เผย ดีเอสไอ สอบสวนคดีบิ๊กเอกชน ขุดบ่อน้ำบุกรุกที่สาธารณะประโยชน์ ตำบลสีวิเชียร อำเภอน้ำยืน อุบลราชธานี ล่าช้ามาก ป.ป.ช.ส่งสำนวนคืนให้สอบสวนตั้งแต่ปี 62 ปัจจุบันผ่านไป 6 ปี ยังส่งเรื่องอัยการฟ้องคดีไม่ได้ เหตุมีเลื่อนรับทราบข้อกล่าวหาหลายครั้ง จนใกล้จะหมดอายุความ กังขาสาเหตุ รมต.รัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร ร่วมถือหุ้นด้วย
แหล่งข่าวจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ว่า ขณะนี้การสอบสวนกรณีบริษัทเอกชนรายใหญ่ กระทำการฝ่าฝืนกฏหมายขุดบ่อน้ำบุกรุกที่สาธารณประโยชน์ในท้องที่หมู่ที่ 3 ตำบลสีวิเชียร อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี มีความล่าช้ามาก เพราะภายหลังจากที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ส่งสำนวนกลับคืนมาให้ดีเอสไอ ดำเนินการสอบสวนตั้งแต่ช่วงปี 2562 เนื่องจากผู้ถูกกล่าวหาไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของรัฐ จึงไม่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของ ป.ป.ช.
แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า หลังจากที่ ป.ป.ช.ส่งสำนวนคืนมา ดีเอสไอ ได้มีการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน แต่ยังไม่สามารถสรุปสำนวนส่งให้อัยการฟ้องร้องดำเนินคดีตามขั้นตอนทางกฎหมายได้ เนื่องจากมีการขอเลื่อนการรับทราบข้อกล่าวหาหลายครั้ง จนทำให้ปัจจุบันคดีนี้ใกล้จะหมดอายุความแล้ว
"บริษัทเอกชนรายใหญ่แห่งนี้ เป็นธุรกิจของรัฐมนตรีรายหนึ่งในรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีรายนี้ก็ปรากฏชื่อเป็นผู้ถือหุ้นบริษัท ในช่วงที่ดีเอสไอ เข้าตรวจสอบด้วย จึงทำให้ถูกต้องข้อสังเกตว่าอาจเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้การสอบสวนคดีนี้ของดีเอสไอเป็นไปด้วยความล่าช้าหรือไม่" แหล่งข่าวระบุ

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา