‘พิชัย’ ถก ‘ทีมไทยแลนด์-ทีมที่ปรึกษาบ้านพิษณุโลก’ ย้ำจุดยืนเจรจาภาษีสหรัฐฯ ต้องไม่กระทบ ‘เกษตรกร-อุตสาหกรรมรายย่อย’ รับเป็นคนเชิญ ‘ทักษิณ’ ร่วมหารือเอง บอก 'เป็นคนรู้เรื่องเหล่านี้ดี-น่าจะให้ข้อคิดเห็นได้’
.........................................
เมื่อวันที่ 11 ก.ค. ที่บ้านพิษณุโลก นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานนโยบายการค้าสหรัฐฯ หรือ ‘ทีมไทยแลนด์’ เปิดเผยหลังการประชุมร่วมกับคณะที่ปรึกษานโยบายของนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง กรณีสหรัฐจะปรับขึ้นอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากไทยเป็น 36% ในวันที่ 1 ส.ค.นี้ ว่า ที่ประชุมฯได้หารือกับถึงจุดยืน และวิธีการของประเทศไทยในการเจรจาภาษีการค้ากับสหรัฐฯ
“สิ่งแรก วิธีที่เราจะคุยกับสหรัฐ คือ มองในมุมการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐ เราจะต้องดูว่า ทั้งหมดที่เราจะทำนั้น ข้อที่ 1 คือ ต้องไม่ทำให้เกิดผลกระทบต่อผู้ผลิตในประเทศ ทั้งภาคเกษตรกร และภาคอุตสาหกรรมรายย่อย สิ่งต่างๆเหล่านี้ต้องไม่ได้รับผลกระทบ นี่คือข้อเสนอที่เราได้ยื่นไป ข้อที่ 2 เราแจ้งไปว่า การที่เราทำครั้งนี้ มีหลายเรื่องเราอาจต้องรับซื้อสินค้าเข้ามา ซึ่งเรารับซื้อบางสิ่งอยู่แล้ว และเป็นโอกาสที่เราจะปรับตัวเราเอง
เราคุยกันว่า จะมีวิธีการปรับอย่างไร ที่จะให้สินค้าที่นำเข้ามาในประเทศไทย ได้รับการกำกับดูแลให้ทั่วถึง มีประสิทธิภาพ ไม่มีสิ่งที่เราคิดว่าไม่ควรเข้า เข้ามาในประเทศ และเร่งความรวดเร็ว เพิ่มประสิทธิภาพทั้งขาเข้าและขาออก และสิ่งที่สำคัญที่สุด มีการพูดกันว่า เราจะมีมาตรการรองรับและช่วยเหลือในหลายเรื่อง ซึ่งหลักการมีแล้วว่า กลุ่มเกษตรจะทำอย่างไร กลุ่มอุตสาหกรรมรายย่อยจะทำอย่างไร กำหนดไว้กว้างๆ แล้วจะไปลงรายละเอียดต่อไป” นายพิชัย กล่าว
นายพิชัย ยังกล่าวว่า เมื่อวานนี้ (10 ก.ค.) ได้มีการพูดคุยกับภาคอุตสาหกรรม ทั้งสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทยไทย (ส.อ.ท.) สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และบริษัทใหญ่ๆ ที่จะได้รับผลกระทบจากมาตรภาษีของสหรัฐ โดยมีการพูดคุยกันว่า หากเอกชนได้รับผลกระทบในเรื่องใดแล้ว รัฐบาลควรจะมีมาตรการอย่างไร ซึ่งจะแบ่งเป็นหมวดๆไป ขณะนี้อยู่ระหว่างการทำการบ้าน และจะได้ข้อมูลชัดเจนก่อนวันจันทร์หน้า เพื่อมาดูว่าผลกระทบในแต่ละเช็กเตอร์เป็นอย่างไร
“เพื่อให้การทำงานระหว่างภาคเอกชนและภาครัฐเดินไปอย่างเรียบร้อย จึงเป็นที่มาของการประชุมในวันนี้ เราต้องมานั่งคุยกัน เราได้ให้ข้อมูลถึงสิ่งที่ได้ทำไปทั้งหมดแล้ว ให้รู้กันในรายละเอียดเลยว่า ทำอะไรกันบ้าง ท่าที ความคิดเห็นต่างๆมีอะไรบ้าง แล้วเรามานั่งให้ความเห็นกันและดูว่า ถ้ามีผลกระทบอย่างไร แล้วเราจะแก้ไขปัญหาอย่างไร” นายพิชัย กล่าว
นายพิชัย ย้ำด้วยว่า “ตามที่เราได้รับจดหมายจากสหรัฐฯมา อยากจะขอย้ำว่า อันนั้นเป็นการเลื่อนเวลาให้เรา เรายังไม่ได้เจรจาถึงที่สุดเลย วันนี้เราจึงมีการทบทวนการ ซึ่งเรายังมีเวลาถึงวันที่ 1 ส.ค. เพื่อจะได้ข้อยุติกับสหรัฐในระดับหนึ่ง และผมยังเชื่อว่าการได้ข้อยุติกับสหรัฐฯในวันที่ 1 ส.ค.นี้ ก็จะเป็นข้อยุติในระดับกว้างๆ เสร็จแล้วยังนำมาซึ่งการจะต้องคุยกันอีกนาน”
เมื่อถามว่า การประชุมวันนี้ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เข้ามาร่วมประชุมด้วยใช่หรือไม่ นายพิชัย กล่าวว่า “ผมเป็นผู้เชิญ ก็เชิญทีมที่ปรึกษาบ้านพิษณุโลก แล้วก็เห็นว่า ท่านเป็นคนรู้เรื่องเหล่านี้ดี น่าจะให้ข้อคิดเห็นและแชร์ข้อคิดเห็นได้ดี เราก็เลยเชิญท่านมา”
เมื่อถามว่า เวียดนามได้ภาษีในอัตรา 20% ทำให้ภาคเอกชนเป็นห่วงว่า หากไทยได้ภาษีสูงกว่า 20% จะส่งผลกระทบกับผู้ผลิตสินค้าไทยที่มีเวียดนามเป็นคู่แข่ง นายพิชัย กล่าวว่า เรื่องนี้ ได้มีการคุยกันว่า สิ่งที่เราทำ เราจะทำให้ดีที่สุด ซึ่งเราเชื่อมั่นว่า สิ่งที่เราทำในหลายๆเรื่อง ไม่ใช่เฉพาะเรื่องอัตราภาษีอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องอื่นๆประกอบด้วย ซึ่งจะมีการจะชี้แจงให้ชัดเจนนั้น ก็หวังว่าน่าจะทำให้เราได้ในสิ่งที่ทำให้เราไม่เกิดการเสียเปรียบ
“สหรัฐฯแบ่งสินค้าเป็น 2-3 ประเภทใหญ่ ประเภทแรก เป็นสินค้าทั่วไป เริ่มที่ 10% แล้วประเทศไหนจะไปตกที่ 20% เป็นต้น อีกประเภท เป็นสินค้าผ่านทาง คือ สินค้าที่นำเข้ามา แล้วประกอบเพิ่ม local content ต่างๆเหล่านี้ เราเชื่อว่า วันนี้ประเทศไทยเริ่มเข้มงวดและกวดขันดี ในส่วนนี้เราดูแลได้ดี เมื่อเทียบกับบางประเทศที่มีตัวเลขตรงนี้เยอะ เมื่อมองผลกระทบในภาพรวมแล้ว เราน่าจะไม่ได้รับผลกระทบมากไปกว่า” นายพิชัย กล่าว
นายพิชัย ระบุว่า เมื่อวันที่ 6 ก.ค.ที่ผ่านมา ประเทศไทยได้ยื่นข้อเสนอเจรจาเพิ่มเติมไปยังสหรัฐฯ ส่วนจะมีการยื่นข้อเสนอเพิ่มเติมอีกหรือไม่ เราจะหาโอกาสพูดคุยกับผู้ปฏิบัติในฝั่งสหรัฐฯทางออนไลน์ว่า เขายังต้องการอะไรอีกหรือไม่ ตรงนี้ต้องทำความเข้าใจกันก่อน แต่ถ้าถามว่าจะมียื่นข้อเสนอเพิ่มอีกหรือไม่ ถ้าจะมี ก็มีเล็กน้อย ซึ่งเป็นการปรับปรุงในสิ่งที่เราควรปรับปรุงอยู่แล้ว และหากมีความจำเป็นตนก็พร้อมเดินทางไปสหรัฐฯอีกครั้ง
“การวางเป้า (อัตราภาษี) ต้องวางเป้าในระดับที่ไม่เสียเปรียบคู่แข่งขัน” นายพิชัย ตอบคำถามผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับกำหนดเป้าหมายอัตราภาษีนำเข้าที่ประเทศไทยจะได้รับ พร้อมทั้งระบุว่า สหรัฐต้องการส่งออกสินค้ามาประเทศไทยในเกือบทุกเช็กเตอร์ โดยเฉพาะเซ็กเตอร์สินค้าเกษตร ซึ่งเราเข้าใจแล้วว่า แม้ว่าเช็กเตอร์เกษตรจะมีมูลค่าไม่สูงมากนัก แต่เป็นเซ็กเตอร์ที่เกี่ยวกันกับคนหมู่มาก
สำหรับการประชุมระหว่าง 'ทีมไทยแลนด์' กับผู้เกี่ยวข้องในวันนี้ (11 ก.ค.) มีผู้เข้าร่วมประชุมฯ เช่น นายพิชัย ในฐานะหัวหน้า 'ทีมไทยแลนด์' ,นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ,คณะที่ปรึกษานโยบายของนายกรัฐมนตรี หรือ ‘ทีมที่ปรึกษาบ้านพิษณุโลก’ ,นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม ,นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รมว.เกษตรและสหกรณ์ , นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รมว.พาณิชย์ ,นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ และปลัดกระทรวงที่เกี่ยวข้อง
ที่มาภาพ TPBS
อ่านประกอบ :
‘ทักษิณ’ ผ่าทางตันเศรษฐกิจ เจรจาภาษีทรัมป์-กาสิโนเขมร-ตั้ง AMC ภาคประชาชนซื้อหนี้เสีย
‘พิชัย’ เผยผลเจรจา ‘ภาษีทรัมป์’ - ‘จุลพันธ์’ เชื่อ ครม.พ้นทั้งคณะ-นายกฯลาออก ไม่สะดุด
‘ทรัมป์’ เคาะอัตราเก็บภาษีสินค้านำเข้า 14 ปท. ไทยโดน 36% มีผลตั้งแต่ 1 ส.ค.
รับ'ฟีดแบ็ค'จัดทำข้อเสนอเพิ่ม! ‘พิชัย’เผยเจรจาภาษีการค้า‘สหรัฐฯ’ยังไม่ได้ผลสรุป‘สุดท้าย’

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา