
‘กกต.’ เผยแพร่ คำวินิจฉัย คดีเลือก สว. ระดับประเทศ มีคำสั่ง ยื่น ศาลฎีกา เพิกถอนสิทธิรับสมัคร-เลือกตั้ง พ่วง ‘คดีอาญา’ ผู้สมัคร สว.ระดับอำเภอ อ.ยางสีสุราช จ.มหาสารคาม - ‘สัจจพงษ์ ภูมิศักดิ์’ เป็น ‘ตัวแทน-คนกลาง’ ชักชวน-จูงใจ ผู้มีสิทธิเลือกสว.ระดับจังหวัด คนละ 2 แสน - 10 ล้าน พบ โปรไฟล์ ‘สัจจพงษ์’ อดีตนายกเทศมนตรีตำบลโนนสะอาด โพสต์ภาพสวมเสื้อพรรคภูมิใจไทย โยง ผู้ประสงค์ลงรับสมัครเลือกตั้ง สส.อุดรธานี เขต 8 ‘ภูมิใจไทย’ เลือกตั้งครั้งหน้า
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เผยแพร่คำวินิจฉัยคณะกรรมการ กกต. ที่ 614/2568 ลงวันที่ 21 กรกฎาคม 2568 เรื่อง การเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ระดับประเทศ เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.67 มีคำสั่งให้ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาเพื่อสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง หรือ เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของนายธนาวุฒิ แสงอรุณ ผู้สมัครรับเลือกเป็น สว.ระดับอำเภอ อ.ยางสีสุราช จ.มหาสารคาม กลุ่มที่ 19 หมายเลข 1 และเป็นผู้มีสิทธิเลือกระดับจังหวัด จ.มหาสารคาม กลุ่มที่ 19 หมายเลข 6 (ผู้ถูกร้องที่ 1) และนายสัจจพงษ์ ภูมิศักดิ์ บุคคลซึ่งไม่ใช่ผู้สมัคร (ผู้ถูกร้องที่ 2) ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. พ.ศ. 2561 มาตรา 62 และรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 มาตร 226 พร้อมทั้งให้ดำเนินคดีอาญาแก่บุคคลดังกล่าวทั้งสองราย
คณะกรรมการ กกต. ได้พิจารณารายงานการไต่สวน ตลอดจนพยานหลักฐานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องประกอบ ข้อกล่าวหาที่ 1 ปรากฏหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า นายธนาวุฒิ และนายสัจจพงษ์ ทำหน้าที่เป็น ตัวแทนหรือคนกลาง โดยชักชวนหรือจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกระดับประเทศมาที่โรงแรมปทุมธานีเพลส อันมาเพื่อสมคบคิด วางแผนหรือจัดเตรียมเพื่อลงคะแนนในการเลือกสว.ระดับประเทศ เพื่อลงคะแนนหรือไม่ลงคะแนนให้แก่ผู้ใด โดยมีการจัด ทำ ให้ เสนอให้ หรือสัญญาว่าจะให้ หรือจัดเตรียมเพื่อจะให้เงิน หรือประโยชน์อื่นใดที่อาจคำนวณเป็นเงินได้ อันเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. พ.ศ. 2561 มาตรา 77 (1) ซึ่งมีวัตถุประสงค์แห่งการกระทำเพื่อสมยอมกันในการลงคะแนนเลือก สว.
อันมิได้เป็นการลงคะแนนเลือกกันเองตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 107 และ พ.ร.ป. ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. พ.ศ. 2561 มาตรา 11 และมาตรา 33 ซึ่งกำหนดให้ สว.มาจากการเลือกกันเองของบุคคลซึ่งมีความรู้ ความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์ อาชีพ ลักษณะ หรือประโยชน์ร่วมกันหรือทำงานหรือเคยทำงานด้านต่าง ๆ ที่หลากหลายของสังคม โดยให้ใช้วิธีลงคะแนนลับตามที่กฎหมายกำหนดเพื่อให้ผู้สมัครนำข้อมูลดังกล่าวไปประกอบการตัดสินใจลงคะแนนมิใช่การสมยอมกันในการลงคะแนนเลือกซึ่งเป็นการทุจริตการเลือก อันทำให้การเลือกเป็นโปโดยไม่สุจริตหรือเที่ยงธรรม ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. พ.ศ. 2561 มาตรา 62 และรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 มาตรา 226
@ เสนอเงินให้ผู้ร้อง 10 ล้าน
รายงานข่าวว่า คำวินิจฉัยคณะกรรมการ กกต. ระบุว่า กรณีนายธนาวุฒิ ผู้ร้องให้ถ้อยคำว่า ก่อนวันเลือก สว.ระดับประเทศได้มีบุคคลติดต่อให้ผู้ร้องเข้าร่วมประชุมที่โรงแรมปทุมธานีเพลส อำเภอเมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี เพื่อวางแผนเกี่ยวกับการจัดตั้งกลุ่มผู้มีสิทธิเลือกระดับประเทศเพื่อลงคะแนนให้แก่กัน ซึ่งมีการเสนอให้เงินพร้อมทั้งจัดหาที่พักและอาหารให้แก่ผู้ร้อง
จากการไต่สวนนายธนาวุฒิ ให้ถ้อยคำยอมรับว่า ถูกชักชวนให้ไปจัดหาผู้มีสิทธิเลือกระดับประเทศให้มาประชุมที่โรงแรมปทุมธานีเพลส และประสงค์จะได้รับเงินส่วนแบ่งจากผู้มีสิทธิเลือกระดับประเทศที่เข้าร่วมประชุมวางแผนการเลือก ประกอบกับพยานที่ไต่สวนประกอบคนที่ 9 ซึ่งเป็น สมาชิกพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง ให้ถ้อยคำว่า ได้เดินทางไปที่โรงแรมปทุมธานีเพลสหลังจากที่นายธนาวุฒิส่งข้อความผ่านแอปพลิเคชันไลน์ถึงตนว่า ให้มาหาประสบการณ์ทางการเมืองและยังแนะนำให้ชักชวนเพื่อนที่เป็นผู้มีสิทธิเลือกระดับประเทศมาด้วย และในวันดังกล่าวขณะอยู่ที่โรงแรมปทุมธานีเพลส พยานที่ไต่สวนประกอบคนที่ 9 ได้เห็นนายธนาวุฒิ เดินสนทนาและทักทายกับบุคคลอื่น ๆ และกล่าวถ้อยคำว่า
รู้จักคนอื่นที่เป็นผู้มีสิทธิเลือกสว.ระดับประเทศหรือไม่ หากมีให้ชักชวนมา เพราะหากได้เข้าระดับประเทศ ‘คุณเบิร์ด’ จะให้เงินเป็นกิโลเลยนะ แต่รายละเอียดให้รอคุณเบิร์ดมาชี้แจงเอง
ซึ่งบ่งชี้ถึงการเสนอผลประโยชน์ในการเลือกสว.และสอดคล้องกับรายชื่อผู้เข้าพักโรงแรมปทุมธานีเพลสที่ปรากกชื่อของนายธนาวุฒิเป็นผู้เข้าพักในโรงแรมเพราะประสงค์จะได้ส่วนแบ่งจากผู้มีสิทธิเลือกระดับประเทศที่รู้จักและไปเข้าร่วมประชุมวางแผนการเลือกด้วย
กรณีนายสัจจพงษ์ ผู้ร้องให้ถ้อยคำว่า นายสัจจพงษ์ได้ติดต่อพยานคนที่ 1 ของผู้ร้องให้ชักชวนผู้ร้องไปรับประทานอาหารที่ร้านนิตยาไก่ย่าง สาขาเมืองทองธานี ซึ่งมีผู้ร้องและผู้มีสิทธิเลือกระดับประเทศในแต่ละกลุ่มเข้าร่วมรับประทานอาหาร จากนั้นนายสัจจพงษ์ ได้เสนอให้เงินแก่ทุกคนจำนวนคนละ 2 แสนบาท และเสนอให้เงินแก่ผู้ร้องจำนวน 10 ล้านบาท เนื่องจากผู้ร้องมีลูกทีมที่เป็นผู้มีสิทธิเลือกระดับประเทศจำนวน 80 คน ซึ่งนายธนาวุฒิจะเป็นผู้ดูแลการให้เงินดังกล่าว เนื่องจากมีการส่งข้อความส่วนตัวทางแอปฟลิเคชันไลน์ระหว่างผู้ร้องและนายธนาวุฒิ เกี่ยวกับการให้เงินแก่ผู้มีสิทธิเลือกระดับประเทศเพื่อจูงใจให้ลงคะแนนเลือก
@ สลากออมสินพิเศษ 2 ล้าน ‘ปริศนา’
คำวินิจฉัย กกต. ตอนหนึ่งระบุว่า จากการตรวจสอบข้อมูลการทำธุรกรรมทางการเงินพบว่า บัญชีธนาคารกสิกรไทยของนายธนาวุฒิ ได้รับเงินจากบัญชีธนาคารกรุงเทพของ พยานที่ไต่สวนประกอบคนที่ 11 เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2567 จำนวน 3,000 บาท และเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2567 จำนวน 11,200 บาท และจากการตรวจสอบทะเบียนรายชื่อผู้เข้าพักที่โรงแรมปทุมธานีเพลสพบชื่อของพยานที่ไต่สวนประกอบคนที่ 11 เข้าพักเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2567 ซึ่งสอดคล้องกับถ้อยคำของนายธนาวุฒิ ว่าได้รับเงินจากพยานที่ไต่สวนประกอบคนที่ 11
จากการตรวจสอบข้อมูลจากธนาคารออมสิน สาขาโนนสะอาด ของนายสัจจพงษ์ พบว่าเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2567 มีเงินเข้าบัญชีจำนวน 2 ล้านบาท ซึ่งเป็นบัญชีเงินฝากประเภท ‘สลากออมสินพิเศษ’ โดยผู้กู้ได้นำเงินสดจำนวนดังกล่าวมาขอเปิดบัญชีที่หน้าเคาน์เตอร์รับฝากเงินของธนาคารด้วยตนเองและข้อมูลการทำธุรกรรมทางการเงินจากธนาคาคารออมสิน สาขาโนนสะอาด ของนายสัจจพงษ์ พบว่า เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2567 มีเงินเข้าบัญชีจำนวน 1 ล้านบาท และรายการถอนเงินออกจากบัญชีจำนวน 2 แสนบาท เป็นรายการที่นายสัจจพงษ์ มาขอกู้เงินโดยนำสลากออมสินพิเศษฉบับดังกล่าวข้างต้นมาเป็น ‘หลักทรัพย์ค้ำประกันเงินกู้’
ตามหลักเกณฑ์ธนาคารต้องจ่ายเงินกู้ฝากเข้าบัญชีเงินฝากของผู้กู้เท่านั้น แต่ผู้กู้ประสงค์ขอรับเป็นเงินสดจำนวน 2 แสนบาท ธนาคารจึงให้ถอนเงินออกจากบัญชีตามความประสงค์ของผู้กู้ เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2567 นายสัจจพงษ์ ได้มาถอนเงินสดที่เคาน์เตอร์รับฝากถอนเงิน ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลและรายละเอียดของการทำธุรกรรมทางการเงินของนายสัจจพงษ์ ทุกรายการ พบว่า นายสัจจพงษ์เป็นผู้ทำธุรกรรมด้วยตนเอง
รายงานข่าวเพิ่มเติมว่า จากการสืบค้นข้อมูลในเพจเฟซบุ๊ก ชื่อ ‘สัจจพงษ์ ภูมิศักดิ์’ เมื่อ 6 วันที่ผ่านมา เคยโพสต์รูปภาพตัวเอง สวมเสื้อมีตราโลโก้พรรคภูมิใจไทย ขณะที่ภาพปกโปรไฟล์บนเพจเฟซบุ๊กดังกล่าวเป็นรูปถ่ายที่มีนายสุภีรภัทร ภูมิศักดิ์ สวมชุดครุยรับปริญญาบัตรจบการศึกษา ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 15 ต.ค.68 นายสุภีรภัทร แสดงตัวเป็นผู้ประสงค์ลงสมัคร สส.อุดรธานี เขต 8 ในนามพรรคภูมิใจไทย



@ นายสุภีรภัทร ภูมิศักดิ์ คนขวาสุด (จากซ้ายไปขวา) @
@ ยกคำร้อง ‘จัดตั้ง’ ผู้สมัคร สว.ลงคะแนนให้กัน
รายงานข่าวระบุว่า ขณะที่ข้อกล่าวหาที่ 2 คำวินิจฉัยคณะกรรมการกกต. ให้ยกคำร้อง เนื่องจาก ข้อเท็จจริงที่ได้จากการไต่สวนรับฟังได้ว่า ผู้ร้องนำผลการนับคะแนนในการเลือกสมาชิกวุฒิสภาระดับประเทศเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2567 ทั้ง 20 กลุ่ม มาวิเคราะห์และเห็นว่ามีผลละแนนซ้ำกันเป็นจำนวนมาก และมีผลคะแนนสูงผิดปกติ จึงเชื่อว่ามีการจัดตั้งกลุ่มผู้มีสิทธิเลือกระดับประเทศเพื่อลงคะแนนให้แก่กัน ซึ่งเป็นข้อสันนิษฐานของผู้ร้องโดยไม่มีพยานหลักฐานสนับสนุนให้รับฟังได้เช่นว่านั้น
ส่วนเอกสารประกอบคำร้องซึ่งเป็นข้อมูลแนะนำตัวของผู้สมัคร (สว. 3) อำเภอเมืองอุบลราชธานี ทั้ง 20 กลุ่ม เอกสารแนะนำตัวผู้สมัครรับเลือกสมาชิกวุฒิสภา กลุ่มที่ 20 แบบขีดคะแนนในการลงคะแนนเลือกบุคคลในกลุ่มเดียวกัน กลุ่มที่ 1 ระดับประเทศ เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2567 รวมทั้งเอกสารการจดบันทึกหมายเลขของผู้มีสิทธิเลือกสมาชิกวุฒิสภาซึ่งมีลักษณะเป็นหมายเลขชุด และเอกสารการจดบันทึกรายงานการนับคะแนนการเลือกสมาชิกวุฒิสภาระดับประเทศเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2567 กลุ่มที่ 20 หมายเลข 1 ถึงหมายเลข 153 เป็นเพียงเอกสารที่ผู้ร้องรวบรวมมาโดยไม่อาจอ้างอิงแหล่งที่มาหรือผู้จัดทำได้แน่ชัด พยานหลักฐานของผู้ร้องจึงมีน้ำหนักให้รับฟังได้น้อย
อีกทั้งไม่ปรากฎพยานหลักฐานอื่นที่ยืนยันได้ว่ามีการกระทำฝ่าฝืนกฎหมายตามข้อกล่าวหา ข้อเท็จจริงจึงรับฟังไม่ได้ว่ามีการกระทำอันเป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 มาตรา 77 (1) ตามคำร้อง

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา