
คนร้ายก่อเหตุยิงกราดยิงกลางตลาด อตก. ก่อนยิงตัวตายหลังก่อเหตุ เบื้องต้นพบผู้เสียชีวิตรวม 6 ศพเป็น รปภ.4 แม่ค้า 1 - จนท.เร่งหาแรงจูงใจ-ล่าสุด ผบช.น.เผยผู้ก่อเหตุมีความแค้นกับ รปภ.ตลาด อตก.มาหลายปีแล้ว เพราะเข้าใจว่ารถถูกกรีด ยืนยันไม่เกี่ยวเหตุสู้รบไทย-กัมพูชา
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เกิดเหตุกราดยิงภายในตลาดองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อตก.) ถนนกำแพงเพชร แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร
เบื้องต้นพบผู้เสียชีวิตรวมทั้งสิ้น 6 ราย ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (รปภ.) 4 ราย แม่ค้า 1 ราย และผู้ก่อเหตุอีก 1 ราย ซึ่งได้ใช้อาวุธปืนยิงตัวเองเสียชีวิตภายในจุดเกิดเหตุหลังจากหลบซ่อนอยู่พักหนึ่ง ขณะเดียวกันยังมีผู้บาดเจ็บสาหัสอีก 1 ราย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เร่งให้การช่วยเหลือ
ผู้ก่อเหตุเป็นชายสูงอายุ สวมเสื้อสีดำ กางเกงขาสั้นสีครีม สะพายกระเป๋าเป้ลายทหาร โดยก่อนเสียชีวิต เจ้าหน้าที่พยายามเข้าปิดล้อมพื้นที่และเจรจา แต่ไม่สามารถควบคุมตัวได้ทัน
ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างสอบสวนหาสาเหตุแรงจูงใจในการก่อเหตุ โดยยังไม่ตัดประเด็นใดออก ทั้งเรื่องขัดแย้งส่วนตัวหรือปัญหาส่วนบุคคล พร้อมตรวจสอบกล้องวงจรปิดและพยานแวดล้อมเพิ่มเติม รวมถึงการตรวจพิสูจน์อาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุอย่างละเอียด
ต่อมา พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. เปิดเผยหลังตรวจที่เกิดเหตุว่า นายน้อย ผู้ก่อเหตุกราดยิงมีเรื่องทะเลาะกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย โดยช่วงเวลาเที่ยงได้ก่อเหตุจี้คนขับรถแท็กซี่ จากย่าน รร.Sc Park โดยได้บอกกับโชเฟอร์ว่าจะไปยิง รปภ. ที่ตลาด อตก. จากนั้นบังคับให้ขับรถไปส่งบริเวณที่เกิด โดยส่งที่บริเวณประตู 1 เมื่อคนร้ายลงจากรถเห็น รปภ. 3 คน ก็ใช้อาวุธปืนยิงทันที จากนั้นก็ตามหา รปภ. ที่ชื่อ นายนัน เนื่องจากมีเรื่องโกรธเคืองกันมาก่อนฝังใจกันมานาน
พล.ต.ท.สยาม กล่าวต่อว่า ประเด็นที่ทะเลาะกัน เนื่องจากภรรยาของผู้ก่อเหตุมีแผงขายอาหารแห้งในตลาด หลายปีก่อน นายน้อย ผู้ก่อเหตุได้เอารถมาจอด ปรากฏว่ารถมีร่องรอยถูกกรีด จึงเข้าใจว่า รปภ. เป็นคนกรีด เวลา นายน้อย เมาก็จะเกิดความแค้น เมื่อช่วงเที่ยงหลังยิงยิงสามศพแล้ว ก็ตามหา นายนัน จนพบว่าอยู่ที่ป้อมหน้าอาคารจึงเข้าไปยิงเสียชีวิตเป็นรายที่ 4 เมื่อปืนหมดแม็กกาซีนก็มานั่งใส่กระสุนเพิ่ม จากนั้นก็สติหลุดเข้าไปยิงแม่ค้าในตลาดเสียชีวิตอีก 1 ราย และมีผู้บาดเจ็บอีก 2 คน ก่อนจะยิงตัวเองเสียชีวิตบนม้านั่งกลางตลาดหน้าร้านของภรรยา
ผบช.น. กล่าวต่อว่า เบื้องต้นจูงใจได้สอบถามภรรยาของคนร้าย คือความคับแค้นกับ รปภ. ก่อนหน้านี้เวลาเมาสุราก็จะโทรศัพท์มาร้องเรียนที่ตลาด เรื่องทำลายรถยนต์ที่จอด ทางเจ้าหน้าที่ก็รับเรื่องไว้และให้มาร้องเรียนช่วงเวลาราชการ และยังไม่มึนเมา อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่เคยไปตรวจสอบแล้วรถของคนร้ายก็มีร่องรอยถูกทำลายจริง แต่ยังหาคนลงมือไม่เจอ
พล.ต.ท.สยาม กล่าวด้วยว่า บุคลิกของคนร้ายเป็นคนมีอารมณ์รุนแรง ภรรยายอมรับว่าเคยถูกสามีทำร้ายบ้างเวลามึนเมา จากการสอบถามพบว่าเหตุขัดใจกับ รปภ.นั้นเกิดขึ้นมานานแล้ว ประกอบกับเป็นคนรักรถยนต์ ปกติเช้าจะขับรถมาส่งภรรยาจากนั้นกลับบ้านและขับรถมารับในช่วงเย็น คนร้ายเป็นคนไทยไม่มีมูลเหตุเกี่ยวกับเรื่องอื่น เป็นความขัดแย้งระหว่างเจ้าตัวกับ รปภ. ของตลาดเท่านั้น
”คนร้ายไม่มีประวัติอาชญากรรม เป็นสมาชิกชมรมยิงปืน ปืนเป็นของตัวเอง ยี่ห้อซีแซด รุ่นชาโดว์ ขนาด 9 มม. ตรวจสอบพบว่ายิงไปสิบกว่านัด ขอยืนยันว่าเป็นเรื่องส่วนตัวไม่เกี่ยวกับเรื่องวินาศกรรม หรือการก่อภัยคุกคามอะไรต่างๆ เพราะกระแสโซเชียลได้ปั่นว่าผู้ก่อเหตุเป็นชาวกัมพูชา ซึ่งไม่เป็นความจริง“
ด้าน นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รมช.เกษตรฯ ได้เดินทางมายังที่เกิดเหตุ กล่าวว่า ที่เดินทางมาตลาดเพื่ออำนวยความสะดวกให้ตำรวจทำงานมาชี้แจงพี่น้องประชาชนคนไทยได้เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น นำไปสู่มาตรการที่ผู้บริหารของตลาดนำไปคิดดูว่าถอดเป็นบทเรียนเกิดเหตุการณ์แบบนี้ เราจะยกระดับมาตรฐานในเรื่องของความปลอดภัยของตลาดได้อย่างไร ทั้งนี้จากที่ได้ฟังของตำรวจชี้แจงพบว่าเป็นเรื่องส่วนตัว ยืนยันว่าเราไม่ต้องการให้เกิดเรื่องแบบนี้กระทรวงเกษตรฯ ขอแสดงความเสียใจด้วยกับผู้เสียชีวิต และจะทำทุกวิถีทางให้เกิดความปลอดภัยในตลาดให้ได้
นางแป้ว ภรรยาของ นายน้อย ระบุว่า สามีมีปัญหามาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2562-2563 แต่ไม่รู้ว่าเรื่องไม่จบเท่าที่รู้คือเห็นหน้ากันกับ รปภ. ไม่ได้ พบปัญหาอยู่เพียงเรื่องเดียว ไม่มีเรื่องอื่นมาเกี่ยวข้อง เมื่อเช้าสามีก็ขับรถมาส่งที่ตลาดปกติ ไม่มีสัญญาณที่จะก่อเหตุมาก่อน.

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา