
3 ป.สนธิกำลังรวบนักตรวจสอบภาษีฯสรรพากรพื้นที่ กทม.8 เรียก 5 หมื่นแลกคำนวณภาษีต่ำกว่าความจริง เผยพฤติการณ์โทรไปหาผู้เสียหาย อ้างสามารถช่วยทำยอดภาษีลดได้ แต่ต้องโอนเงินสินบนเข้าบัญชีภรรยา –ด้านอธิบดีมีคำสั่งย้ายด่วน เข้าส่วนกลางแล้ว ยกเหตุเพื่อไม่ให้ไปยุ่งกับพยานหลักฐาน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่าเมื่อวันที่ 27 พ.ย. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ออกเอกสารข่าวแจกกรณีที่ เจ้าหน้าที่กลุ่มสืบสวนและปฏิบัติการข่าว 2 ป.ป.ช.ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) และเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ปฏิบัติการจับกุม นายชิตพล อัศวปกรณ์ นักตรวจสอบภาษีปฏิบัติการสำนักงานสรรพากรพื้นที่กรุงเทพมหานคร 8 กรณีมีพฤติกรรมเรียกรับเงินจากผู้ประกอบการในพื้นที่จำนวน 50,000 บาท เพื่อแลกกับการคำนวณภาษีให้ต่ำกว่าความเป็นจริง
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 14 พ.ย. ที่ผ่านมาได้มีบริษัทประกอบธุรกิจจำหน่ายอาหารเพื่อสุขภาพ เข้าแจ้งความพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปปป.ว่า ถูก นายชิตพล นักตรวจสอบภาษีปฏิบัติการ สำนักงานสรรพากรพื้นที่กรุงเทพมหานคร 8 เข้าตรวจสอบภาษีประจำปี และเรียกเก็บค่าภาษีของปี 2566-2567 กับทาง บริษัทฯ โดยมีการคำนวณภาษีและค่าปรับเพิ่มเติมกรณีภาษีมูลค่าเพิ่มไม่ตรงกับภ.ง.ด.50 (ภาษีเงินได้รายปี) ที่ บริษัทฯ ต้องจ่ายให้แก่รัฐประมาณ 800,000 บาท
ต่อมา นายชิตพล ได้เสนอกับทาง บริษัทฯ ว่าหากไม่ต้องการจ่ายค่าภาษีและค่าปรับจำนวนดังกล่าว ก็ให้หาเงินมาจ่ายใต้โต๊ะกับตน จำนวน 100,000 บาท โดยให้โอนเงินเข้าบัญชีภรรยา แล้วจะยุติเรื่องทั้งหมด
ทาง บริษัทฯจึงได้ขอต่อรองเหลือ 50,000
บาท ก่อนจ่ายเงินงวดแรกให้ไปจำนวน 40,000 บาท หลังจากนั้นทางบริษัทผู้เสียหายเห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ จึงเข้าแจ้งความพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปปป.
ภายหลังรับแจ้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป. ได้ดำเนินการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานโดยประสานความร่วมมือกันระหว่างหน่วยงานปราบปรามการทุจริต นำไปสู่การขออนุมัติศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางออกหมายจับนายชิตพลฯ ในความผิดฐาน “เป็นเจ้าพนักงาน เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด สำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต, เป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด และเป็นเจ้าพนักงานของรัฐ เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการ หรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 และมาตรา 157และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172 และมาตรา 173
ภายหลังศาลอนุมัติหมายจับ สำนักสืบสวนและกิจการพิเศษได้รับการประสานงานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป. เพื่อร่วมประชุมวางแผนการปฏิบัติการจับกุม จนนำไปสู่การจับกุมนายชิตพล อัศวปกรณ์ ผู้ต้องหาตามหมายจับ พร้อมกับเงินสินบน ณ อาคารที่ทำการ สำนักงานสรรพากรพื้นที่กรุงเทพมหานคร 8 เลขที่ 9/599 อาคารทวินันท์บิลดิ้ง ซ.วัดลาดปลาเค้า 78 ถนนรามอินทรา แขวงอนุสาวรีย์เขตบางเขน กรุงเทพมหานครและนำตัวส่งพนักงานสอบสวน บก.ปปป. ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
อนึ่งการจับกุมดังกล่าวเกิดขึ้นภายใต้การอำนวยการของ นายสุรพงษ์ อินทรถาวร รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. รักษาราชการแทน เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มอบหมายให้นายพัฒนพงศ์ จันทร์เพ็ชรพูล ผู้ช่วยเลขาธิการฯ นายจรงค์ เกราะเหมาะ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ และนายไพโรจน์ นิยมเดชา ผู้อำนวยการกลุ่มสืบสวนและปฏิบัติการข่าว 2 ไปดำเนินการ ส่วนฝั่งของ ปปป.มี พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก.สั่งการ พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พ.ต.อ.เพิ่มวุฒิ ประทุมราช ผกก.1 บก.ปปป. ร่วมกับ นายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท.ไปดำเนินการ
สำนักข่าวอิศรารายงานข่าวเพิ่มเติมว่าภายหลังจากการจับกุมนายชิตพล ทางด้านของน.ส.กุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมสรรพากร ได้มีคำสั่งให้ตั้งกรรมการสอบและย้ายนายชิตพลเข้าไปช่วยราชการที่ส่วนกลางแล้ว
ต่อมาทางกรมสรรพากรได้มีการออกเอกสารข่าวแจกถึงการดำเนินการกับนายชิตพล เนื้อหาระบุว่า สืบเนื่องจากที่เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.,ปปป.และ ป.ป.ท.ได้ร่วมกันปฏิบัติการจับกุม นายชิตพล อัศวปกรณ์ ตําแหน่งนักตรวจสอบภาษีปฏิบัติการ สังกัดสํานักงานสรรพากรพื้นที่กรุงเทพมหานคร 8 เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2568 ฐานมีพฤติการณ์เรียกรับเงิน
จากผู้ประกอบการ เพื่อแลกกับการคํานวณภาษีให้ตํ่ากว่าความเป็นจริงนั้น
กรมสรรพากรขอเรียนให้ทราบถึงการดําเนินการในเรื่องดังกล่าว ดังนี้
1. กรมสรรพากรได้มีคําสั่งย้าย นายชิตพล อัศวปกรณ์ ออกจากตําแหน่งเดิมให้ไปปฏิบัติหน้าที่ในส่วนงานที่ไม่เกี่ยวข้องกับการให้บริการประชาชนหรืองานที่มีอํานาจพิจารณาทางภาษี เพื่อไม่ให้มีโอกาสเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐาน หรือใช้อํานาจหน้าที่ในทางมิชอบอีก การย้ายผู้ถูกกล่าวหาออกจากพื้นที่ปฏิบัติงานเดิมเป็นการอํานวยความสะดวกให้แก่สํานักงาน ป.ป.ช., บก.ปปป. และ ป.ป.ท.ในการสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อดําเนินคดีอาญาได้อย่างเต็มที่และเป็นไปตามกฎหมาย
2. กรมสรรพากรเร่งดําเนินการแต่งตั้ง คณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 เพื่อดําเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงอย่างเร่งด่วนและ
โปร่งใส เพื่อจะมีการลงโทษทางวินัยขั้นสูงสุดต่อไป
ทั้งนี้ กรมสรรพากรขอให้ความมั่นใจแก่สาธารณชนว่า จะดําเนินการในเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมารวดเร็ว และเป็นธรรม เพื่อธํารงไว้ซึ่งเกียรติภูมิของข้าราชการที่ดี และพร้อมให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการปราบปรามการทุจริตอย่างเต็มที่ พฤติการณ์ของเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวถือเป็นการกระทําที่ร้ายแรง เป็นการใช้ตําแหน่งหน้าที่แสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ และเป็นการทําลายความเชื่อมั่นของประชาชนและผู้ประกอบการที่มีต่อกรมสรรพากรและระบบภาษีอากรของประเทศ ซึ่งกรมสรรพากรเน้นยํ้าในหลักการบริหารงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต การเรียกรับสินบนถือเป็นการฝ่าฝืนจริยธรรมและวินัยข้าราชการอย่างร้ายแรง จะต้องมีการดําเนินการทางวินัยขั้นสูงสุดต่อไป


Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา