
ป.ป.ช.ชี้มูลอดีตนายก อบต.นาซำ เพชรบูรณ์ พร้อมพวก-เอกชนรวม 7ราย พฤติการณ์สมคบกันทุจริตใบเสร็จ นำเอาค่าเช่าห้อง ค่าห้องคาราโอเกะมาเบิกเงินโครงการศึกษาดูงานทำราชการเสียหาย 67,500 บาท
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่าเมื่อวันที่ 28 พ.ค.สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ประจำจังหวัดเพชรบูรณ์ได้เผยแพร่เอกสารข่าวแจกกรณีที่ ป.ป.ช.มีมติชี้มูล นายสีไพร ชุ่มเฟือย อดีตนายกองค์การบริหารส่วนตำบลนาซำอำเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์ กับพวกรวม 7 รายเบิกจ่ายเงินในการจัดโครงการฝึกอบรมและศึกษาดูงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานให้บริการประชาชนขององค์การบริหารส่วนตำบลนาซำ อำเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์ ประจำปี งบประมาณ พ.ศ. 2558 เป็นเท็จ
โดยพฤติการณ์ในการกระทำความผิดนั้นปรากฎว่า องค์การบริหารส่วนตำบลนาซำ ดำเนินโครงการฝึกอบรมและศึกษาดูงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานให้บริการประชาชน ประจำปีงบประมาณ 2558 โดยมีการนำบิลเงินสดค่าห้องพัก ซึ่งมีการคิดค่าอาหารเช้า อาหารค่ำ และค่าเช่าห้องคาราโอเกะรวมอยู่ด้วยมาเบิกจ่ายในราคาที่เกินกว่าค่าห้องพักปกติ ดังนั้นเอกสารดังกล่าวจึงเป็นเอกสารที่แสดงข้อความอันเป็นเท็จ ไม่สามารถนำมาเป็นเอกสารประกอบการเบิกจ่ายได้ การที่องค์การบริหารส่วนตำบลนาซำ นำเอกสารดังกล่าวมาประกอบการเบิกจ่ายจึงทำให้ราชการเสียหายรวมเป็นเงิน 67,500 บาท
สำหรับรายชื่อผู้ถูกชี้มูลมีดังนี้
นายสีไพร ชุ่มเฟือย ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1
มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหาย แก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาลหรือเจ้าของทรัพย์นั้น ฐานเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ทำเอกสาร รับเอกสารหรือกรอกข้อความลงในเอกสารกระทำการรับรองเป็นหลักฐานว่าตนได้กระทำการอย่างใดขึ้นหรือว่าการอย่างใดได้กระทำต่อหน้าตนอันเป็นความเท็จ และรับรองเป็นหลักฐานซึ่งข้อเท็จจริงอันเอกสารนั้น มุ่งพิสูจน์ความจริงอันเป็นความเท็จ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 มาตรา 157 และมาตรา 162 (1) (4)
ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1(ปัจจุบันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172)
และมีมูลความผิด ฐานกระทำการฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชน หรือละเลยไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ ตามพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ.2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 92
นายวิศิษฐ์ ชัยพิลา ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 นางปฑิตตา สมสาย ผู้ถูกกล่าวหาที่ 3,นายพิชิต ขวัญชัยนนท์ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 5
มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาลหรือเจ้าของทรัพย์นั้น ฐานเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ทำเอกสารรับเอกสารหรือกรอกข้อความลงในเอกสารกระทำการรับรองเป็นหลักฐานว่าตนได้กระทำการอย่างใดขึ้นหรือว่าการอย่างใดได้กระทำต่อหน้าตนอันเป็นความเท็จและรับรองเป็นหลักฐานซึ่งข้อเท็จจริงอันเอกสารนั้นมุ่งพิสูจน์ความจริงอันเป็นความเท็จ
ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 ประกอบมาตรา 86 มาตรา 157 และมาตรา 162 (1) (4)
ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 (ปัจจุบันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172)
และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรงฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบเพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นได้ประโยชน์ที่มิควรได้เป็นการทุจริตต่อหน้าที่ราชการและฐานปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยจงใจไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบของทางราชการ มติคณะรัฐมนตรี หรือนโยบายของรัฐบาล
อันเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรงตามประกาศคณะกรรมการพนักงานส่วนตำบลจังหวัดเพชรบูรณ์
เรื่องหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการสอบสวน การลงโทษทางวินัย การให้ออกจากราชการ การอุทธรณ์และการร้องทุกข์ ลงวันที่ 1 มีนาคม 2545 ข้อ 3 วรรคสาม และ ข้อ 6 วรรคสอง
นางพนิดา กุญชร ผู้ถูกกล่าวหาที่ 6 และ บริษัท มุกดาหารอินเตอร์เนชั่นแนลการท่องเที่ยว จำกัด ผู้ถูกกล่าวหาที่ 7
มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใดๆใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริตอันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาลสุขาภิบาลหรือเจ้าของทรัพย์นั้นฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน
ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ทำเอกสารรับเอกสารหรือกรอกข้อความลงในเอกสาร กระทำการรับรองเป็นหลักฐานว่า ตนได้กระทำการอย่างใดขึ้น หรือว่าการอย่างใดได้กระทำต่อหน้าตนอันเป็นความเท็จ และรับรองเป็นหลักฐานซึ่งข้อเท็จจริงอันเอกสารนั้น มุ่งพิสูจน์ความจริงอันเป็นความเท็จ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 มาตรา 157
นายรุ่งศักดิ์ หาญกิจรุ่ง ผู้ถูกกล่าวหาที่ 4
ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานที่จะฟังได้ว่าผู้ถูกกล่าวหาที่ 4 ได้กระทำการอันมีมูลความผิดทางอาญาตามที่กล่าวหา ข้อกล่าวหาในทางอาญาไม่มีมูล
ให้ข้อกล่าวหาตกไป แต่การกระทำของผู้ถูกกล่าวหาที่ 4 มีมูลความผิดทางวินัยไม่ร้ายแรง ฐานปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยจงใจไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบของทางราชการ มติคณะรัฐมนตรี หรือนโยบายของรัฐบาล ตามประกาศคณะกรรมการพนักงานส่วนตำบลจังหวัดเพชรบูรณ์ เรื่อง หลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการสอบสวน การลงโทษทางวินัย การให้ออกจากราชการ การอุทธรณ์ และการร้องทุกข์ ลงวันที่ 1 มีนาคม 2545 ข้อ 6 วรรคหนึ่ง
และมาตรา 162 (1) (4) ประกอบมาตรา 86 ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 (ปัจจุบันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172) ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86
โดยคดีนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา