
กทม.อยากคืน ‘ตลาดนัดสวนจตุจักร’ อ้างไม่เชี่ยวชาญทำตลาด ‘ศานนท์’ ชี้น่าจะส่งคืนได้เลย ไม่ต้องรอศาลแพ่งตัดสิน เผยบอร์ดซอฟต์พาวเวอร์ลงสแกนพื้นที่ มีลุ้นเป็นตัวแปรผ่าทางตัน เปิดทางไป ต้องเจรจาปิดเงื่อนไขให้มากที่สุด ขณะที่รฟท.ยืนกรานต้องจ่ายหนี้ค้าง 1,250 ล้านบาทก่อน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 26 กรกฎาคม 2568 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า กทม.มีแนวคิดในการโอนการบริหารสัญญาเช่าพื้นที่ตลาดนัดจตุจักรคืนให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ทั้งนี้ เนื่องจากตลาดนัดจตุจักร ไม่ใช่ธุรกิจหลัก และ กทม.ไม่มีความเชี่ยวชาญในการบริหารจัดการ โดย กทม.ได้รับมอบให้ดูแลการบริหารสัญญาเช่าพื้นที่ในช่วงรัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งหลังจากนี้จะมีการหารือการโอนคืนให้ รฟท.ต่อไปเพื่อให้ประชาชนได้ประโยชน์สูงสุด เพราะตลาดนัดจตุจักรเป็นอีกจุดที่มีนักท่องเที่ยวไปจำนวนมาก ช่วยสร้างรายได้ให้ประเทศ
“ส่วนประเด็นหนี้ค่าเช่าพื้นที่นั้น เรื่องนี้ กทม.และ รฟท.มีการหารือกันมาโดยตลอด ซึ่งหลังจากนี้จะมีการเจรจาเพื่อให้มีความชัดเจน” นายชัชชาติกล่าว
@ศานนท์: ส่งคืนได้ ไม่ต้องรอศาล
ด้านนายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าฯกทม.กล่าวว่า ที่คืนเพราะ กทม.ไม่ได้เชี่ยวชาญในการบริหารตลาด อีกทั้งการจะซ่อมบำรุงอะไรสักอย่าง ต้องทำเรื่องขออนุญาต รฟท. ซึ่งไม่สะดวกในการดูแลรักษา จึงควรยกคืนให้ รฟท.ดีกว่า
เมื่อถามว่า การคืนตลาดนัดสวนจตุจักร จะต้องรอกระบวนการที่ รฟท.ไปฟ้องแพ่งให้ กทม.จ่ายค่าเช่าจบก่อนหรือไม่ นายศานนท์ระบุว่า คนละเรื่องกัน เรื่องคดีก็มีขั้นตอนที่ต้องทำ แต่อนาคตถ้าเคลียร์กันได้ กทม. ก็ไม่ได้อยากเก็บไว้ ถ้าคืนให้น่าจะดีกว่า
นอกจากนี้ นายศานนท์ยังระบุว่า จะนำตัวเลขช่วงที่ตลาดต้องปิดจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และจากการที่ต้องออกมาตรการช่วยผู้ค้าภายในตลาดมาคำนวณ เพื่อนำผลลัพธ์ไปเจรจากับ รฟท.ต่อไป เพราะจาก 2 เหตุการณ์ดังกล่าว กทม.ไม่ได้มีรายได้อะไรเข้ามาเลย
@ซอฟต์พาวเวอร์ ตัวแปรจบปัญหา?
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ปัจจุบันการจัดเก็บค่าแผงในตลาด กทม.ดำเนินการไว้อย่างไรบ้าง นายศานนท์ตอบว่า กทม.ก็จัดเก็บค่าแผงตามที่มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อปี 2561 กำหนดไว้คือ 1,800 บาท/แผง /เดือน ซึ่งตลาดนัดจตุจักรมีประมาณ 10,000 แผง โดยเงินทั้งหมด กทม.ยังเก็บไว้อยู่ แต่ไม่สามารถจ่ายให้ รฟท.ได้ เพราะยังไม่ได้ลงนามในสัญญารับมอบตลาด ทั้งนี้ ยังไม่รวมกับที่กทม.เอาพื้นที่ถนนรอบตลาดจัดการเป็นตลาดกลางคืน หรือที่รู้จักกันในชื่อ ตลาดอินดี้ จตุจักร เปิดวันศุกร์-อาทิตย์ เวลา 18.00-00.00 น. ซึ่งเหลือสัญญาระหว่างกัน 3 ปี
นายศานนท์กล่าวอีกว่า คณะกรรมการซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติที่มีนายสุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เป็นประธานก็ตั้งทีมขึ้นมา เพื่อศึกษากายภาพของตลาดนัดสวนจตุจักร ซึ่งกินอาณาเขตทั้งย่านหมอชิต โดยมีการให้สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA เป็นผู้ศึกษาความเหมาะสม ยืนยันว่า กทม.ไม่ได้ทำ เพียงแต่กทม.อยู่ในทีมงานด้วย ซึ่งคณะกรรมการชุดนี้จะมีผลกับการคืนตลาดนัดสวนจตุจักรด้วย ส่วนระยะในการคืนตลาดจะทำได้เมื่อไหร่ ยังไม่ทราบ แต่สุดท้ายน่าจะจบ

ศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าฯกทม.
@วิ่งเจรจา ปิดเงื่อนไขให้มากที่สุด
แหล่งข่าวจากกทม.เปิดเผยสำนักข่าวอิศราว่า ตอนนี้ กทม.พยายามที่จะเจรจากับ รฟท. ในฐานะเจ้าของที่ดิน โดยทางกทม.ต้องการปิดเงื่อนไขที่ยังเห็นไม่ตรงกันให้ได้มากที่สุด เพราะก่อนหน้านี้ รฟท.ไปยื่นฟ้องศาลแพ่งให้ กทม.จ่ายค่าเช่า ซึ่งกทม.ได้อุทธรณ์คำพิพากษาแล้ว อยู่ระหว่างพิจารณาในชั้นศาลอุทธรณ์ ซึ่งกทม.เองก็ไม่อยากยื้อไปเรื่อยๆ จึงอยากเจรจากับ รฟท.ให้ได้ โดยเฉพาะอยากให้เหลือเพียงจำนวนเงินที่ต้องจ่ายให้ รฟท. ซึ่ง กทม.อยากให้ศาลเป็นผู้ตัดสินว่า ควรจ่ายเท่าไหร่
“ตอนนี้ก็เริ่มนั่งคุยกันแล้ว เราเสนอไปตอนแรกขอให้ยกเว้นค่าเช่าทั้งหมด แต่ รฟท.บอกว่าไม่ได้ เพราะถ้าอ้างสถานการณ์ช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 รฟท.เยียวยาเจ้าอื่นสูงสุดแค่ 50% ไม่ได้เว้นให้ทั้งหมด ต่อมา กทม.จึงเสนอขอจ่าย 300-400 ล้านบาทได้ไหม รฟท.ก็ยังไม่ตอบรับ เพราะสัญญารับมอบที่ดินตลาดยังไม่ได้เซ็นกันตั้งแต่ปี 2561 กทม.เห็นว่า วันนี้ไม่ต้องคุยเรื่องสัญญาแล้ว ควรยึดเอาคำพิพากษาของศาลชั้นต้นไว้เป็นบรรทัดฐานในการคุยกันดีกว่า มันง่ายกว่า” แหล่งข่าวระบุ
@ ‘รถไฟ’ ยืนกรานต้องจ่ายค่าเช่า ผงะหนี้พุ่ง 1.2 พันล.
ขณะที่แหล่งข่าวจาก รฟท.แจ้งว่า ตลาดนัดจตุจักรมีเนื้อที่ 68 ไร่ 1 งาน 88 ตารางวา โดยมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 20 พ.ย. 2561 ให้โอนความรับผิดชอบการบริหารจาก รฟท.ไปให้ กทม. โดยให้ กทม.จ่ายค่าเช่าให้ รฟท.ในอัตราปีละ 169,423,250 บาท และให้มีการพิจารณาทบทวนค่าเช่าร่วมกันทุกๆ 3 ปี มีระยะเวลาให้เช่าไม่เกินปี 2571
แต่เนื่องจากที่ผ่านมา กทม.นำพื้นที่ไปดำเนินการเช่าช่วงอัตรา 1,800 บาท/แผง /เดือน แต่ยังไม่ได้ชำระค่าเช่าให้กับ รฟท.จนนำไปสู่การยื่นฟ้องคดี โดยศาลชั้นต้นพิพากษาว่า กทม.ไม่ได้ปฏิบัติตามมติ ครม.ครบถ้วน มีการเลือกปฏิบัติเฉพาะในส่วนที่ กทม.ได้รับประโยชน์ จึงมีคำสั่งให้ กทม.ชำระค่าเช่าให้กับ รฟท.พร้อมดอกเบี้ย นับตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 2561 จนถึงวันฟ้องวันที่ 27 มิ.ย. 2565 เป็นจำนวนเกือบ 700 ล้านบาท เป็นเงินต้น 606 ล้านบาท ดอกเบี้ย 66 ล้านบาท นอกจากนี้ ศาลได้สั่งให้ กทม.ชำระค่าเช่า 14 ล้านบาทต่อเดือน นับตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 65 เป็นต้นไป ทั้งนี้ กทม.ได้ยื่นอุทธรณ์ ซึ่งศาลยังไม่มีคำตัดสินออกมา ซึ่งถึงปัจจุบัน กทม.ยังไม่เคยชำระหนี้หรือจ่ายค่าเช่าให้กับ รฟท.ตามมติ ครม.เลย คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 1,250 ล้านบาท (เงินต้นและดอกเบี้ย)
“ที่ผ่านมา กทม.ได้มีการเจรจาเพื่อขอยกเว้นดอกเบี้ย รวมถึงลดค่าเช่าในช่วงเกิดโควิด- 19 โดยอ้างว่า กทม.ดำเนินการปิดตลาดฯ ในช่วงดังกล่าว และมีการลดค่าเช่าผู้ค้าเอง ซึ่งตามมติ ครม.กรณีหน่วยงานใดมีการช่วยเหลือเยียวยาโควิด-19 ให้หน่วยงานดำเนินการและรายงานกระทรวงที่สังกัดตามลำดับ กรณีที่รายได้ลดลง ซึ่ง กทม.ใช้วิธีผลักภาระให้ รฟท. ซึ่งไม่ถูกต้อง” แหล่งข่าวกล่าว
อย่างไรก็ตาม พื้นที่ตลาดนัดจตุจักร เป็นพื้นที่ที่คณะกรรมการซอฟต์พาวเวอร์จะปรับปรุงพัฒนาเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทย ดังนั้นหาก กทม.จะส่งคืน รฟท. เป็นไปได้ที่จะส่งต่อให้คณะกรรมการซอฟต์พาวเวอร์รับไปบริหารจัดการต่อ เพื่อพัฒนาศักยภาพของตลาดนัดเป็น Thailand Soft Power Gateway

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา