ออก'ประกาศรับสมัครฯ'ไม่ชอบ! 'ศาลปค.'เพิกถอนคำสั่ง'ประธาน กสทช.'แจ้งผลคัดเลือก'เลขาธิการ'

‘ศาลปกครองกลาง’ พิพากษาเพิกถอนคำสั่ง ‘ประธาน กสทช.’ แจ้งผลคัดเลือก ‘เลขาธิการ กสทช.’ ชี้เป็นคำสั่งที่มาจากการออก ‘ประกาศรับสมัครฯ’ ไม่ชอบด้วยกม.

.................................

เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. ศาลปกครองกลาง ได้มีคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ 1921/25661 คดีหมายเลขแดงที่ 1259/2568 ซึ่งเป็นคดีที่นางสุรางคณา วายุภาพ ผู้สมัครเข้ารับการคัดเลือกเป็นเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ยื่นฟ้อง ศ.คลินิก นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธาน กสทช. (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1) และคณะกรรมการ กสทช. (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2) เพื่อขอให้ศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่งใน 2 ประเด็น ได้แก่

1.ขอให้ศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่งเพิกถอนคำสั่งหรือประกาศหรือคำวินิจฉัยผลการคัดเลือกบุคคลเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ กสทช. ของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 (ประธาน กสทช.) รวมทั้งการกระทำทางปกครองที่เกี่ยวเนื่องทั้งหมดโดยมีผลย้อนหลังนับตั้งแต่เริ่มต้น และ

2.ให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ออกระเบียบหรือประกาศ เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ ในการคัดเลือกหรือการประเมินความรู้ความสามารถเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ กสทช. รวมถึงดำเนินการคัดเลือกหรือสรรหาเลขาธิการ กสทช. ใหม่ให้ชอบด้วยกฎหมาย

โดยศาลปกครองกลาง พิพากษาให้เพิกถอนคำสั่งของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 (ประธาน กสทช.) ตามหนังสือ ลับ ที่ สทช. 1001/28240 ลงวันที่ 11 ส.ค.2566 ที่ให้ผู้ฟ้องคดี (นางสุรางคณา วายุภาพ) ไม่ได้รับการคัดเลือกเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง เลขาธิการ กสทช. นับแต่วันที่มีคำสั่งดังกล่าว เนื่องจากศาลฯเห็นว่า การออกคำสั่งของประธาน กสทช. ดังกล่าว เป็นผลมาจากการออกประกาศประธาน กสทช. เรื่อง รับสมัครคัดเลือกบุคคลเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ลงวันที่ 17 มี.ค.2566 ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และข้อ 9 ของประกาศรับสมัครฯ ก็ไม่เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล

อย่างไรก็ดี ศาลฯไม่ได้มีคำสั่งให้เพิกถอนประกาศประธาน กสทช. เรื่อง รับสมัครคัดเลือกบุคคลเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ลงวันที่ 17 มี.ค.2566 และประกาศประธาน กสทช. เรื่อง รายชื่อผู้มีสิทธิเข้ารับการคัดเลือกเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ลงวันที่ 27 มิ.ย.2566 แต่อย่างใด 

เนื่องจากศาลฯเห็นว่า ประกาศทั้ง 2 ฉบับดังกล่าว มิได้มีผลกระทบต่อสถานภาพของสิทธิหรือหน้าที่ของผู้ฟ้องคดี (นางสุรางคณา วายุภาพ) ผู้ฟ้องคดี จึงมิใช่ผู้ได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหาย หรืออาจจะเดือดร้อนหรือเสียหายโดยมิอาจหลีกเลี่ยงได้ อันเนื่องจากประกาศดังกล่าวทั้ง 2 ฉบับของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 (ประธาน กสทช.) ที่จะมีสิทธิฟ้องขอให้ศาลเพิกถอนได้ ตามนัยมาตรา 42 วรรคหนึ่ง แห่ง พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.2542 อีกทั้งเป็นการฟ้องเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาการฟ้องคดีแล้ว

“สำหรับคำขอของผู้ฟ้องคดี (นางสุรางคณา วายุภาพ) ที่ขอให้ศาลพิพากษาหรือมีคำสั่งให้เพิกถอนคำสั่งหรือประกาศหรือคำวินิจฉัยผลการคัดเลือกบุคคลเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ กสทช. ของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 (ประธาน กสทช.) รวมทั้งการกระทำทางปกครองที่เกี่ยวเนื่องทั้งหมดโดยให้มีผลย้อนหลังนับแต่เริ่มต้น นั้น

เห็นว่า ขณะที่ผู้ฟ้องคดีนำคดีมาฟ้องต่อศาลเมื่อวันที่ 21 ก.ย.2566 ปรากฏว่ามีคำสั่งทางปกครองทั่วไปและคำสั่งทางปกครองด้วยกัน 3 คำสั่ง คือ (1) ประกาศประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่อง รับสมัครคัดเลือกบุคคลเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ลงวันที่ 17 มี.ค.2566 ของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1

(2) ประกาศประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่อง รายชื่อผู้มีสิทธิเข้ารับการคัดเลือกเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ลงวันที่ 27 มิ.ย.2566 ของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1

และ (3) หนังสือของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ลับ ที่ สทช. 1001/28240 ลงวันที่ 11 ส.ค.2566 ที่แจ้งผู้ฟ้องคดีว่าไม่ได้รับการคัดเลือกเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ กสทช.

เมื่อพิจารณาคำฟ้องของผู้ฟ้องคดีโดยตลอดแล้วจะเห็นได้ว่า ผู้ฟ้องคดีมีเจตนาจะฟ้องเพิกถอนผลการคัดเลือกของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 (ประธาน กสทช.) ตามหนังสือ ลับ ที่ 1001/28240 ลงวันที่ 11 ส.ค.2566 เท่านั้น

ส่วนประกาศประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่อง รับสมัครคัดเลือกบุคคลเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ลงวันที่ 17 มี.ค.2566

และประกาศประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่อง รายชื่อผู้มีสิทธิเข้ารับการคัดเลือกเพื่อแต่งตั้งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ลงวันที่ 27 มิ.ย.2566 ของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 นั้น

ผู้ฟ้องคดีได้รับประโยชน์จากประกาศดังกล่าวทั้งสองฉบับ โดยตามประกาศฉบับแรก ผู้ฟ้องคดีสามารถสมัครรับเลือกเป็นเลขาธิการ กสทช.ได้ และประกาศฉบับที่สอง ผู้ฟ้องคดี เป็นผู้มีสิทธิเข้ารับการคัดเลือกเป็นเลขาธิการ กสทช.

ดังนั้น ประกาศดังกล่าวทั้งสองฉบับ จึงมิได้มีผลกระทบต่อสถานภาพของสิทธิหรือหน้าที่ของผู้ฟ้องคดี ผู้ฟ้องคดีจึงมิใช่ผู้ได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหาย หรืออาจจะเดือดร้อนหรือเสียหายโดยมิอาจหลีกเลี่ยงได้ อันเนื่องจากประกาศดังกล่าวทั้งสองฉบับของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ที่จะมีสิทธิฟ้องขอให้ศาลเพิกถอนได้ ตามนัยมาตรา 42 วรรคหนึ่ง แห่ง พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.2542

นอกจากนี้ ประกาศประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่อง รับสมัครคัดเลือกบุคคลเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ลงวันที่ 17 มี.ค.2566 ของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ผู้ฟ้องคดี ฟ้องเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาการฟ้องคดี ตามมาตรา 49 แห่ง พ.ร.บ.ดังกล่าวอีกด้วย

สำหรับคำขอของผู้ฟ้องคดีที่ขอให้ศาลพิพากษาหรือมีคำสั่งให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 (คณะกรรมการ กสทช.) ออกระเบียบหรือประกาศ เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการในการคัดเลือกหรือการประเมินความรู้ความสามารถ เพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ กสทช. รวมถึงการดำเนินการคัดเลือก หรือสรรหาเลขาธิการ กสทช. ใหม่ ให้ชอบด้วยกฎหมาย นั้น

เห็นว่า คดีนี้เป็นคดีพิพาทตามมาตรา 9 วรรคหนึ่ง (1) แห่ง พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.2542 ซึ่งศาลมีอำนาจกำหนดคำบังคับได้ตามมาตรา 72 วรรคหนึ่ง (1) กล่าวคือ สั่งให้เพิกถอนกฎคำสั่งหรือสังห้ามการกระทำทั้งหมดหรือบางส่วน การที่ผู้ฟ้องคดีมีคำขอให้ศาลมีคำพิพากษาดังกล่าว จึงเป็นคำขอที่ศาลไม่อาจกำหนดคำบังคับได้

พิพากษาเพิกถอนคำสั่งของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 (ประธาน กสทช.) ตามหนังสือ ลับ ที่ สทช. 1001/28240 ลงวันที่ 11 ส.ค.2566 ที่ให้ผู้ฟ้องคดี (นางสุรางคณา วายุภาพ) ไม่ได้รับการคัดเลือกเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง เลขาธิการ กสทช. นับแต่วันที่มีคำสั่งดังกล่าว คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก และยกฟ้องผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 (คณะกรรมการ กสทช.)” คำพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขดำที่ 1921/25661 คดีหมายเลขแดงที่ 1259/2568 ลงวันที่ 25 มิ.ย.2568 ระบุ

อ่านประกอบ :

'ศาลปค.'ยกคำร้อง'สภาผู้บริโภค'ยื่นขอ'ไต่สวนฉุกเฉินฯ' เพิกถอนประกาศหลักเกณฑ์ประมูลคลื่นฯ