
ชุดสอบสวนออกหมายจับ ‘เปรมชัย’ พร้อมผู้ต้องหารวม 17 ราย ฐานเอี่ยวตึก สตง.ถล่มจนมีผู้เสียชีวิต 89 ราย แบ่งผู้ต้องหาเป็น 3 กลุ่ม ทั้งกลุ่มผู้ออกแบบ กลุ่มรับจ้างคุมงาน กลุ่มรับจ้างก่อสร้าง เผยที่มาออกหมายจับหลังจากตรวจสอบพบปูนไม่ได้มาตรฐาน มีการปลอมลายเซ็นวิศวกร
สำนักขาวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวว่าเมื่อช่วงเย็นวันที่ 15 พ.ค. คณะพนักงานสืบสวนสอบสวนซึ่งทำหน้าที่ตรวจสอบกรณีตึกสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินถล่มได้มีการออกหมายจับนายเปรมชัย กรรณสูตร อดีตประธานผู้บริหารบริษัทอิตาเลียนไทย จำกัด พร้อมกับผู้ต้องหารายอื่นๆรวม 17 รายมีรายละเอียดดังนี้
คณะพนักงานสืบสวนสอบสวนได้มีการแบ่งกลุ่มผู้กระทำความผิดออกเป็น 3 กลุ่มซึ่งต้องรับผิดชอบกรณีตึกถล่ม ซึ่งเป็นผู้มีวิชาชีพในการออกแบบ ควบคุม หรือทำการก่อสร้าง ซ่อมแซมหรือรื้อถอนอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างใด ๆ ไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ หรือวิธีการอันพึงกระทำมีผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องและเป็นผู้กระทำความผิดดังนี้
กลุ่มที่ 1 บริษัทผู้ออกแบบ
- บริษัท ฟอ-รัม อาร์คิเทค จำกัด และ บริษัท ไมนฮาร์ท (ประทศไทย) ทำสัญญาระหว่างสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน โดยผู้มีอำนาจลงนามผูกพันนิติบุคคล 1 ราย และมีกลุ่มวิศวกรผู้ลงนามในแบบแปลนซึ่งเป็นวิศวกรโครงสร้าง จำนวน 5 ราย
รวมผู้กระทำความผิดทั้งหมด 6 ราย
.กลุ่มที่ 2 บริษัทผู้รับจ้างควบคุมการก่อสร้าง
-กลุ่มที่ 2 ได้แก่กิจการร่วมการค้า PKW จำนวน 1 รายในฐานะส่วนตัว เนื่องจากเป็นผู้แทนลงนามในสัญญา ซึ่งทั้ง 3 บริษัท ตกลงยินยอมรับผิดร่วมกัน และ แทนกันต่อผู้ว่าจ้างในทุกกรณี
โดยกิจการร่วมการค้า PKW มี 3 บริษัท ประกอบด้วย
1.บริษัท พี เอ็น ซิงค์โครไนซ์ จำกัด
2.บริษัท เคพี คอนซัลแทนส์ แอนด์ แมเนจเม้นท์ จำกัด
3.บริษัท ว.และสหาย คอนซัลแตนตส์ จำกัด
รวมผู้กระทำความผิดทั้งหมด 5 ราย
กลุ่มที่ 3 บริษัทผู้รับจ้างก่อสร้าง
1.บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน)
2.บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด และ ผู้มีอำนาจกระทำการแทนกินการร่วมค้า
ITD-CREC รวมผู้กระทำความผิดทั้งหมด 6 ราย
สำหรับบุคคลที่ออกหมายจับนั้นมีด้วยกัน 17 รายได้แก่
1.นายสุชาติ ชุติปภากร อายุ 64 ปี 2.นายพิมล เจริญยิ่ง อายุ 85 ปี 3.นายธีระ วรรธนะทรัพย์ อายุ 59 ปี 4.นายสุพล อัครอารีสุข อายุ 51 ปี 5.นายชัยณรงค์ เสียงไพรพันธ์ อายุ 43 ปี 6.นายอภิชาติ รักษา อายุ 38 ปี 7.นายปฏิวัติ ศิริไทย อายุ 53 ปี 8.นายกฤตภัฏ ปล่องกระโทก อายุ 51 ปี
9.นายพลเดช เทิดพิทักษ์วานิช อายุ 56 ปี 10.นางปราณีต แสงอลังการ อายุ 63 ปี 11.นายสมชาย ทรัพย์เย็น อายุ 59 ปี 12. นายเปรมชัย กรรณสูตร อายุ 71 ปี 13.นางนิจพร จรณะจิตต์ อายุ 73 ปี 14.นายชวนหลิง จาง อายุ 42 ปี 15.นายเกรียงศักดิ์ กอวัฒนา อายุ 65 ปี 16.นายอนุวัฒ คันษร อายุ 54 ปี และ17.นายธิปัตย์ รัตนวงษา อายุ 43 ปี

สำนักข่าวอิศรารายงานข่าวว่าการออกหมายจับดังกล่าวนั้น เป็นผลสืบเนื่องจากการทำงานของ พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. มีคำสั่งให้แต่งตั้ง คณะพนักงานสืบสวนสอบสวน โดยมี พล.ต.ต.สมควร พึ่งทรัพย์ เป็นหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ เป็นรองหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนเพื่อให้ทำการสอบสวนในคดีดังกล่าว
จากการตรวจสอบพยานหลักฐานทั้งเอกสารและพยานบุคคล พบว่าแบบแปลนการก่อสร้างไม่สอดคล้องกับกฎกระทรวง และมาตรฐาน กลุ่มกำแพงปล่องลิฟต์ของอาคาร ไม่ได้อยู่ตรงกลางอาคาร แต่ชิดขอบด้านหลัง ทำให้ศูนย์กลางของการบิดตัวของอาคารเยื้องไปจากศูนย์กลางอาคาร เมื่ออาคารแกว่งตัวจากแผ่นดินไหว ทำให้กำแพงปล่องลิฟต์และเสาที่ฐานถล่มเกือบพร้อมกัน ทำให้อาคารทั้งหลังตกลงมาในแนวดิ่งอย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้มีการส่งผลตรวจปูนซีเมนต์ ที่ใช้ในการก่อสร้างอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ว่ามีมาตรฐาน ตรงตามค่า KSC ซึ่งเป็นหน่วยวัดมาตรฐาน ที่ใช้วัดความแข็งแรงของคอนกรีต ผลการตรวจปรากฏว่าความแข็งแรงของคอนกรีต ไม่ได้มาตรฐานตามค่า KSC และ การตรวจสอบเหล็กเส้นที่เก็บได้จากอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ปรากฏว่ามีบางส่วนไม่ เป็นไปตามแบบเช่นกัน และ จากการตรวจลายมือชื่อของ นายสมเกียรติ ชูแสงสุข ผู้เสียหายที่ถูกปลอมลายมือชื่อลงไป ในฐานะวุฒิวิศวกร จากกองพิสูจน์หลักฐานยืนยันว่า ตัวอย่างลายมือชื่อที่ส่งเปรียบเทียบ มีคุณสมบัติการเขียน รูปลักษณะของลายมือชื่อแตกต่างกันกับตัวอย่างลายมือชื่อของ นายสมเกียรติ ชูแสงสุข จึงลงความเห็นว่าไม่ใช่ลายมือชื่อของคนเดียวกัน
จากหลักฐานทั้งเอกสารและพยานบุคคล จึงนำไปสู่การแบ่งกลุ่มผู้กระทำความผิดออกเป็น 3 กลุ่ม และออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 17 รายดังกล่าว
สำนักข่าวอิศรารายงานข่าวเพิ่มเติมว่าสำหรับจำนวนของผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจากกรณีตึก สตง.ถล่ม จากเหตุแผ่นดินไหวที่เมียนมา เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 เวลาประมาณ 13.20 น. ล่าสุด ค้นพบผู้เสียชีวิตแล้วจำนวน 89 ราย ได้รับบาดเจ็บสาหัส จำนวน 1 ราย ได้รับบาดเจ็บ 8 ราย สูญหาย 11 ราย
มีการมาร้องทุกข์กล่าวโทษให้ ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้งหมด 17 ราย ตามที่เรียนแล้วเบื้องต้น ในฐานะนิติบุคคล และ ส่วนตัว ในฐาน “เป็นผู้มีวิชาชีพในการออกแบบ ควบคุม หรือ ทำการก่อสร้าง ซ่อมแซมหรือรื้อถอนอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างใด ๆ ไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ หรือวิธีการอันพึงกระทำการนั้น ๆ โดยประการที่น่าจะเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่บุคคลอื่น เป็นเหตุให้บุคคลอื่นถึงแก่ความตาย” อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 227 , 238

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา