
ป.ป.ช.ชี้มูลอดีตนายกเทศฯ โคกหล่อ-พวก สมคบกันบังคับ-สอบวินัยกรรมการตรวจการจ้าง โครงการซ่อมกล้อง CCTV เหตุไม่ยอมเซ็นรับงานที่ยังไม่เสร็จ– ส่วน บ. เวิลด์วิชั่น เน็ทเวิร์ค พร้อม กก.โดนด้วย ฐานสนับสนุน จนท.รัฐทุจริต ขณะปลัดฤกษ์นริศ หนึ่งในผู้ถูกชี้มูล พบมีชนักติดหลัง เคยโดนชี้มูลคดีเอารถหลวงไปใช้ส่วนตัว
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่าเมื่อวันที่ 29 ส.ค. ที่ทำการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) โดยนายณฑิต คณะสุวรรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดตรัง พร้อมด้วย นายยุทธนา วิมลเมือง หัวหน้ากลุ่มงานป้องกันการทุจริต และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันแถลงข่าวกรณีที่ ป.ป.ช.ชี้มูลนายธนกฤต ภูมิมาตร อดีตนายกเทศมนตรีตำบลโคกหล่อ อ.เมืองตรัง จ.ตรัง กับพวก ในโครงการซ่อมแซมระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV)
โดยกรณีนี้สืบเนื่องมาจากการร้องเรียนว่าโครงการซ่อมแซมดังกล่าว ดำเนินการก่อนการจัดซื้อจัดจ้าง มีการ บังคับข่มขู่ให้ตรวจรับงานจ้าง ทั้งที่ ผู้รับจ้างยังดำเนินการ ไม่แล้วเสร็จ และกลั่นแกล้งแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินการทางวินัยอย่างร้ายแรงแก่คณะกรรมการตรวจรับพัสดุ
ป.ป.ช.ไต่สวนปรากฎว่า หลังจากมีการจัดทำใบสั่งจ้างแล้ว ผู้รับจ้างได้เข้าดำเนินการซ่อมแซมระบบกล้อง CCTV และรีบส่งมอบงานเพื่อเบิกจ่าย แต่กรรมการตรวจรับงานส่วนหนึ่งไม่ ลงนาม เนื่องจากตรวจสอบแล้วพบว่างานยังไม่แล้วเสร็จ กล้องบางตัวยังใช้การไม่ได้
ต่อมา นายกเทศมนตรีและปลัดเทศบาลได้เรียกกรรมการตรวจรับมาพบ และพูดข่มขู่ว่าหากไม่ตรวจรับจะถูกลงโทษทางวินัย ทั้งที่เมื่อไปตรวจสอบหน้างานก็ยังพบว่างานซ่อมแซมไม่แล้วเสร็จเช่นเดิม แม้กระทั่งภายหลังยังมีการเรียกไปพบและกดดันให้ลงชื่อในเอกสาร พร้อมข่มขู่ว่าหากไม่ยอมทำตามจะถูกดำเนินการทางวินัยร้ายแรง ซึ่งกรรมการตรวจรับบางรายได้บันทึกเสียงคำพูดไว้เป็นหลักฐาน และภายหลังยังมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยต่อกรรมการตรวจรับที่ไม่ยอมลงนามดังกล่าว
ป.ป.ช.พิจารณาแล้วมีมติเป็นเอกฉันท์ว่า ข้อกล่าวหาการอนุญาตให้ผู้รับจ้างดำเนินการก่อนการจัดซื้อจัดจ้าง ไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป
@ข้อกล่าวหาการบังคับข่มขู่กรรมการตรวจรับงานจ้าง
ส่วนข้อกล่าวหาการบังคับข่มขู่กรรมการตรวจรับงานจ้าง มีมูล โดยเห็นว่า นายธนกฤต ได้มีการเร่งรัด บังคับ ข่มขู่ ทั้งยังเป็นผู้อนุมัติสั่งให้มีการเบิกจ่ายเงิน และลงลายมือชื่อเบิกจ่ายเงิน ในฎีกาเบิกเงินและลงลายชื่อในเช็คจนทำให้เทศบาลตำบลโคกหล่อ เบิกจ่ายเงินให้กับ บริษัท เวิลด์วิชั่น เน็ทเวิร์ค จำกัด ผู้รับจ้าง ทั้งที่ ผู้รับจ้างยังทำงานไม่แล้วเสร็จ โดยที่ นายธนกฤต ก็รับทราบมาโดยตลอดว่าผู้รับจ้างยังทำงานไม่แล้วเสร็จ มีมูลความผิดทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151, 157, 162 และตาม พ.ร.บ.ป.ป.ช. มาตรา 172, พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างฯ มาตรา 120
นอกเหนือจากนายธนกฤตแล้วยังมีบุคคลอื่นซึ่งเป็นฝั่งของเจ้าหน้าที่รัฐที่ถูกชี้มูลได้แก่ นายฤกษ์นริศ ศรีใหม่ ปลัดเทศบาลฯ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2และ นายสมศักดิ์ หนูรักษ์ นายช่างไฟฟ้าชำนาญงาน ผู้ถูกกล่าวหาที่ 4 โดยทั้งสองมีการรับรองเป็นหลักฐานซึ่งข้อเท็จจริงอันเอกสารนั้น มุ่งพิสูจน์ความจริงอันเป็นความเท็จ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 ประกอบมาตรา 86 มาตรา 157 และมาตรา 162 (1) (4) และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบ
ส่วนนายกฤษฎา คงสง ผอ.กองคลังฯ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 จากการไต่สวนเบื้องต้น ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานที่จะฟังได้ว่า ได้กระทำความผิดตามที่กล่าวหา ข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป
ป.ป.ช.ยังได้ชี้มูลในฝั่งของเอกชน โดยชี้มูลบริษัท เวิลด์วิชั่น เน็ทเวิร์ค จำกัด ผู้ถูกกล่าวหาที่ 5 และ นางสาวชยิสรา ทีอุทิศ กรรมการบริษัทฯ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 6 ว่ามีความผิดทางอาญา ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ ซื้อ ทำจัดการ หรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ
ข้อกล่าวหาการบังคับข่มขู่กรรมการตรวจรับงานจ้าง มีมูล โดยเห็นว่า นายธนกฤต ภูมิมาตร ได้มีการเร่งรัด บังคับ ข่มขู่ ทั้งยังเป็นผู้อนุมัติสั่งให้มีการเบิกจ่ายเงิน และลงลายมือชื่อเบิกจ่ายเงิน ในฎีกาเบิกเงินและลงลายชื่อในเช็คจนทำให้เทศบาลตำบลโคกหล่อ เบิกจ่ายเงินให้กับ บริษัท เวิลด์วิชั่น เน็ทเวิร์ค จำกัด ผู้รับจ้าง ทั้งที่ ผู้รับจ้างยังทำงานไม่แล้วเสร็จ โดยที่ นายธนกฤต ภูมิมาตร ก็รับทราบมาโดยตลอดว่าผู้รับจ้างยังทำงานไม่แล้วเสร็จ มีมูลความผิดทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151, 157, 162 และตาม พ.ร.บ.ป.ป.ช. มาตรา 172, พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างฯ มาตรา 120
การกระทำของ นายฤกษ์นริศ ศรีใหม่ ปลัดเทศบาลฯ และ นายสมศักดิ์ หนูรักษ์ นายช่างไฟฟ้าชำนาญงาน ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 และ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 4 มีการรับรองเป็นหลักฐานซึ่งข้อเท็จจริงอันเอกสารนั้น มุ่งพิสูจน์ความจริงอันเป็นความเท็จ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 ประกอบมาตรา 86 มาตรา 157 และมาตรา 162 (1) (4) และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบ
การกระทำของ นายกฤษฎา คงสง ผอ.กองคลังฯ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 จากการไต่สวนเบื้องต้น ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานที่จะฟังได้ว่า ได้กระทำความผิดตามที่กล่าวหา ข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป
การกระทำของ บริษัท เวิลด์วิชั่น เน็ทเวิร์ค จำกัด ผู้ถูกกล่าวหาที่ 5 และ นางสาวชยิสรา ทีอุทิศ กรรมการบริษัทฯ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 6 มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ ซื้อ ทำจัดการ หรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ
@กรณีกลั่นแกล้งคณะกรรมการตรวจรับพัสดุ
ป.ป.ช.ยังได้ชี้มูลนายธนกฤต ว่ามีพฤติการณ์กลั่นแกล้งกรรมการตรวจรับพัสดุ ด้วยการตั้งคณะกรรมการดำเนินการทางวินัยอย่างร้ายแรง โดย
ที่ประชุม ป.ป.ช.มีมติเป็นเอกฉันท์ ด้วยคะแนนเสียง 7 เสียง เห็นชอบตามความเห็นของคณะผู้ไต่สวนเบื้องต้นว่า การกระทำของ นายธนกฤต มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็น เจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157
ส่วนนายคณพศ ศรีประภา ผอ.กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม ผู้ถูกกล่าวหาที่ 7 นายภิญโญ หอธรรม นักวิชาการศึกษา ผู้ถูกกล่าวหาที่ 8 และ นายวิสุทธิ์ อ่วมคง นิติกรชำนาญการ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 9 จากการไต่สวนเบื้องต้น ข้อเท็จจริงยังฟังไม่ได้ว่า ได้กระทำความผิดทางอาญาตามที่กล่าวหา ข้อกล่าวหาทางอาญาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป แต่การกระทำของผู้ถูกกล่าวหาทั้งสาม มีมูลความผิดทางวินัยอย่างไม่ร้ายแรง ฐานไม่ปฏิบัติหน้าที่ราชการให้เป็นไปตามกฎหมาย กฎ ระเบียบของทางราชการ
ป.ป.ช. ตรัง ได้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน สำเนาอิเล็กทรอนิกส์ และคำวินิจฉัยไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีกับ นายธนกฤต ภูมิมาตร นายฤกษ์นริศ ศรีใหม่ นายสมศักดิ์ หนูรักษ์ บริษัท เวิลด์วิชั่น เน็ทเวิร์ค จำกัด และ นางสาวชยิสรา ทีอุทิศ และส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน และคำวินิจฉัยไปยังผู้บังคับบัญชา เพื่อดำเนินการทางวินัยกับ นายธนกฤต ภูมิมาตร นายฤกษ์นริศ ศรีใหม่ นายสมศักดิ์ หนูรักษ์ นายคณพศ ศรีประภา นายภิญโญ หอธรรม และ นายวิสุทธิ์ อ่วมคง ตามฐานความผิดดังกล่าว ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 91 (1) และ (2) และมาตรา 98 วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา 98 วรรคสี่ และมาตรา 98 แล้วแต่กรณี ต่อไป และให้แจ้งผลการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งทราบ
ทั้งนี้ ให้แจ้งเทศบาลตำบลโคกหล่อ อ.เมืองตรัง จ.ตรัง ดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจ เพื่อให้มีการชดใช้ค่าเสียหายต่อไป ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 82 วรรคสอง และให้แจ้งข้อเท็จจริงที่เกี่ยวกับการกระทำของ บริษัท เวิลด์วิชั่น เน็ทเวิร์ค จำกัด ไปยังกรมบัญชีกลาง เพื่อดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจ ให้เป็นผู้มีลักษณะเป็นผู้ทิ้งงาน ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
อย่างไรก็ตาม การไต่สวนคดีอาญาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่ถือเป็นที่สุด ผู้ถูกกล่าวหายังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุด
สำหรับ นายธนกฤต ภูมิมาตร หรือนายกจบฯ ดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลโคกหล่อ มาหลายสมัย ก่อนที่จะยุติบทบาทลง โดยส่งไม้ต่อให้กับ ว่าที่ร้อยตรีณัฐพงษ์ ภูมิมาตร หรือนายกอาร์ม บุตรชาย ลงชิงสมัครรับเลือกตั้ง จนได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งเมื่อครั้งที่ผ่านมาเป็นครั้งแรก โดยนั่งเก้าอี้นายกฯ ต่อจาก นายธนกฤต หรือนายกจบฯ ผู้เป็นบิดา
ส่วน นายฤกษ์นริศ ศรีใหม่ ปลัดเทศบาลฯ เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา คณะกรรมการ ป.ป.ช. ในการประชุมครั้งที่ 21/2568 ได้มีมติเป็นเอกฉันท์ด้วยคะแนนเสียง 7 เสียง ชี้มูลความผิด กรณีนำรถหลวงจำนวน 2 คัน ไปใช้เสมือนรถยนต์ส่วนตัว ซึ่งเรื่องดังกล่าวนี้อยู่ในระหว่างกระบวนการของกฎหมาย.

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา