
นายกฯแจงภาพหลุด ‘เบนสมิธ’ กับบุคคลสำคัญ ยอมรับรู้จักจริงแต่ไม่สนิท เจอกันในงาน 5-6 ครั้ง ปล่อยให้คิดเองเป็นเกมการเมืองหรือไม่กรณีภาพหลุด ชี้จะมาเอาเรื่องอะไรจากรูปถ่ายเมื่อ 7 ปีที่แล้ว ปัดไม่แตะขบวนการเบนสมิธ บอกสื่อ You know me little go
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 4 ธันวาคม 2568 จากกรณีที่นายชนะ ผาสุกสกุล นักข่าวในเครือผู้จัดการ ได้โพสต์ภาพนายเบน สมิธ ถ่ายร่วมเฟรมกับบุคคลระดับสูงในแวดวงการเมืองไทยได้แก่ นายอนุทิน ชาญวีรกุล นายกรัฐมนตรี ,นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง,พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ อดีตผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.),นายอุปกิต ปาจรียางกู อดีต สว. และพลตำรวจเอก วิสนุ ปราสาททองโอสถ อดีตจเรตำรวจแห่งชาติ ภายหลังปรากฏข่าว คณะกรรมการธุรกรรม สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) มีการพิจารณาคดีความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยเฉพาะกลุ่มขบวนการสแกมเมอร์ (Scammer) และ ไฮบริดสแกม (Hybrid Scam) ซึ่งมีลักษณะเป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ โดยมีมติให้ยึดและอายัดทรัพย์สินจำนวน 289 รายการ รวมมูลค่าทรัพย์สินกว่า 10,165 ล้านบาท แบ่งเป็น 4 คดีสำคัญ โดยหนึ่งในนั้นคือ เครือข่ายของนายเบน สมิธ และ แตงไทย โดยยึดทรัพย์สูงสุดกว่า 9 พันล้าน ซึ่งเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ หลอกว่าพัสดุผิดกฎหมาย
ซึ่งนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาส รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ชี้แจงกับสำนักข่าวอิศราว่า แล้วว่า เป็นภาพเก่าเมื่อ 5 ปีที่แล้วในงานอบรมหลักสูตรหนึ่งของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) โดยเป็นช่วงก่อนการระบาดของโควิด ซึ่งภายในงานได้เจอกับคนจำนวนมาก และนายเบน สมิธได้เข้ามาพูดคุย แลกนามบัตร หลังจากนั้นก็ไม่ได้มีการคบหาสมาคมกันอีก
พร้อมกับยืนยันว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดกฎหมายของกลุ่มบุคคลที่อยู่ระหว่างการดำเนินคดี

- ของเก่าเมื่อ 5 ปีก่อน! 'เอกนิติ'แจงภาพหลุด 'เบน สมิธ' แค่เจอกันในงานตร.ไม่ได้คบหาสมาคม
- โพสต์ภาพชุด 'อนุทิน-เอกนิติ-อุปกิต-อภิรัชต์' ถ่ายคู่ 'เบน สมิธ' หลังแถลงผลปราบสแกมเมอร์
ล่าสุด นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีดังกล่าวแล้วว่า ทุกคนก็เห็นอยู่แล้วว่าภาพถ่ายเมื่อไหร่ ที่สำคัญที่สุดคือเมื่อวาน (3 ธ.ค. 68) ที่ไปแถลงข่าว ผู้สื่อข่าวก็ถามว่าใครมีเส้น ใครมีสาย แต่สุดท้ายก็ตามกฎหมายหมดทุกอย่าง
เมื่อถามว่า รู้จักกับนายเบน สมิธ เป็นการส่วนตัวหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า รู้จัก แต่ไม่สนิท พร้อมกับย้อนถามว่า ปีนั้นปีอะไร นั่นแหละแค่เจอครั้งแรก
เมื่อถามอีกว่า การปล่อยภาพดังกล่าวเป็นเกมการเมืองหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า แล้วแต่คิด โดยปกติไม่ได้ติดต่อมีธุรกิจธุรกรรมอะไรด้วยอยู่แล้ว พร้อมย้อนถามสื่อว่า จำไม่ได้หรือว่าทำไมเขาถึงไม่ได้สัญชาติ
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า การที่มีการโพสต์ภาพครั้งนี้ถือเป็นการโจมตีรัฐบาลหรือไม่ ที่ไม่ให้สัญชาติไทย นายอนุทินกล่าวว่า “เขาว่าเป็นมูลเหตุ” พร้อมหัวเราะ
ผู้สื่อข่าวจึงถามต่อว่า เป็นมูลเหตุที่ทำให้ถูกปลดจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในสมัยรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตรด้วยใช่หรือไม่ นายอนุทิน ตอบว่า “ใช่ หนึ่งในข้อหาที่ผมโดนออกจาก รมว.มหาดไทย แต่ไม่ใช่การปลดออกจากรัฐบาล แต่ให้ไปเป็นรมว.สาธารณสุขแทน แต่ผมไม่เอา และขอถอนตัวออกจากรัฐบาล ต้องพูดกันให้แฟร์ๆ”
นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อไปว่า พรรคภูมิใจไทยไม่ได้โดนปลดจากรัฐบาลสมัยที่แล้ว ขอให้สื่อนำเสนอให้ชัดเจน เพียงแต่ได้รับการขอให้ออกจากตำแหน่งรมว.มหาดไทยไปเป็นรมว.สาธารณสุข ซึ่งพรรคภูมิใจไทยก็ปฏิเสธ
เมื่อถามว่า ส่วนจะเป็นเกมการเมืองพากันดึงให้ลงเหวกันทั้งหมดหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า เราต้องคิดวิเคราะห์ และแยกเรื่องให้ถูก ส่วนรู้หรือไม่ว่าใครเป็นคนปล่อยภาพ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า “รู้หมดแหละ นักข่าวก็รู้ ใครก็รู้ทั้งนั้น”
เมื่อถามถึงเรื่องการขยายผลแล้วออกหมายจับหมายจับสแกมเมอร์ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องหมายจับต้องไปถามตำรวจ แต่ในแนวทางการสืบสวน เส้นเงินถึงใครก็ต้องดำเนินการไปตามนั้น ถึงบอกว่าปิดชื่อ ถือพฤติกรรม
เมื่อถามอีกว่า ตอนที่นายเบน สมิธ มานั้นได้มาทำธุรกิจอะไร นายอนุทิน กล่าวว่า ตอนที่คุยกัน ก็เป็นความสัมพันธ์ที่รู้จักกันในฐานะเพื่อนของเพื่อนของเพื่อน หากถามว่ารู้จักหรือไม่ รู้จัก เจอกันตามงานก็ทักทาย
ผู้สื่อข่าวถามว่าเจอกันกี่ครั้ง นายอนุทินร้องโห ถามอะไรกันขนาดนั้น
เมื่อถามย้ำว่า เคยเจอนายเบน สมิธ กี่ครั้ง นายอนุทินถามกลับว่า เจอกี่ครั้งหมายความว่าอย่างไร คนนั้นก็มีแวดวงมีอะไรอยู่ เจอในงานประมาณ 5-6 ครั้ง
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า นายเบน สมิธ รู้จักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองเราดีใช่หรือไม่ นายอนุทินหัวเราะ ก่อนบอกว่า สื่อก็เห็นรูปแล้ว จะมาเอาเรื่องอะไรจากรูปที่ถ่าย 7 ปีที่แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า นี่อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้รัฐบาลไม่กล้าปราบปรามพวกของนายเบน สมิธ อย่างจริงจังใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรีตอบกลับว่า ”ผมหรือไม่กล้าแตะ You know me little go รู้หรือเปล่าแปลว่าอะไร คุณรู้จักผมน้อยไป“ ก่อนเดินเข้าประชุมทันที

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา