ทูตอียู-อินโดฯ ประจำกัมพูชาเรียกร้องอาเซียนส่งเสริมกลไกสันติภาพ หลังเหตุปะทะพรมแดนไทย

ทูตอียู-อินโดฯ ประจำกัมพูชากล่าวชื่นชมไทย-กัมพูชาดำเนินการรวดเร็วเพื่อลดมาตรการตึงเครียด-เรียกร้องอาเซียนส่งเสริมกลไกสันติภาพ หลังเหตุปะทะไทยกัมพูชาทำทหารกัมพูชาเสียชีวิต-ทูตอียูยกตัวอย่างความร่วมมือแบบบูรณาการของประเทศสมาชิกอียูส่งเสริมสันติภาพได้ ขณะทูตอินโดฯชี้ประเทศสมาชิกอาเซียนควรร่วมมือเอาชนะความท้าทายด้วยวิธีสร้างสรรค์

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวปัญหาความตึงเครียดระหว่างไทยและกัมพูชา หลังจากที่ล.อ.ฮุน มาเน็ต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กตอนหนึ่งว่า ได้สั่งให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) ฝ่ายกัมพูชา นำประเด็นเรื่องปราสาทตาเหมือนธม ปราสาทตาเหมือนโต๊ด ปราสาทตาควาย และพื้นที่มุมไบ(สามเหลี่ยมมรกต-บริเวณช่องบก) เข้าสู่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) หรือที่เรียกกันว่าศาลโลก

จากกรณีดังกล่าวเมื่อวันที่ 3 มิ.ย.ที่ผ่านมา สำนักข่าว KHMER Times ของกัมพูชารายงานข่าวเพิ่มเติมว่านักการทูตระดับสูงจากสหภาพยุโรปหรืออียูและอินโดนีเซียได้กล่าวถึงกรณีนี้ โดยเรียกร้องให้อาเซียนเสริมสร้างกลไกการแก้ไขข้อขัดแย้งในภูมิภาค โดยเน้นย้ำว่าการบูรณาการที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นและการทูตร่วมกันเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันไม่ให้ความขัดแย้งระหว่างประเทศสมาชิกทวีความรุนแรงมากขึ้นในอนาคต

ทูตของทั้งจากอียูและอินดนีเซียได้แสดงความเสียใจต่อครอบครัวของทหารที่เสียชีวิตจากเหตุปะทะและกล่าวชื่นชมการดำเนินการอย่างรวดเร็วตามมาตรการลดความตึงเครียดที่ตกลงร่วมกันระหว่างทั้งสองประเทศ

 โดยนายอิกอร์ ดรีสแมนส์ เอกอัครราชทูตสหภาพยุโรปประจำกัมพูชา ได้กล่าวเกี่ยวกับบริบทของความขัดแย้งนี้ว่าเราขอสนับสนุนให้กัมพูชาและไทยเร่งรัดการเจรจาทวิภาคีในประเด็นที่เหลือที่เกี่ยวข้องกับการปักปันเขตแดน และดำเนินการตามขั้นตอนฉุกเฉินที่มีประสิทธิผลเพื่อหลีกเลี่ยงเหตุการณ์โศกนาฏกรรมในอนาคต

ทูตจากอียูกล่าวว่าอียูไม่ได้นำเสนอตัวเองว่าจะต้องเป็นแม่แบบให้กับการดำเนินงานของอาเซียน แต่เสนอประสบการณ์อันยาวนานของสหภาพยุโรปกับการบูรณาการระดับภูมิภาคอันเป็นตัวอย่างของความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการเมืองที่สามารถส่งเสริมสันติภาพที่ยั่งยืนได้อย่างไร

“ในช่วง 75 ปีที่ผ่านมา การบูรณาการที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้นทำให้ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปสามารถอยู่ร่วมกันอย่างสันติมากขึ้น ในช่วงเวลาดังกล่าว ไม่มีประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปรายใดที่ทำสงครามกับประเทศสมาชิกอื่นๆและเราเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่าอาเซียนก็จะทำเช่นเดียวกัน”  นายดรีสแมนส์กล่าวและกล่าวต่ออีกว่า

“กัมพูชาและไทย เช่นเดียวกับประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปหลายประเทศ มีประวัติศาสตร์อันยากลำบากของความขัดแย้งและการนองเลือด แต่ความปรารถนาร่วมกันของทั้งสองประเทศที่ต้องการสันติภาพ ความเจริญรุ่งเรือง และความเป็นแกนกลางของอาเซียนเป็นรากฐานที่มั่นคงสำหรับการแก้ไขข้อพิพาทอย่างสันติ”

นายดรีสแมนส์กล่าวว่าตัวเขาเชื่อมั่นอย่างมั่นคงว่าสหภาพยุโรปนั้นมีพลังของการบูรณาการในภูมิภาคในการอำนวยความสะดวกในการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ

“เป็นเวลาเกือบ 50 ปีแล้วที่สหภาพยุโรปสนับสนุนอาเซียนในการทำลายอุปสรรคภายในด้านการค้าและพาณิชย์ และเคารพหลักการของความเป็นศูนย์กลางของอาเซียน ซึ่งทำให้อำนาจอธิปไตยของรัฐในภูมิภาคทั้งหมดแข็งแกร่งยิ่งขึ้น” นายดรีสแมนส์กล่าวและกล่าวอีกว่าเราตั้งใจที่จะพัฒนาความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างสหภาพยุโรปและอาเซียนต่อไปเพื่อประโยชน์แห่งสันติภาพในภูมิภาคทั้งสองของเรา

ขณะเดียวกัน นายซานโต ดาร์โมสุมาร์โต เอกอัครราชทูตอินโดนีเซียประจำกัมพูชา ได้ให้สัมภาษณ์พิเศษกับสำนักข่าว Khmer Times ว่า ควรให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกกับประเทศที่เกี่ยวข้องในการเอาชนะความท้าทายต่างๆ ด้วยวิธีสันติและสร้างสรรค์

“ สมาชิกอาเซียนสามารถอาศัยการสนับสนุนซึ่งกันและกันในการพยายามที่จะรักษาสันติภาพ เสถียรภาพ และความเจริญรุ่งเรืองของภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง” นายดาร์โมสุมาร์โตกล่าวและกล่าวอีกว่า“ความท้าทายที่สมาชิกอาเซียนต้องเผชิญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเกิดขึ้นในเวลาและสถานที่ที่ต่างกัน ย่อมต้องการวิธีแก้ไขที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน”

ทูตจากอินโดนีเซียกล่าวเสริมว่า แม้ว่าจิตวิญญาณแห่งการค้นหาวิธีแก้ไขปัญหาอย่างสันติควรเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด แต่ประสบการณ์ชุดเดียวกันไม่สามารถนำไปใช้แก้ไขสถานการณ์ที่แตกต่างกันได้

“ดังที่สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน กล่าวไว้ระหว่างการพูดคุยที่ ERIA School of Government ในกรุงจาการ์ตาเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อนว่าในประวัติศาสตร์แล้ว เอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีภูมิปัญญาเพียงพอสำหรับให้เราทำงานร่วมกันในการแก้ไขปัญหาต่างๆ รวมถึงปัญหาทางด้านความมั่นคง” นายดาร์โมสุมาร์โตกล่าวและกล่าวทิ้งท้ายว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมา เราได้พยายามอย่างหนักในการสร้างชุมชน เราเผชิญกับความท้าทายที่ยากลำบากมากมายร่วมกัน ดังนั้น เราเชื่อว่าเราควรมีความสามารถมากกว่าที่จะหาวิธีรักษาความสามัคคีของอาเซียนในฐานะครอบครัว

เรียบเรียงจาก:https://www.khmertimeskh.com/501694555/eu-indonesian-envoys-weigh-in-on-cambodia-thailand-tensions/