ศาลรธน. ไม่รับคำร้อง ‘อนุทิน’ ใช้ที่สาธารณะทำรันเวย์ ชี้ ต้องยื่นผู้ตรวจการแผ่นดินก่อน

ศาลรัฐธรรมนูญ ไม่รับคำร้อง อนุทิน ชาญวีรกูล ใช้ถนนสาธารณะเป็นทางขึ้นลงเครื่องบิน ต.ขนงพระ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ชี้ ไม่ปรากฎว่าผู้ร้องยื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดินก่อน ด้าน สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย แถลง โชว์หนังสืออนุญาตปรับปรุงถนนสาธารณะ อบต.ขนงพระ อ้างกระตุ้นเศรษฐกิจ-ลงทุนในพื้นที่ ไม่กระทบประชาชน

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 17 กันยายน 2568 ศาลรัฐธรรมนูญ เผยแพร่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ข่าวที่ 35/2568 ศาลรัฐธรรมนูญประชุมปรึกษาคดี เรื่องพิจารณาที่ ต.86/2568 กรณีนายนิยม นพรัตน์ ผู้ร้อง ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 213

สืบเนื่องจากกรณี ผู้ร้องกล่าวอ้างข่าวตามที่ปรากฏในสื่อ MGR Online เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2568 ว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล ผู้ถูกร้อง ขณะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ใช้อำนาจหน้าที่ขออนุญาตใช้ถนนสาธารณะเป็นทางขึ้นลงสำหรับอากาศยานเพื่อกิจกรรมทางธุรกิจของบริษัทเอกชน เป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมามาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 (4) (5) มาตรา 213 มาตรา 219 และมาตรา 235 และขอให้สมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและความเป็นรัฐมนตรีของผู้ถูกร้องสิ้นสุดลง และเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้ถูกร้อง

ผลการพิจารณา ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาโดยการอภิปรายแล้วเห็นว่า ข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารประกอบไม่ปรากฏว่าผู้ร้องได้ยื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดินเสียก่อนตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 46 วรรคหนึ่ง กรณีไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 213 ดังนั้น ผู้ร้องไม่อาจยื่นคำร้องดังกล่าวตามรัฐธธรรมนูญ มาตรา 213 ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์มีคำสั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย

ด้านนายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยแถลงภายหลังศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้องกรณีดังกล่าวว่า พื้นที่ดังกล่าวอยู่ในความรับผิดชอบขององค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบต.) ขนงพระ อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งในปี 2559 นายอนุทิน ได้ไปขออนุญาตกับกรมการบินพลเรือน เพื่อขอทำสนามบินส่วนบุคคล ซึ่งต้องมีเอกสารประกอบ เนื่องจากที่ดินที่นายอนุทินไปขออนุญาต เป็นที่ดิน 2 แปลง (ดูรูปภาพประกอบ) ซึ่งส่วนที่ถนนสาธารณะพาดผ่านมีความกว้าง 3.5 เมตร

นายสิริพงศ์กล่าวว่า โดยในปี 2559 นายอนุทินได้ขออนุญาตไปทางอบต.ขนงพระ เพื่อปรับปรุงทำถนนดังกล่าวให้เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้เครื่องบินสามารถเคลื่อนผ่านในช่วงเวลาระยะเวลาสั้นๆได้ และเปิดให้สาธารณะชนใช้ เพื่อประโยชน์ร่วมกัน ซึ่งมีหนังสือตอบอนุญาตจากอบต.ขนงพระว่า ยินดีให้ทำ โดยให้เหตุผลว่า บริเวณนั้นมีนักท่องเที่ยวมาจำนวนมาก ดังนั้น การมีสนามบินในลักษณะนี้จะเป็นการเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวและนักลงทุนสร้างบรรยากาศการลงทุนและการท่องเที่ยวบริเวณนั้น อบต.ขนงพระมีความเห็นว่า แต่ทั้งนี้ขอให้การดำเนินการใช้ไม่เป็นอุปสรรคต่อประชาชนและเปิดเพื่อเป็นประโยชน์

“ดังนั้น ตลอดระยะเวลาดำเนินการที่ผ่านมาจะมีเพียงบางช่วงเวลา คือ ช่วงขึ้นหรือลง ที่จะมีเจ้าหน้าที่มาดูแลในเรื่องความปลอดภัยเท่านั้น นอกจากนั้นก็จะเปิดให้ประชาชนใช้ปกติ ซึ่งหมายความว่า ถนนสาธารณะประโยชน์ไม่ได้เสื่อมสภาพไปจากถนนสาธารณะประโยชน์แต่อย่างใด แต่ยังเป็นถนนสาธารณะประโยชน์ที่ใช้ประโยชน์ร่วมกันได้ ทั้งทางบกและทางอากาศ และเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อปี 2559 ไม่ใช่ระหว่างที่ท่านอนุทินดำรงตำแหน่งรมว.มหาดไทย ซึ่งถ้าจะบอกว่าเป็นรัฐมนตรีแล้วใช้อำนาจ ไม่ใช่ แต่เป็นการดำเนินการตามกฎหมาย และมีวัตถุประสงค์ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการสัญจร การขอใช้ประโยชน์ในที่สาธารณะ และในมิติการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนในพื้นที่”นายสิริพงศ์กล่าว