
‘กนศ.’ ไฟเขียวโครงการ ‘Quick Big Win’ ด้าน 'พลังงาน' เดินหน้าส่งเสริม ‘โซลาร์ฟาร์มชุมชน-โซลาร์สูบน้ำเกษตรฯ-ส่งเสริม Solar Rooftop’ เผยยอดประชาชนลงทะเบียน ‘คนละครึ่งพลัส’ ใกล้ครบ 20 ล้านสิทธิ์แล้ว
...............................
เมื่อวันที่ 20 ต.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจ (กนศ.) ที่มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ รมว.กระทรวงมหาดไทย เป็นประธานฯ ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบหลักการมาตรการด้านพลังงาน ภายใต้นโยบาย Quick Big Win ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ และให้ดำเนินตามขั้นตอนและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาต่อไป
สำหรับมาตรการด้านพลังงาน เพื่อลดค่าใช้จ่ายให้กับประชาชนและกระตุ้นเศรษฐกิจ ตามนโนบาย ‘กระตุ้นสั้น ได้ผลยาว กระจายตัว’ ผ่านโครงการ Quick Big Win ด้านพลังงาน นั้น ประกอบด้วย 3 มาตรการ 9 แผนงาน/โครงการ อาทิ โครงการโซลาร์ฟาร์มชุมชน โซลาร์สูบน้ำเพื่อการเกษตร และการส่งเสริมการติดตั้ง Solar Rooftop ในบ้านอยู่อาศัยด้วยมาตรการทางภาษี และโครงการโซลาร์ลอยน้ำในเขื่อน (FPV) ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เป็นต้น
ทั้งนี้ นายกฯ เน้นย้ำว่า ขอให้ดำเนินโครงการที่สามารถทำได้ก่อนและเป็นประโยชน์กับประชาชน เช่น โครงการโซลาร์ฟาร์มชุมชน โครงการโซลาร์สูบน้ำเพื่อการเกษตร การส่งเสริมการติดตั้ง Solar Rooftop ในบ้านที่อยู่อาศัยด้วยมาตรการทางภาษี ซึ่งโครงการดังกล่าวจะช่วยเหลือประชาชนได้จริงโดยเฉพาะการลดรายจ่าย สร้างรายได้ รวมไปถึงมาตรการคาร์บอนเครดิต ซึ่งส่งเสริมการลดโลกร้อนตามนโยบายรัฐบาลและสร้างรายได้ให้กับประชาชนในชุมชนต่างๆ
ในขณะที่ นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกฯและรมว.คลัง ระบุว่า ได้ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เร่งรัดให้บริษัทต่างประเทศที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนฯ เข้ามาตั้งโรงงานในประเทศไทย ซึ่งการเข้ามาตั้งโรงงานดังกล่าวจะต้องมีพลังงานไฟฟ้าอย่างเพียงพอ
“วันนี้นายกฯ ได้ให้เชิญผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) รวมถึงผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) และ ผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) เข้ามาร่วมรับฟังด้วย เพื่อจะได้รับนโยบายไปช่วยกันขับเคลื่อนในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปได้ทันที” นายสิริพงศ์ กล่าว
นายสิริพงศ์ กล่าวว่า กนศ. ได้รับรายงานความก้าวหน้านโยบาย Quick Big Win ของรัฐบาล เช่น โครงการคนครึ่งพลัส โดยข้อมูล ณ วันที่ 20 ต.ค.2568 มีร้านค้ามาลงทะเบียนในโครงการฯ 287,121 ร้านค้า และมีประชาชนเข้ามาลงทะเบียนรับสิทธิ์ฯใกล้ครบ 20 ล้านสิทธิ์แล้ว โดย ณ เวลา 15.15 น. เหลือสิทธิ์อยู่ 248,131 สิทธิ์ ในขณะที่มาตรการสนับสนุน ‘การท่องเที่ยวเมืองรอง’ ที่ กนศ.เห็นชอบในครั้งที่แล้ว จะเสนอให้ ครม.พิจารณาในวันที่ 21 ต.ค.2568
สำหรับประชาชนที่ลงทะเบียนรับสิทธิ์ในโครงการคนครึ่งพลัส ดังกล่าว จะได้รับ SMS ยืนยันสิทธิ์ภายใน 3 วัน แต่หากได้รับ SMS แจ้งว่า ไม่ได้รับสิทธิ์เข้าร่วมโครงการฯ แสดงว่าประชาชนรายนั้น ขาดคุณสมบัติข้อใดข้อหนึ่ง
นายสิริพงศ์ กล่าวว่า นายกฯยังขอให้ทุกกระทรวงพิจารณาถึงโครงการหรือกิจกรรมที่จะเป็นประโยชน์กับประชาชน ที่ไม่ใช่งาน Routine และดำเนินการได้ภายในเวลา 3 เดือนที่เหลือ และส่งให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เพื่อรวบรวมอยู่ใน Dashboard และนำมารายงานความคืบหน้าต่อที่ประชุม กนศ. ทุกครั้ง
“ข้อมูลโครงการที่ส่งมาเข้า Dashboard ขอให้มีการทำ cost-benefit analysis และให้ระบุถึงต้นทุน งบประมาณ และผลลัพธ์ที่ชัดเจน เพื่อสื่อสารให้ทุกคนเข้าใจถึงประโยชน์ที่จะเกิดจากการดำเนินโครงการให้ชัดเจน พร้อมกันนี้ นายกฯ ได้เน้นย้ำว่า ทุกโครงการและกิจกรรมที่รัฐบาลจะดำเนินการจะต้องมีความโปร่งใส ยึดหลักวินัยการเงินการคลัง ยึดผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศเป็นหลัก ซึ่งจะนำมาซึ่งความน่าเชื่อถือของประเทศไทยต่อนักลงทุนและ Rating Agency” นายสิริพงศ์กล่าว
นายสิริพงศ์ กล่าวว่า ในการประชุม กนศ. ครั้งหน้า คาดว่าจะเป็นการหารือเกี่ยวกับมาตรการของกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจ การค้า การส่งออก รวมถึงการดูแลค่าครองชีพประชาชน

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา