อนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี หารือ 3 คนนอก ชวนเป็นรัฐมนตรีในคณะรัฐมนตรี สีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว อดีตปลัดกระทรวงต่างประเทศ-อรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ อดีตซีอีโอ ปตท. เข้าพบ เผย เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมธนารักษ์ ขอเวลาตันสินใจ 2-3 คืน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 6 กันยายน 2568 ที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ในฐานะ ว่าที่นายกรัฐมนตรี (คนที่ 32) ได้เดินทางเข้าพรรค โดยมีนักการเมืองและบุคคลภายนอกทยอยเข้าพบ อาทิ นายสหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว อดีตปลัดกระทรวงต่างประเทศ นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมธนารักษ์ รวมถึงนายสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) โดยนายอนุทินให้สัมภาษณ์ภายหลังการหารือว่า รัฐบาลนี้เข้ามาท่ามกลางปัญหา จึงต้องได้รีบการแก้ไข
นายอนุทินกล่าวว่า สำหรับการพูดคุยกับนายเอกนิติ ซึ่งยังเหลืออายุราชการอีก 6 ปี มีความรู้และความสามารถและอนาคตทางราชการก้าวหน้าไปมากกว่านี้ได้อีก แต่นายเอกนิติได้เสียสละ ซึ่งเห็นพ้องต้องกันว่า เรื่องประเทศชาติ เรื่องของประชาชนมีความสำคัญ นายเอกนิติจึงได้ตัดสินใจขอเวลาคิด 2-3 คืน เพื่อมาทำงานในรัฐบาล ซึ่งจะเป็นการตัดสินใจในชีวิตของนายเอกนิติอีกครั้งหนึ่ง เพื่อประเทศและประชาชน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ถึงตอนนี้ยืนยันได้หรือไม่ว่า หน้าตาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ไม่ขี้เหล่แน่นอน นายอนุทินกล่าวว่า ต้องเป็นครม.ที่เข้ามาแล้วทำงานได้เลย
“สโลแกนสั่งวันนี้เสร็จเมื่อวาน ผมก็ยังถือว่าเป็นแนวทางการดำเนินงานของพวกเราอยู่”นายอนุทินกล่าว
นายอนุทินกล่าวว่า พยายามจะตั้งรัฐบาลให้เร็วที่สุด ไม่มีเวลาคิดถึงเรื่องการเมือง ซึ่งคิดว่ามีความชัดเจนแล้ว อีก 4 เดือนก็ต้องยุบสภา เพราะฉะนั้นต้องทำทุกวันภายใน 4 เดือนนี้ให้เกิดผลงาน ให้คืบหน้า ให้แก้ปัญหาในทุกมิติให้มากที่สุด
นายอนุทินกล่าวว่า ส่วนรายละเอียด รัฐมนตรีที่ได้รับมอบหมายและรับผิดชอบในแต่ละกระทรวงจะมีอำนาจเต็มที่ในการกำหนดนโยบาย และดำเนินนโยบายด้วยความรวดเร็ว ไม่มีการต้องมาคอยดูว่า หัวหน้ารัฐบาลจะเอาด้วยหรือเปล่า เสียงจะไปขัดกับพรรคการเมืองใดหรือไม่ รับรองว่า ไม่มี
“ผมเอาประสบการณ์ต่างๆ จากการได้เป็นรัฐมนตรีในพรรคร่วมรัฐบาลมา 2-3 สมัย เห็นจุดอ่อน เห็นปัญหาของการไม่ทำงานร่วมกัน เพราะมัวแต่ไปกังวลเรื่องความได้เปรียบเสียเปรียบทางการเมือง”นายอนุทินกล่าว
รายงานข่าวเพิ่มเติมว่า ระหว่างที่นายอนุทินให้สัมภาษณ์มาถึงช่วงนี้ นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท.จำกัด (มหาชน) ได้เดินเข้ามาในวงสัมภาษณ์ ทำให้นายอนุทินพูดขึ้นมาว่า “อ้าว ท่านมาแล้ว ตายแล้ว ความลับแตกหมดเลย”ก่อนจะหัวดเราะเสียงดัง
ผู้สื่อข่าวจึงถามว่า คนนี้ใช่หรือไม่ที่จะมาเป็นรัฐมนตรีในกระทรวงพลังงาน นายอนุทินกล่าวว่า “คงไม่ได้มาเป็นรัฐมนตรีวัฒนธรรมแน่นอน ครับๆ พลังงานครับ”
นายอนุทินกล่าวว่า รัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลที่มีภารกิจแน่นอน ต้องได้คนที่เข้ามาแล้วทำงานได้เลย ไม่ต้องเรียนรู้งานมาก อย่างน้อย 3 คนที่อยู่ตรงนี้ (นายอรรถพล นายสีหศักดิ์ และนายเอกนิติ) เป็นผู้บริหารสูงสุดในองค์กรที่กำลังจะเข้าไปรับผิดชอบ ซึ่งจะเป็นการสร้างความมั่นใจว่า ทุกอย่างจะเดินหน้าได้เลย โดยไม่ต้องมีการรำมวย
เมื่อถามว่า รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมจะเป็นทหารหรือพลเรือน นายอนุทินกล่าวว่า ยังมีการพิจารณาอยู่ แต่ต้องการให้มีคนที่มีความรู้ความสามารถในวิชาชีพของกระทรางนั้นๆ
เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่า อาจจะเป็น ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม หรือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ นายอนุทินกล่าวว่า “ถ้าตรงไหนมีความชัดเจน ผมก็จะพามากินกาแฟ”
นายอนุทินกล่าวว่า เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบ จะได้ไม่ต้องคาดเดาอะไร การที่ยังไม่ได้พาคนอื่นมา แสดงว่า บางคนยังไม่ตอบรับ บางคนยังมีคำถามที่จะต้องทำให้ชัดเจนว่า หน้าที่การงาน ความอิสระในการทำงานเป็นอย่างไร
“ด้วยสไตล์การทำงานของผม ผมไม่เคยให้พี่น้องประชาชนต้องมาตั้งข้อสงสัย หรือ คาดการณ์ใดๆ ถ้าทุกอย่างมีความชัดเจนแล้ว ผมก็จะเร่งมานำมากราบเรียน แนะนำตัวให้พี่น้องประชาชนทุกคนได้รับรู้รับทราบว่า รัฐบาลของท่านจะเป็นไปในทางใด เราจะทำงานให้ใกล้ชิดกับพี่น้องประชาชนให้ได้มากที่สุด ให้ท่านมาส่วนร่วม ให้เปรียบเสมือนว่าท่านเป็นผู้มีส่วนร่วมในการบริหารประเทศร่วมกัน ฝ่ายการเมืองฟังเสียงประชาชนเป็นหลัก”นายอนุทินกล่าว
เมื่อถามว่า ครม.ใหม่จะมีภาพแบบไหน นายอนุทินกล่าวว่า เป็นภาพมืออาชีพที่ทำงาน ผู้ปฏิบัติงานทุกคนเป็นพรรคพวก พี่น้องสมานฉันท์ สามัคคี
“คนตั้ง 36 คนมาทำงานกัน ผมเป็นหนึ่งในสมาชิกกลุ่มนั้นมาหลายสมัย ผมรู้สึกว่า ความสัมพันธ์ส่วนตัวแทบจะไม่มี มาก็ทำงานกัน เจอกันสัปดาห์หนึ่ง คุยแต่เรื่องที่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ถ้าไม่มีแล้ว แทบจะไม่มีส่วนร่วมในการตัดสินใจร่วมกันเลย สิ่งเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นในรัฐบาลที่ผมเป็นหัวหน้ารัฐบาลอยู่”นายอนุทินกล่าว
นายอนุทินกล่าวว่า ทุกคนต้องเข้าใจเป้าหมายเดียวกัน เข้าใจภารกิจที่เรามีอย่างจำเพาะเข้ามา ต้องให้ความร่วมมือซึ่งกันและกัน ไม่มีว่า พรรคนี้เสนอ พรรคนี้ค้าน หรือ หัวหน้ารัฐบาลมองแล้วไม่มีประโยชน์กับพรรคตัวเองก็ช้าหน่อย สิ่งเหล่านี้จะไม่มี จะมีการเปลี่ยนระบบการทำงาน การเสนอนโยบายต่างๆ จากกระทรวงที่ขึ้นมาจะได้รับการพิจารณาโดยเร็วและเร่งให้เกิดการปฏิบัติให้เร็วที่สุด
เมื่อถามว่า คนนอกที่จะมาเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลมีอีกหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า “ยัง”
เมื่อถามว่า ใช้เวลาจีบนานหรือไม่กว่าจะเข้าร่วมรัฐบาล นายอนุทินกล่าวว่า “จีบแฟนเร็วกว่า”

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา