
วิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.พรรคประชาชน ตั้งกระทู้ถาม ความคืบหน้า ปม ตั๋ว PN แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี อืด ผ่านไป 5 เดือน มีแต่ตั้งกรรมการ ดึงเวลา ถามจะสืบสวนเสร็จเมื่อไหร่ จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง แจง ไม่ได้นิ่งนอนใจ-ไม่ได้ดึงเวลา เผย เตรียมเรียก 7 บริษัทโอนหุ้น นายกฯ-ญาตินายกฯ ชี้แจงข้อเท็จจริง หากไม่มีมูลก็ตกไป-หากมีมูลก็ส่งต่อให้คณะกรรมการวินิจฉัยภาษีอากร
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 28 สิงหาคม 2568 ที่รัฐสภา นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ตั้งกระทู้ถามสดด้วยวาจาต่อ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ถึงความคืบหน้าในกรณีการตรวจสอบการซื้อหุ้นของนางสาว แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่มีการนำตั๋วสัญญาใช้เงิน (PN) มาใช้ ที่ไม่มีกำหนดการชำระเงิน ไม่มีดอกเบี้ย 5 ฉบับออกในปี 2559 อีก 4 ฉบับออกในปี 2566 จำนวน 4,434.5 ล้านบาท แต่จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีการชำระเงิน ซึ่งได้ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจไปเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2568 ว่าเป็นการทำนิติกรรมอำพรางหรือไม่ โดยนายพิชัยได้มอบหมายให้นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง มาเป็นผู้ตอบกระทู้แทน
นายวิโรจน์เริ่มถามกระทู้ว่า จากการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมา นางสาวแพทองธารถึงเพิ่งมาสารภาพกลางสภาว่าวางแผนจะเริ่มจ่ายในปี 2569 จนประชาชนจำนวนมากต่างวิพากษ์วิจารณ์และสงสัยว่านี่อาจจะไม่ใช่การซื้อหุ้น แต่เป็นการทำนิติกรรมอำพราง โดยใช้ตั๋ว PN เป็นเครื่องมือในการหลีกเลี่ยงหรือหลบเลี่ยงภาษีหรือไม่ เพราะตั๋ว PN ไม่มีศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ในการดูแล ไม่มีระบบอิเล็กทรอนิกส์ในการขึ้นทะเบียน เมื่อเวลาผ่านไประยะหนึ่งแล้วมีการแอบยกหนี้ให้แล้วฉีกตั๋ว PN ทิ้ง สำนักงานสำนักงานสรรพากรในพื้นที่ กองตรวจสอบภาษีกลาง หรือกระทั่งกรมสรรพากรจะติดตามตรวจสอบได้อย่างไร ซึ่งที่ผ่านมานายปิ่นสาย สุรัสวดี อธิบดีกรมสรรพากรออกมาแก้ต่างให้ โดยอ้างถึงประมวลรัษฎากร มาตรา 40 (4 ช) โดยเชื่อว่า คือการซื้อขายหุ้นจริงๆ และถ้ามีการใช้เงินเมื่อไหร่ แม่ พี่สาว พี่ชาย ลุง และป้าสะใภ้ ที่ได้รับกำไรจากการขายหุ้นให้นางสาวแพทองธาร ก็จะเอาส่วนที่เป็นกำไรมาคำนวณแล้วจ่ายภาษี
@ ถาม ‘จุลพันธ์’ วินิจฉัย ปม ตั๋ว PN เมื่อไหร่
นายวิโรจน์กล่าวว่า แต่ประชาชนไม่เชื่อแล้วว่าเป็นการซื้อขายหุ้น ประชาชนสงสัยว่าเป็นการให้ แต่ใช้ตั๋ว PN มาอำพรางว่าเป็นการซื้อ ซึ่งตามมาตรา 42 (26) (27) และ (28) ของประมวลรัษฎากร นางสาวแพทองธารต้องเป็นผู้จ่ายภาษีที่เรียกว่า ภาษีการรับ ให้เป็นมูลค่า 218.7 ล้านบาท ซึ่งต่อให้เป็นการซื้อขายกันจริง แม่ พี่สาว พี่ชาย ลุง และป้าสะใภ้ ก็คงไม่ต้องจ่ายภาษีแม้แต่บาทเดียว เพราะขายให้กับนางสาวแพทองธารในราคาทุน กรณีนี้ประเทศจะได้เงินจากนางสาวแพทองธารเพียง 27 บาท เป็นค่าอากรแสตมป์ที่ติดเอาไว้ที่ตั๋ว PN เก้าฉบับ ฉบับละ 3 บาท เมื่อเทียบกับกรณีของนายเศรษฐา ทวีสิน ที่โอนหุ้นแสนสิริให้ลูกสาว 661 ล้านหุ้น ลูกสาวนายเศรษฐาสำแดงอย่างตรงไปตรงมาแล้วเสียภาษีการรับให้ 32 ล้านบาท
นายวิโรจน์กล่าวว่า ในวันที่ 28 มีนาคม 2568 ตนได้ไปยื่นหนังสือต่อกรมสรรพากร เพื่อขอให้คณะกรรมการวินิจฉัยภาษีอากรใช้อำนาจตามมาตรา 13 ศต (3) วินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับการใช้ตั๋ว PN ในการซื้อหุ้นของแพทองธาร ว่าเป็นการหลบเลี่ยงหรือหลีกเลี่ยงภาษีหรือไม่ แต่จนมาวันนี้ยังไม่มีความคืบหน้าที่เป็นรูปธรรม ต่อมาในวันที่ 1 พฤษภาคม 2568 ได้ขอให้คณะกรรมาธิการการพัฒนาการเศรษฐกิจ เชิญผู้แทนจากกรมสรรพากรมาชี้แจง ซึ่งผู้อำนวยการกองตรวจสอบภาษีกลางได้มาให้คำตอบคณะกรรมาธิการจึงได้รู้ถึงข้อเท็จจริงว่าปัจจุบันคณะกรรมการวินิจฉัยภาษีอากรเกิดอุปสรรคในการจัดประชุมเพื่อวินิจฉัยในกรณีนี้
“เนื่องจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังไม่ยอมใช้อำนาจตามมาตรา 13 ทวิของประมวลรัษฎากร ในการแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิ 3 รายเข้ามาเป็นกรรมการ จึงทำให้องค์ประกอบไม่ครบ เท่ากับว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังละเว้นการแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิมาถึง 2 ปี 4 เดือน และหากนับเฉพาะการดำรงตำแหน่งของพิชัยเมื่อเดือนเมษายน 2567 เป็นต้นมา จนถึงปัจจุบันเท่ากับว่ามีการละเว้นการแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิชุดใหม่มามากกว่า 1 ปี 4 เดือน”นายวิโรจน์กล่าว
นายวิโรจน์ถามคำถามข้อที่หนึ่งว่า การวินิจฉัยกรณีการใช้ตั๋ว PN ของนางสาวแพทองธารมีกำหนดการว่าจะแล้วเสร็จเมื่อไหร่ วันที่เท่าไหร่ ประชาชนคนไทยทั่วประเทศถึงจะรู้ว่านางสาวแพทองธารโมเดลถูกกฎหมายหรือผิดกฎหมาย และที่ผ่านมาตนอยากรู้ว่าทำไมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังถึงไม่ยอมใช้อำนาจตามมาตรา 13 ทวิของประมวลรัษฎากร ในการแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิ 3 รายให้เข้าไปทำหน้าที่ในคณะกรรมการวินิจฉัยภาษีอากรเสียที
@ เรียก 7 บริษัท - แพทองธาร ชี้แจงข้อเท็จจริง
นายจุลพันธ์กล่าวว่า ทางกรมสรรพากรไม่ได้นิ่งนอนใจ และมีการดำเนินงานตามที่มีข้อร้องเรียนเข้ามาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม 2568 โดยมีการพิจารณาว่าข้อร้องเรียนมีมูลหรือไม่ ตามมาด้วยการรวบรวมข้อเท็จจริง การวางแผนวิเคราะห์ ตรวจสอบหาข้อมูลภายใน คัดแบบแสดงรายการของบุคคลและนิติบุคคลที่เกี่ยวข้อง หาข้อมูลจากภายนอก รวมทั้งในส่วนของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กรมพัฒนาธุรกิจการค้าของกระทรวงพาณิชย์ ทะเบียนหุ้น จนได้ข้อมูลมาอยู่ในมือของกรมสรรพากรค่อนข้างครบถ้วน
นายจุลพันธ์กล่าวว่า ขั้นต่อไปคือการดำเนินการสืบหาข้อเท็จจริง ซึ่งมีการเชิญ 7 บริษัทที่มีความเกี่ยวข้องกับการโอนหุ้นเพื่อตรวจสอบอยู่ การดำเนินการในขั้นตอนนี้ยังไม่เสร็จสิ้น เพราะอำนาจบังคับอยู่ในกรอบเวลาที่ต้องดำเนินการให้ถูกต้องและจะเร่งรัดไม่ได้
“ต้องยอมรับความจริงยังว่ากระบวนการเรื่องภาษีไม่ได้มีแค่คดีของแพทองธาร แต่ยังมีอีกหลายกรณี ทั้งในส่วนของภาคเอกชน รวมทั้งส่วนของภาคการเมือง แม้แต่อดีตนายกรัฐมนตรีเศรษฐาก็มีคดีเกี่ยวกับภาษีที่มีการร้องเรียนเข้ามา กรมสรรพากรก็ดำเนินการอยู่ ในคดีที่เกี่ยวกับการเมืองมีกระบวนการ เช่น การโอนเงินเพื่อสนับสนุนผู้ชุมนุม ซึ่งทั้งหมดมีการดำเนินการแบบถูกต้อง ไม่มีการเร่งรัดและไม่ได้นิ่งนอนใจ เพราะในกระบวนการนี้มีการให้ให้คุณให้โทษกับประชาชนได้ เพราะฉะนั้นสิ่งสำคัญที่สุดคือการให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายอย่างเท่าเทียม”นายจุลพันธ์กล่าว
นายจุลพันธ์กล่าวว่าขั้นตอนต่อไปของสรรพากร คือ การเรียก 7 บริษัทเข้ามาเพื่อทยอยให้ข้อเท็จจริง หลังจากนั้นจึงจะเป็นการสืบสวนสอบสวนโดยเชิญนายกรัฐมนตรีและญาติพี่น้องเข้ามาเพื่อสอบถามข้อเท็จจริง กระบวนการทั้งหมดยังมีเวลาที่ต้องดำเนินการต่อไป จะตอบว่าเสร็จเมื่อไหร่คงไม่ได้ หลังจากที่ดำเนินการครบถ้วนแล้วกรมสรรพากรต้องมาวินิจฉัยว่าข้อร้องเรียนนั้นมีมูลหรือไม่ หากไม่มีมูลก็เป็นอันตกไป หากมีมูลก็ต้องส่งไปที่คณะกรรมการวินิจฉัยฯ
นายจุลพันธ์กล่าวว่า และที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังยังไม่ได้ดำเนินการตั้งผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการวินิจฉัยฯ ให้ครบถ้วน ก็เป็นเพราะคณะกรรมการวินิจฉัยฯ ที่ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2520 มีกรณีที่ต้องเข้าสู่คณะกรรมการวินิจฉัยฯ เพียงแค่ 42 รายการเท่านั้น และคราวล่าสุดที่มีการประชุมคณะกรรมการวินิจฉัยฯ จริงคือปี 2563 ในเรื่องของความเร่งด่วนจึงไม่มี อีกทั้งหากมีความจำเป็นจะต้องดำเนินการก็ไม่ใช่เป็นการยาก เมื่อถึงเวลาหากสรรพากรวินิจฉัยว่าเรื่องนี้มีมูลเพียงพอที่จะต้องส่งเข้าคณะกรรมการวินิจฉัยฯ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังก็สามารถเร่งรัดในการตั้งบุคลากรเข้าไปเติมให้เต็มได้ แต่ในขณะนี้เมื่อไม่มีเรื่องเข้าจึงไม่มีเหตุจำเป็นใดๆ และไม่มีบทลงโทษหรือข้อกำหนดว่าคณะกรรมการวินิจฉัยฯ จะต้องมีองค์ประกอบครบถ้วนตลอดเวลา
@ ผิดหวัง ตอบไม่ได้ เสร็จเมื่อไหร่
นายวิโรจน์ถามกระทู้คำถามแรก รอบที่สอง ว่าเป็นเรื่องที่น่าตกใจที่รัฐมนตรีระบุว่าจะประเมินว่ากระบวนการจะเสร็จเมื่อไหร่นั้นคงไม่ได้ การทำงานแบบไม่มีกำหนดเสร็จเป็นการบริหารที่ใช้ไม่ได้ ไม่ได้คาดคั้นว่าต้องเป็นวันที่เท่าไหร่ แต่ถึงขั้นว่าอย่างช้าที่สุดเมื่อไหร่ก็ยังตอบไม่ได้ จึงเป็นเรื่องที่น่าผิดหวังมาก
“สิ่งที่รัฐมนตรีพูดถึงคณะกรรมการวินิจฉัยภาษีอากร ทำให้ผมนึกถึงอดีตกว่านั้น กับกรณีที่เกิดขึ้นกับ คุณเบญจา หลุยเจริญ ซึ่งหากยังคงใช้วิธีการอย่างนี้อยู่ กรณีที่เคยเกิดขึ้นกับคุณเบญจาก็จะเกิดขึ้นซ้ำอีกกับคนที่ชื่อจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ พิชัย ชุณหวชิร และ ปิ่นสาย สุรัสวดี ต่อไป”นายวิโรจน์กล่าว
นายวิโรจน์กล่าวว่า เรื่องนี้ผ่านมา 5 เดือนเงียบมาตลอด จนมีสำนักข่าวอิศราไปถามอธิบดีกรมสรรพากร เราจึงเพิ่งได้ทราบเมื่อวานนี้ (27 ส.ค.68) ว่ามีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสองชุด ชุดแรกคือคณะกรรมการพิจารณากรณีที่มีการอภิปรายในสภาผู้แทนราษฎร และคณะกรรมการพิจารณาความเหมาะสมของตั๋ว PN ทั้งระบบ แต่ผ่านมา 5 เดือนกว่าก็ยังไม่มีความคืบหน้าที่เป็นรูปธรรม ตั้งคณะกรรมการไปมา มีแต่งานธุรการดึงเวลาไปเรื่อย ไม่มีกำหนดเสร็จ ช้าที่สุดก็ตอบไม่ได้ว่ากี่ปี
อ่านข่าวประกอบ : ‘อธิบดีกรมสรรพากร’ ตั้ง คณะกก.ตรวจสอบข้อเท็จจริง ปม ตั๋ว P/N ‘แพทองธาร’
นายวิโรจน์กล่าวว่า คำถามข้อที่สอง ที่ผ่านมาความล่าช้าเกิดจากอะไร ใครเป็นผู้ต้องรับผิดชอบกับความล่าช้า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังให้เป็นผู้กำกับดูแลกรมสรรพากรโดยตรง คุมกรมสรรพากรมาตั้งแต่แรก ความล่าช้าเกิดขึ้นที่รัฐมนตรีว่าการหรือรัฐมนตรีช่วยว่าการ ถ้าประชาชนจะไปร้อง ป.ป.ช. ฐานละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ ควรจะต้องร้องใคร
@ ไม่นิ่งนอนใจ-ไม่ปัดความรับผิดชอบ-ไม่ดึงเรื่อง
นายจุลพันธ์กล่าวว่า กรมสรรพากรไม่ได้นิ่งนอนใจ และมีกระบวนการดำเนินการมาโดยตลอด ตนเองมายืนตอบตรงนี้ไม่ปัดความรับผิดชอบอยู่แล้ว ในขณะที่เป็นผู้กำกับดูแลและเรื่องนี้ก็ได้มีการสั่งการผ่านอธิบดีกรมสรรพากรให้ดำเนินการทั้งหมด ไม่มีนิ่งนอนใจ เวลามีหนังสือร้องเรียนเข้ามาก็ไม่มีการเอาหนังสือเหล่านั้นไปดองหรือทิ้ง จะเป็นการร้องเรียนที่ตนเองหรือบุคลากรที่เป็นฝ่ายรัฐบาลเดียวกันก็ต้องดำเนินการ ไม่มีใครละเว้น ชะลอ หรือ ดึงเรื่องทั้งนั้น
“เมื่อมีการรับเรื่องร้องเรียนมาแล้วสิ่งแรกที่เกิดขึ้นคือ ข้อเท็จจริงยังไม่เพียงพอ ยังไม่มีพยานหลักฐานครบถ้วนที่จะโดนดำเนินการได้ สิ่งที่ต้องทำคือการแสวงหาข้อเท็จจริงทั้งจากข้อมูลภายใน เช่น แบบแสดงรายการภาษีบุคคลและนิติบุคคลที่เกี่ยวข้อง และข้อมูลภายนอก เช่น การยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อ ป.ป.ช. ข้อมูลบัญชีรายชื่อของผู้ถือหุ้นบริษัท ซึ่งกรมสรรพากร โดยกองตรวจสอบภาษีกลาง ได้ดำเนินการแสวงหาข้อเท็จจริงตั้งแต่ที่มีการอภิปรายในเดือนมีนาคม 2568 รวมถึงการแสวงหาข้อเท็จจริงจากข้อมูลภายในและหน่วยงานภายนอก”นายจุลพันธ์กล่าว
นายจุลพันธ์กล่าวว่า ปัจจุบันได้รับข้อมูลจากหน่วยงานภายนอกมาค่อนข้างครบถ้วนแล้ว แต่จำเป็นต้องขอข้อมูลเพิ่มเติมอีก เมื่อได้ข้อมูลจากหน่วยงานภายนอกครบถ้วนก็จะมีการประมวลข้อมูลและเชิญผู้เกี่ยวข้องมาให้ถ้อยคำ นำเสนอพยานหลักฐาน เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่สามารถนำมาใช้ประกอบการพิจารณาตามกฏหมายได้
นายจุลพันธ์กล่าวว่า เนื่องจากกรณีนี้มีการทำธุรกรรมครั้งแรกตั้งแต่ปี 2559 มีช่วงเวลาที่ต้องตรวจสอบย้อนหลังค่อนข้างนาน ประกอบกับมีบริษัทที่เกี่ยวข้องหลายบริษัท ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาในการดำเนินการ ที่ผ่านมากรณีที่ต้องตรวจสอบย้อนหลังนานและมีผู้เกี่ยวข้องจำนวนมากก็มีระยะเวลาในการดำเนินงานที่ยาวนานไม่แตกต่างกัน กระทรวงการคลังยึดหลักความเป็นธรรมให้กับผู้มีหน้าที่เสียภาษีอย่างเสมอภาค ที่ผ่านมาปฏิบัติเช่นนี้มาโดยตลอด โดยให้โอกาสในการชี้แจงและนำเสนอหลักฐานต่างๆอย่างเต็มที่
“เนื่องจากกรณีนี้เป็นกรณีพิเศษที่เกิดขึ้นในสภาและมีความสนใจจากสาธารณะ ผู้บริหารกรมสรรพากรไม่ว่าจะเป็นระดับรัฐมนตรี อธิบดี หรือรองอธิบดีทุกคนล้วนติดตามอย่างใกล้ชิดถึงความคืบหน้าของเรื่อง แต่จะให้สรุปว่าจะเสร็จภายกี่เดือนหรือกี่ปี ผมต้องเรียนว่ากระบวนการเหล่านี้เน้นในเรื่องของหลักความเป็นธรรมสูงสุด จะให้ตอบว่าภายใน 1 ปีจะทำให้เสร็จเป็นไปไม่ได้ อย่างไรก็ตามกรมสรรพากรได้ดำเนินการเรื่องนี้มาอย่างต่อเนื่องไม่ได้หยุด และผมเชื่อว่าสุดท้ายจะมีข้อสรุปออกมาเป็นที่ยอมรับได้กับสังคม”นายจุลพันธ์กล่าว
@ เหน็บ สงวนเอาไว้ให้ แพทองธาร ทำได้แต่เพียงผู้เดียว
นายวิโรจน์ถามกระทู้ต่อเป็นรอบสุดท้ายว่า สรุปแล้วคำตอบของรัฐมนตรีก็คือไม่รู้ว่าอีกนานเท่าไหร่กว่าที่ประชาชนจะได้รู้คำวินิจฉัย ว่าสิ่งที่นางสาวแพทองธารทำถูกกฎหมายหรือไม่ แต่ระหว่างนี้อย่างน้อยกรมสรรพากรเคยคิดหรือไม่ว่าจะให้ความเป็นธรรมกับประชาชนคนอื่นที่อยากโอนหุ้นหรือโอนทรัพย์สินให้กับลูกอย่างไร กรมสรรพากรจะออกหนังสือชั่วคราวมาอนุญาตให้ประชาชนใช้ตั๋ว PN ในการโอนหุ้นแบบที่แพทองธารทำได้หรือไม่ ไม่ใช่สงวนเอาไว้ให้นางสาวแพทองธารทำได้แต่เพียงผู้เดียวในแผ่นดินนี้ ซึ่งกรณีนี้ผู้แทนกรมสรรพากรเคยชี้แจงว่าไม่แนะนำ เพราะอยู่ระหว่างการวินิจฉัยอยู่ แล้วอย่างนี้มีความเป็นธรรมหรือไม่
“แล้วถ้ามีกรณีที่ประชาชนจ่ายภาษีการรับให้ไปแล้วจากการโอนหุ้นอย่างตรงไปตรงมา อย่างสุจริตชนทำ แล้วในอนาคตเกิดมีคำวินิจฉัยมาว่านางสาวแพทองธารโมเดลเป็นการวางแผนภาษีที่ทำได้ถูกต้องตามกฏหมาย แล้วจะให้ความเป็นธรรมกับคนที่สำแดงการโอนหุ้นอย่างถูกต้องแล้วจ่ายภาษีการรับให้แบบตรงไปตรงมาอย่างไร ระหว่างนี้กระทรวงการคลังมีมาตรการชั่วคราวเพื่อให้ความเป็นธรรมกับประชาชนหรือไม่”นายวิโรจน์กล่าว
นายจุลพันธ์กล่าวว่า กรณีของนายกรัฐมนตรีนั้นไม่ใช่กรณีพิเศษ แต่มีกรณีที่ดำเนินการลักษณะนี้มากกว่าหนึ่งกรณีที่มีการดำเนินการสืบสวนข้อเท็จจริงอยู่ กระบวนการในการเสียภาษีนั้น ผู้มีหน้าที่ในการเสียภาษีจะเสียจากกำไรที่เกิดขึ้น ส่วนกระบวนการในการชำระสามารถเลือกชำระได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ 2 ช่องทาง คือ หนึ่ง ใช้ตัวแทนเงิน เงินสด แคชเชียร์เช็ค เครดิตการ์ด หรือการโอน และ สอง กระบวนการชำระโดยใช้ตั๋ว เช่น ตั๋วสัญญาใช้เงิน ตั๋วแลกเงิน หรือ PN เป็นตัวเลือกที่กำหนดโดยกฎหมาย ซึ่งในมาตรา 983 ก็มีการเขียนชัดเจนว่าในกระบวนการใช้เครื่องมือทางการเงินที่เป็นตั๋ว สามารถเลือกได้ว่าจะกำหนดวันเวลาหรือไม่ก็ได้ เป็นตัวเลือกทางการเงินซึ่งผู้ซื้อและผู้ขายสามารถเลือกและตกลงกันได้ เป็นหนึ่งในกรณีที่เป็นไปตามกรอบของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
“กระทรวงการคลังก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ เมื่อมีเรื่องเกิดขึ้นก็ได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสองคณะ คณะที่สองมีหน้าที่ในการไปศึกษากระบวนการการใช้ตั๋ว PN ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการเวียนความเห็นถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น หน่วยงานของศาล อัยการ กระทรวงพาณิชย์ เพื่อถามความเห็นในเรื่องการใช้ตั๋ว PN ว่าควรจะต้องแก้ไขอย่างไร เป็นเรื่องภายในหน่วยงานรัฐ ตนจึงให้สัญญาในเรื่องกรอบเวลาไม่ได้ เพราะจะกระทบกับบุคคลภายนอก แต่ในเรื่องที่เป็นการศึกษาตัวข้อกฎหมาย ตนยืนยันได้ว่าเสร็จภายในสิ้นปีนี้แน่นอน ที่จะสรุปได้ว่าตั๋ว PN เป็นช่องโหว่หรือไม่ และควรจะจะต้องแก้ไขหรือไม่”นายจุลพันธ์กล่าว
อ่านข่าวและรายงานพิเศษที่เกี่ยวข้องประกอบ :
-
วิโรจน์ จี้ อธิบดีกรมสรรพากร ตั้ง คกก.วินิจฉัยภาษีฯ สอบ ตั๋วP/N แพทองธาร-ครอบครัว
-
โชว์หนังสือ 'วิโรจน์' จี้สรรพากรเคลียร์ปม ตั๋ว P/N 'แพรทองธาร' นิติกรรมอำพรางหรือไม่?
-
โชว์ภาพอิศรา! ‘วิโรจน์’ เปิดปม ‘แพทองธาร’ รับหุ้น ‘แม่-ญาติ’ 4.4 พันล. ส่อไม่เสียภาษี
-
ไขที่มาหนี้ 4,434.5 ล. ‘แพทองธาร’ ที่แท้ตั๋วสัญญาใช้เงินค่าหุ้น 9 บ.ครอบครัว-ไม่มีดอกเบี้ย
-
'สรรพากร'ปัดตอบปม'ชาวบ้าน'ใช้'ตั๋ว P/N' ซื้อหุ้นเหมือน'แพทองธาร' ต้องจ่ายภาษีหรือไม่
ข่าวเกี่ยวข้องกับธุรกิจและบัญชีทรัพย์สิน แพทองธารและสามี
- ‘แพทองธาร’ ลาออก กก.ธุรกิจเกลี้ยง 21 บริษัท- ‘อัลไพน์’ ด้วย หลัง ‘เศรษฐา’ พ้นวันเดียว
- เปิดพอร์ตหุ้น ‘แพทองธาร ชินวัตร’ ในวันนั่งนายกฯ 19 บริษัท 9,330.5 ล้าน
- ‘ปิฎก สุขสวัสดิ์’สามีนายกฯ แจ้งลาออก กก./โอนหุ้น บ.ลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลให้พวกแล้ว
- เปิดธุรกิจ‘ปิฎก สุขสวัสดิ์’สามีนายกฯ‘อุ๊งอิ๊ง’ ตั้ง บ.โฮลดิ้งลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัล
- เช็กสนามกอล์ฟอัลไพน์ ในวัน ‘แพทองธาร’ นายกฯ บ.ยังไม่ได้รับแจ้งปมกรรมสิทธิ์ที่ดิน 444 ไร่
- นายกฯ แพทองธาร โอนหุ้นสนามกอล์ฟอัลไพน์ 1 ล้าน ให้ ‘คุณหญิงอ้อ’ แล้ว
- บ.ที่สอง! นายกฯแพทองธาร โอนหุ้น ประไหมสุหรีฯ 4 ล. ให้ ‘พินทองทา’ พี่สาว
- ขายหรือโอน! นายกฯ แพทองธาร ยังไม่ตอบ ปม 'แม่-พี่สาว' รับหุ้น ‘อัลไพน์-ประไหมสุหรี’
- อีกแห่ง! นายกฯ แพทองธาร โอนหุ้น บ.ดูแลสวน 20 ล. ก่อนให้แม่ 1 ล.
- จับตา! ‘แพทองธาร’ โอนหุ้น ‘แม่-พี่สาว’ แล้ว 413 ล. อีก 16 บริษัท 8.9 พันล. ให้ใคร
- นายกฯเผย หุ้น 16 บริษัทกำลังเคลียร์อยู่ – ยังไม่ตอบหุ้น ‘อัลไพน์-ประไหมสุหรี’ ขายหรือโอน
- ครม.แพทองธาร เหลือ 5 รมต. ยังไม่ยื่นบัญชีฯ ป.ป.ช. 'นายกฯ-อัครา-ซาบีดา' ขอขยายเวลาเพิ่ม
- นายกฯแจงขอขยายเวลายื่นบัญชีทรัพย์สิน เพราะทำไม่ทัน - หุ้น 16 บ.บริหารจัดการแล้ว
- คงมีเรื่องให้ถามอีกเยอะ! ‘แพทองธาร-ซาบีดา-อัครา’ ยื่นบัญชีทรัพย์สิน ป.ป.ช.แล้ว
- เฉลยแล้ว!‘แพทองธาร’โอนหุ้น 12 บริษัท 5,785 ล. ให้ บลจ.เกียรตินาคินภัทร - แลนด์ฯ ดูแล
- 1.3 หมื่นล้าน! ทรัพย์สิน 'แพทองธาร ชินวัตร' นายกรัฐมนตรี เงินลงทุน 1.1 หมื่นล. รายได้ 265 ล./ปี
- สรุปแล้ว! ‘แพทองธาร’โอนหุ้น เอสซี แอสเสท 3,483.6 ล. ให้ 2 บลจ. รวม 16 บริษัท 9,951.7 ล.
- ตามส่อง 2 อะพาร์ตเมนต์ กรุงลอนดอน นายกฯ แพทองธาร ได้สิทธิเช่าที่อยู่นานเฉียด 1 พันปี
- ยลโฉม 'ตุ๊กตาแบร์บริค' นายกฯแพทองธาร ก่อนยื่นบัญชีทรัพย์สิน มี 9 ตัว 1.9 ล้าน
- นายกฯแจงกฎหมายอังกฤษให้เช่าที่ดินพันปี เผยให้ข้อมูลกับ ป.ป.ช.ไปหมดแล้ว
- ตามส่องสกีรีสอร์ต-ห้องชุดสุดหรู ฮอกไกโด ‘แพทองธาร-คู่สมรส’ แจ้งถือครองโฉนดมูลค่า 30 ล.
- ไขที่มาหนี้ 4,434.5 ล. ‘แพทองธาร’ ที่แท้ตั๋วสัญญาใช้เงินค่าหุ้น 9 บ.ครอบครัว-ไม่มีดอกเบี้ย
- เปิดสัญญา 6 ฉบับ 'ปิฎก' สามีนายก 'แพทองธาร' ให้ บจ.วินน์ฯ กู้ยืม 12.7 ล.
- ‘แพทองธาร’ ยืนยัน หนี้จริง 4 พันล. ระหว่างเครือญาติ ไม่กังวล ซ้ำรอย ‘คดีซุกหุ้น’
- พร้อมตอบ ป.ป.ช. สามีให้กู้ 12 ล. - นายกฯถามสื่อ ‘นักร้อง’ ข่มขู่ให้เงินแลกไม่ฟ้องร้องผิดกม.ไหม
- เจาะ บ.วินน์ฯ ลูกหนี้ 12.7 ล. ‘ปิฎก สุขสวัสดิ์’ ล้วนคนใกล้ชิดนายกฯ พวก ถือหุ้น-กก.
- อิศรา ตามไปถึงตึกชินวัตร 3! ไขปมสามีนายกฯ ให้บจ.วินน์ฯ กู้ยืม12.7 ล. -กก.ไม่ให้สัมภาษณ์
- ตามเจาะลึก ‘แพทองธาร’ รับโอนหุ้น 7 บ.เครือญาติ ที่มา ‘หนี้ตั๋วสัญญาใช้เงิน’ 4,434.5 ล.
- สนามกอล์ฟอัลไพน์ลดทุน 237 ล.! หลัง‘แพทองธาร’โอนหุ้น 224 ล. ให้คุณหญิงพจมาน
- เปิดตัวบริษัทในเอกสารปานามา คู่สัญญานายกฯได้กรรมสิทธิ์เช่าอะพาร์ตเมนต์ลอนดอน เฉียดพันปี
- ‘แพทองธาร’ ปัดตอบเรื่องบัญชีทรัพย์สิน วอน ‘สื่อ’ ช่วยเซฟดิฉันด้วย
- ก่อน‘แพทองธาร’กู้คนใกล้ชิด 4,434.5 ล! ‘ทักษิณ-พจมาน’ทำมาแล้ว ให้‘โอ๊ค’ยืม 5,485.5 ล.
- ขุดทรัพย์สิน เด็กหญิง ‘แพทองธาร’เมื่อ 22 ปีที่แล้วมี 2,571.7 ล. – เติบโตขึ้น 5 เท่าตัว
- ดูชัดๆ! ไม่มีรายได้โอนหุ้น 1.6 ล. ‘ปิฎก สุขสวัสดิ์’ ในบัญชีทรัพย์สินแพทองธาร ?
เรื่องเกี่ยวข้องกับคดีสนามกอล์ฟอัลไพน์
- เจาะคำพิพากษา-ย้อนตำนาน 21 ปีคดีอัลไพน์! คุกจริง‘ยงยุทธ’-ศาลไม่รับฎีกา?
- ละเอียด! คำพิพากษาคดีอัลไพน์ระบุชัด ‘ยงยุทธ’เอื้อ‘ทักษิณ’ ก่อนศาลสั่งคุกจริง 2 ปี
- ศาลไม่รับฎีกา!‘ยงยุทธ วิชัยดิษฐ’ ติดคุกจริงทันที 2 ปีคดีทุจริตกอล์ฟอัลไพน์
- อุทธรณ์พิพากษายืนคุกจริง2 ปี'ยงยุทธ' คดีอัลไพน์-ศาลให้ประกันตัวด้วยเงินสด 9 แสน
- ‘เสริมศักดิ์’รอด! ป.ป.ช.ตีตกปมไม่ยกเลิกคำสั่ง‘ยงยุทธ’โอนที่ดินสร้างสนามกอล์ฟอัลไพน์
- เลื่อนอ่านอุทธรณ์คดีกอล์ฟอัลไพน์ เหตุ‘ยงยุทธ’ป่วย-ก่อนหน้านี้โดนคุกจริง 2 ปี
- 'ยงยุทธ' ไม่รอด! ศาลอาญาแผนกคดีทุจริตพิพากษาจำคุก2ปี สนามกอล์ฟอัลไพน์
- เบื้องหลังคดีกอล์ฟอัลไพน์!ก่อนศาลสั่งคุก2ปี‘ยงยุทธ’อ้าง กม.พิเศษ-โยงคำสั่ง‘ป๋าเหนาะ’?
บทความที่เกี่ยวข้อง
- ‘สรรพากร’ ลุยปมตั๋วP/N 4 พันล้าน‘แพทองธาร’-ขอข้อมูลโอนหุ้น กรมพัฒน์ฯ-ทรัพย์สิน ป.ป.ช.
- ‘แค่จ่ายค่าหุ้นหรือนิติกรรมอำพราง? 'แพทองธาร’ออกตั๋วสัญญาใช้เงิน 4,400 ล.ให้ญาติพี่น้อง’
- ‘แพทองธาร' : ตั๋วสัญญาใช้เงิน 4,400 ล.หนี้ปลอม? นิติกรรมอำพราง? เจริญรอยตามผู้พ่อหรือไม่’
- 'แพทองธาร' โอนหุ้นอัลไพน์-ประไหมสุหรีให้ 'แม่-พี่สาว' ซื้อขายเหมือน 9 บ.4.4พันล.หรือไม่?
- ไขคำตอบ เจตนาลวง-นิติกรรมอำพราง?ตั๋วเงิน 4,400 ล. ‘แพทองธาร’เลี่ยงภาษีโอน(ให้)หุ้น?
- ‘ตั๋วP/N-สืบสันดาน’ จาก ‘ทักษิณ’ ถึง ‘แพทองธาร’ วิธีการชำระค่าหุ้นสไตล์ชินวัตร?

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา