
เปิดคำวินิจฉัย กกต. 'หมอเกศ' รอด 5 ประเด็น ผิด 1 ชี้ไม่ได้เป็น 'ศาสตราจารย์' ตามกฎหมายไทย เหตุระบุประวัติ+แนะนำตัวว่า 'ศาสตราจารย์ ดร.แพทย์หญิง เกศกมล เปลี่ยนสมัย'
จากกรณีสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) นำเสนอข่าวนายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือ 'ทนายอั๋น บุรีรัมย์' เปิดเผยว่า ตนเองได้รับมติคำวินิจฉัยของ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เมื่อวันที่ 19 ก.ค. ที่ผ่านมา เกี่ยวกับคำร้องในคดีให้ตรวจสอบคุณสมบัติของนางสาวเกศกมล เปลี่ยนสมัย สมาชิกวุฒิสภา (สว.) กรณีวุฒิการศึกษาปลอม ซึ่งเข้าข่ายเป็นการหลอกลวงในการลงสมัครเข้ารับการคัดเลือกเป็นสว. โดยหนังสือลงวันที่ 18 ก.ค. 2568 กกต.มีมติให้ดำเนินคดีกับนางสาวเกศกมล ในความผิดตามกฎหมายเลือกตั้งและคดีอาญา กรณีใช้คำว่า “ศาสตราจารย์” ซึ่งจะมีอัตราโทษจำคุกเป็นเวลา 10 ปี และตัดสิทธิเลือกตั้งเป็นเวลา 20 ปี

ล่าสุดสำนักข่าวอิศราสรุปใจความสำคัญคำวินิจฉัยกกต. กรณีมีมติให้ดำเนินคดีกับนางสาวเกศกมล ในความผิดตามกฎหมายเลือกตั้งและคดีอาญา กรณีใช้คำว่า “ศาสตราจารย์” มานำเสนอ ดังนี้
โดยผู้ร้องเรียนระบุประเด็นที่นางสาวเกศกมลกระทำอันเป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 มาตรา 77 (4) หรือหลอกลวงหรือจูงใจให้บุคคลอื่นเข้าใจผิดในคุณสมบัติ ความรู้ความสามารถ หรือชื่อเสียงเกียรติคุณของผู้ถูกร้อง เพื่อจูงใจให้ผู้สมัครหรือผู้มีสิทธิเลือกลงคะแนนให้แก่ผู้ถูกร้อง 6 ประเด็น ได้แก่
- ประเด็นที่ 1 และ 5 มีความเกี่ยวพันกัน คือ นางสาวเกศกมลระบุข้อมูลประสบการณ์การทำงานว่า เป็นแพทย์เวชศาสตร์ป้องกัน แขนงสุขภาพจิตชุมชน กรมสุขภาพจิต แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและความงาม ซึ่งอาจไม่ตรงกับความเป็นจริง
- ประเด็นที่ 2 นางสาวเกศกมลระบุข้อมูลประสบการณ์การทำงานว่า เป็นที่ปรึกษากรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งอาจไม่ตรงกับความเป็นจริง
- ประเด็นที่ 3 นางสาวเกศกมลระบุข้อมูลประสบการณ์การทำงานว่า บุคคลหนึ่งที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นคณะทำงานติดตามการดำเนินการตามนโยบายด้านส่งเสริมขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ กระทรวงแรงงาน ซึ่งอาจไม่ตรงกับความเป็นจริง
- ประเด็นที่ 4 นางสาวเกศกมลระบุข้อมูลประสบการณ์การทำงานว่า กรรมการผู้จัดการ เกศกมล คลินิก เกศกมล เด็นทัล คลินิก และอินเตอร์ เดอร์มา แลบอราทอรี ซึ่งอาจไม่ตรงกับความเป็นจริง
- ประเด็นที่ 6 นางสาวเกศกมลระบุข้อมูลประวัติการศึกษาว่า ปริญญาเอก รัฐศาสตร์ดุษฎีบัณฑิต (Doctor of Political Science) California University, U.S.A. และศาสตราจารย์การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ (Professor in Human Resource Development) California University และระบุประวัติการทำงานหรือประสบการณ์ในการทำงานในกลุ่มที่สมัครว่า ศาสตราจารย์ ดร.แพทย์หญิง เกศกมล เปลี่ยนสมัย ซึ่งอาจไม่ตรงกับความเป็นจริง
โดยกกต.วินิจฉัยว่าประเด็นที่ 1-5 และกรณีวุฒิการศึกษาปริญญาเอกรัฐศาสตร์ดุษฎีบัณฑิต ให้ยกคำร้องเนื่องจากไม่เป็นการหลอกลวงแต่อย่างใด
ส่วนกรณีระบุประวัติการศึกษาว่า ศาสตราจารย์การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ (Professor in Human Resource Development) California University และระบุประวัติการทำงานหรือประสบการณ์ในการทำงานในกลุ่มที่สมัครว่า 'ศาสตราจารย์ ดร.แพทย์หญิง เกศกมล เปลี่ยนสมัย' กกต.ตรวจสอบและได้ข้อเท็จจริงว่านางสาวเกศกมล มิได้มีตำแหน่งทางวิชาการศาสตราจารย์ตามหลักการและขั้นตอนที่กำหนดไว้ในกฎหมายของประเทศไทย อีกทั้งพยานที่ไต่สวนประกอบคนที่ 3 ถึงคนที่ 11 ซึ่งเป็นผู้สมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภาและเป็นผู้มีสิทธิเลือกระดับประเทศ ให้ถ้อยคำสอดคล้องกันว่า ข้อมูลแนะนำตัวของผู้สมัคร (สว. 3) ซึ่งระบุว่า ศาสตราจารย์ ดร.แพทย์หญิง เกศกมล เปลี่ยนสมัย มีผลจูงใจให้ลงคะแนนให้แก่ผู้ถูกร้อง
ดังนั้น การที่ผู้ถูกร้องแนะนำตัวในการเลือกสมาชิกวุฒิสภาว่าเป็น 'ศาสตราจารย์ ดร.แพทย์หญิง เกศกมล เปลี่ยนสมัย' โดยที่ผู้ถูกร้องมิได้ดำรงตำแหน่งเป็นศาสตราจารย์ตามกฎหมายของประเทศไทย จึงเป็นการหลอกลวง หรือจูงใจให้บุคคลอื่นเข้าใจผิดในคุณสมบัติ ความรู้ความสามารถ หรือชื่อเสียงหรือเกียรติคุณของผู้ถูกร้อง เพื่อจูงใจให้ผู้สมัครหรือผู้มีสิทธิเลือกลงคะแนนให้แก่ผู้ถูกร้อง ซึ่งเป็นการทุจริตในการเลือก และทำให้การเลือกมิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม อันเป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 มาตรา 62 และมาตรา 77 (4)
ให้ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาเพื่อสั่งให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งหรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของนางสาวเกศกมล เปลี่ยนสมัย ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 มาตรา 62 และรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 226 และให้ดำเนินคดีอาญาแก่นางสาวเกศกมล เปลี่ยนสมัย ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 มาตรา 77 (4) และกรณีมีเหตุอันควรสงสัยหรือความปรากฏจากรายงานการไต่สวนเพิ่มเติม (จำนวน 3 กรณี) ให้ยุติเรื่อง
ส่วนคำวินิจฉัยฉบับเต็มสำนักข่าวอิศราจะมารายงานให้สาธารณชนได้รับทราบต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- กกต. ลงมติ ‘หมอเกศ’ จบ ‘ด็อกเตอร์เก๊’ ชง ศาลฎีกาเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง
- ส่องบทความวิชาการ 'ดร.สุขุมพงศ์-สว.เกศกมล' อาจารย์-ลูกศิษย์ เหมือน/แตกต่างกันหรือไม่?
- โพรไฟล์สั้นๆ 'ดร.สุขุมพงศ์' ปธ.สอบวิทยานิพนธ์ 'พญ.เกศกมล - ธรรมนัส'
- ก่อนปมร้อนเรียนจบสหรัฐ ! พลิกธุรกิจ ‘เกศกมล’ สว.อันดับหนึ่ง กก./ถือหุ้น 4 บริษัท
- ‘เกศกมล’ สว. อันดับหนึ่ง เคยอยู่ทีมวิจัยสมุนไพรต้านโควิด มอบผลิตภัณฑ์ให้ 'ธรรมนัส'
- ย้อนข้อมูล ม.แคลิฟอร์เนีย! โลกกลม 'ธรรมนัส' เรียนจบที่เดียวกัน 'เกศกมล' สว.อันดับหนึ่ง
- อว.ยันไม่เคยรับรองวุฒิจาก California University ทบทวนเทียบ ศ.จากต่างประเทศ
- ก.พ.ออกประกาศ ยืนยันไม่เคยรับรองวุฒิ ม.California University จ่อฟ้องบุคคลพาดพิงหน่วยงาน
- 'เลขาสภาฯ' ยันไม่มีอำนาจรับรองวุฒิการศึกษา California University

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา