
ครม.รับทราบโยกงบกลางฯ ‘รายการเงินสํารอง-เงินสมทบ-เงินชดเชยของข้าราชการฯ’ โปะ ‘เบี้ยหวัด-บำเหน็จ-บํานาญ’ กว่า 3 หมื่นล้าน ดันงบรายการเบี้ยหวัด-บำนาญฯ ปีงบ 68 เพิ่มเป็น 3.86 แสนล้านบาท
.........................................
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 28 ต.ค.ที่ผ่านมา ครม. มีมติรับทราบรายงานการโอนงบประมาณรายจ่ายตาม พ.ร.บ.วิธีการงบประมาณ พ.ศ.2561 มาตรา 51 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ และให้รายงานต่อรัฐสภาต่อไป โดยสาระสำคัญรายงานการโอนงบประมาณรายจ่ายตามนัยมาตรา 51 แห่ง พ.ร.บ.วิธีการงบประมาณฯ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 มีดังนี้
1.การโอนงบประมาณรายจ่ายงบกลางระหว่างรายการ มีการโอนงบประมาณรายจ่ายงบกลางระหว่างรายการ วงเงินรวมทั้งสิ้น 63,269.65 ล้านบาท ประกอบด้วย
-การโอนงบประมาณรายจ่ายงบกลาง จากรายการค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ เพื่อดำเนินการสมทบรายการเงินสํารองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจําเป็น จําแนกเป็น
1) รายการโอนออก จำนวน 1 รายการ ได้แก่ รายการค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ วงเงิน 26,654.81 ล้านบาท
2) รายการรับโอน จำนวน 1 รายการ ได้แก่ รายการเงินสํารองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจําเป็นวงเงิน 26,654.81 ล้านบาท โดยรับโอนจากรายการค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ เนื่องจากมีความจำเป็นต้องใช้จ่ายเพื่อดำเนินมาตรการเร่งด่วน และรองรับภัยพิบัติต่างๆ รวมถึงสถานการณ์ที่อาจกระทบต่อความมั่นคง และเพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายเกิดประสิทธิภาพสูงสุด สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว คล่องตัว และมีประสิทธิภาพสอดคล้องกับสถานการณ์
-การโอนงบประมาณรายจ่ายงบกลาง จากรายการเงินสํารองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจําเป็นและรายการเงินสํารอง เงินสมทบ และเงินชดเชยของข้าราชการ เพื่อดำเนินการสมทบรายการเงินเบี้ยหวัด บําเหน็จ บํานาญ จําแนกเป็น
1) รายการโอนออก จำนวน 2 รายการ รวมจำนวนทั้งสิ้น 32,130 ล้านบาท ได้แก่
(1) รายการเงินสํารองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจําเป็น วงเงิน 1,030 ล้านบาท และ (2) รายการเงินสํารอง เงินสมทบ และเงินชดเชยของข้าราชการ วงเงิน 31,100 ล้านบาท เนื่องจากกรมบัญชีกลางคาดการณ์ว่าจะมีงบประมาณคงเหลือ ณ สิ้นปีงบประมาณ พ.ศ.2568 จากสถานะมูลค่าส่วนสํารองจะครบสามเท่าของงบประมาณรายจ่ายบําเหน็จบํานาญ ตามเงื่อนไขของมาตรา 72 แห่ง พ.ร.บ.กองทุนบําเหน็จบํานาญข้าราชการ พ.ศ.2539 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
2) รายการรับโอน จำนวน 1 รายการ ได้แก่ รายการเงินเบี้ยหวัด บําเหน็จ บํานาญ วงเงินรวมทั้งสิ้น 32,130 ล้านบาท เนื่องจากมีการเบิกจ่ายเงินเบี้ยหวัด บําเหน็จ บํานาญ เกินกว่างบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 ที่ตั้งรองรับไว้ ส่งผลให้งบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินเบี้ยหวัด บําเหน็จ บํานาญ มีไม่เพียงพอ จึงมีความจำเป็นต้องรับโอนงบประมาณรายจ่ายงบกลางรายการดังกล่าว เพื่อบรรเทาภาระการใช้จ่ายเงินคงคลังและลดภาระงบประมาณรายจ่ายประจำปี เพื่อชดใช้เงินคงคลังในปีงบประมาณถัดไป
-การโอนงบประมาณรายจ่ายงบกลาง จากรายการเงินสํารองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจําเป็น เพื่อดำเนินการสมทบรายการเงินชดเชยค่างานสิ่งก่อสร้าง จําแนกเป็น
1) รายการโอนออก จำนวน 1 รายการ ได้แก่ รายการเงินสํารองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจําเป็น วงเงิน 4,484.84 ล้านบาท
2) รายการรับโอน จำนวน 1 รายการ ได้แก่ รายการเงินชดเชยค่างานสิ่งก่อสร้าง วงเงิน 4,484.84 ล้านบาท เนื่องจากมติ ครม. เมื่อวันที่ 22 ส.ค.2532 กําหนดให้ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐนําสัญญาแบบปรับราคาได้ (ค่า K) ไปใช้ เพื่อความเป็นธรรมต่อคู่สัญญาทั้งสองฝ่าย จากความผันผวนของราคาวัสดุก่อสร้าง โดยหากค่า K ที่คํานวณตามสูตรมีค่าสูงกว่าร้อยละ 4 ผู้รับจ้าง จะได้รับเงินชดเชยจากผู้ว่าจ้าง (รัฐ) แต่หากต่ำกว่าร้อยละ 4 จะมีการเรียกเงินคืนจากผู้รับจ้าง
ประกอบกับในปีงบประมาณ พ.ศ.2568 มีหน่วยรับงบประมาณแจ้งความประสงค์ขอรับจัดสรรงบกลาง รายการเงินชดเชยค่างานสิ่งก่อสร้าง เกินกว่างบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 ที่ตั้งรองรับไว้
ดังนั้น เพื่อมิให้กระทบต่อการจ่ายเงินชดเชยค่างานก่อสร้างตามสัญญาแบบปรับราคาได้ที่จะต้องจ่ายเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบอาชีพงานก่อสร้างที่ได้รับความเดือดร้อนจากความผันผวนของราคาวัสดุก่อสร้างที่เพิ่มสูงขึ้น และเพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้แก่ผู้ประกอบอาชีพงานก่อสร้างตามเงื่อนไขค่างานก่อสร้างตามสัญญาแบบปรับราคาได้(ค่า K)ดังกล่าว จึงมีความจำเป็นต้องโอนงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสํารองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉิน หรือจำเป็นไปสมทบรายการดังกล่าว




@โอนงบ‘บุคลากร’ระหว่าง‘หน่วยรับงบประมาณ’ 452 ล้าน
2.การโอนงบประมาณรายจ่ายบูรณาการระหว่างหน่วยรับงบประมาณ (ไม่มีการโอนงบประมาณ)
3.การโอนงบประมาณรายจ่ายบุคลากรระหว่างหน่วยรับงบประมาณ มีการโอนงบประมาณ จำนวน 8 กระทรวง 76 หน่วยงาน ดังนี้
3.1 รายการโอนออก จำนวน 6 กระทรวง 24 หน่วยงาน วงเงินทั้งสิ้น 452.84 ล้านบาท จําแนกเป็น การโอนออกภายในกระทรวง จำนวน 6 กระทรวง 24 หน่วยงาน วงเงิน 446.24 ล้านบาท และการโอนออกต่างกระทรวง จำนวน 1 กระทรวง 1 หน่วยงาน วงเงิน 6.5936 ล้านบาท โดยมีเหตุผลในการโอนงบประมาณรายจ่ายบุคลากรจําแนกได้ดังนี้
1) การโอนย้าย ตาย ลาออก และเกษียณอายุราชการก่อนกำหนด ตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 9 ก.ค.2567 โดยมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2567
2) การสรรหาและบรรจุอัตรากําลังล่าช้า ไม่เป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้
3) ไม่สามารถบรรจุอัตราทดแทนกําลังพลที่ลาออกจากราชการสำหรับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้
3.2 รายการรับโอน จำนวน 8 กระทรวง 52 หน่วยงาน วงเงินทั้งสิ้น 452.84 ล้านบาท จําแนกเป็น การรับโอนภายในกระทรวง จำนวน 6 กระทรวง 44 หน่วยงาน วงเงิน 446.24 ล้านบาท และการรับโอนต่างกระทรวง จำนวน 2 กระทรวง 8 หน่วยงาน วงเงิน 6.59 ล้านบาท โดยมีเหตุผลในการโอนงบประมาณรายจ่ายบุคลากรจําแนกได้ดังนี้
1) บรรจุอัตราว่าง อัตราใหม่ รับโอนอัตรากําลังระหว่างปีงบประมาณ
2) ค่าตอบแทนพิเศษเพิ่มขึ้น เช่น ค่าตอบแทนพิเศษเงินเดือนเต็มขั้น
3) การปรับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุและการปรับเงินเดือนชดเชยผู้ที่ได้รับผลกระทบของข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 โดยมีผลใช้บังคับปีที่ 1 ตั้งแต่ วันที่ 1 พ.ค.2567 และปีที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.2568
4) การปรับอัตราค่าตอบแทนพนักงานราชการตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 28 พ.ย.2566 โดยมีผลใช้บังคับปีที่ 1 ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.2567 และปีที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.2568
5) การปรับเงินสมทบกองทุนประกันสังคม เนื่องจากการปรับค่าตอบแทนพนักงานราชการตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 28 พ.ย.2566
6) การปรับอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ และการโอนย้ายข้าราชการประจำสำนักงานต่างประเทศ
7) ค่าเช่าบ้านของข้าราชการตามสิทธิเพิ่มขึ้นระหว่างปีงบประมาณ

รายงานข่าวแจ้งว่า ในปีงบประมาณ พ.ศ.2568 รัฐบาลจัดสรรงบประมาณ พ.ศ.2568 เป็นงบกลางทั้งสิ้น 842,001.7 ประกอบด้วย 12 รายการ ได้แก่
1.ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเสด็จพระราชดำเนินและต้อนรับประมุขต่างประเทศ จำนวน 1,000 ล้านบาท
2.ค่าใช้จ่ายชดใช้เงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสับภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน จำนวน 4,000 ล้านบาท
3.ค่าใช้จ่ายตามโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดําริ จำนวน 2,500 ล้านบาท
4.ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลข้าราชการ ลูกจ้าง และพนักงานของรัฐ จำนวน 93,800 ล้านบาท
5.เงินชดเชยค่างานสิ่งก่อสร้าง จำนวน 800 ล้านบาท
6.เงินช่วยเหลือข้าราชการ ลูกจ้าง และพนักงานของรัฐ จำนวน 5,000 ล้านบาท
7.เงินเบี้ยหวัด บําเหน็จ บํานาญ จำนวน 354,500 ล้านบาท
8.เงินเลื่อนเงินเดือนและเงินปรับวุฒิข้าราชการ จำนวน 13,000 ล้านบาท
9.เงินสมทบของลูกจ้างประจำ จำนวน 370 ล้านบาท
10.เงินสำรอง เงินสมทบ และเงินชดเชยของข้าราชการ จำนวน 82,775 ล้านบาท
11.เงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจําเป็น จำนวน 96,556.7 ล้านบาท
12. ค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ จำนวน 187,700 ล้านบาท
ทั้งนี้ การโอนงบกลาง รายการเงินสํารองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจําเป็น วงเงิน 1,030 ล้านบาท และรายการเงินสํารอง เงินสมทบ และเงินชดเชยของข้าราชการ วงเงิน 31,100 ล้านบาท หรือรวมแล้ว 32,130 ล้านบาท ไปเป็นงบกลาง รายการเงินเบี้ยหวัด บําเหน็จ บํานาญ นั้น ส่งผลให้ในปีงบประมาณ พ.ศ.2568 รายการเงินเบี้ยหวัด บําเหน็จ บํานาญ จะเพิ่มเป็น 386,630 ล้านบาท ในขณะที่รายการเงินสํารอง เงินสมทบ และเงินชดเชยของข้าราชการ จะลดลงมาอยู่ที่ 51,675 ล้านบาท
(ที่มา : งบประมาณโดยสังเขป ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 (ฉบับปรับปรุง))

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา