
คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร วุฒิสภา รุมซักถาม ‘จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์’ รมช.คลัง ไม่มีกาสิโนได้หรือไม่ หวั่น ตีเช็ดเปล่า - ‘แก้วสรร อติโพธิ’ บี้ กี่แห่ง-แข่งขันกันอย่างไร-ร่วมลงทุนแบบใด
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 5 มิถุนายน 2568 ที่รัฐสภา (ฝั่งวุฒิสภา) คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร (Entertainment Complex) วุฒิสภา ได้เชิญนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และนายศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมประชุมเพื่อให้ข้อมูล ข้อเท็จจริง และแสดงความคิดเห็นต่อร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบธุรกิจสถาบันเทิงครบวงจร พ.ศ. .... โดยมีกรรรมาธิการร่วมแลกเปลี่ยนและซักถาม
อ่านประกอบ : ‘อภิสิทธิ์’ จับตาแก้เกณฑ์เงินฝาก 50 ล้านเข้ากาสิโน-‘แก้วสรร’เตือน ซ้ำรอย ‘ยิ่งลักษณ์’
นายจุลพันธ์กล่าวว่า ภายหลังร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. .... ผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ขณะนี้ได้บรรจุอยู่ในระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ลำดับที่ 1 เมื่อเปิดสมัยประชุมในเดือนกรกฎาคมคาดว่าจะมีการพูดคุยกันหากไม่มีกระบวนการในการปรับเปลี่ยนวาระการประชุม ซึ่งรัฐบาลส่งกฎหมายฉบับนี้ไปด้วยใจที่เชื่อมั่นว่าเป็นหนึ่งในกลไกลขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เจริญเติบโตก้าวหน้าไปอีกระดับหนึ่งได้ โดยเฉพาะการท่องเที่ยว
นายจุลพันธ์กล่าวว่า ในช่วงปิดสมัยประชุมได้ใช้เวลาพูดคุยกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ซึ่งได้รับการสนับสนุนที่ดี อย่างไรก็ตามก็มีความเห็นห่วงเรื่องสังคม แต่ตัวกฎหมายต้องรัดกุม รวมถึงมีบริษัทระดับโลกแสดงความสนใจและได้เข้าพบ แต่ไม่ได้พูดคุยในเรื่องการให้สิทธิประโยชน์ใดๆ ส่วนการนำเอามาตรฐานระดับโลก เช่น การกำกับดูแล การป้องกันการติดการพนัน การป้องกันการฟอกเงิน สามารถควบคุมได้ แต่เราต้องมาเขียนกฎหมายรองรับได้อย่างไร
“ส่วนกระบวนการแก้ ยืนยันว่า รัฐบาลไม่มีธง หากสามารถรับแก้แล้วทุกคนสบายใจขึ้น เราเดินหน้าได้ เป็นหน้าที่ของสภาในการแก้กฎหมาย หากแก้แล้วสุดท้ายไปกันไม่ได้ กฎหมายก็ตก ตามขั้นตอน ไม่มีอะไรพิเศษ”นายจุลพันธ์กล่าว
นายคำนูณ สิทธิสมาน กรรรมาธิการและปรึกษาคณะอนุกรรมาธิการวิสามัญศึกษาผลกระทบทางด้านสังคมและกฎหมายของการมีสถานบันเทิงครบวงจรที่มีกาสิโนและการพนันออนไลน์ วุฒิสภา กล่าวว่า การแก้ปัญหาการพนันผิดกฎหมาย หรือ บ่อนเถื่อนพุ่งเป้าที่นักเล่นการพนันชาวไทยเป็นหลัก ส่วนรายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มพุ่งเป้าอยู่กับนักท่องเที่ยวจากต่างชาติ ซึ่งมีความย้อนแย้งกัน
“กฎหมายมีการเปลี่ยนแปลงมาหลายระดับและมีนัยสำคัญ เช่น 50 ล้านบาทไปตั้งเพดานไว้ว่าคนไทยถึงจะเข้าเล่นได้ เชื่อว่าไม่มีคนไทยเข้าไปเล่น เล่นบ่อนเถื่อนดีกว่า หรือยิ่งมีกฎเกณฑ์เข้มงวดขึ้นเท่าไหร่ยิ่งสร้างความไม่สบายใจให้กับนักเล่น ไม่จำเป็นต้องเล่นตรงนี้ได้”นายคำนูณกล่าว
นายคำนูณถามว่า มีข้อมูลหรือไม่ว่า บ่อนกาสิโนในประเทศต่างๆ ค่ามาตรฐานการคุ้มทุนหรือการทำกำไรให้กลุ่มทุนเข้ามาลงทุนจะต้องมีสัดส่วนนักท่องเที่ยวท้องถิ่นกี่เปอร์เซ็นต์ของผู้ที่เข้ามาใช้บริการกาสิโน สุดท้ายแล้วเป้าหมายของรัฐบาลคืออะไร ระหว่างเพิ่มรายได้จากนักท่องเที่ยว หรือ เพื่อแก้บ่อนการพนันผิดกฎหมายในประเทศไทย และสุดท้ายการแก้ไขกฎหมายหน้าตาจะออกมาเป็นอย่างไรกันแน่
@ เงินฝาก 50 ล้าน ผู้ประกอบการไม่ติดขัด
นายจุลพันธ์ตอบว่า เป็นไปในทางเดียวกัน เพราะวัตถุประสงค์ของกฎหมายเมื่อเข้าสู่ครม.มี 2 มิติ ลดการพนันผิดกฎหมาย และรายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่ม ไม่ได้ย้อนแย้งกัน
ประเด็นเงินฝาก 50 ล้านบาท ผู้ประกอบการไม่ได้ติดขัด เป็นอำนาจของเราที่จะกำหนดหรือไม่ การลงทุนประเภทนี้ในหลายๆประเทศทั่วโลกมีทุกรูปแบบ ส่วนเรื่องรายได้ สัดส่วนในประเทศหรือต่างประเทศมากกว่าขึ้นอยู่กับเรากำหนด หากปล่อยฟรีก็ไม่ได้มากจนกระทั่งไปถึง 70-80 % ทั้งนี้ เชื่อว่าสุดท้ายสัดส่วนของคนไทยที่ไปจะมีจำนวนมากและไม่จำเป็นต้องไปในพื้นที่ที่เป็นการพนัน
นายจุลพันธ์กล่าวว่า ประเด็นเรื่องการฟอกเงิน กลไกและเทคโนโลยีปัจจุบันทำให้ยากลำบาก เพราะมีกล้องจับอยู่ตลอดเวลา สามารถตรวจสอบแหล่งเงินได้ ต้องชี้แจงให้ชัด รวมถึงกฎกติกาที่บังคับอยู่ รัดกุม ป้องกันได้

นายจรัญ ภักดีธนากุล กรรรมาธิการและปรึกษาคณะอนุกรรมาธิการวิสามัญศึกษาผลกระทบทางด้านสังคมและกฎหมายของการมีสถานบันเทิงครบวงจรที่มีกาสิโนและการพนันออนไลน์ วุฒิสภา กล่าวว่า ติดใจ คำถามแรก คนที่ออกนโยบายเรื่องนี้ รวมทั้งจัดทำร่างกฎหมายได้คิดทางเลือกอื่นที่ดีกว่าหรือไม่ นอกจากเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์บวกกาสิโน หรือรูปแบบอื่นไม่ได้แล้ว มีการเปรียบเทียบหรือไม่ เพื่อดึงเงินลงทุนจากทั่วโลก ไม่ใช่เฉพาะแหล่งทุนของนายบ่อนระดับโลกเท่านั้น ถ้าจะคิดปรับแผนเป็นไปได้หรือไม่ คำถามที่สอง ทำไมรัฐบาลไม่ลงทุนเอง เป็นของรัฐบาล เข้าประเทศเต็มเม็ดเต็มหน่วย เหมือนสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ไม่ต้องแบ่งให้ชาวโลกเลย ได้รับเต็มๆ ส่งเข้าหลวง เป็นไปได้หรือไม่ หรือทำไม่ได้
@ ไม่ใช่เขียนหลวม แต่ยืดหยุ่น
นายจุลพันธ์กล่าวว่า ปรับได้หรือไม่ ไม่ให้มีกาสิโน ในพ.ร.บ.ฯหลักการและเหตุผลเขียนชัด ปรับลำบาก แนวคิดดของเรื่องนี้เป็นเรื่องของโมเดลธุรกิจ (Business Model) เรามีงบประมาณจำกัด กระบวนการในการดึงเม็ดเงินลงทุนมหาศาลในลักษณะนี้หากให้ภาคเอกชนลงทุนใครจะลงทุน เพราะไม่มีทางคุ้มทุนได้ การมีกาสิโนด้วยจึงทำให้เกิดการคุ้มทุน
“ถามว่าทำไมรัฐไม่ทำเอง ทำหวยบนดินครั้งที่แล้วก็โดนคดี มีกลไก มีข้อกฎหมายกำกับอยู่ ความเป็นภาครัฐทำให้เกิดความอุ้ยอ้าย เราจะมาสามารถดีไซน์สถานที่ อาคาร เอ็นเตอร์เทนเมนต์ที่เป็นองค์ประกอบอีก 90 % เป็นระดับโลกได้เลย หากเราใช้องคาพยพของรัฐ มีข้อจำกัด แต่การให้เอกชนเข้ามาสามารถคิดเลยไปจากจุดที่เราคิดและคาดหวังได้”นายจุลพันธ์กล่าวและว่า
“เดินเข้ามาอาจารย์วุฒิสาร (ตันไชย ที่ปรึกษากรรมาธิการ) บอกว่า กฎหมายฉบับนี้ blank check ไปหน่อย มันมีสองมิติ มติหนึ่ง เขียนหลวม ในมิติของผมเอง เราพยายามเขียนให้ยืดหยุ่น”นายจุลพันธ์กล่าว
@ ตีเช็คเปล่าให้ ‘ครม.กาสิโน’
นาวาตรี วุฒิพงศ์ พงศ์สุวรรณ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) รองประธานคณะกรรมาธิการ คนที่สี่ กล่าวว่า ฟังแล้วก็เคลิ้ม 70 % เห็นด้วย สนามกีฬาดีๆ แต่ 30 % ที่เหลือ ขอสงวนไว้เลยว่า เป็นเรื่องที่น่าสงสัย เป็นเรื่องของ blank check เหมือนเราออกกฎหมายตีเช็คเปล่าให้ ครม.กาสิโนไปแก้ได้ตามใจชอบ ไม่ค่อยสง่างาม เป็นความเสี่ยง
“ที่ไม่เห็นด้วยก็คือกาสิโน เราจนตรอกขนาดนั้นเลยหรือ ต้องมีกาสิโนถึงจะมีนักท่องเที่ยว ลงทุนด้านอื่นได้หรือไม่ ตัวเลขที่บอกว่าเศรษฐกิจดีเอามาจากไหน จากผู้ประกอบการหรือการวิจัย ขอแหล่งที่มาด้วย ไม่อยากเห็นคนไทยวันละ 4 หมื่นคนไปเล่นพนันทุกวัน หมายถึงมีผีพนันวันละ 4 หมื่นคน”นาวาตรี วุฒิพงศ์
นายพิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ สว.กล่าวว่า เห็นด้วย 90 % แต่ไม่เห็นด้วย 10 % คือ เรื่อง กาสิโน ขอถามว่า ถ้าไม่มีกาสิโนเลยจะไม่มีผู้ใดมาลงทุนใช่หรือไม่
นายจุลพันธ์กล่าวว่า ยืนยันว่ากาสิโนเป็นองค์ประกอบที่มีความจำเป็นในการดึงดูดการลงทุนเข้ามาได้
“ไม่ได้หมายความว่ารัฐยกที่ดินให้ และเรื่องคลองเตยไม่เกี่ยวข้องกับโปรเจ็กต์นี้ ที่ดินของรัฐ หรือ ที่ดินราชพัสดุมี 2 ล้านกว่าไร่ มีพื้นที่ให้เลือก เรื่องการเวนคืนก็เป็นไปได้ รัฐเป็นผู้จัดหาที่ดิน แต่ไม่ได้หมายความว่าให้ ต้องจ่ายค่าเช่าเป็นปกติ รัฐก็มีรายได้ ที่ดินควรเป็นที่ดินของรัฐเป็นผู้กำหนดเพื่อให้เกิดการแข่งขันที่เป็นธรรม กระบวนการที่เหมาะสมก็ควรจะเป็นที่กลางแล้วให้ทุกคนมาบิดแข่งกันเพื่อที่จะนำเสนอสิ่งที่ดีสุดหรือไม่”นายจุลพันธ์กล่าว

นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการกล่าวว่า ถ้าไม่มีกาสิโนแล้วอย่างอื่นจะเดินได้หรือไม่ได้ คำถามคือ การมีการอุดหนุนเฉพาะเขตจะส่งผลกระทบนอกเขต
“การที่พูดว่าจะไม่ให้มีจำนวนมาก การมีจำนวนน้อยแล้วใครจะได้ ซึ่งให้อำนาจกรรมการนโยบาย หรือ เรียกว่า ครม.กาสิโนตัดสิน จะมีปัญหาหรือไม่ เรื่องการผูกขาด มีผลกระทบอย่างไร”นายเจิมศักดิ์กล่าว
นายเจิมศักดิ์กล่าวว่า การศึกษาความเป็นไปได้ ขึ้นอยู่กับว่า โจทย์คืออะไร ถ้าตั้งโจทย์ว่าเราจะศึกษา เพื่อดูพื้นที่ตรงไหนให้ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจกับรัฐ ไม่ใช่ให้ผู้มาลงทุนสูงสุด และมีผลกระทบต่อสังคมต่ำสุด ต้องทำการศึกษาก่อน เพื่อที่จะได้พื้นที่ว่าจะทำพื้นที่ไหน จังหวัดไหน ผลกระทบสังคมต่ำสุด และรายได้รัฐสูงสุด
นายจุลพันธ์กล่าวว่า จากการพบปะสภาหอการค้าฯ บอกว่า เชื่อว่ากำกับดูแลได้ เพราะเราจำกัดใบอนุญาต มีเพียง 3-4 ที่และเป็นการให้สิทธิในพื้นที่จำกัด การกำกับดูแลจึงสูงมากและไม่ยากเกินไป ใครเป็นรัฐบาลก็ตาม กลไกในการควบคุมกำกับต้องเข็มงวดอยู่แล้ว
@ ‘แก้วสรร’ ซักยิบกี่แห่ง-ที่ไหน
นายแก้วสรร อติโพธิ กรรมาธิการและที่ปรึกษาคณะอนุกรรมาธิการวิสามัญศึกษาผลกระทบทางด้านสังคมและกฎหมายของการมีสถานบันเทิงครบวงจรที่มีกาสิโนและการพนันออนไลน์ วุฒิสภา กล่าวว่า เมื่อได้ดูร่างพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร เป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์หรือไม่ เป็นการยกเว้นพ.ร.บ.การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ.2562 หรือ กฎหมายร่วมทุนหรือไม่
นายแก้วสรรกล่าวว่า ไม่มีกาสิโนได้หรือไม่ ปัญหาอยู่ที่กาสิโน ที่บอกว่าเป็นเรื่องของ Business Model หมายความว่าอย่างไร วิธีคิดแบบนี้กาสิโนเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ใช่หรือไม่ ถ้าไม่มีกาสิโน ไม่สามารถเกิดการลงทุนหมู่ได้ คือคำตอบใช่หรือไม่

นายแก้วสรรกล่าวว่า คำถามที่สอง ถ้าบอกว่าต้องมีกาสิโนเป็นองค์ประกอบสำคัญ หมายความว่าอย่างไร หมายความว่าลูกค้าส่วนใหญ่ถูกกาสิโนดึงดูดมา ตัวอื่นเป็นตัวประกอบ หรือพูดในแง่การลงทุน แล้วรายได้จริงๆ สิ่งที่เรียกว่า เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ มาจากกาสิโนเป็นหลัก ตัวแม่งาน ตัวแม่เหล็ก การลงทุน การดึงคนอยู่ที่กาสิโน เป็นการเข้าใจถูกหรือผิด
“คำถามที่สาม ถ้ากาสิโนเป็นแม่เหล็กการลงทุน กฎหมายบอกว่า ผู้ขออนุญาตจะต้องจดทะเบียนในประเทศและลงทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 10,000 ล้านบาท และมีบริษัทร่วมทุนแตกออกไปอีก หมายความว่าจะให้มีการร่วมทุนระหว่างทุนโรงแรม ทุนกาสิโน ทุนสนามกีฬา และอื่นๆ รวมกันเข้ามาเป็นทุนแล้วขออนุญาต จากนั้นการประกอบการโรงแรมบริษัทโรงแรมก็แยกออกมาทำ คือ การรร่วมทุนที่จะเกิดขึ้นใช่หรือไม่ ถ้าเป็นเช่นนั้น ถ้าผมเข้าใจถูกอีก คำถามมีว่า ถ้าอาศัยกาสิโนเป็นหัวหน้าแล้ว ธุรกิจสนามกีฬา ดิสนีย์เข้าพบ โผล่มาคุยกับรัฐมนตรีทำไม ตกลงเป็นอย่างไรกันแน่ คำถามสุดท้าย ผู้ขออนุญาตเหล่านี้ที่หลุดปากออกมาว่ามี 3-4 แห่ง ตกลงกี่แห่ง ที่ไหนบ้าง และการเลือกจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ อย่างไร”นายแก้วสรรรกล่าวและว่า
“ท้ายสุด พวกนี้มาอย่างไร ถ้ากลุ่มนี้ก็อยากจะมาคลองเตย กลุ่มนี้ก็อยากจะมาคลองเตยเหมือนกัน มีการแข่งขันกันหรือไม่ ถ้าไม่แข่งแล้วมาได้อย่างไร หรือถ้าแข่ง แข่งอะไร ค่าธรรมเนียม ไม่มีประกวดค่าธรรมเนียม แถมบอกว่าไม่เกิน 5,000 บาท เสนอ 1 บาทได้หรือไม่ อ่านกฎหมายไม่รู้เรื่อง เพราะโครงการไม่ออกมา ไม่ชัด ไม่ออก เอากฎหมายมาก่อน เกิดการวิจารณ์กันเยอะ ถูกก็มี ผิดก็มี แต่ท่านนิ่งอยู่เฉยๆ เหมือนกบไต๋ กี่แห่ง ได้มาอย่างไร ใครบ้าง”
@ รัฐบาลไม่ได้ชี้เป้า
นายจุลพันธ์กล่าวว่า ต้องมี เพราะเป็นองค์ประกอบในการใช้ดึงดูดการลงทุน เพื่อให้เกิดแรงจูงใจของภาคธุรกิจในการมาลงทุนในประเทศ ส่วนรายได้ถ้าเป็นเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์จะมาจากไม่ใช่พนัน (Non-gaming) สูงกว่า ส่วนจะเป็นกี่แห่งไม่มีคำตอบ ในต่างประเทศมีการกำหนด เช่น สิงคโปร์ 2 แห่ง เพราะพื้นที่จำกัด
“ถามว่าทำไมไม่กำหนดกี่แห่ง วันนั้นก็คิด เขียนเลยไหม คนร่างกฎหมายจะไปตัดสินแทนคนในอนาคตไม่ค่อยเป็นธรรม แต่ถ้าสุดท้ายจะให้แก้ เขียนมาเลยว่ากี่แห่ง ก็ไม่ติดใจ”นายจุลพันธ์กล่่าว
นายจุลพันธ์กล่าวว่า กระบวนการสุดท้ายต้องมีการบิดดิ้ง แค่ โอเปอเรเตอร์ ที่ประสานเข้ามาพบ ตอนนี้มีอยู่ 4 และในอนาคตจะเข้ามาเรื่อย ๆ เชื่อว่า เกินกว่าจำนวนที่จะออกใบอนุญาต เพราะไม่รู้ว่าใครจะได้อะไร ที่ไหน ตรงไหน จะเกิดพื้นที่ใด ตอบไม่ได้ รัฐบาลเองยังไม่ได้ชี้เป้าว่า สุดท้ายจะเกิดขึ้นตรงไหน เพราะต้องมีกระบวนการอีกหลายขั้นตอน หลังจากกฎหมายผ่าน และต้องมีการศึกษาถึงจะชี้ได้ว่าจะออกขอบเขตของงาน (TOR) ลักษณะใด
“ยังไม่ต้องส่งข้อเสนอ ส่งแนวคิดมาก่อน เพื่อให้สังคมเรียนรู้ไปพร้อมกัน อาจจะต้องมีการบรรจุดเข้าไปเพื่อให้มีขั้นตอนนี้เกิดขึ้น สุดท้ายเมื่อเห็น RFC เห็นข้อเสนอแล้ว ไม่ว่าใครจะเป็นรัฐบาลก็หลบไม่พ้นที่จะต้องทำและเกิดความชัดเจน เพราะอยู่ดีๆ ไปเลือกอะไรที่ไม่เป็นที่ต้องการของสังคมก็เป็นไปได้ยาก เพราะกระบวนการเปิดเผยโปร่งใสขึ้น”นายจุลพันธ์กล่าว
นายแก้วสรรถามต่อว่า ถ้าตำแหน่ง หรือจำนวน ยังไม่ชัดเจน แล้วตัวเลขรายได้ที่ออกมาเป็นฉากๆ ก็เชื่อไม่ได้
นายศึกษิษฏ์กล่าวตอบว่า ตัวเลขมาจากสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ประเมินต่อ 1 ใบอนุญาตเท่านั้น นายจุลพันธ์กล่าวเสริมว่า แต่ไม่สามารถเทียบบัญญัติไตรยางศ์ได้
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้องประกอบ : 3 ปีปั้น ‘เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์’ชูโมเดลสิงคโปร์-UAE-ญี่ปุ่น

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา