
'อนุทิน' รุดดูเหตุถนนทรุดหน้ารพ.วชิระแล้ว ระบุตอนนี้ไม่มีการทรุดเพิ่ม ห่วงสน.สามเสนเสาเข็มขาดไป 2-3 ต้น สั่งอพยพเจ้าหน้าที่ออกแล้ว ด้านโรงพยาบาลประกาศไม่รับผู้ป่วยนอกชั่วคราว ส่วนความเสียหายด้านทรัพย์สิน รฟม.ยืดอกขอรับผิดชอบทั้งหมด
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 24 กันยายน 2568 เวลา 11.05 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุดินสไลด์หน้า รพ.วชิระ โดยกล่าวว่า เช้านี้มีเหตุการณ์ที่ไม่พึงประสงค์เกิดขึ้นที่บริเวณถนนสามเสนหน้าโรงพยาบาลวชิระ ซึ่งเหตุที่เกิด คือ การทรุดตัวของถนนอันเนื่องมาจากการสไลด์ของดินในโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าใต้ดินสายสีม่วงใต้ ซึ่งนับว่าโชคดีที่เหตุการณ์นี้ไม่มีผู้บาดเจ็บหรือผู้เสียชีวิต ความเสียหายในตอนนี้เป็นความเสียหายด้านทรัพย์สิน สำหรับตัวอาคารโรงพยาบาลวชิระไม่ได้รับผลกระทบ เพราะตอนนี้การทรุดตัวหยุดและคงที่แล้ว ในอีกฝั่งถนนจะเป็นที่ตั้งของสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินอยู่แล้ว ซึ่งมีโครงสร้างคอนกรีตรองรับดินสไลด์อยู่แล้ว
"แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงตอนนี้คืออาคารของสถานีตำรวจนครบาลสามเสน ซึ่งเป็นอาคาร 5-6 ชั้น เสาเข็มลงไป 21 เมตร และมีแรงของดิน ส่งผลให้เข็มขาดไป 2-3 ต้น ขณะนี้ได้ทำการอพยพเจ้าหน้าที่ออกจากอาคารเป็นที่เรียบร้อยแล้ว รวมถึงอพยพประชาชนที่พักอาศัยอาคารห้องแถวใกล้เคียง ดังนั้น ด้านการรักษาชีวิตของประชาชนควบคุมได้แล้ว ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต" นายอนุทินกล่าว
ในส่วนของรัฐบาล นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ขณะนี้เราได้บูรณาการร่วมกันเป็นทีมทั้งกรุงเทพมหานคร วชิรพยาบาล ซึ่งขณะนี้เพื่อความปลอดภัยของประชาชน ทางวชิรพยาบาลได้ขอปิดบริการผู้ป่วยนอกหรือ opd ใน 1-2 วันนี้ก่อนพร้อมเชื่อมประสานกันกับโรงพยาบาลเครือข่ายระหว่างโรงพยาบาลในสังกัดกรุงเทพมหานครกับโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ทั้งโรงพยาบาลราชวิถี โรงพยาบาลเลิดสิน รวมทั้งโรงพยาบาลกลาง สามารถให้บริการพี่น้องประชาชนผู้ป่วยได้โดยไม่ติดขัดอะไร
นายอนุทิน กล่าวเพิ่มเติมว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นตอนนี้เป็นความเสียหายด้านทรัพย์สิน โดยการรถไฟฟ้าขนส่งมวลขนแห่งประเทศไทย (รฟม.) จะรวบรวมความเสียหายต่าง ๆ และไล่ทอดไปว่าใครจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบบ้าง ต้องไปดูสาเหตุว่าเกิดจากอะไร เกิดจากธรรมชาติหรือการออกแบบต่าง ๆ ตอนนี้เราขอความร่วมมือไปทุกภาคส่วน ทั้งวิศวกรรมสถานฯ ทั้งสภาวิศวกร กรมโยธาธิการและผังเมือง สำนักการโยธา กทม. รวมถึงสถาบันด้านวิศวกรรมศาสตร์จากมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ที่เคยได้แสวงหาความร่วมมือ เช่นเดียวกับเมื่อครั้งตึกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินถล่ม
"ตอนนี้เราก็จะต้องเร่งดำเนินการในเรื่องเคลียร์พื้นที่เพื่อคืนพื้นที่กลับสู่สภาพเดิมเร็วที่สุด และในเรื่องของการเยียวยาผู้ที่ทรัพย์สินเสียหาย และพิสูจน์ว่าเหตุนี้เกิดจากอะไร หาสาเหตุได้แน่นอนเพราะเป็นเรื่องทางวิศวกรรมศาสตร์ล้วน ๆ ตอนนี้เป็นเพียงการสันนิษฐานเบื้องต้น เราต้องไปขยายผลว่าเกิดจากอะไร ซึ่งเมื่อเช้าจุดเริ่ม คือ คนเห็นน้ำเอ่อขึ้นมาจากพื้นถนน ซึ่งมันเป็นความผิดปกติ ดังนั้น มันก็เกิดการทรุดตัว เราก็ต้องขยายผลไปเรื่อย ๆ ว่าเกิดจากอะไร อุโมงค์มี 2 ชั้น ไล่ระดับกัน ก็ต้องมาดูว่าชั้นดินที่คั่นระหว่างอุโมงค์ 2 ชั้น ตอนถมดินถมแน่นไหม ปริมาณน้ำไหลเข้ามาไหลมาได้อย่างไร ก็ต้องดูหลายเรื่อง และ รฟม. จะเร่งสำรวจแนวเส้นรถไฟฟ้าทั้งที่ก่อสร้างเสร็จแล้ว และกำลังก่อสร้างทั้งหมด และดำเนินการเพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดกับพี่น้องประชาชน สำหรับจุดที่เกิดเหตุตรงถนนสามเสนนี้ต้องซ่อมแซมให้เร็วที่สุด เพราะบริเวณนี้เราต้องใช้การต่อไป ต้องเร่งบูรณะและเชื่อมต่อเพื่อให้โครงการดำเนินต่อไปได้" นายอนุทินกล่าวอีกตอน
ด้านนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ขณะนี้ กทม. ได้รับความร่วมมือจากทุกหน่วยงานตั้งแต่การประปานครหลวงได้ตัดท่อประปาหลักก่อน การไฟฟ้านครหลวงตัดไฟและตัดสายไฟทีทเสาล้มลงไปเพื่อป้องกันไม่ให้สายดึงเสาไฟต้นอื่นล้มลงเพิ่มเติม การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ก็เร่งอุดอุโมงค์เพื่อไม่ให้ดินสไลด์เพิ่มเติม รวมถึงกรมโยธาธิการและผังเมืองได้ร่วมกับกทม. ประเมินความปลอดภัยอาคาร
"สถานการณ์ที่น่ากังวลตอนนี้ คือ บริเวณสถานีตำรวจนครบาลสามเสน และตึกแถวที่ยังเป็นเขตอันตราย ต้องมีการควบคุมไม่ให้ประชาชนเข้ามาในรัศมี 100 เมตรจากจุดดินสไลด์ ประการต่อมาที่ต้องระวัง คือ ฝน เพราะหากมีฝนตกลงมา จะทำให้เกิดการชะล้างดินทำให้ดินสไลด์มากขึ้น โดยสำนักการระบายน้ำจะดำเนินการในเรื่องการระบายน้ำโดยเร็ว ในระหว่างที่ รฟม. เร่งอุดอุโมงค์" นายชัชชาติระบุ
@รฟม.ยืดอกรับผิดชอบความเสียหายทั้งหมด
ด้านนายกาจผจญ อุดมธรรมภักดี ผู้ว่าการ รฟม. กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้อยู่ในโครงการสายสีม่วงใต้ ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ-วงแหวนกาญจนาภิเษกในสัญญาที่ 1 เป็นส่วนโครงสร้างใต้ดินตรงบริเวณสถานีวชิรพยาบาล บริเวณปลายสถานีรอยต่อระหว่างสถานีกับอุโมงค์ทางวิ่งรถไฟฟ้าใต้ดินมุ่งหน้าไปทางรัฐสภา ซึ่งเป็นอุโมงค์ซ้อนกัน 2 ชั้น ชั้นบนลึก 15 เมตร ชั้นล่างลึก 20 เมตรเศษ โดยสาเหตุที่เกิดขณะนี้ รฟม. และภาควิชาการ อยู่ระหว่างการตรวจสอบสาเหตุที่เกิดขึ้น แต่จากข้อเท็จจริง คือ มีการเคลื่อนตัว ซึ่งคาดว่าเกิดจากน้ำใต้ดินและดินที่มีการเคลื่อนตัวในอุโมงค์ชั้นล่าง ทำให้รอยต่อระหว่างตัวอุโมงค์และผนังสถานีมีการเคลื่อนตัว ส่งผลให้ดินมีทรุดตัวลงไป และดินบางส่วนพร้อมกับน้ำที่บริเวณท่อประปาหลักหักด้วย ทำให้น้ำและดินไหลเข้าไปบริเวณสถานีบางส่วน โดยขณะนี้ทาง รฟม. กำลังเร่งหยุดการเคลื่อนตัวของดินทั้งหมด และจะรีบคืนสภาพโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้ "ความเสียหายที่เกิดขึ้น รฟม. รับผิดชอบทั้งหมด"
ขณะที่ผศ.นพ.จักราวุธ มณีฤทธิ์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล กล่าวว่า ขณะนี้ รพ.วชิระ หยุดให้บริการเฉพาะในส่วนผู้ป่วยนอก 2 วัน คือ วันที่ 24-25 ก.ย. 68 แต่ในส่วนของผู้ป่วยฉุกเฉินและผู้ป่วยใน ยังคงให้บริการตามปกติ ส่วนในเรื่องการตัดไฟฟ้าของ กฟน. ไม่มีผลกระทบ เพราะโรงพยาบาลมีระบบไฟฟ้าสำรองเพียงพอ สำหรับในส่วนของเรื่องน้ำก็ได้รับการสนับสนุนรถน้ำจากการประปานครหลวง
@คาดสาเหตุดินไหลทำถนนทรุด
ตามที่เกิดเหตุพื้นถนนทรุดตัว บริเวณหน้าทางเข้าโรงพยาบาลวชิรพยาบาล ถนนสามเสน ใกล้เคียงกับจุดก่อสร้างทางขึ้น-ลงที่ 4 สถานีวชิรพยาบาล (PP19) ของโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน - ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 24 กันยายน 2568 นั้น
ก่อนหน้าานี้นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยถึงเหตุผิวจราจรทรุดตัว บริเวณหน้าวชิรพยาบาล ถ.สามเสน เขตดุสิต ว่า จุดเกิดเหตุคือบริเวณไซต์งานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ บริเวณสถานีโรงพยาบาลวชิระ ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างอุโมงค์รถไฟฟ้ากับสถานี ส่งผลให้เกิดการยุบตัวของดิน และท่อประปาขนาดใหญ่ชำรุด มีดินไหลเข้าพื้นที่ก่อสร้าง และมีน้ำรั่วไหลเข้าสถานี เบื้องต้น กรุงเทพมหานคร การประปานครหลวง และการไฟฟ้านครหลวง ได้ดำเนินการตัดน้ำ–ไฟ เพื่อควบคุมสถานการณ์และป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นแล้ว รวมทั้งได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินมาตรการเร่งด่วน 7 ข้อ ประกอบด้วย
1. ตัดน้ำประปาและจัดระบบจ่ายน้ำสำรองให้ประชาชนในพื้นที่
2. ตัดกระแสไฟฟ้าและสายไฟโดยรอบเพื่อความปลอดภัย
3. อุดรอยรั่วของอุโมงค์ที่ทำให้ดินไหลเข้าสถานี
4. ประเมินความปลอดภัยของอาคารโดยรอบ
5. ติดตั้งระบบมอนิเตอร์ ติดตั้งกล้อง CCTV รอบพื้นที่ และตรวจสอบการเคลื่อนตัวของดิน
6. ตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของอาคารหลักใกล้เคียง
7. จัดการจราจรโดยประสานตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
นายชัชชาติกล่าวต่อว่า ข้อสำคัญอีกข้อคือเรื่องฝนตก ถ้ามีฝนตกจะทำให้มีน้ำเพิ่มในระบบ อาจจะชะดินลงไปในช่องที่เปิด ซึ่งได้สั่งให้ตั้งทีมงานขึ้นมาพิจารณาตอนฝนตกว่าจะดำเนินการอย่างไร เพื่อป้องกันการไหลของดินเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ยืนยันว่าไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว มีเพียงความเสียหายต่อยานพาหนะจำนวน 3 คัน โดยพื้นที่ที่เสี่ยงอันตรายได้ถูกประกาศเป็นเขตห้ามเข้าแล้ว สำหรับโรงพยาบาลวชิระ ได้ปรับรูปแบบการให้บริการ โดยงดบริการผู้ป่วยนอกชั่วคราวเป็นเวลา 2 วัน เพื่อความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกด้านการจราจร ส่วนการรักษาผู้ป่วยในยังคงดำเนินการตามปกติ และมีโรงพยาบาลเครือข่ายในสังกัดกรุงเทพมหานครรองรับผู้ป่วยนอกในช่วงเวลาดังกล่าว ขณะเดียวกัน กทม. และ รฟม. ได้ตั้งศูนย์บัญชาการในพื้นที่เพื่อบริหารจัดการสถานการณ์ และจะมีการประชุมในเวลา 12.00 น. และ 18.00 น. เพื่อติดตามความคืบหน้า โดยขอย้ำว่า ความปลอดภัยของประชาชนและความมั่นคงของโครงสร้างเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด

@สั่งรมช.คมนาคม-ผู้ว่าฯรฟม.รุดจุดเกิดเหตุ สั่งหยุดก่อสร้าง
ด้านนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยสำนักข่าวอิศราว่า กำลังลงพื้นที่เพื่อสำรวจสภาพความเสียหายที่เกิดขึ้น ถ้ามีความคืบหน้าอะไรจะแจ้งให้ทราบต่อไป แต่ในเบื้องต้นได้สั่งการให้ นางมัลลิกา จิระพันธุ์วานิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ ร่วมกับนายกาจผจญ อุดมธรรมภักดี ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เพื่อกำกับดูแลการแก้ไขปัญหาอย่างใกล้ชิด
โดยในเบื้องต้น ผู้ว่าการ รฟม. พร้อมด้วยผู้อำนวยการโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงฯ และทีมงาน ได้สั่งการให้หยุดการก่อสร้างบริเวณพื้นที่เกิดเหตุในทันที เพื่อตรวจสอบหาสาเหตุ พร้อมทั้งปิดกั้นพื้นที่ก่อสร้างบางส่วน และอพยพประชาชนโดยรอบออกจากพื้นที่เพื่อความปลอดภัย
รฟม. ได้ประสานหน่วยงานสาธารณูปโภคที่เกี่ยวข้อง ทั้งการประปานครหลวง การไฟฟ้านครหลวง บริษัทโทรคมนาคม และตำรวจในพื้นที่ เพื่อเร่งแก้ไขสถานการณ์ รวมถึงจัดการจราจรในพื้นที่เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนผู้สัญจร ทั้งนี้ โรงพยาบาลวชิรพยาบาลได้แจ้งปิดรับผู้ป่วยนอกเป็นเวลา 2 วัน และคงเหลือเฉพาะการให้บริการผู้ป่วยใน
หากมีความคืบหน้าเพิ่มเติม รฟม. จะแจ้งให้ทราบเป็นระยะ โดยสามารถติดตามข้อมูลข่าวสาร รฟม. ได้ที่ เว็บไซต์ รฟม.เฟซบุ๊กแฟนเพจการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยหรือ Call Center รฟม. โทร. 0 2716 4044
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จุดเกิดเหตุดังกล่าวอยู่ในพื้นที่ของการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วใต้ช่วงเตาปูน - ราษฎร์บูรณะ สัญญาที่ 1 งานออกแบบและก่อสร้างอุโมงค์ทางวิ่งและสถานีใต้ดิน ช่วงเตาปูน – หอสมุดแห่งชาติ ในวงเงิน 19,430 ล้านบาท (รวมค่า Provisional Sum และภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%) ประกอบด้วย งานออกแบบควบคู่งานก่อสร้างทางวิ่งรถไฟฟ้าใต้ดิน ช่วงเตาปูน -หอสมุดแห่งชาติ ระยะทาง ประมาณ 4.8 กิโลเมตร อุโมงค์คู่ลึก 16 - 35 เมตร สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินจำนวน 3 สถานี ปล่องระบายอากาศระหว่างสถานี 2 ปล่อง งานโยธา งานโครงสร้าง งานสถาปัตยกรรม งานระบบของสถานี และงานอื่นๆ โดยมีผู้รับจ้างสัญญาที่ 1 ได้แก่ CKST-PL JOINT VENTURE (ประกอบด้วย บมจ. ช.การช่าง และ บมจ. ซิโน-ไทย เป็นผู้รับจ้าง

@กรมทรัพยากรธรณีเผยเหตุจากรอยต่ออุโมงค์แตก เสนอวิธีจัดการ 3 ข้อ
ขณะที่นายสุวภาคย์ อิ่มสมุทร รองอธิบดีกรมทรัพยากรธรณี นายศักดา ขุนดี รักษาการผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านที่ปรึกษาทางการบริหารจัดการทรัพยากรธรณี ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ พบว่าจุดเกิดเหตุเป็นบริเวณพื้นที่กำลังก่อสร้างในส่วนอุโมงค์เชื่อมกับสถานีรถไฟฟ้าสายสีม่วง โดยอุโมงค์มี 2 ชั้น ชั้นบนลึก 15 เมตร และชั้นล่างลึก 30 เมตร สาเหตุเกิดจากรอยต่อของอุโมงค์ชั้นบนมีรอยแตก ทำให้ดินด้านบนไหลลงสู่ช่องว่างภายในอุโมงค์ ส่งผลให้ชั้นดินด้านบนทรุดตัว ประกอบกับ ท่อประปาขนาดใหญ่ 1.5 เมตร ของการประปานครหลวงที่อยู่ในพื้นที่ก่อสร้างเกิดการแตกหัก อันเนื่องมาจากการทรุดตัวของชั้นดิน ส่งผลให้มีน้ำเข้าไปชะล้างดินในพื้นที่กำลังก่อสร้างและทำให้เกิดการทรุดตัวเพิ่มขึ้นเป็นบริเวณกว้าง
กรมทรัพยากรธรณีจึงได้สั่งการให้ติดตามสถานการณ์ พร้อมทั้งสื่อสารและประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ให้กับประชาชนอย่างใกล้ชิดเพื่อลดความตื่นตระหนก
พร้อมทั้งมีข้อเสนอแนะในการจัดการ 3 ข้อได้แก่
1. ทำการกันเขตรอบพื้นที่เกิดเหตุอย่างน้อย 100 เมตร ตามแนวการทรุดตัว ติดป้ายประกาศแจ้งเตือนในระยะที่มองเห็นในระยะไม่ต่ำกว่า 50 เมตร หากพบว่ารอยแยก รอยแตกขยายตัวหรือมีดินทรุดตัวเพิ่มเติมควรแจ้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทันที
2. ควรตรวจสอบความแข็งแรงของโครงสร้างอาคารบริเวณพื้นที่ใกล้เคียง เช่น กำแพง พื้น หรือฐานราก หากพบความเสียหายควรแจ้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทันที
3. หากกรณีพื้นที่เกิดเหตุมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ควรเตรียมสถานที่ปลอดภัยหรือพื้นที่อพยพชั่วคราว สำหรับรองรับผู้ได้รับผลกระทบ

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา