
อัยการ เลื่อน สั่งฟ้อง ‘ณฐพร โตประยูร’ คดีฟอกเงินสหกรณ์คลองจั่น 5 มิ.ย.68 เจ้าตัว เชื่อเป็นเกมการเมือง เตือน ‘ภูมิใจไทย’ เอาเวลาไปหาพยานหลักฐานมาชี้แจงดีกว่า-ไม่เกิดประโยชน์ต่อสังคม
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 28 พฤษภาคม ที่สำนักอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก นายณฐพร โตประยูร อดีตผู้ตรวจการแผ่นดิน และนายรัฐสิทธิ์ โตประยูร ลูกชาย 2 ผู้ต้องหา คดีฟอกเงินการขายที่ดิน ของนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น วงเงิน 477 ล้านบาท เดินทางมารายงานตัวกับพนักงานอัยการ เพื่อขอเลื่อนการส่งฟ้องคดีนี้
นายณฐพร กล่าวว่า ต้องขอบคุณสื่อมวลชนที่ให้ความสนใจในเรื่องนี้ ในวันนี้ตนยังไม่ได้รับหมายเรียกจากทางอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) แต่ทราบข่าวจากสื่อมวลชน จึงเดินทางเข้ามาเพื่อแสดงความบริสุทธ์ว่า พร้อมตอบกระบวนการทุกอย่าง และทางดีเอสไอทำได้ถูกต้องแล้วที่ไม่ออกหมายเรียก และในวันที่ 2 เม.ย.ได้ทำหนังสือมาถึงดีเอสไอแล้วว่า คดีนี้เป็นคดีหลักที่ศาลยกฟ้องและทุกคดียังรอคดีหลักอยู่ เมื่อสั่งฟ้องจึงต้องจำหน่ายคดีอยู่ดี จึงมองว่าควรที่จะชะลอคดีออกไปก่อน และยังแปลกใจที่อัยการทำหนังสือถึงดีเอสไอทั้ง ๆ ที่อายุความคดีนี้เหลืออีก 4 ปี ไม่ใช่หมดอายุความในวันที่ 15 มิ.ย.
“แปลกใจอีกอย่างนึงว่าภายหลังจากทียื่นยุบพรรค และยื่นคำร้องคดีต่าง ๆ ก็มีคนอื่นโทรมาเตือนว่า ให้ระวังตัวเอาไว้ โดยจะให้อัยการดำเนินคดีและไม่ให้ยื่นประกันตัว มองว่าไม่สามารถทำได้ เพราะทุกคดีการยื่นประกันตัว การสั่งฟ้อง หรือการออกหมายจับต่าง ๆ จะต้องมีมูล และก็ได้ไปปรากฎตัวตามหน้าสื่อและสถานที่ต่าง ๆ ไม่มีพฤติการณ์หลบหนี”นายณฐพรกล่าว
นายณฐพรกล่าวว่า อยากฝากขอบคุณไปถึงพรรคภูมิใจไทยที่ให้ความสำคัญจนออกมากันทั้งพรรค โดยเฉพาะนายอนุทิน ชาญวีรกูล ที่บอกว่าถ้าดีเอสไอจับตัวไม่ได้ ก็จะให้กรมการปกครองจับตัวแทน การกล่าวแบบนี้ถือว่าเป็นการหมิ่นประมาทด้วย เพราะในขณะนี้ ไม่ได้ถูกหมายจับใดๆ ทั้งสิ้น แต่จะไม่ฟ้องนายอนุทินกลับอย่างแน่นอน เพราะมองว่านายอนุทินเป็นคนอ่อนด้อยทางสติปัญญา และไม่อยากเอาคดีแบบนี้เข้าไปให้รกศาลด้วย
นายณฐพรกล่าวว่า มาวันนี้เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจกับพนักงานอัยการ และวันนี้ก็ยื่นฟ้องไม่ได้เนื่องจากการหาหลักทรัพย์ประกันตัวโดยใช้โฉนดที่ดินต้องให้กรมที่ดินประเมินราคาก่อน และไม่มีความจำเป็นที่จะต้องยื่นฟ้องด้วยเพราะคดีนี้ไม่ได้หมดอายุความในวันที่ 15 มิ.ย.
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทำไมถึงไม่ไปรายงานตัวกับดีเอสไอ นายณฐพร กล่าวว่า ทางดีเอสไอเป็นผู้ส่งเรื่องมาเองให้กับสำนักอัยการสูงสุด แล้ววันนี้ไม่ได้กังวลว่าทางอัยการจะนำตัวตนเข้าไปส่งฟ้องศาล เพราะว่ามีเหตุผลของตัวเองอยู่ว่าการที่อัยการจะนำตัวส่งฟ้องหรือไม่นั้น มีความจำเป็นจริง ๆ เพราะจากปัญหาที่เพิ่งได้รับหมายเรียกเมื่อวานนี้ (27 พ.ค.68) และในวันนี้ตอนบ่ายโมงก็ให้เดินทางเข้ามารายงานตัวทันที ซึ่งจะหาหลักทรัพย์มาประกันตัวทันเวลาได้อย่างไร นอกจากนี้วันพรุ่งนี้ (29 พ.ค.68) สำนักงานอัยการสูงสุดก็เชิญไปให้ถ้อยคำในเวลา 10.00 น. จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่ให้เลื่อนการสั่งฟ้องคดีออกไป

เมื่อถามว่าเรื่องนี้มีเบื้องลึกเบื้องหลังอยู่หรือไม่ นายณฐพร กล่าวว่า ไม่คาดเดาอะไรทั้งนั้น และจริง ๆ คดีนี้มีผู้ต้องหา 14 คน แต่ออกหมายเรียกแค่ 2 คน จึงไม่ได้คิดอะไร เพราะถือว่าอัยการและดีเอสไอทำหน้าที่ถูกต้องแล้ว ซึ่งได้ทำหนังสือส่งให้ฝ่ายนั้นแล้ว และยืนยันว่าการเป็นนักกฎหมายนั้นจะไม่มีทางหนีคดีโดยเด็ดขาด และอยากให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์อย่างนึงว่ารัฐธรรมนูญของราชอาณาจักรไทยก็กำหนดไว้ว่าให้ประชาชนร่วมกันปราบปรามทุจริต แต่พอมีคนออกมาร้องเรื่องทุจริตก็มีการออกมาฟ้องปิดปากแบบนี้ จึงอยากให้สื่อมวลชนช่วยกระจายข่าวว่าเรื่อง การฟ้องปิดปากแบบนี้ควรจะหมดไปได้แล้ว
นายณฐพร กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ที่มีการกล่าวว่าเคยเลื่อนมาฟังคำสั่งฟ้องของพนักงานอัยการ 30-40 ครั้ง เป็นเรื่องจริง เพราะตตัวเองร้องขอความเป็นธรรมอยู่เพื่อให้ชะลอการฟ้อง เพื่อรอคดีหลักพิจารณาก่อน มั่นใจว่าจะยังไม่ถูกนำตัวไปส่งฟ้อง เพราะมีเหตุผลมากพอ เขาคงไม่ใจไม้ไส้ระกำฟ้องวันนี้หรอก
เมื่อถามว่าคดีนี้มีความกดดันทางการเมืองเข้ามาด้วยไหม นายณฐพร กล่าวว่า มีแน่นอน แต่ทุกคนมีสิทธิเสรีภาพที่จะทำอะไรก็ได้ และพร้อมที่จะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมจริง ๆ ยังไม่ต้องมาก็ได้ เพราะดีเอสไอยังไม่ส่งหมายมา แต่พอมีข่าวก็เลยมา เพราะหากถ้าไม่มา ก็จะเป็นการไปกดดันที่ดีเอสไอ ซึ่งก็เห็นใจฝ่ายนั้น
“ขอเตือนพรรคภูมิใจไทยว่า ให้เอาเวลาไปหาพยานหลักฐานมาชี้แจงดีกว่า มาทำแบบนี้ มันไม่เกิดประโยชน์ต่อสังคม ต่อให้เอาผมขังคุก ก็มีคนมาร้องต่อได้ ส่วนหากจะฟ้องหมิ่นประมาท ผมพร้อม เพราะเป็นข้อหาเดียวกับที่พรรคก้าวไกล ฟ้องผมแล้วศาลยกฟ้อง ส่วนวันที่ 5 มิ.ย. นี้ที่จะมีการส่งฟ้องต่อศาล ก็ไม่หวั่นใจ เพราะคดีผมเนื้อหาเบาสุด และมีเหตุผล ส่วนเรื่องอายุความได้สอบถามแล้ว มีบางส่วนที่จะหมดอายุความ หากเป็นเช่นนั้นจริง ก็พร้อมเข้าสู่กระบวนการ”นายณฐพรกล่าว
ต่อมาเวลา 13.45 น. หลังเข้าพบพนักงานอัยการเป็นเวลาเพียง 20 นาที นายณฐพร ได้เดินทางกลับออกมาพร้อมเปิดเผยว่า วันนี้ พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 มีความเมตตา และมองว่ามีเหตุผลจำเป็น จึงอนุญาตเลื่อนนัดส่งตัวฟ้องศาล เป็นวันที่ 5 มิ.ย. 68 เวลา 09.00 น. ส่วนทางดีเอสไอก็จะส่งหัวหน้าพนักงานสอบสวนมา ซึ่งเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมโดยถูกต้อง วันที่ 5 มิ.ย.นี้ก็จะมาพบพนักงานอัยการและพร้อมจะยื่นประกันตัว
@ ณฐพร เข้าพบ DSI ตามนัด - นำตัวส่งอัยการแล้ว
รายงานข่าวเพิ่มเติมว่า ต่อมานายณฐพร ได้เดินทางเข้าพบคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กองคดีการฟอกเงินทางอาญา ตามนัดหมาย และพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ได้นำตัว นายณฐพร และนายรัฐสิทธิ์ (สงวนนามสกุล) ซึ่งเป็นอีกบุคคลหนึ่งที่พนักงานอัยการสั่งให้ติดตามตัวมาฟ้อง ไปส่งมอบให้พนักงานอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไปแล้ว
ทั้งนี้ คดีดังกล่าวเป็นคดีพิเศษที่ 42/2559 กล่าวหานายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นกับพวก รวม 14 คน ในความผิดฐานร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน วงเงิน 477 ล้านบาท ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 โดยสอบสวนเสร็จสิ้นและมีความเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหา ส่งสำนวนให้พนักงานอัยการไปเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2560 และพนักงานอัยการความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหา ในเรื่องนี้เป็นกระบวนการจัดการให้ได้ตัวมาเพื่อฟ้องต่อศาล

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา