
ป.ป.ช. เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา 'สมพงษ์ สละชีพ' อดีตรองนายกเทศมนตรีตำบลท่าเรือ อยุธยา นำรถจักรยานยนต์ส่วนกลางไปใช้ประโยชน์ส่วนตัวโดยมิชอบ ล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบภาค 1 พิพากษาลงโทษจำคุก 2 ปี 6 เดือน รอลงอาญา หลังรับสารภาพ ให้โอกาสกลับตัวเป็นพลเมืองดี
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา นายสมพงษ์ สละชีพ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีตำบลท่าเรือ อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา กับพวก นำรถจักรยานยนต์ส่วนกลางของเทศบาลตำบลท่าเรือ ไปใช้ประโยชน์ส่วนตัวโดยมิชอบ ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช.ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147, 151, 157 พ.ร.บ.ป.ป.ช. พ.ศ2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกานยน 2567 ที่ผ่านมา
ล่าสุด เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2568 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 มีคำพิพากษาว่า นายสมพงษ์ สละชีพ จำเลย มีความผิดตามกฎหมาย
ลงโทษจำคุก 5 ปี และปรับ 100,000 บาท
จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กึ่งหนึ่ง
คงจำคุก 2 ปี 6 เดือน และปรับ 50,000 บาท
พิเคราะห์พฤติการณ์ ไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน จำเลยให้การรับสารภาพต่อศาลและวางเงินชดใช้ ค่าเสียหายแก่เทศบาลตำบล ท่าเรือ ผู้เสียหาย อันแสดงให้เห็น ว่าจำเลยรู้สำนึกในความผิดและพยายามบรรเทาผลร้ายแห่งความผิดแล้ว น่าเชื่อว่านิสัยและความประพฤติของจำเลย ยังอยู่ในวิสัยที่จะปรับปรุงตนเองได้ ให้โอกาสกลับตัวเป็นพลเมืองดีสักครั้ง
โทษจำคุก ให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2568 มีมติเห็นชอบในการที่อัยการสูงสุด (อสส.) จะไม่อุทธรณ์คำพิพากษา
สำหรับประมวลกฎหมายอาญามาตรา 151 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐเทศบาล สุขาภิบาลหรือเจ้าของทรัพย์นั้น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท
มาตรา 157 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ


Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา