
ครม.รับทราบผลประชุม ‘วิปรัฐบาล’ เสนอบรรจุ ‘ร่าง พ.ร.บ.จัดระเบียบฯกลาโหม’ ให้ ‘สภาผู้แทนราษฎร’พิจารณาเป็น ‘วาระเรื่องด่วน’
...................................
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เมื่อวันที่ 22 ก.ค.ที่ผ่านมา ที่ประชุม ครม.ลงมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร หรือ ‘วิปรัฐบาล’ เมื่อวันที่ 21 ก.ค.2568 ซึ่งให้เสนอร่าง พ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม (ฉบับที่ ...) พ.ศ. ...ต่อสภาผู้แทนราษฎร เพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน
ทั้งนี้ สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ได้ส่ง ร่าง พ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม (ฉบับที่ ...) พ.ศ. ดังกล่าว ไปเพื่อสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาเป็นเรื่องด่วนต่อไปแล้ว

รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.2568 ครม. มีมติเห็นชอบ ร่าง พ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม (ฉบับที่...) พ.ศ.... ตามที่กระทรวงกลาโหม เสนอ และส่ง ร่าง พ.ร.บ. ให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎร ต่อไป พร้อมกันนั้น ครม.ยังมีมติรับทราบแผนจัดทำกฎหมายลำดับรอง ตามที่กระทรวงกระทรวงกลาโหม เสนอ
สำหรับ ร่าง พ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม (ฉบับที่...) พ.ศ.... ซึ่งเป็นการแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ.2561 มีสาระสำคัญ ดังนี้
ร่างมาตรา 25 การบริหารจัดการกำลังพลของกระทรวงกลาโหมให้เป็นไปตามกฎหมาย และตามที่กระทรวงกลาโหมกำหนด
การพิจารณาแต่งตั้งนายทหารชั้นนายพลของส่วนราชการตามมาตรา 10 และส่วนราชการในกองทัพไทย ให้ดำเนินการโดยคณะกรรมการที่ส่วนราชการนั้นแต่งตั้งขึ้นแล้วเสนอคณะกรรมการตามวรรคสามพิจารณา ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กระทรวงกลาโหมกำหนด
ให้มีคณะกรรมการขึ้นคณะหนึ่ง ประกอบด้วย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารเรือ และผู้บัญชาการทหารอากาศ เป็นกรรมการ ปลัดกระทรวงกลาโหมเป็นกรรมการและเลขานุการ และให้เจ้ากรมเสมียนตรา เป็นผู้ช่วยเลขานุการ มีอำนาจหน้าที่ในการพิจารณาแต่งตั้งนายทหารชั้นนายพลของส่วนราชการตามวรรคสอง และระหว่างส่วนราชการตามมาตรา 10 และส่วนราชการในกองทัพไทย
ระเบียบการประชุมของคณะกรรมการตามวรรคสอง และวรรคสาม ให้เป็นไปตามที่กระทรวงกลาโหมกำหนด
มาตรา 25/1 การกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการตามมาตรา 25 วรรคสอง ให้กระทรวงกลาโหมกำหนดคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้ซึ่งจะได้รับแต่งตั้งแต่ละระดับ ซึ่งอย่างน้อยต้องกำหนดลักษณะต้องห้ามดังต่อไปนี้ด้วย
(1) เป็นหรือเคยเป็นผู้มีพฤติกรรมเป็นผู้มีอิทธิพล หรือมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติด การค้ามนุษย์ หรือการทำลายทรัพยากรธรรมชาติหรือสิ่งแวดล้อม
(2) เป็นผู้ประกอบธุรกิจหรือกิจการที่เป็นคู่สัญญากับหน่วยงานในสังกัดระทรวงกลาโหม
(3) เป็นผู้เคยได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ
มาตรา 33/1 การใช้กำลังทหารหรือข้าราชการทหารให้เป็นไปตามระเบียบแบบแผนของราชการ แต่กรณีดังต่อไปนี้ จะกระทำมิได้
(1) เพื่อยึดหรือควบคุมอำนาจการบริหารราชการแผ่นดินจากรัฐบาล หรือเพื่อก่อการกบฏ
(2) เพื่อขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ราชการที่ชอบด้วยกฎหมายของส่วนราชการต่างๆ
(3) เพื่อธุรกิจหรือกิจการอันเป็นประโยชน์ส่วนตัวหรือของผู้บังคับบัญชา
(4) เพื่อกระทำการอันมิชอบด้วยกฎหมายประการอื่น
ข้าราชการทหารผู้ใดได้รับคำสั่งให้กระทำการตามวรรคหนึ่ง ย่อมมีสิทธิที่จะไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนั้นได้ โดยมิให้ถือว่าเป็นความผิดทั้งทางแพ่ง ทางอาญาหรือทางวินัย
เมื่อปรากฎข้อเท็จจริงว่าข้าราชการทหารผู้ใดถูกฟ้อง ถูกกล่าวหา ต้องหา หรือถูกสอบสวนว่ากระทำการหรือตระเตรียมการเพื่อกระทำการตามวรรคหนึ่ง
(1) ให้นายกรัฐมนตรีภายใต้ความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีสั่งพักราชการผู้นั้นทันที โดยให้นำข้อบังคับกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการทหารพักราชการมาใช้โดยอนุโลม
มาตรา 42 ให้มี “สภากลาโหม” ประกอบด้วยสมาชิก ดังต่อไปนี้
(1) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานสภากลาโหม
(2) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นรองประธานสภากลาโหม
(3) จเรทหารทั่วไป
(4) ปลัดกระทรวงกลาโหม
(5) รองปลัดกระทรวงกลาโหมจำนวนสองคน ซึ่งปลัดกระทรวงกลาโหมมอบหมาย
(6) ผู้บัญชาการทหารสูงสุด
(7) รองผู้บัญชาการทหารสูงสุดหนึ่งคน ซึ่งผู้บัญชาการทหารสูงสุดมอบหมาย
(8) เสนาธิการทหาร
(9) ผู้บัญชาการทหารบก
(10) รองผู้บัญชาการทหารบก
(11) เสนาธิการทหารบก
(12) ผู้บัญชาการทหารเรือ
(13) รองผู้บัญชาการทหารเรือ
(14) เสนาธิการทหารเรือ
(15) ผู้บัญชาการทหารอากาศ
(16) รองผู้บัญชาการทหารอากาศ
(17) เสนาธิการทหารอากาศ
(18) สมาชิกสภากลาโหมผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งเป็นผู้ที่มีความรู้และความเชี่ยวชาญเป็นที่ประจักษ์ทั่วไปในด้านการทหาร ด้านความมั่นคง ด้านการบริหารราชการ ด้านกฎหมาย หรือด้านอื่น ที่เกี่ยวข้องกับอำนาจหน้าที่ของกระทรวงกลาโหม จำนวนไม่เกินห้าคน ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแต่งตั้งโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี
ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแต่งตั้งผู้ดำรงตำแหน่งในกระทรวงกลาโหมเป็นเลขาธิการ และรองเลขาธิการ
ในกรณีที่มีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมมากกว่าหนึ่งคน ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแต่งตั้งให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นรองประธานเรียงตามลำดับ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมจะเชิญบุคคอื่นเข้าชี้แจงและแสดงความคิดเห็นต่อสภากลาโหม เฉพาะเรื่องใดก็ได้
มาตรา 44 สมาชิกสภากลาโหมตามมาตรา 4 (18) มีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละสองปีนับแต่วันได้รับแต่งตั้งและอาจได้รับแต่งตั้งอีกได้ แต่ไม่เกินสองวาระ
ในกรณีสมาชิกสภากลาโหมผู้ทรงคุณวุฒิตามมาตรา 42 (18) พ้นจากตำแหน่งก่อนวาระรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีอาจแต่งตั้งผู้อื่นแทนได้ และให้ผู้ที่ได้รับแต่งตั้งแทนตำแหน่งที่ว่างอยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลือของสมาชิกซึ่งได้แต่งตั้งไว้เดิม
มาตรา 45 นอกจากการพ้นจากตำแหน่งตามวาระ สมาชิกสภากลาโหมผู้ทรงคุณวุฒิตามมาตรา 42 (18) พ้นจากตำแหน่งเมื่อ
(1) ตาย
(2) ลาออก
(3) เป็นบุคคลล้มละลาย
(4) เป็นคนไร้ความสามารถ หรือเสมือนไร้ความสามารถ
(5) ต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก แม้จะมีการรอการลงโทษ เว้นแต่เป็นการรอการลงโทษในความผิดอันได้กระทำโดยประมาท ความผิดลหุโทษ หรือความผิดฐานหมิ่นประมาท
(6) สมาชิกสภากลาโหมมีมติด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสามในสี่ของจำนวนสมาชิกสภากลาโหมทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ให้พ้นจากตำแหน่ง เนื่องจากการกระทำหรือมีพฤติการณ์ไม่เหมาะสมในการปฏิบัติหน้าที่ สมาชิกสภากลาโหม
บทเฉพาะกาล มาตรา 19 ข้อบังคับกระทรวงกลาโหมที่ออกตามมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ.2551 ที่ใช้บังคับอยู่ในวันก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับให้ยังคงใช้บังคับได้ต่อไปเพียงเท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้ จนกว่าจะได้มีข้อบังคับกระทรวงกลาโหมตามพระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ.2551 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัตินี้ในเรื่องนั้น ใช้บังคับ
บทเฉพาะกาล มาตรา 10 การดำเนินการตามมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ.2551 ที่อยู่ระหว่างดำเนินการในวันก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับให้ดำเนินการต่อไปตามพระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ.2551 จนกว่าจะเสร็จสิ้น โดยยังมิให้นำบทบัญญัติตามมาตรา 25/1 แห่งพระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ.2551 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัตินี้ มาใช้บังคับ
บทเฉพาะกาล มาตรา 11 ให้สมาชิกสภากลาโหม ผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งดำรงตำแหน่งอยู่ในวันก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ดำรงตำแหน่งต่อไปจนครบวาระ หรือพ้นจากตำแหน่งด้วยเหตุอื่นตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ.2551
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีอาจแต่งตั้งสมาชิกสภากลาโหมผู้ทรงคุณวุฒิเพิ่มอีกเป็นจำนวนรวมแล้วไม่เกินจำนวนที่บัญญัติไว้ในมาตรา 42 (18) แห่งพระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ.2551 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัตินี้และให้ผู้ที่ได้รับแต่งตั้งเพิ่มอยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลือของสมาชิกตามวรรคหนึ่ง
“ประโยชน์และผลกระทบ 5.1 เพื่อให้ประชาชนทั่วไปรับทราบหลักเกณฑ์การพิจารณาแต่งตั้งนายทหารชั้นนายพลและเชื่อมั่นในระบบราชการทหารมากขึ้น 5.2 เพื่อกำหนดข้อห้ามมิให้ใช้กำลังทหารให้ชัดเจนและสร้างความเชื่อมั่นในระบบราชการทหาร 5.3 แก้ไขเพิ่มเติมองค์ประกอบของสภากลาโหมให้เหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบัน” เอกสารประกอบการการพิจารณา เรื่อง พ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม (ฉบับที่...) พ.ศ.... ที่เสนอ ครม. ระบุ





อ่านประกอบ :
ห้ามใช้กำลัง‘ทหาร’ยึดอำนาจ-วางเกณฑ์ตั้ง‘นายพล’! ครม.ไฟเขียว'ร่างพ.ร.บ.จัดระเบียบฯกลาโหม'
‘ประยุทธ์’ ถอน ร่าง ‘พ.ร.บ.จัดระเบียบกระทรวงกลาโหม’ ฉบับพรรคเพื่อไทย
เทียบ ร่าง พ.ร.บ.จัดระเบียบกระทรวงกลาโหมฉบับกองทัพ-เพื่อไทย-ประชาชน เกมชิงอำนาจ
เว็บสภาเปิดฟังความเห็น ร่าง พ.ร.บ.จัดระเบียบฯ กห.เนื้อหาห้ามใช้ทหารยึดอำนาจ-ทำผิด กม.

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา