
‘สำนักงาน กขค.’ เปิดรับฟังร่างประกาศฯ กำหนดแนวปฏิบัติแพลตฟอร์ม ‘E-Commerce’ ห้ามตั้งราคาสินค้าต่ำกว่าทุน-เรียกเก็บ ‘ค่าธรรมเนียม-ส่วนแบ่งรายได้’ ไม่เป็นธรรม ห้ามใช้ระบบ ‘อัลกอริทึม’ ปิดกั้น-จำกัดการมองเห็น ‘สินค้า-บริการ’ เพื่อเอื้อประโยชน์เฉพาะตน-‘ผู้ขายรายอื่น’ ที่ตนได้รับผลประโยชน์มากกว่า
...........................................
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 19 ส.ค.ที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (สำนักงาน กขค.) ได้เปิดรับฟังความคิดเห็น ร่างประกาศคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าเรื่อง แนวทางพิจารณาการปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรมและการกระทำอันเป็นการผูกขาด หรือ ลดการแข่งขัน หรือจำกัดการแข่งขันในการประกอบธุรกิจแพลตฟอร์มหลายด้าน (Multi-sided Platform) ประเภทธุรกิจบริการดิจิทัลแพลตฟอร์มซื้อขายสินค้าหรือบริการ (E-Commerce) โดยจะเปิดรับฟังความคิดเห็นฯไปจนถึงวันที่ 18 ก.ย.นี้
ทั้งนี้ ร่างประกาศฯฉบับนี้ เป็นการกำหนดแนวทางปฏิบัติ เพื่อทำให้มีการแข่งขันทางการค้าอย่างเสรีและเป็นธรรม โดยไม่มีลักษณะเป็นการผูกขาด ลดการแข่งขันหรือจำกัดการแข่งขัน รวมไปถึงการตกลงร่วมกันหรือการทำนิติกรรมอื่นใดในการประกอบธุรกิจแพลตฟอร์มหลายด้าน (Multi-sided Platform) ระหว่างผู้ประกอบธุรกิจให้บริการดิจิทัลแพลตฟอร์มซื้อขายสินค้าหรือบริการ (E-Commerce) และหรือกับผู้ประกอบธุรกิจอื่นใดที่มีการดำเนินธุรกิจเชื่อมโยงระหว่างกัน เพื่อเป็นประโยชน์ในการกำกับดูแลตาม พ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้า พ.ศ.2560 และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
สำหรับสาระสำคัญของร่างประกาศคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าเรื่อง แนวทางพิจารณาการปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรมและการกระทำอันเป็นการผูกขาด หรือ ลดการแข่งขัน หรือจำกัดการแข่งขันในการประกอบธุรกิจแพลตฟอร์มหลายด้าน (Multi-sided Platform) ประเภทธุรกิจบริการดิจิทัลแพลตฟอร์มซื้อขายสินค้าหรือบริการ (E-Commerce) โดยเฉพาะการกำหนด 12 พฤติกรรมต้องห้ามในธุรกิจบริการดิจิทัลแพลตฟอร์มซื้อขายสินค้าผ่าน E-Commerce สรุปได้ดังนี้
ร่างประกาศฯ ข้อ 3 ระบุว่า การปฏิบัติทางการค้าของผู้ประกอบธุรกิจดิจิทัลแพลตฟอร์มซื้อขายสินค้าหรือบริการ กับผู้ประกอบธุรกิจใด ทั้ง ผู้ขาย (Seller) ผู้ให้บริการรับและขนส่ง (Carrier) ผู้ให้บริการโฆษณา (Media Advertiser) และผู้ให้บริการการชำระเงิน (Payment Gateway) ให้ยึดหลักการประกอบธุรกิจที่เป็นธรรม ซึ่งต้องเป็นพฤติกรรมทางการค้าที่ไม่มีลักษณะเป็นการกีดกัน การบังคับ การกำหนดเงื่อนไขอันเป็นการจำกัดสิทธิ การเลือกปฏิบัติ
การเอื้อประโยชน์ การร่วมกันกระทำการ หรือการกระทำใดๆ อันก่อให้เกิดการผูกขาด หรือลดการแข่งขัน หรือจำกัดการแข่งขันในการประกอบธุรกิจ และต้องเป็นพฤติกรรมทางการค้าที่มีเหตุผลอันสมควรรับฟังได้ด้วยเหตุผล อันชอบธรรมในทางเศรษฐศาสตร์ ธุรกิจหรือการตลาด
@กำหนดพฤติกรรม'ต้องห้าม'ค้าขายบน‘แพลตฟอร์ม’E-Commerce
ร่างประกาศฯ ข้อ 4 ภายใต้บังคับข้อ 3 การปฏิบัติทางการค้าของผู้ประกอบธุรกิจดิจิทัลแพลตฟอร์มซื้อขายสินค้าหรือบริการ ซึ่งอาจเข้าข่ายเป็นการกระทำที่ก่อให้เกิดการผูกขาด หรือลดการแข่งขัน หรือจำกัดการแข่งขัน มีแนวทางการพิจารณาพฤติกรรมทางการค้า อันเข้าข่ายเป็นพฤติกรรมต้องห้าม ดังต่อไปนี้
1) พฤติกรรมด้านราคา (Price Behavior)
(ก) การกำหนดให้ตั้งราคาจำหน่ายสินค้าหรือบริการที่ต่ำกว่าต้นทุนรวมเฉลี่ย (Price Below Cost) โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร
(ข) การกำหนดให้ตั้งราคาจำหน่ายสินค้าหรือบริการเท่ากันทุกช่องทางการจำหน่าย และห้ามไม่ให้ตั้งราคาจำหน่ายสินค้าหรือบริการบนดิจิทัลแพลตฟอร์มซื้อขายสินค้าหรือบริการ (E-Commerce) อื่นในอัตราที่ต่ำกว่าการวางจำหน่ายบนช่องทางการค้าของตน (Rate Parity Clause)
(ค) การกำหนดราคาขายต่อ (Resale Price Maintenance) โดยให้ตั้งราคาจำหน่ายสินค้าหรือบริการตามที่กำหนด หากไม่ปฏิบัติตามจะปฏิเสธการให้จำหน่ายสินค้าหรือบริการ (Refusal to deal) บนดิจิทัลแพลตฟอร์มซื้อขายสินค้าหรือบริการ (E-Commerce) ของตน
(ง) การเรียกเก็บค่าธรรมเนียมส่วนแบ่งรายได้ (Commission Fee) ค่าใช้จ่ายเพื่อการโฆษณาด้วยวิธีการใดๆ (Advertising/Affiliate Ads Fee) ค่าใช้จ่ายเพื่อการใช้บริการขนส่งหรือเข้ารับสินค้าบนดิจิทัลแพลตฟอร์มซื้อขายสินค้าหรือบริการ (Logistic/Pickup Fee) ค่าใช้จ่ายเพื่อส่งเสริมการขาย (Promotion Fee) หรือค่าธรรมเนียมการชำระเงิน (Payment fee) รวมถึงผลประโยชน์อื่นใด โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร เช่น
1) เรียกเก็บค่าธรรมเนียม ค่าใช้จ่าย รวมถึงผลประโยชน์อื่นใดในอัตราที่เพิ่มสูงขึ้นจากอัตราที่เคยเรียกเก็บ (Excessive Pricing)
2) เรียกเก็บค่าธรรมเนียม ค่าใช้จ่าย รวมถึงผลประโยชน์อื่นใดในอัตราตามคู่แข่งขัน (Parallel Pricing) ซึ่งสามารถพิจารณาหรือพิสูจน์ได้จากข้อเท็จจริงที่ปรากฏว่ามีการดำเนินการตามกันในลักษณะที่บ่งชี้ได้ว่าอาจมีการกระทำร่วมกันแม้ไม่ปรากฏข้อตกลงหรือหลักฐานที่แสดงถึงการกระทำร่วมกันโดยชัดเจน
3) เรียกเก็บค่าธรรมเนียม ค่าใช้จ่าย รวมถึงผลประโยชน์อื่นใดในอัตราที่ต่ำกว่า ต้นทุนรวมเฉลี่ย (Price Below Cost)
4) เรียกเก็บค่าธรรมเนียม ค่าใช้จ่าย รวมถึงผลประโยชน์อื่นใดในอัตราที่ต่ำกว่า ต้นทุนแปรผันเฉลี่ย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้คู่แข่งขันต้องออกจากตลาดไป (Predatory Pricing)
5) เรียกเก็บค่าธรรมเนียม ค่าใช้จ่าย รวมถึงผลประโยชน์อื่นใดในอัตราที่แตกต่างกัน ระหว่างผู้ประกอบธุรกิจที่จำหน่ายสินค้าหรือบริการเดียวกัน โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร (Price Discrimination) เช่น ร้านค้าทางการ (Mall Sellers) กับร้านค้าทั่วไป (Non-Mall Sellers) ทั้งนี้ โดยพิจารณาจากขนาด ปริมาณการจำหน่าย หรือมูลค่าการจำหน่าย เป็นต้น
6) เรียกเก็บค่าธรรมเนียม ค่าใช้จ่าย รวมถึงผลประโยชน์อื่นใด ที่ไม่เคยมีการเรียกเก็บ มาก่อนโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร หรือไม่มีการแจ้งล่วงหน้าในระยะเวลาที่เหมาะสม
(จ) การกระทำทางการค้าใดๆ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมที่ส่งผลต่อราคาสินค้าหรือบริการในตลาดอย่างไม่เป็นธรรม เช่น การใช้ระบบอัลกอริทึมกำหนดอัตราหรือจัดระดับราคาสินค้าหรือบริการ โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร (Price Ranking System) เป็นต้น
@ห้ามใช้‘อัลกอริทึม’ปิดกั้นการมองเห็น-บังคับใช้บริการ‘ขนส่ง’
(2) พฤติกรรมทางการค้าอื่น (Non-price Behavior)
(ก) การกีดกันการมองเห็นสินค้าหรือบริการของผู้ขาย (Seller) ซึ่งใช้บริการดิจิทัลแพลตฟอร์มซื้อขายสินค้าหรือบริการ (E-Commerce) โดยใช้ระบบอัลกอริทึมปิดกั้นหรือจำกัดการมองเห็น และให้สิทธิพิเศษเอื้อประโยชน์เฉพาะตน (Self-preferencing) หรือของผู้ขายรายอื่นที่ตนได้รับผลประโยชน์มากกว่า โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร เช่น จัดวางสินค้าของตนในตำแหน่งที่เป็นจุดเด่นบนพื้นที่หน้าแรก
(ข) การบังคับให้เลือกหรือยอมรับเงื่อนไขใดๆ โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร เช่น
1) บังคับเลือกบริการรับและขนส่งสินค้า (Carrier) โดยต้องใช้บริการรับและขนส่งสินค้าของผู้ประกอบธุรกิจดิจิทัลแพลตฟอร์มซื้อขายสินค้าหรือบริการ (E-Commerce) หรือที่กำหนดไว้เท่านั้น ไม่สามารถเลือกใช้บริการขนส่งหรือบริการเข้ารับสินค้าอื่นใดตามความประสงค์ของผู้ขายได้
2) บังคับให้เข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมการขายที่ทำเป็นช่วงระยะเวลาต่อเนื่องยาวนาน เช่น กิจกรรมส่งเสริมการขายตามช่วงเวลาเป็นประจำทุกเดือน (Double date Sale)
3) บังคับเลือกบริการช่องทางการชำระเงิน (Payment Gateway) โดยต้องใช้บริการการชำระเงินของผู้ประกอบธุรกิจดิจิทัลแพลตฟอร์มซื้อขายสินค้าหรือบริการ (E-Commerce) หรือที่กำหนดไว้เท่านั้น ไม่สามารถเลือกใช้บริการการชำระเงินอื่นใดตามความประสงค์ของผู้ขายได้
4) บังคับให้ซื้อหรือให้ใช้บริการ (Coercion to Purchase) โดยต้องซื้อหรือใช้บริการใด ๆ เช่น ผู้บริการโฆษณา (Media Advertiser) ตามที่กำหนดเพื่อประโยชน์ของผู้ประกอบธุรกิจดิจิทัลแพลตฟอร์ม ซื้อขายสินค้าหรือบริการ (E-Commerce)
(ค) การกำหนดเงื่อนไขอันเป็นการจำกัดสิทธิ (Exclusive Dealing) โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร เช่น
1) กำหนดเงื่อนไขที่มีลักษณะเป็นการห้ามจำหน่ายสินค้าหรือบริการบนช่องทางดิจิทัลแพลตฟอร์มซื้อขายสินค้าหรือบริการ (E-Commerce) ของรายอื่น โดยไม่มีเหตุผลอันสมควรและหากผู้ประกอบธุรกิจไม่ปฏิบัติตามจะต้องถูกลงโทษด้วยวิธีทางการค้ารูปแบบต่างๆ เช่น การยกเลิกบัญชีผู้ขาย (Banned Account) ไม่ให้จำหน่ายสินค้าหรือบริการบนดิจิทัลแพลตฟอร์มซื้อขายสินค้าหรือบริการ (E-Commerce) หรือถอดสินค้าบริการออกจากช่องทางการจำหน่าย (Delisting) เป็นต้น
2) การกำหนดเงื่อนไขที่มีลักษณะอันทำให้เสียเปรียบถูกจำกัดโอกาสโดยไม่มีทางเลือกทางการค้าอื่นใด เช่น กำหนดให้ต้องจำหน่ายสินค้าหรือบริการอื่นพ่วงด้วยจึงจะสามารถวางสินค้าหรือบริการจำหน่ายบนช่องทางดิจิทัลแพลตฟอร์มซื้อขายสินค้าหรือบริการ (E-Commerce) ของตนได้ (Tying and bundling) กำหนดให้ส่งข้อมูลทางการค้าทุกประเภทโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำไปสร้างข้อจำกัดและกีดกันการเเข่งขัน (Anti-competitive use of third- party data) เป็นต้น
(ง) การเลือกปฏิบัติ (Discrimination) โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร เช่น
1) การเลือกจัดอันดับนำเสนอสินค้าหรือบริการที่แตกต่างกัน ระหว่างผู้ขายที่จำหน่ายสินค้าหรือบริการเดียวกัน (Ranking Discrimination)
2) การเลือกแบ่งสัดส่วนคำสั่งซื้อหรือปริมาณพัสดุที่จะต้องขนส่ง (Quantity Discrimination) ระหว่างบริการรับและขนส่ง (Carrier) ของตนกับผู้ให้บริการรับและขนส่ง (Carrier) รายอื่น ที่ให้บริการประเภทเดียวกัน
(จ) การเอื้อประโยชน์ โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร เช่น
1) การเอื้อประโยชน์ด้านข้อมูลให้แก่บริษัทภายในเครือของตน (Data Leveraging) โดยนำข้อมูลต่างๆ ที่ตนได้รับไปสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันสำหรับเครือข่ายการดำเนินธุรกิจของตน เป็นต้น
2) การเอื้อประโยชน์ให้กับบริการของตน (Self-Preferencing) โดยให้ประโยชน์ใด ๆ แก่บริการของตนเองเป็นการเฉพาะเหนือกว่าประโยชน์ของคู่ค้ารายอื่น
(ฉ) การร่วมกันการทำการระหว่างผู้ประกอบธุรกิจดิจิทัลแพลตฟอร์มซื้อขายสินค้าหรือบริการ (E-Commerce) ที่แข่งขันในตลาดเดียวกัน หรือระหว่างผู้ประกอบธุรกิจซึ่งใช้บริการดิจิทัลแพลตฟอร์มซื้อขายสินค้าหรือบริการ (E-Commerce) ซึ่งเป็นคู่ค้ากัน ที่มีลักษณะเป็นการตกลงอันมีผลบังคับและไม่มีผลบังคับ ทั้งในรูปแบบเป็นลายลักษณ์อักษรหรือรูปแบบอื่นใดซึ่งบ่งชี้ได้ว่ามีการตระหนักรู้ว่ามีการกระทำร่วมกัน เช่น การสมรู้ร่วมคิดในการประมูลคำสำคัญ (Keyword-bidding collusion)
(ช) การกระทำใดๆ อันก่อให้เกิดการผูกขาด หรือลดการแข่งขัน หรือจำกัดการแข่งขัน เช่น การประวิงเวลาจ่ายค่าสินค้าหรือบริการ การเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขทางการค้าโดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้า ในระยะเวลาที่เหมาะสม เป็นต้น
ร่างประกาศฯ ข้อ 5 การพิจารณาความไม่เป็นธรรมหรือไม่มีเหตุผลอันสมควรของการกระทำ ให้พิจารณาปัจจัยดังต่อไปนี้ประกอบกัน
(1) เป็นการกระทำที่ไม่สามารถรับฟังได้ด้วยเหตุผลในทางเศรษฐศาสตร์ ธุรกิจ การตลาด หรือไม่สามารถอธิบายได้ด้วยเหตุผลความเป็นพลวัตทางการค้า เศรษฐกิจ หรือความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี
(2) เป็นการกระทำที่ไม่เคยมีการปฏิบัติมาก่อนและมิใช่จารีตหรือการดำเนินการตามธุรกิจปกติ
(3) ปัจจัยอื่นที่เกี่ยวข้อง
อ่านประกอบ :
'กขค.'เตือน'แพลตฟอร์มค้าปลีกออนไลน์' หลีกเลี่ยงพฤติกรรม'ฮั้ว'ขึ้นค่าธรรมเนียมขายสินค้า

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา