
นักวิชาการออสเตรเลียเผยกรณีพอล แชมเบอรส์เป็นข้อบ่งชี้ ม.112 ถูกใช้เป็นอาวุธ แม้คำฟ้องจะอ่อนมาก ชี้ชัดระบบนิเวศทางวิชาการไทยอ่อนแอ นำไปสู่การตีความผิดๆ เตือนนักท่องเที่ยวมาเมืองไทยระวังอยู่ผิดที่ผิดเวลา
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวกรณีนายพอล แชมเบอร์ส นักวิชาการจากสหรัฐอเมริกา ที่ถูกแจ้งข้อหาความผิดตามมาตรา 112 แต่ว่าอัยการภาค 6 มีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง
ล่าสุดเมื่อวันที่ 16 พ.ค.ที่ผ่านมา สื่อในประเทศออสเตรเลียได้รายงานบทสัมภาษณ์นายมาร์ค โคแกน นักวิชาการจากออสเตรเลีย ที่ปัจจุบันเป็นรองศาสตราจารย์ด้านสันติภาพและความขัดแย้งศึกษาที่มหาวิทยาลัยคันไซไกไดในญี่ปุ่น โดยนายโคแกนกล่าวว่ากรณีนี้ถือว่าเป็นคำเตือนระดับธงแดงให้กับประเทศไทยใน 2 กรณีหลักนิติธรรมด้วยกันได้แก่
1.เป็นที่ชัดเจนว่าในอดีตมีการใช้การใช้กฎหมายมาตรา 112 เพื่อปิดปากผู้ที่แสดงความเห็นต่าง ซึ่งผู้แสดงความเห็นต่างไม่ว่าจะเป็นฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง พรรคการเมือง นักปกป้องสิทธิมนุษยชน และแม้กระทั่งผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์การเมืองในโทนที่ค่อนข้างอ่อนโยน ทั้งหมดต่างก็มีโอกาสที่จะถูกดำเนินคดี
“กรณี ดร.แชมเบอร์สเตือนให้เราเห็นว่ากฎหมายนี้สามารถถูกใช้เป็นอาวุธในประเทศไทยได้อย่างง่ายด้วย แม้ว่าคำฟ้องจะอ่อนมากก็ตาม” นายโคแกนกล่าว
2.คดีนี้ยังแสดงให้เห็นถึงระบบนิเวศทางวิชาการที่เปราะบาง ที่ต้องอาศัยการตีความ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กรณี ดร.แชมเบอร์ส ที่ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างพลเรือนและทหาร หรือผู้ที่ทํางานในประเด็นสิทธิมนุษยชน ซึ่งเมื่อบุคคลเหล่านี้สื่อสารออกมา สิ่งที่สื่อสารไปอาจจะถูกตีความผิดได้โดยง่าย
นายโคแกนกล่าวว่าแม้ว่าการตั้งข้อหาอย่างเป็นทางการต่อนักวิชาการต่างชาติจะเป็นกรณีที่หาได้โดยยาก แต่การใช้กฎหมายนี้ยังเป็นเครื่องเตือนใจนักวิชาการไทยถึงผลที่ตามมาของการฝ่าฝืนกฎหมายที่มีถ้อยคําคลุมเครือในประมวลกฎหมายอาญาไทย
สำหรับข้อมูลการท่องเที่ยวระหว่างออสเตรเลียและไทย พบว่าก่อนเกิดโควิดระบาด มีนักท่องเที่ยวออสเตรเลีย 8 แสนคนมาเยือนไทยทุกปี และไม่กี่ปีที่ผ่านมา จำนวนนักท่องเที่ยวออสเตรเลียเริ่มจะกลับมาอยู่ในระดับก่อนการเกิดโรคระบาด
อย่างไรก็ตามเว็บไซต์ smartraveller.gov.au ได้ออกประกาศเตือนนักท่องเที่ยวออสเตรเลียว่า "การดูหมิ่นสถาบันกษัตริย์ หรือทําให้ภาพลักษณ์ของสถาบันกษัตริย์เสื่อมเสีย รวมถึงบนธนบัตรที่มีรูปของกษัตริย์ อาจนําไปสู่โทษจําคุกสูงสุด 15 ปี"
นายโคแกนกล่าวว่าดังนั้นเพื่อความปลอดภัยนักท่องเที่ยวควรใช้ความระมัดระวังโดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่อาจมีกิจกรรมทางการเมืองหรือการประท้วง
“เหตุการณ์เช่นนี้อาจเกิดขึ้นได้ยาก แต่เป็นการเหมาะสมที่จะคํานึงถึงสถานการณ์ เพราะนักท่องเที่ยวอาจจะไปอยู่ผิดสถานที่ หรือผิดเวลาก็เป็นได้” นายโคแกนกล่าวและกล่าวทิ้งท้ายว่าความจริงที่น่าเศร้าก็คือการแสดงออกอย่างเสรีบางอย่างอาจทำให้เกิดความยากลำบากหรือความไม่รู้สึกสบายใจโดยไม่รู้ตัว ซึ่งเป็นผลที่ตามมาที่โชคร้ายเมื่อการแสดงออกอย่างเสรีเป็นประจําไม่ใช่ส่วนปกติของชีวิตสาธารณะ
เรียบเรียงจาก:Spine chilling warning for Aussie travellers to Thailand | news.com.au — Australia’s leading news site

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา