
‘ทักษิณ’ วิเคราะห์การเมือง เชื่อ ‘แพทองธาร’ รอดบ่วงศาลรัฐธรรมนูญ เผยยึด ‘มหาดไทย’ คืน เพื่อทำงาน บอกไม่เคยอยากผลัก ‘ภูมิใจไทย’ ออกไป แต่ยื่นขอแลก ‘คมนาคม’ ไม่ได้ มองกติกาบ้านเมืองตอนนี้แย่ที่สุด แต่ไม่หนักเท่าตอนเป็นนายกฯ ก่อนซัดบรรดาสว.ที่ร้องนายกฯไม่มีจริยธรรม แต่ไปร้องว่าคนอื่นไม่มีจริยธรรม
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 9 กรกฎาคม 2568 ที่โรงแรมอีสติน แกรนด์ พญาไท นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แสดงวิสัยทัศน์ในหัวข้อ “ผ่าทางตันประเทศไทย” จัดโดยสื่อในเครือเนชั่น
นายทักษิณเริ่มต้นว่า ประเทศมีทางตัน แสดงว่ามีคนไปอุดไว้ ถ้าดึงออกก็ไม่ตัน ส่วนใครไปอุด ก็ต้องเข้าใจก่อนว่า เมืองไทยคนอยากเป็นนายกรัฐมนตรีเยอะ ลูกไปเที่ยวเมืองนอก ประกาศเลยพ่อต้องเป็นนายกรัฐมนตรีในเดือน ก.ค.นี้ สงสัยพ่อจะดูหมอมา บางคนอยากเป็นนายกฯก็ยอมทำทุกอย่าง เพราะอยากให้หมอดูแม่น ส่วนจะใช่นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคหรือไม่นั้น นายทักษิณตอบว่า “ผมไม่ได้พูดนะ”
อดีตนายกฯกล่าวต่อว่า วันนี้การเมืองมีหลายรูปแบบ ยิ่งตอนนี้มีเรื่องนิติสงคราม, คณิตศาสตร์การเมือง ซึ่งคนก็เก่งคณิตศาสตร์กันเยอะ จริงๆไม่ตัน ทุกอย่างแก้ได้
@เปิดเบื้องหลัง ‘แพทองธาร’ ขอแค่ ‘มหาดไทย’ แล้วอยู่ด้วยกันต่อ
พิธีกรถามว่า การเอาพรรคภูมิใจไทยออกจากการเป็นรัฐบาล ถือเป็นการทำให้เกิดทางตันหรือไม่ นายทักษิณตอบว่า พรรคเพื่อไทยไม่ได้ขอให้ออก เพียงแต่ว่ารัฐบาลต้องมีผลงาน เพราะชอบสู้ด้วยนโยบาย พอแถลงไปแล้วไม่เป็นตามนั้น ก็ต้องผลักดัน ทีนี้มันไปตันที่กระทรวงมหาดไทย ทั้งยาเสพติด แก้หนี้ ความยากจน OTOP ต้องแก้ตรงนี้ ก็พยายามขอแก้ แม้แต่นโยบายบ้านเพื่อคนไทยที่จะต้องแก้กฎหมายให้สามารถเช่าที่ดินได้ยาวนาน 99 ปี ก็ต้องแก้ที่กระทรวงมหาดไทย ส่วนพอเรียกคืนแล้ว พรรคภูมิใจไทยไปอุดทางตันประเทศ ก็เป็นเรื่องยุทธศาสตร์ของใครของมัน
“พูดชัดเจนเลยทางพรรคเพื่อไทยขอมหาดไทยคืน แล้วก็เขา (พรรคภูมิใจไทย) ขอแลก ซึ่งตกลงกันไม่ได้ทำให้ ไม่แน่ใจว่าทางเขาจะออกหรือเปล่า? นายกฯ (แพทองธาร ชินวัตร) เขาเล่าให้ผมฟังว่า เราแค่ขอตรงนี้แล้วอยู่ด้วยกันเถอะ ไม่อยากให้แยก แล้วพอดีมันมีเหตุขัดแย้งกับสมเด็จฮุนเซนพอดีด้วย ส่วนพรรคภูมิใจไทยมีการร่วมมือกับสมเด็จฮุนเซนหรือไม่นั้น ผมก็ไม่กล้าไปปรักปรำใคร” นายทักษิณกล่าว
พิธีกรถามต่อว่า เมื่อทางตันเกิดแล้วจะแก้ไขอย่างไร นายทักษิณตอบว่า ก็แก้ไขไป แก้ไปด้วยคณิตศาสตร์ทางการเมือง
เมื่อถามว่า แสดงว่าเสถียรภาพของรัฐบาลที่มีเสียง 253 เสียง ยังไม่ใช่ทางตันทางการเมือง นายทักษิณตอบทันทีว่า ใช่ ยังไม่ตัน
@ฉุนคนไม่มีจริยธรรม มาร้องนายกฯ
พิธีกรถามอีกว่า แล้วการที่พรรคภูมิใจไทยออกไปเป็นฝ่ายค้านแล้วขยับร่วมกับกลไกของสว.และร้องนายกรัฐมนตรีจนนำไปสู่การพักการปฏิบัติหน้าที่นั้น นายทักษิณตอบสวนทันทีว่า สว.ถูกกล่าวหาว่า “โกงการเลือกตั้ง” 138 คนบวกกับคณะกรรมการบริหารพรรคบางพรรค เรื่องนี้จริยธรรมมันไม่มีแล้วแต่มาร้องจริยธรรมทำไม คนร้องมันไม่มีจริยธรรม แล้วไปร้องจริยธรรม
“คนร้องจริยธรรมมันไม่เหลือแล้วแต่ไปร้องคนอื่น ก็แข่งจะทำยังไงให้รัฐบาลมันล่มให้ทันเดือนกรกฎาคมนี้ เขาเรียกว่ามันกลายเป็น zero som game และเป็นการ less against time แค่นั้นเองไม่มีอะไร” นายทักษิณกล่าว
นายทักษิณกล่าวต่อว่า ได้มีการสอบถามพรรคร่วมรัฐบาลว่า ในส่วนสว. พรรคร่วมรัฐบาลจะเอายังไง พรรคร่วมรัฐบาลตอบว่า จะไม่ยุ่ง จึงได้ถามว่า แต่เห็นการเตรียมการตั้งแต่เลือกตั้ง สส. ตกใจมาก สส.เลือกตั้งก่อน มีกระแสว่า สส.คนไหนที่คุมเสียงได้ 15 คน จะได้โควต้า สว. 1 คน
ส่วนการที่รัฐบาลมีเสียงปริ่มน้ำนั้น นายทักษิณกล่าวว่า ก็บริหารไป แล้วก็เพิ่มคนไป ส่วนจะเพิ่มยังไง ก็เดี๋ยวมาร้องเพลงหนูเปล่านะ เขามาเอง ขณะที่มีพรรคร่วมรัฐบาลที่มีลักษณะขัดแย้งกันในพรรคนั้น ก็เป็นพี่เบิร์ดไป รักทุกคน

@ชินแล้ว โดนองค์กรอิสระฟัน
นายทักษิณกล่าวต่อว่า กรณีกลไกทางการเมืองที่เป็นกับดัก เช่นที่นายกรัฐมนตรีเจอนั้น ปัญหามีไว้ให้แก้ ไม่ได้มีไว้ให้แบก ปัญหาคือความท้าทาย เมื่ออยู่ในโลกที่มีกติกา ก็ต้องเคารพกติกา ในเมือศาลให้พักก็พัก แต่คนที่มีหน้าที่ก็ทำไป ถ้าไม่เคารพกติกา ก็อยู่กันยาก ส่วนคนชกใต้เข็มขัดก็ต้องโดนกระทืบเท้าคนชก
เมื่อถามว่า นิติสงครามยุคที่นายทักษิณเผชิญกับยุคนี้เป็นอย่างไร นายทักษิณตอบว่า ไม่แรงเท่าเดิม สมัยก่อน มันมีระบบบ Command Control สมัยนี้ ต้องมีคนไปร้องแล้วค่อยพิจารณา ก็ไม่จำเป็นต้องเชื่อตามที่คนมาร้อง โอเค อาจจะร้องกันหยุมหยิม แต่ก็ยังมีหลักเกณฑ์กว่า
เมื่อถามต่อว่า องค์กรอิสระมีไม่กี่คน เช่น ศาลรัฐธรรมนูญ หรือ ป.ป.ช. มีบทบาทในการชี้นำทิศทางการเมือง เหมาะสมหรือไม่ นายทักษิณตอบว่า มันก็ไม่ควรเป็นแบบนี้ แต่เมื่อเราเข้ามาแล้วกติกาเป็นแบบนี้ ก็ต้องเดินไปก่อน พรรคเพื่อไทยก็โดนมาเยอะแล้ว เป็นเรื่องที่ต้องสู้ไปแก้ไป ส่วนการทีถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ กับการจะถูกตัดสินว่าขาดคุณสมบัติ ถือว่าเป็นคนละส่วนกัน การสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่เป็นการลดกระแส กรณีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็เช่นกัน
@เชื่อ ‘แพทองธาร’ รอด - รู้ล่วงหน้า ‘ภูมิใจไทย’ ออก การเมืองวุ่น
พิธีกรถามต่อว่า กังวลหรือไม่ว่านางสาวแพทองธารจะพ้นจากหน้าที่ แล้วทำให้การเมืองเคลื่อนไปสู่การยุบสภา นายทักษิณตอบว่า มั่นใจตามข้อกฎหมายและข้อเท็จจริง รวมถึงมั่นใจในความบริสุทธิ์ใจของลูกสาว เชื่อว่า ศาลน่าจะรับฟังด้วยเหตุและผลว่า ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร อธิบายได้ทุกอย่าง ส่วนที่เก็งว่าไม่รอด ก็ไม่รู้มีใครไปทำอะไรหรือเปล่า จะไปสุมหัวตั้งรัฐบาลชั่วคราวก็จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด
กับคำถามว่า เคยประเมินหรือไม่ว่า ถ้าพรรคภูมิใจไทยออกจากรัฐบาลจะวุ่นวายขนาดนี้ นายทักษิณระบุว่า รู้แล้ว เดาอยู่แล้ว ผมไม่อยากให้ออก แต่เขาออก แต่ว่า เมื่อตัดสินใจแล้วก็อย่าไปเสียใจกันมัน เราไม่สามารถคอนโทรลได้ และเขาจะเอากระทรวงเดียวคือ กระทรวงคมนาคม ที่ไม่ให้เพราะรู้อดีต
ส่วนกรณีที่ดินเขากระโดงจะดำเนินการอย่างไร นายทักษิณตอบว่า ทุกอย่างต้องว่าไปตามกฎหมาย เช่นเดียวกับกรณีที่บจ.อัลไพน์ กอล์ฟ แอนด์ สปอร์ตคลับ กำลังยื่นหนังสือเพื่อขอคัดค้านคำสั่งของเจ้าพนักงานที่ดิน และให้ระงับการเพิกถอนโฉนดที่ดินต่อเจ้าพนักงานที่ดิน สำนักงานที่ดินจังหวัดปทุมธานี สาขาคลองหลวง ก็ว่าไปตามกติกา มีสิทธิ์อะไรก็ว่าไป
@กติกาบ้านเมืองแย่ที่สุด
พิธีกรถามอีกว่า ถือว่าเป็นการผิดหวัง 2 รอบหรือเปล่า เพราะรอบแรกเมื่อปี 2551 ก็ตีจากไป แล้วรอบสองก็มาครั้งนี้อีก นายทักษิณตอบว่า การเมืองมันมีกฎไว้เลี่ยง เพราะฉะนั้นเมื่อลืมอดีตแล้ว พยายามเริ่มต้นใหม่ ส่วนจะมีการผิดหวังเริ่มที่ 3 หรือไม่นั้น นายทักษิณตอบว่า
“การเมืองบ้านเราวันนี้เป็นการออกแบบการเมืองที่แย่ที่สุดตั้งแต่ทหารปฏิวัติมานี่แหละ เวลาเขาเขียนรัฐธรรมนูญก็จะเห็นหน้าผม เขาพยายามจะกันผมในทุกรูปแบบ กันจนสุดท้ายบ้านเมืองมีปัญหา การเมืองเบี้ยหัวแตกแบบพรรคเล็กพรรคน้อยเนี่ยมาทำงานยากไม่เหมือนสมัยผมเป็นนายกใหม่ๆแก้ปัญหาต้มยำกุ้งจบง่ายมากข้าราชการทำตามนโยบายรัฐบาลเต็มที่ไม่มีระบบสัมปทานกระทรวงพอมาตอนนี้มันแย่แล้วผลสุดท้ายบางทีเราเจอบางคนให้ไปบริหารกระทรวงเขาไปทำธุรการกับธุรกิจเท่านั้นแหละ ธุรการก็จัดตั้งโยกย้าย จัดจัดสรรงบประมาณ ธุรกิจก็ วางไข่ออกไข่” นายทักษิณกล่าว
นายทักษิณกล่าวต่อว่า กติกาทุกวันนี้มันสร้างวัฒนธรรมว่า “ไม่ทำไม่ผิด” บางคนก็เคยเตือนว่ากลับมาแล้ว อย่าไปทำอะไรเลย อยู่เฉยๆ นี่คือกติกาแบบไม่ทำไม่ผิด การเมืองไทยไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร เมื่อการเมืองมันออกแบบแบบนี้ มันไม่สามารถบอกได้ว่า จะอยู่คนเดียว มันเป็นไปไม่ได้ สูตรคณิตศาสตร์มันไม่สามารถตั้งรัฐบาลได้เมื่อไหร่ สูตรคณิตศาสตร์มีความจำเป็นก็ต้องกลืนเลือดสัก 3-4 ปี๊บ
@ตอบไม่ชัด ‘ตัวเองคือปัญหา’ หรือไม่
พิธีกรถามต่อว่า แล้วคิดไหมว่าตัวเองคือทางตันของประเทศและปัญหาทั้งหมดเกิดจากตัวเอง นายทักษิณตอบว่า ก็มีคนไม่ชอบหน้าผมเป็นพิเศษ ถึงมีบรรดาพวกขาประจำ ซึ่งเป็นขาประจำตั้งแต่ 20 ปีที่แล้ว ตอนพ่อผมตายก็ลืมถามว่า “พ่อมีปัญหากับพวกมันหรือเปล่า?” พวกนี้ถ้ามาคุยกับผม บางคนไม่เคยรู้จักผมด้วยซ้ำ ยังงงเหมือนกัน ส่วนนางสาวแพทองธารเคยถามหรือไม่ว่า ไปทำอะไรให้เกลียดนั้น นายทักษิณตอบว่า กรวดน้ำไปเถอะ อย่าไปคิดอะไรมาก
เมื่อถามว่า อนาคตพรรคเพื่อไทยจะร่วมกับพรรคประชาชนได้หรือเปล่า นายทักษิณตอบว่า ในวันนี้ยังไม่มีความจำเป็น แต่ไม่ได้หมายความว่าเป็นศัตรูกับพรรคการเมืองใดพรรคการเมือง และการทำงานกับใครก็ต้องมั่นใจว่าไปด้วยกันได้แล้วไม่ขัดนโยบายหลักโดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งก็ได้รับพระเมตตาสูงสุดนั้น จะไม่มีทางทำงานกับใครที่กระทบสถาบันพระมหากษัตริย์ ส่วนตอนนี้พรรคประชาชนไม่มีนโยบายแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112 แล้ว สามารถร่วมงานกันได้หรือไม่ นายทักษิณตอบว่า ไม่รู้ ยังไม่ได้คุยกัน
ส่วนพรรคภูมิใจไทยจับมือกับพรรคประชาชนได้หรือไม่ นายทักษิณมองว่า ก็จับกันหลวมๆ เพราะเป็นปลาคนละน้ำ พูดจริงๆ ก็เป็นพรรคที่เกิดมาในสไตล์เดียวกัน พรรคไทยรักไทยเกิดมาอย่างไร พรรคประชาชนก็เกิดมาอย่างนั้น
@3 ทางนายกฯ
พิธีกรถามว่า ในตอนนี้ประเมินสถานการณ์อย่างไร เพราะคนมองว่าออกได้แค่ 2 ทางคือ นางสาวแพทองธารลาออกกับยุบสภา นายทักษิณตอบว่า สถานการณ์ถ้านายกฯรอดก็กลับไปทำงานยาว แต่ถ้าไม่รอดก็มี 2 ทางออก คือ เสนอนายชัยเกษม นิติศิริ เป็นนายกฯกับยุบสภา ส่วนนายชัเกษมจะเป็นทางรอดของประเทศหรือไม่นั้น นายทักษิณกล่าวว่า “ผมยังอยู่ เอาผมออกไม่ได้ ยังเป็นสทร.เหมือนเดิม 76 ยังหนุ่มอยู่นะ ส่วนจะมีบทบาททางการเมืองมากขึ้นหรือไม่ ถ้าจำเป็นก็ต้องมีมากๆ ก็ขอให้บ้านมันไปรอด ส่วนทัวร์จะลงก็ไม่เห็นเป็นไร”
เมื่อถามอีกว่า ตอนนี้มีเรื่องคดีความ วันที่ 15 ก.ค.นี้ก็ต้องไปอีก มองไหมว่าทำไมวิบากกรรมเยอะ นายทักษิณตอบว่า ตื่นเช้ามาทำอะไรวันนี้จะขึ้นศาลก็ขึ้นไป วันนี้แก่แล้ว ปล่อยวางไปเยอะแล้ว ผมหยุดแล้วแต่ท่านไม่หยุด ผมหยุดไปแล้วแต่ท่านไม่ยอมหยุด ส่วนมากฝ่ายมองว่าผมไม่ยอมหยุด ก็ผมต้องทำงานที่บ้านเมือง ภาวะเศรษฐกิจวันนี้ถ้าผมไม่เสือกแล้วใครจะเสือก มันยากนะ ปัญหาบ้านเมืองแบบนี้อยู่เฉยไม่ได้
กับคำถามว่า ตอนนี้รัฐบาลขับเคลื่อนนโยบายใหญ่ๆอย่างไร เพราะการเมืองไม่มีเสถึยรภาพ นายทักษิณตอบว่า อะไรที่ทำได้ก็ทำ อะไรที่เป็นรูทีน มันไม่ฟังก์ชั่นก็ต้องขับเคลื่อน เช่น เรื่องยาเสพติด แก้หนี้ เพิ่มรายได้ประชาชน ต้องทำ ทำอย่างต่อเนื่อง ส่วนโครงการใหญ่ๆ อะไรที่ผลักดันแล้วก็ทำไป เรื่องเอนเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ต้องออกกฎหมายกำกับก็ต้องทำไป ที่ถอนออกมาก็ไม่อยากให้สับสน

ที่มาภาพ: เนชั่นทีวี

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา