
ป.ป.ช.เผยแพร่มติคกก.ชุดใหญ่ชี้มูลคดีที่ดิน 3 เรื่องรวด ฟันจริยธรรม 'ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์' อดีต สส.พปชร ถือครอง ภ.บ.ท.5 - อีก 2 ราย จนท.รัฐ เจออาญาวินัย 'กฤษณะพงศ์ พู่สกุลสถาพร' เจ้าพนักงานที่ดินโคราช-พวก สั่งแก้ไขรูปแผนที่รังวัดสอบเขตที่ดิน ต.ลาดบัวขาว -'วิสูตร หล่าสกุล' อดีตนักวิชาการกรมที่ดิน-พวก ออกโฉนด มิชอบ - ส่งสำนวน อสส. ฟ้องร้องดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมายแล้ว -ยังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2568 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่มติคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดคดีสำคัญกรณีเกี่ยวกับการกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการและกรณีฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง จำนวน 3 เรื่อง
แยกเป็น
1. กรณีกล่าวหา พันตำรวจโท ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (อดีตสส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ ปัจจุบันเป็นสมาชิกพรรคกล้าธรรม) ยึดถือ และครอบครองที่ดิน ภ.บ.ท. 5 ตั้งอยู่หมู่ที่ 5 ตำบลโพธิ์ทอง อำเภอปางศิลาทอง จังหวัดกำแพงเพชร จำนวน 2 งาน 88 ตารางวา ซึ่งอยู่ในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) โดยมิชอบ โดยคณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาสำนวนไต่สวนคดีแล้ว มีมติว่า การกระทำของพันตำรวจโท ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ เป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรม ฐานกระทำการใดที่ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์ของการดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร อันมีลักษณะร้ายแรง ตามมาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ รวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ พ.ศ. 2561 ข้อ 17 ประกอบข้อ 3 วรรคสอง และข้อ 27 วรรคสอง ให้เสนอเรื่องการกระทำการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงตามฐานความผิดดังกล่าว ต่อศาลฎีกาเพื่อวินิจฉัย ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกัน และปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 87
2. กรณีกล่าวหานายกฤษณะพงศ์ พู่สกุลสถาพร เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดนครราชสีมา สาขาสีคิ้ว กับพวก สั่งแก้ไขรูปแผนที่และเนื้อที่ในการรังวัดสอบเขตที่ดิน ตามหลักฐานโฉนดที่ดินเลขที่ 2186 และ 2192 ตำบลลาดบัวขาว อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา มิชอบด้วยกฎหมาย โดยคณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาสำนวนไต่สวนคดีแล้ว มีมติว่าการกระทำของนายกฤษณะพงศ์ พู่สกุลสถาพร และพวก มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 และมาตรา 157 ประกอบมาตรา 90 และมาตรา 91 และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง
ทั้งนี้ นายกฤษณะพงศ์ พู่สกุลสถาพร เป็นผู้ถูกกล่าวหาหลัก ในคดีเกี่ยวกับการออกเอกสารสิทธิ์ของ นายประยุทธ มหากิจศิริ กรรมการและผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยน็อคซ์ สเตนเลสจำกัด (มหาชน) และนางสาวอุษณา มหากิจศิริ ลูกสาว
- ไม่ให้ประกันตัว! คุก 24 ปี 'ประยุทธ มหากิจศิริ'-ลูกสาว 12 ปี คดีโฉนดสนามกอล์ฟทับป่าสงวน
- ป.ป.ช. ชี้มูล 'ประยุทธ มหากิจศิริ' พร้อม จนท.รังวัด ร่วมกันออกที่สนามกอล์ฟทับป่าสงวน
- อ่วม! 'ประยุทธ มหากิจศิริ' ป.ป.ช.ชี้มูลคดีที่ 3 รังวัดส.ป.ก.ออกโฉนดมิชอบ-ลูกโดนด้วย
- เปิดครบ 8 ชื่อ 'ประยุทธ มหากิจศิริ-พวก' โดนชี้มูลคดีรังวัด ส.ป.ก.ออกโฉนดโคราชมิชอบ
3. กรณีกล่าวหานายวิสูตร หล่าสกุล เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนักวิชาการที่ดินชำนาญการ กรมที่ดิน ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการศูนย์เดินสำรวจออกโฉนดที่ดินจังหวัดเลย – หนองบัวลำภู กับพวก ออกโฉนดที่ดินเลขที่ 54417 เลขที่ดิน 360 ตำบลปากปวน อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย มิชอบด้วยกฎหมาย โดยคณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาสำนวนไต่สวนคดีแล้ว มีมติว่า การกระทำของนายวิสูตร หล่าสกุล และพวก มีมูลความผิดทางอาญา และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง
เบื้องต้น ให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน สำเนาอิเล็กทรอนิกส์ และคำวินิจฉัย ไปยัง อัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดี และส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน และคำวินิจฉัยไปยังผู้บังคับบัญชาเพื่อดำเนินการทางวินัยผู้ถูกกล่าวหา
โดยนายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. แถลงรายละเอียดดังนี้
เรื่องที่ 1 กรณีคณะกรรมการ ป.ป.ช. แต่งตั้งคณะกรรมการไต่สวนเพื่อดำเนินการไต่สวน กรณีกล่าวหา พันตำรวจโท ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ยึดถือ และครอบครองที่ดิน ภ.บ.ท. 5 ตั้งอยู่หมู่ที่ 5 ตำบลโพธิ์ทอง อำเภอปางศิลาทอง จังหวัดกำแพงเพชร จำนวน 2 งาน 88 ตารางวา ซึ่งอยู่ในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) โดยมิชอบ
ข้อเท็จจริงจากการไต่สวนปรากฏว่า พันตำรวจโท ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ ได้เข้ายึดถือและครอบครองที่ดินที่ตั้งอยู่บ้านหินชะโงก หมู่ที่ 5 (หรือบ้านปางสามัคคี หมู่ที่ 16 ในปัจจุบัน) ตำบลโพธิ์ทอง อำเภอปางศิลาทอง จังหวัดกำแพงเพชร จำนวน 2 งาน 88 ตารางวา ซึ่งเป็นที่ดินของรัฐที่มีไว้เพื่อประโยชน์ในการจัดที่ดินให้แก่เกษตรกรไว้ทำกินตามกฎหมายการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2539 และภายหลังจากที่พันตำรวจโท ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ ได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและเข้าปฏิบัติหน้าที่ เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2562 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ รวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ พ.ศ. 2561 มีผลบังคับใช้แล้ว พันตำรวจโท ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ ยังคงยึดถือและครอบครองที่ดินดังกล่าวเรื่อยมา ทั้งที่ทราบดีว่าตนเองไม่มีคุณสมบัติที่จะมีสิทธิได้รับการจัดที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดิน เนื่องจากไม่ได้เป็นเกษตรกรหรือประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลัก และมีเงินเดือนหรือมีรายได้เพียงพอต่อการยังชีพอยู่แล้ว อีกทั้งเมื่อสำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดกำแพงเพชรได้ออกประกาศให้เกษตรกรหรือบุคคลที่ครอบครองหรือใช้ประโยชน์ในที่ดินเดิม มายื่นคำขอเข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน พันตำรวจโท ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ ก็ยังคงเพิกเฉยไม่แจ้งการครอบครองหรือยื่นคำขอเข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน หรือส่งมอบที่ดินดังกล่าวคืนให้กับสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม นำไปดำเนินการจัดที่ดินให้กับเกษตรกรหรือผู้มีสิทธิตามเจตนารมณ์ของกฎหมายเกี่ยวกับการปฏิรูปที่ดินต่อไป การกระทำดังกล่าวของพันตำรวจโท ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ จึงเป็นการยึดถือและครอบครองที่ดินของรัฐที่มีไว้เพื่อประโยชน์ในการจัดที่ดินให้แก่เกษตรกรไว้ทำกินโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วมีมติว่า การกระทำของพันตำรวจโท ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ เป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรม ฐานกระทำการใดที่ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์ของการดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร อันมีลักษณะร้ายแรง ตามมาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ รวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ พ.ศ. 2561 ข้อ 17 ประกอบข้อ 3 วรรคสอง และข้อ 27 วรรคสองให้เสนอเรื่องการกระทำการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงตามฐานความผิดดังกล่าว ต่อศาลฎีกาเพื่อวินิจฉัย ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกัน และปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 87
เรื่องที่ 2 กรณีคณะกรรมการ ป.ป.ช. มอบหมายคณะไต่สวนเบื้องต้นเพื่อดำเนินการไต่สวน กรณีมีเหตุอันควรสงสัยว่า นายกฤษณะพงศ์ พู่สกุลสถาพร เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดนครราชสีมา สาขาสีคิ้ว กับพวก สั่งแก้ไขรูปแผนที่และเนื้อที่ในการรังวัดสอบเขตที่ดิน ตามหลักฐานโฉนดที่ดินเลขที่ 2186 และ 2192 ตำบลลาดบัวขาว อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา โดยมิชอบด้วยกฎหมาย
สืบเนื่องจากคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดนายกฤษณะพงศ์ พู่สกุลสถาพร เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดนครราชสีมา สาขาสีคิ้ว กับพวก กรณีรังวัดสอบเขตและรังวัดแบ่งแยกที่ดินโฉนด และ น.ส.3 ก. บริเวณสนามกอล์ฟเมาน์เท่นครีก รีสอร์ท แอนด์ เรสซิเด้นซ์ ตำบลลาดบัวขาว อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา ในนามเดิมและแบ่งหักเป็นทางสาธารณประโยชน์จำนวนหลายแปลงรุกล้ำที่ดิน ส.ป.ก. และที่ดินในเขตป่าสงวนแห่งชาติ เพื่อเอื้อประโยชน์ให้นายประยุทธ มหากิจศิริ กรรมการและผู้อำนวยการใหญ่บริษัท ไทยน๊อคซ์ สเตนเลส จำกัด (มหาชน) กับพวก โดยปรากฏข้อเท็จจริงว่าในการดำเนินการดังกล่าว มีการรังวัดที่ดินโฉนดเลขที่ 2186 และ 2192 ตำบลลาดบัวขาว อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา แบ่งแยกในนามเดิมและแบ่งหักเป็นทางสาธารณประโยชน์รุกล้ำที่ดิน ส.ป.ก. จึงให้ยกเหตุอันควรสงสัยขึ้นดำเนินการไต่สวนเป็นคดีนี้
จากการไต่สวนปรากฏข้อเท็จจริงว่า เมื่อปี พ.ศ. 2550 บริษัท ไทยน๊อคซ์ สเตนเลส จำกัด (มหาชน) กับพวก ได้ซื้อที่ดินโฉนดเลขที่ 2186 เนื้อที่ 52-1-85 ไร่ และเลขที่ 2192 เนื้อที่ 77-2-85 ไร่ และที่ดินแปลงอื่นทั้งที่ มีเอกสารสิทธิและไม่มีเอกสารสิทธิในพื้นที่ตำบลลาดบัวขาว อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา เพื่อจัดทำเป็นสนามกอล์ฟ โดยเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2551 และ 29 ตุลาคม 2551 นายประทีป แสวงลาภ ผู้รับมอบอำนาจจากบริษัท ไทยน๊อคซ์ สเตนเลส จำกัด (มหาชน) ได้ยื่นคำร้องขอรังวัดแบ่งแยกที่ดินโฉนดเลขที่ 2186 และเลขที่ 2192 ในนามเดิมและแบ่งหักที่ดินเป็นทางสาธารณประโยชน์ และเป็นผู้รับมอบอำนาจจากนางสาวอุษณา มหากิจศิริ ผู้ครอบครองที่ดินข้างเคียง ซึ่งเป็นที่ดิน ส.ป.ก. ให้ไประวังชี้แนวเขตและรับรองแนวเขตที่ดิน โดยในการรังวัดและนำชี้แนวเขตนั้น นายกฤษณะพงศ์ พู่สกุลสถาพร เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดนครราชสีมา สาขาสีคิ้ว และนายเทียมศักดิ์ จินดา หัวหน้าฝ่ายรังวัด ได้สั่งการให้นายอุดม ไชยชะนะ นายช่างรังวัด ดำเนินการรังวัดโดยนำที่ดินนอกหลักฐานซึ่งเป็นที่ดิน ส.ป.ก. เข้ามารวมเป็นโฉนดที่ดินที่ขอรังวัดสอบเขต ทำให้ที่ดินโฉนดเลขที่ 2186 มีเนื้อที่มากกว่าเดิม 15-2-69 ไร่ และที่ดินโฉนดเลขที่ 2192มีเนื้อที่มากกว่าเดิม 3-2-38 ไร่ และนายภักดี ภักดีเมฆ นายช่างสำรวจ สำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมา ไม่ได้เข้าร่วมระวังชี้แนวเขตตามที่รับมอบหมาย แต่กลับลงลายมือชื่อรับรองแนวเขตที่ดิน ต่อมาวันที่ 28 พฤศจิกายน 2551 นายกฤษณะพงศ์ พู่สกุลสถาพร เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดนครราชสีมา สาขาสีคิ้ว ได้สั่งแก้ไข รูปแผนที่และเนื้อที่ดินให้เป็นไปตามแนวเขตที่รังวัดซึ่งแตกต่างจากหลักฐานเดิม เพื่อเอื้อประโยชน์ให้นายประยุทธ มหากิจศิริ และกลุ่มบริษัทในเครือ ในการนำที่ดินดังกล่าวไปจัดทำเป็นสนามกอล์ฟเมาน์เท่นน์ครีก รีสอร์ท แอนด์ เรสซิเด้นซ์
คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้ว มีมติดังนี้
1. การกระทำของนายกฤษณะพงศ์ พู่สกุลสถาพร และนายเทียมศักดิ์ จินดา มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 และมาตรา 157 ประกอบมาตรา 90 และมาตรา 91 และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง
2. การกระทำของนายภักดี ภักดีเมฆ มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 และมาตรา 157 และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง
3. การกระทำของนายประยุทธ มหากิจศิริ นายประทีป แสวงลาภ บริษัท ไทยน๊อคซ์ สเตนเลส จำกัด (มหาชน) หรือบริษัท โพสโค - ไทยน๊อคซ์ จำกัด (มหาชน) นายฌ็อง ปอล เทเวอแน็ง กรรมการบริษัท และนางสาวอุษณา มหากิจศิริ มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำความผิด และฐานความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง แล้วแต่กรณี
ให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน สำเนาอิเล็กทรอนิกส์ และคำวินิจฉัยไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดี และเพื่อยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำพิพากษาเพิกถอนการกระทำหรือคำสั่งอันมิชอบหรือเพิกถอนโฉนดที่ดิน เลขที่ 2192 และ 2186 ตำบลลาดบัวขาว อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา และส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน และคำวินิจฉัยไปยังผู้บังคับบัญชาเพื่อดำเนินการทางวินัย ตามฐานความผิดดังกล่าว ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 91 (1) และ (2) มาตรา 98 และมาตรา 82 วรรคหนึ่ง และวรรคสาม ประกอบมาตรา 93 วรรคสอง แล้วแต่กรณี
ให้แจ้งข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการแก้ไขแผนที่และเนื้อที่ในการรังวัดแบ่งแยกในนามเดิมและแบ่งหักเป็นทางสาธารณประโยชน์ที่ดินตามโฉนดเลขที่ 2192 และ 2186 ตำบลลาดบัวขาว อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมาโดยมิชอบ ให้กรมที่ดินทราบ เพื่อดำเนินการเพิกถอนหรือแก้ไขเอกสารสิทธิที่เกี่ยวข้อง ตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 61 ต่อไป
เรื่องที่ 3 คณะกรรมการ ป.ป.ช. มอบหมายคณะไต่สวนเบื้องต้นเพื่อดำเนินการไต่สวน กรณีกล่าวหานายวิสูตร หล่าสกุล เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนักวิชาการที่ดินชำนาญการ กรมที่ดิน ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการศูนย์เดินสำรวจออกโฉนดที่ดินจังหวัดเลย – หนองบัวลำภู กับพวก ออกโฉนดที่ดินเลขที่ 54417 เลขที่ดิน 360 ตำบลปากปวน อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย โดยมิชอบด้วยกฎหมาย
ข้อเท็จจริงจากการไต่สวนปรากฏว่า เมื่อปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 กระทรวงมหาดไทยมีประกาศ กำหนดให้จังหวัดเลยเป็นจังหวัดที่จะทำการสำรวจรังวัดทำแผนที่เพื่อออกโฉนดที่ดิน ตามมาตรา 58 ทวิ แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน และกรมที่ดินได้มีคำสั่งแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานตามโครงการเร่งรัดการออกโฉนดที่ดินให้ครอบคลุม ทั่วประเทศประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 ในพื้นที่จังหวัดเลย - หนองบัวลำภู ประกอบด้วย นายวิสูตร หล่าสกุล นักวิชาการที่ดินชำนาญการ ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการศูนย์เดินสำรวจฯ นางกานต์ชนิต ชูอิฐจีน เจ้าพนักงานที่ดินชำนาญงาน ปฏิบัติหน้าที่ผู้กำกับการเดินสำรวจ นายสาโรจน์ สังข์เนตร นายช่างรังวัดชำนาญงาน ปฏิบัติหน้าที่ ผู้กำกับการรังวัด นายประจักษ์ โลกายุทธ์ เจ้าพนักงานธุรการ ปฏิบัติหน้าที่ผู้สอบสวนสิทธิ และนายมานพ สังข์ทิศา นายช่างรังวัดชำนาญงาน ปฏิบัติหน้าที่ผู้เดินสำรวจรังวัดเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2553 นายชัยรัชต์ พรหมมา ผู้ยื่นคำขอออกโฉนดที่ดิน ในท้องที่หมู่ที่ 5 ตำบลปากปวน อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย ได้นำเจ้าพนักงานที่ได้รับแต่งตั้งตามคำสั่งดังกล่าวทำการสำรวจพิสูจน์ที่ดิน โดยรับรองว่าได้ครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินที่ขอออกโฉนดเป็นไร่ยูคาลิปตัสเต็มพื้นที่ และไม่ใช่ที่เขา ที่ภูเขาที่สาธารณประโยชน์ ที่สงวนหวงห้าม และไม่อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าไม้ถาวร โดยมีนายนิยม ดวงศรี นายกองค์การบริหารส่วนตำบลปากปวน ลงลายมือชื่อรับรองแนวเขตที่สาธารณประโยชน์โดยมิได้ทำการตรวจสอบพื้นที่จริงมีนายบุญรักษ์ สารวงษ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 12 ลงลายมือชื่อรับรองการทำประโยชน์และรับรองแนวเขตที่ดินดังกล่าว ทั้งที่ที่ดินที่ขอออกโฉนดตั้งอยู่ในพื้นที่เขาหรือภูเขา และไม่มีการทำประโยชน์เต็มพื้นที่ตามที่นำเดินสำรวจ ต้องห้ามมิให้ออกโฉนดที่ดิน ประกอบกับขณะที่มีการเดินสำรวจ นายชัยรัชต์ พรหมมา ยังมิได้เป็นผู้มีสิทธิครอบครองที่ดิน โดยปรากฏตามหลักฐาน ภ.บ.ท. 5 ว่านายชัยรัชต์ พรหมมา ได้ซื้อที่ดินจากเจ้าของที่ดินเดิมเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2553 แต่เจ้าพนักงานที่ได้รับแต่งตั้งตามคำสั่งดังกล่าวกลับเสนอให้มีการออกโฉนดที่ดิน และนายวิสูตร หล่าสกุล ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์เดินสำรวจฯ ได้ลงนามออกโฉนดที่ดินเลขที่ 54417 เลขที่ดิน 360 หน้าสำรวจ 5893 ระวาง IV 8818 ตำบลปากปวน อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย เนื้อที่ 35 - 1 - 80 ไร่ ให้แก่นายชัยรัชต์ พรหมมา เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2553 โดยมิชอบด้วยกฎหมายเป็นเหตุให้ทางราชการได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง
คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้ว มีมติ ดังนี้
1. การกระทำของนายวิสูตร หล่าสกุล นางกานต์ชนิต ชูอิฐจีน นายสาโรจน์ สังข์เนตร นายประจักษ์ โลกายุทธ์ และนายมานพ สังข์ทิศา มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 และมาตรา 157 และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง
2. การกระทำของนายนิยม ดวงศรี มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 ประกอบมาตรา 86 และมาตรา 157 และมีมูลความผิดตามพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. 2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 92
3. การกระทำของนายบุญรักษ์ สารวงษ์ มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 ประกอบมาตรา 86 และมาตรา 157
4. การกระทำของนายชัยรัชต์ พรหมมา มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำความผิด
ให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน สำเนาอิเล็กทรอนิกส์ และคำวินิจฉัย ไปยัง อัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดี และส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน และคำวินิจฉัยไปยังผู้บังคับบัญชาเพื่อดำเนินการทางวินัย ตามฐานความผิดดังกล่าวตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 91 (1) (2) มาตรา 98 และมาตรา 98 วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา 98 วรรคสี่ แล้วแต่กรณี
ทั้งนี้ ให้แจ้งกรมที่ดินเพื่อดำเนินการเพิกถอนโฉนดที่ดินเลขที่ 54417 เลขที่ดิน 360 หน้าสำรวจ 5893 ระวาง IV 8818 ตำบลปากปวน อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย เนื้อที่ 35 - 1 - 80 ไร่ ที่ออกโดยมิชอบด้วยกฎหมายตามประมวลกฎหมายที่ดินตามหน้าที่และอำนาจต่อไป
อย่างไรก็ดี การชี้มูลความผิดของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่ถือเป็นที่สุด ผู้ถูกกล่าวหายังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุด
สำหรับพันตำรวจโท ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ ก่อนหน้านี้ ในช่วงต้นปี 2563 ตกเป็นข่าวศาลจังหวัดพัทยา อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา กรณีร่วมกับนายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง บุกโรงแรมรอยัลคีพพัทยาเพื่อขัดขวางการชุมนุมอาเซียนซัมมิท โดยศาลฎีกาพิพากษายืน จำคุก พ.ต.ท.ไวพจน์ 4 ปี และปรับ 200 บาท ไม่รอลงอาญา
ส่วนการถือครองที่ดิน ที่ดิน ภ.บ.ท. 5 นั้น สำนักข่าวอิศรา เคยตรวจสอบพบไปแล้วว่า พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง สส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ แจ้งบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. กรณีเข้ารับตำแหน่ง ส.ส. เมื่อวันที่ 25 พ.ค. 2562 มีทรัพย์สินรวมคู่สมรส (นางอุดมรัตน์ อาภรณ์รัตน์) ทั้งสิ้น 19,523,997 บาท หนี้สินทั้งสิ้น 7,427,681 บาท
โดย พ.ต.ท.ไวพจน์ ระบุว่ามีที่ดิน 1 แปลง มูลค่า 1 แสนบาท เป็นที่ดิน ภ.บ.ท.5 ไม่ระบุหมายเลข ตั้งอยู่ที่ ม.5 ต.โพธิ์ทอง อ.อ่างศิลาทอง จ.กำแพงเพชร ได้มาเมื่อปี 2544 เนื้อที่ 2 งาน 88 ตรว.


Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา