี่ยวกับวินัยและการรักษาวินัย และการดำเนินการทางวินัย พ.ศ.2558 ข้อ 7 วรรคสาม
การกระทำของนายฮากิม หมานเบ็ญทีม ผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่จัดการหรือดูแลกิจการใด เข้ามีส่วนได้เสียเพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่น เนื่องด้วยกิจการนั้น ฐานเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหาย แก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ทำเอกสาร รับเอกสารหรือกรอกข้อความลงในเอกสาร กระทำการรับรองเป็นหลักฐานว่า ตนได้กระทำการอย่างใดขึ้นหรือว่าการอย่างใดได้กระทำต่อหน้าตนอันเป็นความเท็จ และรับรองเป็นหลักฐานซึ่งข้อเท็จจริงอันเอกสารนั้นมุ่งพิสูจน์ความจริงอันเป็นความเท็จ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 152 มาตรา 157 และมาตรา 162 (3) (4) และฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่หรือใช้อำนาจ ในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยทุจริตตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 (ปัจจุบันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172) และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรงฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบ เพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นได้ประโยชน์ที่มิควรได้เป็นการทุจริตต่อหน้าที่ราชการ ตามประกาศคณะกรรมการพนักงานเทศบาลจังหวัดสงขลา เรื่อง หลักเกณฑ์เกี่ยวกับวินัยและการรักษาวินัย และการดำเนินการทางวินัย พ.ศ.2558 ข้อ 7 วรรคสาม
การกระทำของนายไหลหมาน หมัดอะดั้ม ผู้ถูกกล่าวหาที่ 5 มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน มีหน้าที่จัดการหรือดูแลกิจการใด เข้ามีส่วนได้เสียเพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่นเนื่องด้วยกิจการนั้นและฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมาย อาญา มาตรา 152 และมาตรา 157 ประกอบมาตรา 86 และฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิด ความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 (ปัจจุบันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561
มาตรา 1972) ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86
สำหรับนายพยุงศักดิ์ ใจเย็น จากการไต่สวนเบื้องต้น พยานหลักฐาน ยังไม่เพียงพอที่จะฟังได้ว่านายพยุงศักดิ์ ใจเย็น ได้กระทำความผิดตามที่กล่าวหา ข้อกล่าวหา ไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป
รวมทั้งแจ้งข้อเท็จจริงที่เกี่ยวกับการกระทำของนายไหลมาน หมัดอะดั้ม ให้กรมบัญชีกลาง เพื่อดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจให้เป็นผู้มีลักษณะทิ้งงาน ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป
อย่างไรก็ดี การชี้มูลความผิดของ ป.ป.ช. ยังถือเป็นที่สิ้นสุด ผู้ถูกกล่าวหา มีสิทธิ์ต่อสู้คดีพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลได้อีก

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา