‘บวรศักดิ์’ เผย ‘ทักษิณ’ มีสิทธิขอพระราชทานอภัยโทษ ระบุ อยู่ในกระบวนการ-เปิดเผยไม่ได้

บวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย แถลงขั้นตอนการขอพระราชอภัยโทษ เผย ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขอพระราชาทานอภัยโทษ เป็นสิทธิตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา รัฐมนตรียุติธรรม-รัฐบาลมีหน้าที่ถวายคำเห็น สุดท้ายขึ้นอยู่กับพระบรมราชวินิจฉัย-พระราชอำนาจเด็ดขาดจะพระราชทานอภัยโทษหรือไม่ ปฏิเสธตอบเหตุผล ยกฎีกา เหตุ อยู่ในกระบวนการ ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ 

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 16 ตุลาคม 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย แถลงข่าวเกี่ยวกับกฎหมายสำคัญ กรณีการถวายเรื่องราวขอพระราชทานอภัยโทษของผู้ต้องขัง กรณีนักโทษเด็ดขาด นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า เป็นการยื่นเรื่องราวถวายฎีกาขอรับพระราชาทานอภัยโทษฯ เป็นการใช้สิทธิที่มีอยู่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมมีหน้าที่ต้องถวายเรื่องราวดังกล่าวต่อพระมหากษัตริย์ พร้อมทั้งถวายความเห็นว่า ควรพระราชทานอภัยโทษหรือไม่

นายบวรศักดิ์กล่าวอธิบายว่า ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 259 ถือว่าเป็นสิทธิของผู้ขอพระราชทานอภัยโทษ แต่ว่าสิทธินี้จะถูกจำกัดในกรณีที่มีการยื่นขอพระราชทานอภัยโทษแล้วถูกยกหนหนึ่งแล้ว ซึ่งมาตรา 264 ในกฎหมายฉบับเดียวกันดังกล่าว กำหนดว่าถ้าจะยื่นฯใหม่ไม่ได้ จนกว่าจะพ้นสองปีนับแต่วันถูกยกครั้งก่อน

ทั้งนี้ ประมวลกฎหมายวิธิพิจารณาความอาญา มาตรา 259 บัญญัติว่า ผู้ต้องคำพิพากษาได้รับโทษแต่ใดๆ หรือ ผู้มีประโยชน์เกี่ยวข้อง เมื่อคดีถึงที่สุดแล้วจะทูลเกล้าฯถวายฯพระมหากษัตริย์ขอพระราชทานอภัยโทษจะยื่นต่อรมว.ยุติธรรมก็ได้

นายบวรศักดิ์กล่าวว่า เมื่อเป็นสิทธิ์ รมว.ยุติธรรมมีหน้าที่ถวายเรื่องราว และส่งมายังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) เพื่อกราบบังคมทูลฯ เสนอไปยังกรมราชเลขานุการในพระองค์ สำนักพระราชวัง ซึ่งปกติจะเข้าไปให้คณะองคมนตรีถวายความเห็น ส่วนพระราชอำนาจในการพระราชทานอภัยโทษนั้น รัฐธรรมนูญมาตรา 179 พระมหากษัตริย์ทรงไว้ซึ่งพระราชอำนาจในการพระราชทานอภัยโทษ ดังนั้น การพระราชทานอภัยโทษตามรัฐธรรมนูญเป็นพระราชอำนาจโดยแท้

@ บวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี @

นายบวรศักดิ์กล่าวว่า การขอพระราชทานอภัยโทษมี 2 กรณี กรณีทั่วไป และกรณีเฉพาะราย ซึ่งกรณีเฉพาะราย จากสถิติของสคล. ได้นำความกราบบังคมทูลฯ ปี 2566 จำนวน 51 เรื่อง ปี 2567 จำนวน 100 เรื่อง ปี 2568 จำนวน 65 เรื่อง

“ถ้าย้อนหลังไปถึงพระมหากรุณาในรัชกาลที่ 10 พบว่า กรณีศาลมีคำพิพากษาให้ประหารชีวิต พระราชทานลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิตทุกราย จึงไม่มีการประหารชีวิตในราชการนี้ ส่วนลดโทษตั้งแต่ปีที่ทรงเสด็จขึ้นเสวยราชจนถึงปัจจุบันมีรายหลาย เป็นพระบรมราชวินิจฉัย ใครไปก้าวล่วงไม่ได้ ชัดเจนหรือยัง”นายบวรศักดิ์กล่าว

นายบวรศักดิ์กล่าวว่า รายของนายทักษิณยังไม่ถูกยกฎีกา นายทักษิณได้รับพระราชทานอภัยโทษในวันที่ 31 ส.ค.66 แปลว่าถวายขอพระราชทานอภัยโทษได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีข่าวว่ายกฏีกาไม่เป็นความจริงใช่หรือไม่ นายบวรศักดิ์กล่าวว่า จริง ซึ่งเป็นธรรมเนียมที่รัฐมนตรียุติธรรมและรัฐบาลจะถวายคำแนะนำ “แต่ท้ายที่สุดเป็นพระบรมราชวินิจฉัยและพระราชอำนาจเด็ดขาดของพระองค์”

“ผมไม่สามารถเอารายละเอียด (เหตุผลการยกฎีกาของรัฐมนตรี) มาแถลงไม่ได้ เพราะเรื่องยังอยู่ในขั้นตอนกราบบังคมทูลฯจะเอารายละเอียดมาเปิดเผยให้ฟังไม่ได้ อธิบายได้แค่ข้อกฎหมาย”นายบวรศักดิ์กล่าว