
‘อนุทิน’พูดเต็มปาก ‘เอกนิติ-ศุภจี’ ร่วมเป็นแคนดิเดตนายกฯพรรคภูมิใจไทยด้วย เห็นความมุ่งมั่นตั้งใจ ส่วนครม.หลังเลือกตั้งอาจขี้เหร่หรือไม่ ให้ประชาชนเลือกก่อน แย้ม ‘วราวุธ ศิลปอาชา-สนธยา คุณปลื้ม’ จ่อย้ายร่วมงานด้วย
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 19 พ.ย. 2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ว่า กรณีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทย ที่มีการส่งสัญญาณไปที่นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โดยนายอนุทิน ยิ้ม พร้อมกล่าวว่า ให้ภาพเล่าเรื่อง
ผู้สื่อข่าวจึงถามว่า นายเอกนิติ คุณสมบัติผ่านแล้วใช่หรือไม่ นายอนุทิน ตอบว่า นายเอกนิติก็ทำงานดี ขยันขันแข็ง เข้าใจงาน ส่วนในทางการเมืองจะขายได้หรือไม่นั้น ไม่ได้เอามาขาย เอาเขา (เอกนิติ) มาทำงาน
เมื่อถามว่านายเอกนิติ ตอบรับแล้วใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า “แหม ทำงานเพื่อบ้านเมืองถ้ามีโอกาสมีความจำเป็น”
เมื่อถามว่านายเอกนิติ สมัครเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทยแล้วหรือยัง นายอนุทิน กล่าวว่า ในรายละเอียดยังไม่ได้พูดถึงขั้นนั้น
เมื่อถามอีกว่า พรรคภูมิใจไทยจะมีแคนดิเดตนายกฯคนที่ 3 เป็นผู้หญิงหรือไม่ นายอนุทิน ตอบว่า มีทุกเพศทุกวัย
ผู้สื่อข่าวจึงถามอีกว่า นางสาวศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์มีความเหมาะสมหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า “เหมาะซิ” ส่วนทาบทามแล้วหรือยังนั้น ไม่ได้ทาบทาม บังคับ ก่อนหัวเราะแล้วว่าเราทำให้มันครบถ้วน สมัยก่อนภูมิใจไทยเป็นพรรคเล็กไม่เป็นไร มีผมคนเดียวแต่ตอนนี้พรรคน่าจะดีขึ้นและใหญ่ขึ้นก็ต้องมีคนมาช่วยทำงาน
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า พูดได้เต็มปากหรือไม่ว่า แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทย มี 3 คนคือ นายอนุทิน นายเอกนิติ นางสาวศุภจี นายอนุทิน ตอบว่า “พูดได้เต็มปาก”
เมื่อถามว่าคิดตอนไหนในการดึงสองคนนี้มาเป็นแคนดิเดตนายกฯ นายอนุทิน ตอบว่า เห็นจากความมุ่งมั่นตั้งใจทำงานและผลงานที่ทำ ความคิดความอ่านและความรวดเร็วในการทำงาน ต่างคนต่างรักษาคำพูดว่าจะทำงานให้ออกมาดีที่สุด เราก็บอกจะไม่แทรกแซงให้อิสระการทำงานเต็มที่ แต่ถ้าเรื่องไหนที่เป็นประโยชน์เราก็สนับสนุน
เมื่อถามว่า การใช้สองคนนี้เพราะมองไปที่มุมเศรษฐกิจของประเทศใช่หรือไม่ นายอนุทิน ตอบว่า เรามองในมุมของคนที่มีประสบการแล้วเข้าใจเนื้องาน ตอนเชิญทั้งสองท่านมาทำงาน เราก็คิดว่าอาจต้องใช้เวลาปรับตัว ซึ่งเวลาทำงานมันก็น้อย ความจริงไม่ใช่แค่สองท่านรวมถึงทุกท่านในทีมทั้งคนนอกและคนในเข้ามาทำงานแล้วก็เก๋าเกมทำงานได้เลย เป็นนักบริหารมืออาชีพ ไม่ได้ตื่นเต้นเมื่อได้รับการมอบหมายงานก็ไปทำหน้าที่ของทั้งสองท่านทุกวันนี้แทบไม่ได้เจอกันเลย มีอะไรก็โทรศัพท์คุยกันว่า ขอให้ทำอย่างนี้แต่ถ้าทั้งสองคนอยากทำอย่างนี้ นายกฯสนับสนุนหรือไม่ ก็สนับสนุนกัน มีปัญหาอะไรก็คุยกันอยู่ที่ไหนของมุมโลกก็ติดต่อกันได้
เมื่อถามว่าจะเรียกว่าเป็นแคนดิเดตนายกฯพลัสหรือไม่ นายอนุทิน ยิ้มและหัวเราะในลำคอ ก่อนตอบว่าถ้าเราได้คนเก่งๆคนที่ดีมาทำงานให้บ้านเมืองเราก็สบายประเทศก็จะดีขึ้นประชาชนก็จะดีขึ้นและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น รวมถึงเศรษฐกิจก็ดีขึ้นได้คนที่เข้าใจและมีประสบการณ์เข้ามาทำงาน จะไปมัวหวงอำนาจอะไรมากมายก็ไม่ได้ และตนพูดตั้งนานแล้วว่าพร้อมเลือกตั้ง
กับคำถามว่า ต้องนำรายชื่อแคนดิเดตนายกฯต้องเข้าที่ประชุมใหญ่วิสามัญประจำปีพรรคภูมิใจไทย วันที่ 23 พ.ย. หรือไม่ นายอนุทิน ตอบว่า ต้องนำเสนอ ถ้าเรียบร้อยก็เอาเข้า แต่ยังไม่ได้คุยในรายละเอียด ส่วนจะนำสองคนนี้เป็นสส.บัญชีรายชื่อหรือไม่นั้นก็เป็นไปได้ เมื่อถามว่า หากกลับมาเป็นรัฐบาลเก้าอี้คณะรัฐมนตรีต้องแบ่งให้พรรคอื่น อาจทำให้หน้าตาครม.ไม่ดีเหมือนชุดปัจจุบัน นายอนุทิน กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับประชาชนจะให้ความไว้วางใจ และตนก็คิดว่าประชาชนสามารถตัดสินใจได้
เมื่อถามถึงกระแสข่าว นายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา จะย้ายมาร่วมพรรคภูมิใจไทย ในวันที่ 23 พ.ย. นายอนุทิน กล่าวว่า “อืมก็ไปดูสิ วันที่ 23 พ.ย. ”
เมื่อถามว่านายสนธยา คุณปลื้ม อดีตรมว.วัฒนธรรม จะมาสมัครเป็นสมาชิกด้วยใช่หรือไม่ นายอนุทิน ตอบว่า ก็ให้ดูวันที่ 23 พ.ย. พูดไปเขาไม่มาจะทำอย่างไร และท่านเหล่านี้ก็เป็นคนคุ้นหน้าคุ้นตากันทั้งนั้นทำงานกันได้ เราก็เลือกนะไม่ใช่ไม่เลือก คนที่ทำงานคนที่มีประสบการณ์และมีบารมีทำประโยชน์ให้ประชาชนได้เราก็พิจารณาทุกคน

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา