ศป.กฉ. แถลงยอดผู้เสียชีวิตสะสม น้ำท่วมภาคใต้รวม 145 ราย สงขลา 110 - นครศรีธรรมราช 9 ราย - อนุทิน กำชับ เร่งบริหารจัดการขยะเร่งด่วน พร้อมเข้าสู่โหมดฟื้นฟู-บิ๊กคลีนนิ่ง หลังน้ำลด
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 28 พฤศจิกายน 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังเป็นประธานการประชุมศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินอุทกภัย (ศป.กฉ.) ครั้งที่ 3/2568 โดยมีนายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะ กรรมการและโฆษก ศป.กฉ. และน.ส.รัชดา ธนาดิเรก กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี กรรมการและโฆษก ศป.กฉ.
นายสิริพงศ์ กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขรายงานจำนวนผู้เสียชีวิตจากกรณีน้ำท่วมภาคใต้ ยอดสะสม 145 ราย แบ่งเป็น นครศรีธรรมราช 9 ราย พัทลุง 4 ราย สงขลา 110 ราย ตรัง 2 ราย สตูล 5 ราย ปัตตานี 6 ยะลา 5 ราย นราธิวาส 4 ราย
“จากการพิจารณาของ ศป.กฉ. โดยแพทย์และนิติเวช มีความเห็นว่า ไม่สมควรแบ่งเคส กรณีผู้เสียชีวิตของสงขลา 110 รายแล้ว ดังนั้น ตั้งแต่วันนี้ไป จะไม่มีการแบ่งเคสรายงาน ทุกคนถือว่า เสียชีวิตในห้วงเวลานั้นทั้งสิ้น ดังนั้น รายงานยอดผู้เสียชีวิตของสงขลา คือ 110 ราย”นายสิริพงศ์กล่าว
นายสิริพงศ์กล่าวว่า อย่างไรก็ดี การรายงานยอดผู้เสียชีวิตหลังจากแถลงข่าวในวันนี้ ยังไม่ถือว่าเป็นยอดอย่างเป็นทางการในวันนี้ เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนกรณีหน่วยงานอื่น นอกจาก ศป.กจ. รายงานไป ยอดสูงหรือต่ำกว่านี้จะทำให้ข้อมูลไม่ตรงกัน ซึ่งข้อมูลผู้เสียชีวิตทั้งหมดจะต้องส่งมารวมกันที่ ศป.กฉ. ทุกวัน ฉะนั้นยอดที่ถูกต้องในเวลานี้ คือ มีผู้เสียชีวิตสงขลา 110 ราย
“ขอแสดงความเสียใจอีกครั้ง ย้ำอีกครั้งว่า การนำเสนอยอดผู้เสียชีวิต จะมีการอัปเดตทุกวัน การนำข้อมูลที่นำเสนอเมื่อวันแรก วันที่สองมาใช้ในเชิงเปรียบเทียบ ถือว่าเป็นการเสนอข้อมูลอันเป็นเท็จ”นายสิริพงศ์กล่าว
นายสิริพงศ์กล่าวว่า แจ้งผลการดำเนินการของ ศป.กฉ. ถือว่าประสบความสำเร็จในการดำเนินการ เช่น กรณีการร้องขอให้ ศป.กฉ. ส่วนหน้าเข้าไปความช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมตกค้างได้ 1,734 เคส จากจำนวนทั้งหมด 1,934 เคส หรือคิดเป็น 89 % ขณะที่ในภาพรวมความสามารถในการดูแลในศูนย์พักพิง มียอดสะสม 14,160 ราย โดยความจุรองรับได้ 20,840 คน สำหรับการผลิตอาหารชุดต่อ 1 วัน สามารถผลิตได้ 92,320 ชุด
@ พร้อมเข้าสู่โหมดฟื้นฟู-บิ๊กคลีนนิ่ง
น.ส.รัชดากล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลมีความพร้อมที่จะเข้าสู่โหมดฟื้นฟูแล้ว เรื่องแรก น้ำและไฟ การประปาได้ติดตั้งเครื่องจักรผลิตน้ำแล้ว ระยะเร่งด่วนได้นำเครื่องส่งน้ำอุปโภคและบริโภค 16 คันรถ ตลอดจนรถบรรทุกน้ำจากกรมทรัพยากรน้ำบาดาลที่ระดมเข้าไปในพื้นที่ ขณะที่ไฟฟ้า การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคมีความพร้อมในการจ่ายไฟ แต่ที่ยังไม่สามารถจ่ายไฟได้ทุกครัวเรือน เพราะต้องประเมินสถานการณ์ในพื้นที่เรื่องความปลอดภัยหลังจ่ายกระแสไฟฟ้าไปแล้ว ทั้งนี้ มีครัวเรือนที่ได้รับความเดือดร้อนจากการไม่มีไฟฟ้าใช้ 1.6 แสนครัวเรือน จากทั้งหมด 7 แสนครัวเรือน คาดว่าทุกบ้านจะมีไฟฟ้าใช้ 1-2 วัน
น.ส.รัชดากล่าวว่า สำหรับสัญญาณโทรศัพท์ยังไม่ครบทุกพื้นที่ 100 % เนื่องจากติดขัดเรื่องไฟฟ้า สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้ประสานกับโอปอเรเตอร์ผู้ให้บริการทุกบริษัทแล้ว ผู้ใช้บริการระบบเติมเงินขยายเวลาการใช้งานออกไป 30 วัน หรือ เติมช้า 1 เดือนไม่ถูกตัด ขยายระยะเวลาชำระค่าบริการระบบรายเดือนออกไป 1 เดือน ผู้ใช้บริการระบบเติมเงินและรายเดือนในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม ใช้โทรศัพท์ฟรี 100 นาที อินเตอร์เน็ต ฟรี 10 กิกะไบต์ ฟรี 15 วัน
“ประเด็นใหม่ที่เข้ามา คือ เรื่องขยะ นายกรัฐมนตรีกำชับว่า แผนการบริหารจัดการขยะต้องทำอย่างเร่งด่วน โดยพื้นที่มีน้ำลดลงแล้ว ให้ทุกภาคส่วนส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปทำความสะอาดแล้ว การบิ๊กคลีนนิ่งจะสามารถทำได้ตั้งแต่วันพรุ่งนี้”น.ส.รัชดากล่าว
น.ส.รัชดากล่าวว่า กระทรวงคมนาคมสำรวจความเสียหาย ถนนผ่านไม่ได้ 60 เส้น ผ่านได้ 337 เส้น ซึ่งขณะนี้ได้เข้าไปฟื้นฟูในจุดที่สามารถทำได้แล้วและจะให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ ในส่วนของ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เส้นทางเปิดเดินรถปกติ 9 เส้นทาง กทม.-สงขลา กทม.-หาดใหญ่ กทม.-ยะลา กทม.-สุไหง โก-ลก กทม.-เบตง กทม.-นาทวี กทม.-สตูล กทม.-ด่านนอก กทม.-ปาดังเบซา แต่ที่ยังไม่สามารถให้บริการได้ คือ กทม.-ตรัง-สตูล และ กทม.-ปัตตานี คาดว่าในเร็ววันนี้จะเปิดให้บริการตามปกติ ขณะที่การเดินทางทางรถไฟ เปิดทางได้แล้ว 12 จุด ยังมีอุปสรรคอยู่ 27 จุด
น.ส.รัชดาทิ้งท้ายว่า ข่าวลือเรื่องพายุโคะโตะเข้าประเทศไทยทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเดือดร้อน ได้รับการแจ้งจากกรมอุตุนิยมวิทยาว่า เข้าทางเวียดนาม ไม่กระทบประเทศไทย

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา