
‘เลิศศักดิ์’ ถาม ‘อนุทิน’ ตั้ง ‘วรภัค’ รมช.คลัง โดน ป.ป.ช. แจ้งข้อกล่าวหาเอี่ยวคดีปล่อยกู้ ‘เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ’ เหมาะสมหรือไม่-เจ้าตัวโต้ตอนนั่งที่ปรึกษา ‘พิชัย’ พท.ผ่านตรวจสอบแล้ว
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2568 ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ที่มีนายมงคล สุระสัจจะ รองประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณาวาระเรื่องด่วน คณะรัฐมนตรีแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ตามมาตรา 162 ของรัฐธรรมนูญ
เวลา 22.30 น. นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล สส.เลย พรรคเพื่อไทย กล่าวอภิปรายนโยบายของรัฐบาลอนุทิน ชาญวีรกูล ในประเด็นของความโปร่งใสในการแต่งตั้งบุคคลมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ทั้งที่ยังมีรายชื่อเป็นผู้ถูกกล่าวหาจาก ป.ป.ช. จากคดีบริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด (มหาชน) สมัยที่ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ แม้ผู้กล่าวหาทุกคนยังเป็นผู้บริสุทธิ์ แต่การแต่งตั้งคนมีข้อกล่าวหามานั่งตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กำกับดูแลสถาบันการเงิน จะเหมาะสมหรือไม่
นายเลิศศักดิ์ กล่าวว่า ในช่วงปีก่อน สภาผู้แทนราษฎรเคยมีการศึกษากรณีบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งเกิดการฉ้อโกงครั้งใหญ่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย มีพี่น้องประชาชนถูกหลอกให้ลงทุนให้หุ้นกู้ ความเสียหายกับสถาบันการเงินและหลายภาคส่วน และคนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ กำลังจะเป็นเสนาบดี นั่งบริหารงานกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับสถาบันการเงิน และที่สำคัญ อยู่บนคราบน้ำตาของประชาชนที่เขาได้รับความเสียหายของเศรษฐกิจเป็นมูลค่านับหมื่นล้านบาท
นายเลิศศักดิ์ กล่าวว่า ต่อมาสำนักงานคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) มีการแจ้งข้อกล่าวหานายวรภัค ธันยาวงษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงไทยจำกัด มหาชน กับพวกจำนวน 32 คน มีข้อกล่าวร่วมกันพิจารณาอนุมัติอำนวยการสินเชื่อ ด้วยการแจ้งข้อมูลอันเป็นเท็จ ปกปิดความจริง เพื่อเอื้อประโยชน์ให้ บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด(มหาชน) ได้รับอนุมัติวงเงินสูงกว่าเกินกว่าหลักเกณฑ์ที่ธนาคารกรุงไทยกำหนด ไม่ถูกต้องไม่เป็นไปตามระเบียบและผิดวัตถุประสงค์การขอสินเชื่อในวงเงินแต่ละประเภท
นายเลิศศักดิ์ กล่าวว่า ต่อมาในเว็บไซต์ของ ป.ป.ช. ได้เผยแพร่ การแจ้งข้อกล่าวหาเมื่อ 21 กุมภาพันธ์ 2568 และรายชื่อผู้ถูกแจ้งข้อกล่าวหาในลำดับ 5 คือนายวรภัค ธันยาวงษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่ง ณ ขณะนี้ก็คือรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในรัฐบาลนายอนุทิน ชาญวีรกูล
“การอภิปรายของผมจากนี้ มิได้มีเจตนากล่าวให้ร้ายหรือทำลายเกียรติภูมิของท่านรัฐมนตรี เพียงแต่ผมต้องการปกป้องเกียรติภูมิของคนที่จะมานั่งอยู่ในตำแหน่งรัฐมนตรีเพื่อประโยชน์ของชาติ” นายเลิศศักดิ์ กล่าว
นายเลิศศักดิ์ อภิปรายพฤติการณ์ของกรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงไทย ณ ขณะนั้น ในการอนุมัติสินเชื่อให้บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด (มหาชน) ใน 2 กรณี คือ
กรณีที่ 1 มีการอนุมัติวงเงินกู้ระยะยาว ให้บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด(มหาชน) จำนวนหลายพันล้านบาท โดยใชัเหมืองปลอม 2 แห่งในประเทศอินโดนีเซียมาค้ำประกัน ซึ่งพอไปตรวจสอบ พบว่าเหมืองแห่งแรกอยู่ในป่าทึบ ไม่สามารถเข้าถึงตรวจสอบไม่ได้ ส่วนเหมืองที่สอง มีกลุ่มอิทธิพลในพื้นที่ติดอาวุธครบมือ ทำให้ทีมที่ไปสำรวจเก็บข้อมูลเข้าไม่ถึง จึงไปถ่ายรูปกับป่าหินแล้วส่งให้ผู้บริหารธนาคารกรุงไทยอนุมัติสินเชื่อ และจากนั้น เอาใบขนปลอมมาเบิกเงินจากธนาคารกรุงไทยไปเป็นหมื่นล้าน
กรณีที่ 2 มีการอนุมัติสินเชื่อให้บริษัท เอิร์ธ โฮลดิ้ง จำกัด เอาเงินสินเชื่อที่ได้จากธนาคารกรุงไทย ไปซื้อหุ้นบริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด(มหาชน) ผ่านตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งการกระทำเช่นนี้ เป็นการปั่นราคาหุ้นบริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด(มหาชน) ทำให้บริษัทดูดี และส่งผลตามมาอีกหลายอย่างที่สร้างความเสียหายให้นักลงทุนและพี่น้องประชาชน
นายเลิศศักดิ์ กล่าวว่า และบุคคลคนนี้ ซึ่งเป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ในขณะนั้นและเป็นรัฐมนตรีช่วยว่ากากระทรวงการคลังในขณะนี้ มีส่วนเกี่ยวข้องในการอนุมัติสินเชื่อนี้อย่างไร นี่คือขั้นตอนการอนุมัติสินเชื่อ ท่านมีสิทธิเสนอความเห็น ลงนามร่วมแต่อนุมัติเดี่ยวไม่ได้ เกินกรอบวงเงิน นั้นหมายความว่า การอนุมัติสินเชื่อและเกิดความเสียหายให้ธนาคารกรุงไทยในขณะนั้น ท่านรัฐมนตรีมีส่วนร่วม พอหลังจากที่ท่านอนุมัติ สร้างเครดิตความน่าเชื่อถือให้บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด(มหาชน) ปรากฎว่าบริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด(มหาชน) ก็ไปออกหุ้นกู้ 3-4 รุ่นรวมมูลค่ากว่า 6 พันล้านบาทขายให้พี่น้องประชาชนเกือบ 6 พันคน แล้วก็เอาเงินที่ได้จากหุ้นกู้เอาไปจ่ายหนี้สถาบันการเงินหมุนกันอยู่อย่างนี้
"ไม่น่าเชื่อว่าท่านที่เคยดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ในขณะนั้น ไม่สามารถรู้สึกถึงความผิดปกติของการอนุมัติลวงโลกในครั้งนั้นได้เลย แทบไม่น่าเชื่อว่าบริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด(มหาชน) สามารถหลอกคนระดับรัฐมนตรีได้ เรื่องนี้ ยังอยู่ในชั้นแจ้งข้อกล่าวหา รัฐมนตรียังเป็นผู้บริสุทธิ์ แต่การดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี เป็นเกียรติยศคนทั้งประเทศ จึงต้องมีคำถามถึงท่านนายกรัฐมนตรี อนุทิน ชาญวีรกูล และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง 2 คำถาม" นายเลิศศักดิ์ กล่าว
นายเลิศศักดิ์ กล่าวว่า คำถามแรก ในการที่ท่านเป็นนายกรัฐมนตรี ท่านจะตอบอธิบายประชาชนอย่างไร ที่ท่านแต่งตั้งบุคคลที่เคยมีสถานะอนุมัติสินเชื่อให้กับบริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด(มหาชน) ในฐานะที่เป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงไทยขณะนั้น และมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังที่กำกับดูแลสถาบันการเงิน
นายเลิศศักดิ์ กล่าวว่า คำถามที่สอง หากในอนาคตข้างหน้า ภายหลังท่านรัฐมนตรีพ้นจากหน้าที่ในตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังไปแล้ว หากท่านถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด ส่งเรื่องให้ศาลอาญาพิจารณาต่อไป ตอนนั้น ท่านนายกรัฐมนตรีจะมีมลทิน และวันนั้นท่านจะตอบประชาชนอย่างไรว่า ท่านได้ตั้งรัฐมนตรีที่กระทำความผิดต่อสถาบันการเงิน สร้างความเสียหายมูลค่าหลายหมื่นล้านบาท มาดำรงตำแหน่งบริหารนโยบายที่ท่านได้ประกาศไว้ต่อรัฐสภา
@ 'วรภัค' ย้อนตอนนั่งที่ปรึกษา 'พิชัย' เพื่อไทยตรวจสอบแล้วไม่ติดใจ
นายวรภัค ธันยาวงษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ที่ตนเองถูกกล่าวหาเพราะตอนที่ตนเองได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานคณะที่ปรึกษาของนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในครั้งนั้น ทางพรรคเพื่อไทยก็มีการหยิบยกประเด็นนี้ขึ้นมา และมีการตรวจสอบกันโดยไม่ได้ติดใจอะไร เพราะคงทราบข้อเท็จจริง จึงขอชี้แจงข้อเท็จจริงให้สมาชิกทราบ
นายวรภัค กล่าวว่า ตนเองเข้ารับหน้าที่กรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงไทย เมื่อ พ.ย. 2555 ซึ่งบริษัทเอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ เป็นลูกค้าของธนาคารมาหลายปี ในธุรกิจสาขาศรีราชาตั้งแต่เป็นเอสเอ็มอี ตอนนั้นบริษัทมียอดขายหมื่นล้านบาท และเมื่อตนครบวาระ 4 ปี เมื่อปี 2559 บริษัทมียอดขายเติบโต เป็น 2 หมื่นล้านบาทจากวันแรกที่เป็นลูกค้ายอดขายหลักพันบาท
นายวรภัค กล่าวว่า บริษัทเติบโตในยอดขายและกำไรต่อเนื่อง บริษัทอยู่ในอุตสาหกรรมถ่านหินยังพบการเติบโตดีมาก ทั้งนี้บริษัทเอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ ไม่เหมือนบริษัทสตาร์ก ที่ถูก กลต.ร้องเพราะตบแต่งบัญชี ซึ่งบริษัทเอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธไม่เคยถูก กลต.ร้องทุกข์กล่าวโทษ อย่างไรก็ดีบริษัทเอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธมีการซื้อขายจริง มีทรัพย์สินจริง มีการออกหุ้นกู้ได้ ตามกติกาที่ผ่านกลต.ตรวจสอบแล้ว มีทรัพย์สิน มีเหมืองที่ธนาคารกรุงไทยมี
“ความเสียหายที่แท้จริงนั้น ผมครบวาระปลายปี 2559 ออกจากกรรมการของธนาคารกรุงไทย บริษัทดังกล่าวเป็นเอ็นพีแอล พ.ค. 2560 ทั้งที่ต้นปี 2560 นั้นมีการเติบโต และมีมูลค่าซื้อขายเกือบ3 หมื่นล้านบาท ทั้งที่ก่อนหน้านั้นไม่เคยผิดนัดชำระ เป็นลูกค้าชั้นดีมาตลอด แต่เดือนพ.ย. 2560 เป็นเอ็นพีแอล ซึ่งจากประสบการณ์ลูกค้าที่เป็นเอ็นพีแอลต้องกระท่อนกระแท่นมาประมาณ 1-2 ปี โดยเฉพาะลูกค้ารายใหญ่ที่ต้องได้รับการประคับประตอง ทั้งนี้ตามเอกสารสำนวนใน ป.ป.ช. รายงานจากที่ปรึกษาทางการเงิน ที่ธนาคารกรุงไทยจ้าง ระบุว่าบริษัทนี้ธุรกิจและอุตสาหกรรมไม่มีปัญหา แต่ปัญหาเกิดจากวิกฤตสภาพคล่องที่เจ้าหนี้รายใหญ่ดึงวงเงิน” นายวรภัค กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เปิด 32 ชื่อ! โดนแจ้งข้อกล่าวหาคคีเอิร์ธฯ อดีตบิ๊กกรุงไทย-จนท.-ปธ.ที่ปรึกษาขุนคลังด้วย
- มีจนท.กรุงไทย ร่วมทำผิดด้วย! 'ดีเอสไอ' ส่งสำนวน 2 คดีเอิร์ธฯ ให้ ป.ป.ช.สอบแล้ว
- พบ2เจ้าหนี้เอิร์ธฯ ก.ล.ต.สอบหนี้เทียม 2.3 หมื่นล.!แจ้งเลิกกิจการแล้ว-โชว์รายได้หลักพัน
- กรุงไทย ยื่น ป.ป.ช.สอบ 'กิตติพันธ์' พวก2ราย คดีปล่อยกู้เอิร์ธฯแล้ว-เจ้าตัวยันพร้อมชี้แจง
- 'กิตติพันธ์' โวยไม่เป็นธรรมโดนชี้โทษร้ายแรง! หลังกรุงไทย ชงผลสอบปล่อยกู้เอิร์ธฯ1.2หมื่นล.ให้ธปท.
- ก.ล.ต.กล่าวโทษ 7 ‘กรรมการ-อดีตกก.’ EARTH ต่อ DSI เหตุไม่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบ
- พบ2เจ้าหนี้เอิร์ธฯ ก.ล.ต.สอบหนี้เทียม 2.3 หมื่นล.!แจ้งเลิกกิจการแล้ว-โชว์รายได้หลักพัน
- เอิร์ธฯส่งคำชี้แจงผู้ถือหุ้นแจ้งตลท.ยันไม่สร้างหนี้เทียมถูกบ.จีนฟ้องจริง-บริษัทไทยเลิกกิจการแค่สาขา
- เบื้องลึก! 'กิตติพันธ์' ขอพักงาน ซีไอเอ็มบี 2 ด. สู้ข้อกล่าวหาปล่อยกู้เอิร์ธฯ-ตอนนี้มีอะไรในมือบ้าง?
- ซีไอเอ็มบี แจ้งตลาดฯ 'กิตติพันธ์' ขอพักงาน 2 ด. ไปต่อสู้ข้อกล่าวหาปล่อยกู้เอิร์ธฯ
- กิตติพันธ์ อนุตรโสตถิ : ศักดิ์ศรีจรรยาบรรณวิชาชีพนายธนาคาร กับ กรณีปล่อยกู้เอิร์ธฯ
- กรุงไทย ยันไม่เคยหารือเอิร์ธฯออกมติเชิญเป็นกก.ย้ำสถานะผู้เสียหายฟ้องแพ่ง-อาญา
- ก.ล.ต. กล่าวโทษ ก.ก. EARTH 11 ราย ยินยอมให้ลงข้อความเท็จหนี้เพิ่ม2.6หมื่นล้าน
- ตั้ง บ.อีวายฯ ทำแผน! ศาลสั่งฟื้นฟูกิจการ‘เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ’-หลังปมหนี้ 2.6 หมื่นล.
- ถ้าผิดจริงคุก240ปี! กรุงไทยเตรียมแจ้งดีเอสไอเพิ่ม-พบปลอมใบขนถ่านหิน80ฉบับเกือบหมื่นล.
- ใช้1.5หมื่นล.แลกเหมืองถ่านหิน! เปิดรายงานตรวจสอบบ.เอิร์ธฯ สัญญาซื้อ3หมื่นล.ล่องหน
- แนะกสิกรไทย-กรุงศรี-ธสน.ตรวจสอบใบขนถ่านหิน 'เอิร์ธ' หวั่นเจอเหมือนกรุงไทย!
- ฉ้อโกงกรุงไทยหลายพันล.ปลอมใบขนถ่านหิน บ.เอิร์ธกู้เงิน-แจ้งดีเอสไอลุยสอบ
- ปล่อยกู้ EARTH 4 ครั้ง เสียหายหมื่นล.! เบื้องหลัง ป.ป.ช. แจ้งข้อกล่าวหา‘บิ๊กกรุงไทย-พวก’
- ป.ป.ช.ไต่สวนคคีเอิร์ธฯไม่คืบหน้า หลังแจ้งข้อกล่าวหาเพียบ 30 ราย อดีตกก.ธนาคาร-จนท.อื้อ
- พฤติการณ์คดีเอิร์ธฯ(1) ‘กรุงไทย’ปล่อยกู้ 1.3 พันล.ซื้อเหมืองอินโดฯ ไม่มีใบอนุญาตขุดถ่านหิน
- พฤติการณ์คดีเอิร์ธฯ(2) ‘กรุงไทย’อนุมัติกู้ 4.8 พันล. เกินความต้องการใช้-หลักประกันไม่คุ้ม
- พฤติการณ์คดีเอิร์ธฯ(3) ‘กรุงไทย’ปล่อยกู้ 100 ล.ดอลล์ ไม่ขอหลักประกันเพิ่ม-สูญ 3.2 พันล.
- พฤติการณ์คดีเอิร์ธฯ(จบ) ‘กรุงไทย’ปล่อยกู้ 1.5 พันล.ซื้อหุ้น EARTH ส่อเก็งกำไร-สูญพันล้าน

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา