
'แพทองธาร' ประกาศยกเครื่องพรรคเพื่อไทย-ยกเครื่องประเทศไทย-ตั้ง 'สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ' นั่งผู้อำนวยการเลือกตั้งพรรค
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2568 ที่สำนักงานใหญ่พรรคเพื่อไทยพรรคเพื่อไทยจัดงาน 'ยกเครื่องเพื่อไทย ยกเครื่องประเทศไทย' แสดงความพร้อมในการสู้ศึกเลือกตั้งในอนาคตอันใกล้หลังการยุบสภา พร้อมเปิดผู้เสนอตัวเป็นผู้สมัคร สส. จากทั่วประเทศ
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และอดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวแสดงวิสัยทัศน์โดยกล่าวปราศรัยต่อหน้าผู้บริหาร สมาชิกพรรค และผู้สมัครอย่าง
น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า การกลับมายืนบนเวทีใหญ่ในรอบเดือนเป็นช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลงมากมาย วันนี้ได้กลับมามองหน้ากันด้วยใจถึงใจอีกครั้ง ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงมากมายทางการเมือง รัฐบาลที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำไม่ได้ไปต่อ ดร.ทักษิณเข้าสู่เรือนจำ การเลือกตั้งซ่อมเชียงรายเราชนะ แต่ที่ศรีสะเกษเราแพ้ แม้พรรคจะเผชิญความยากลำบาก แต่ยังคงยึดมั่นในความเชื่อเดิมว่า สิ่งที่เกิดขึ้นแล้วย่อมดีเสมอ ทุกประสบการณ์สอนให้เราเรียนรู้ เพื่อก้าวต่อไปอย่างเข้มแข็งกว่าเดิม
"ยาแรงในวันนี้จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้เรากลับไปยิ่งใหญ่เหมือนจุดเริ่มต้นของเราในยุคไทยรักไทย หลายคนประเมินว่าพรรคเพื่อไทยมาถึงทางตันแล้ว เลือดกำลังไหลจนหมดสิ้น แต่ขอยืนยันว่าไม่มีทางเป็นแบบนั้น เลือดเพื่อไทยจะไม่มีวันเหือดแห้ง เราทุกคนอยู่ที่นี่ไม่ใช่เพราะผลประโยชน์ แต่เพราะเราเชื่อเหมือนกัน เราคือพรรคเพื่อไทย" น.ส.แพทองธาร กล่าว
น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับพรรคเพื่อไทย มักสะท้อนสิ่งที่เกิดขึ้นกับประเทศไทย ทุกครั้งที่พรรคเพื่อไทยลุกขึ้นได้ ประเทศไทยก็มักจะมีพลังใหม่ที่รุ่งโรจน์ตามไปด้วย การยกเครื่องพรรคเพื่อไทย จึงมีนัยสำคัญต่อการยกเครื่องประเทศไทย พรรคเพื่อไทยจะต้อง สรุปบทเรียนและเปลี่ยนแปลงตนเองอย่างจริงจัง เพื่อสร้างพรรคการเมืองที่ทำให้ประเทศไทยในฝันเกิดขึ้นได้จริง ถ้าเราสามารถเปลี่ยนพรรคเพื่อไทยได้ เราก็สามารถเปลี่ยนประเทศไทยได้เช่นเดียวกัน
น.ส.แพทองธาร กล่าวถึงการยกเครื่องโครงสร้างพรรคว่า อำนาจการตัดสินใจเกี่ยวกับทิศทางของพรรค อยู่ที่หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรค ไม่มีเส้นทางลัด ไม่มีเส้นทางอ้อมอีกต่อไป โดยโครงสร้างใหม่นี้จะปลดล็อกศักยภาพของสมาชิกทุกคน เปิดทางให้เกิดการนำแบบรวมหมู่ ที่รวดเร็ว โปร่งใส และกระจายอำนาจไปยังคณะกรรมการภาคทั้ง 5 ภูมิภาค เพื่อให้พรรคขับเคลื่อนอย่างมีส่วนร่วมทั่วประเทศ
ทั้งนี้ โครงสร้างการทำงานใหม่ของพรรคแบ่งเป็น 4 เสาหลัก ได้แก่
1. สำนักงานกิจการสภาผู้แทนราษฎร ดูแลการประสานงานและการทำงานในสภา
2. สำนักนโยบาย ศึกษาและวิจัยนโยบาย ซึ่งเป็น DNA ดั้งเดิมของพรรคไทยรักไทย
3. สำนักเลขาธิการพรรค ดูแลการบริหารงานกลาง ประสาน 5 ภูมิภาคทั่วประเทศ
4. สำนักสื่อสารพรรค ดูแลยุทธศาสตร์การสื่อสารกับประชาชน
"โครงสร้างใหม่นี้ไม่ใช่เพียงวาดบนกระดาน แต่ทุกคนจะมีอำนาจตัดสินใจในส่วนที่รับผิดชอบ เพื่อให้พรรคเพื่อไทยเดินไปข้างหน้าด้วยเอกภาพ โครงสร้างใหม่ของพรรคเพื่อไทย ออกแบบขึ้นจากบทเรียนในอดีต ยอมรับว่าโครงสร้างเก่าที่ไม่ชัดเจน ทำให้การทำงานหลายอย่างติดขัด จึงถอดบทเรียนจากโครงสร้างองค์กรพรรคการเมืองต่างๆ และทำงานในรูปแบบใหม่มาระยะหนึ่ง จนมั่นใจว่าโครงสร้างใหม่นี้มีเอกภาพ มีประสิทธิภาพ และสร้างการมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง โดยคณะกรรมการบริหารพรรค จะได้รับคำปรึกษาจากคณะกรรมการที่ปรึกษา 2 คณะ คณะกรรมการที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์และคณะกรรมการที่ปรึกษาด้านการเมือง ซึ่งทั้งหมดนี้คือสมองและประสบการณ์ ที่จะช่วยส่งเสริมให้พรรคก้าวเดินอย่างมั่นคง" น.ส.แพทองธาร กล่าว
น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยได้เปิดระบบรับสมัครผู้ร่วมอุดมการณ์จากทั่วประเทศอย่างเป็นระบบ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่พรรคเพื่อไทยเปิดพื้นที่ใหม่อย่างโปร่งใส โดยข้อมูลผู้สมัครจะส่งตรงไปยังคณะกรรมการภาคทั้ง 5 ภูมิภาค หลายคนมีศักยภาพและอุดมการณ์แบบเพื่อไทย แต่ไม่รู้จะเข้ามาอย่างไร วันนี้เราพร้อมแล้ว และยังกล่าวถึงเวที YPP (Young Pheu Thai Platform) สำหรับคนรุ่นใหม่ที่จะเข้ามาฝึกฝน เรียนรู้แนวคิดแบบพรรคเพื่อไทย ก่อนก้าวสู่สนามการเมืองจริง ขณะที่อีกหนึ่งนวัตกรรมทางนโยบายของพรรค คือการตั้ง Moonshot Forum ซึ่งไม่ใช่แค่เวทีพูดคุย แต่คือพื้นที่แลกเปลี่ยนความคิดที่มีเป้าหมายใหญ่และท้าทาย เหมือนโครงการ Apollo 11 ที่ส่งมนุษย์ไปดวงจันทร์ Moonshot Forum จะเริ่มต้นที่สำนักงานใหญ่ในเดือนตุลาคมนี้ ก่อนขยายสู่ทุกภูมิภาค เพื่อระดมความคิดจากประชาชนและผู้เชี่ยวชาญหลากหลายสาขา นำไปสู่การออกแบบนโยบายใหม่ของพรรคโดยตรง
น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า พรรคเตรียมเสนอชุดนโยบายใหม่ที่ถอดบทเรียนจากสองปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะการ ยกเครื่องระบบราชการ ที่ข้าราชการจำนวนมากเก่งและมีใจ แต่ระบบกลับไม่ปลดปล่อยศักยภาพของเขา เราจะเปลี่ยนค่านิยมจาก ‘ไม่ทำก็ไม่ผิด’ ไปสู่ ‘ทำเต็มที่เพื่อประชาชน’ และทำให้ข้าราชการภูมิใจที่ได้สร้างการเปลี่ยนแปลงให้ประเทศ
น.ส.แพทองธาร กล่าวถึงแนวนโยบายด้านเศรษฐกิจใหม่ เช่น การยกเครื่องเศรษฐกิจสุขภาพ ตั้งสำนักงานเศรษฐกิจสุขภาพแห่งชาติ เพื่อเป็นหน่วยงานระดับยุทธศาสตร์ การยกเครื่องอุตสาหกรรมเกษตรจาก “ครัวไทยสู่ครัวโลก” สู่ “อาหารไทยสู่อาหารโลก” ผลักดันสินค้า SME ไทยสู่ซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วโลก การยกเครื่องอุตสาหกรรมอัญมณี จากมูลค่าปัจจุบัน 5 แสนล้านบาท เป็น 1 ล้านล้านบาท ผ่านการ upskill-reskill ช่างฝีมือ
ในช่วงท้ายของการปราศรัย น.ส.แพทองธาร ประกาศแต่งตั้ง นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นผู้อำนวยการเลือกตั้งของพรรค และยืนยันความพร้อมเต็มที่สำหรับศึกเลือกตั้งที่จะมาถึงในอีกไม่กี่เดือน พร้อมประกาศว่า "ไม่ว่าจะอีก 2 เดือน หรือ 4 เดือน พรรคเพื่อไทยพร้อมแล้ว พรรคจะเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีครบทั้งสามราย และจะเปิดตัวพร้อมกันในเวลาที่เหมาะสม มั่นใจว่าจะถูกใจพี่น้องประชาชนทุกระดับ"
"นี่ไม่ใช่แค่โอกาสในการลงสมัคร ส.ส. แต่คือโอกาสที่จะพิสูจน์ศักยภาพตัวเอง และเริ่มต้นเส้นทางใหม่ในฐานะนักการเมืองที่ทำงานเพื่อประชาชน การเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง จะเป็นบทพิสูจน์ว่าพรรคเพื่อไทยยังคงเป็นความหวังของประชาชนได้หรือไม่ ดิฉันสัญญาว่าจะทุ่มเทอย่างถึงที่สุด เพื่อให้พรรคของเรากลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง" น.ส.แพทองธารกล่าวทิ้งท้าย





Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา