
ครม.ไฟเขียว 6 ยุทธศาสตร์จัดสรรงบรายจ่ายปี 70 มุ่งปราบปรามอาชญากรรม ‘ทุกรูปแบบ’ แก้ปัญหาชายแดนไทย-เพื่อนบ้าน พร้อมส่งเสริมการลงทุน ‘อุตสาหกรรมเป้าหมายพิเศษ’ เดินหน้าแก้ปัญหา ‘หนี้นอกระบบ-ลดภาระหนี้สิน’ สร้างความโปร่งใส-ธรรมาภิบาลภาครัฐ
..........................................
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นประธานฯ เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.ที่ผ่านมา ที่ประชุม ครม. มีมติเห็นชอบยุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2570 ตามที่สำนักงบประมาณ เสนอ ซึ่งประกอบด้วยยุทธศาสตร์ 6 ด้าน และ 1 รายการ มีสาระสำคัญสรุป ดังนี้
1. ยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคง
1) การเสริมสร้างความมั่นคงของสถาบันหลักของชาติ ส่งเสริมการน้อมนำและเผยแพร่แนวทางพระราชดำริและการทรงงานตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงให้เกิดการปฏิบัติอย่างกว้างขวาง ปราบปรามอาชญากรรมทุกรูปแบบ ส่งเสริมการป้องกันและปราบปรามปัญหายาเสพติดอย่างเป็นระบบ พัฒนากลไก มาตรการ แนวทางที่เกี่ยวข้องกับการป้องกัน สืบสวน และปราบปรามอาชญากรรมทางไซเบอร์ ป้องกันและแก้ไขภัยคุกคามและอาชญากรรมข้ามชาติทุกรูปแบบบริเวณพื้นที่ชายแดน ติดตั้งเครื่องมือเตือนภัยและพัฒนาเครือข่ายการเตือนภัยพิบัติ
การประเมินความเสี่ยงและผลกระทบจากภัยธรรมชาติประเภทต่าง ๆ และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ส่งเสริมการป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์แบบบูรณาการ พัฒนาและสร้างสันติสุขอย่างยั่งยืนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เสริมสร้างความมั่นคง ปกป้อง รักษา และแก้ไขปัญหาที่กระทบต่ออธิปไตยและผลประโยชน์ของชาติรวมทั้งบูรณาการกลไกบริหารจัดการและข้อมูลด้านความมั่นคง
2) การร่วมมือทางการพัฒนากับต่างประเทศ การรักษาสมดุลกับมิตรประเทศ การแก้ไขปัญหาเขตแดนระหว่างไทยกับประเทศรอบบ้าน เตรียมความพร้อมเพื่อเข้าเป็นสมาชิกองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ส่งเสริมและผลักดันการพัฒนากฎหมาย นโยบายของรัฐที่ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนและภาคเอกชนในการต่างประเทศ บริหารจัดการกลไกการบูรณาการการขับเคลื่อนด้านการต่างประเทศของส่วนราชการไทย
2.ยุทธศาสตร์ด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน
1) การส่งเสริมการทำเกษตรยั่งยืนที่ตระหนักถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม พัฒนาคุณภาพมาตรฐานและช่องทางการตลาดสินค้าเกษตรปลอดภัย เกษตรชีวภาพ และเกษตรแปรรูป สนับสนุนให้เกษตรกรประยุกต์ใช้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี นวัตกรรม เพื่อยกระดับให้เป็นเกษตรกรอัจฉริยะที่มีศักยภาพสูง เพิ่มประสิทธิภาพและผลิตภาพภาคการเกษตรเพื่อลดต้นทุน เพิ่มผลตอบแทน และนำไปสู่การผลิตสินค้าเกษตรมูลค่าสูง
2) การส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมและบริการตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียนและสังคมคาร์บอนต่ำ ยกระดับอุตสาหกรรมทางการแพทย์และสุขภาพบนฐานเทคโนโลยีดิจิทัล พัฒนาประเทศให้เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะและอุตสาหกรรมดิจิทัล มุ่งเน้นการผลิตอุปกรณ์และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะที่สำคัญในห่วงโซ่อุปทานและมีมูลค่าสูง
สนับสนุนผู้ประกอบการในการปรับเปลี่ยนไปสู่สายการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าและผลิตชิ้นส่วนที่เป็นเทคโนโลยีหลักของยานยนต์แห่งอนาคต ดึงดูดการลงทุนที่เชื่อมต่อกับห่วงโซ่มูลค่าอุตสาหกรรมในประเทศและยกระดับผลิตภาพของอุตสาหกรรมไทย ปรับระบบส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศในอุตสาหกรรมเป้าหมาย โดยเฉพาะอุตสาหกรรมดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์ เซมิคอนดักเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง ยานยนต์สมัยใหม่อาหารแห่งอนาคต พลังงานสะอาด และอุตสาหกรรมชีวภาพ พัฒนาบุคลากรภาคอุตสาหกรรมสู่มาตรฐานระหว่างประเทศ
3) การพัฒนาการท่องเที่ยวที่มีความหลากหลาย ทั้งทางภูมิศาสตร์ ชีวภาพ และวัฒนธรรม ส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้นและการท่องเที่ยวเชิงธุรกิจ อาทิ การจัดประชุมนานาชาติ การจัดแสดงสินค้า การท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล พัฒนาเมืองสุขภาพและการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพแบบครบวงจรโดยเฉพาะในพื้นที่เมืองท่องเที่ยวรอง ยกระดับศักยภาพแหล่งท่องเที่ยวและกิจกรรมท่องเที่ยวทางน้ำ
จัดทำมาตรการกระตุ้นนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติให้ท่องเที่ยวในประเทศไทยเพิ่มขึ้น สนับสนุน สิ่งอำนวยความสะดวก ระบบการให้ความช่วยเหลือ ปราบปรามการฉ้อโกงและการหลอกลวงนักท่องเที่ยวเพื่อยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยว
4) การพัฒนาเศรษฐกิจสำคัญภายใต้เป้าหมายและแนวทางการพัฒนาภาคเพื่อกระจายความเจริญและสร้างศูนย์กลางทางเศรษฐกิจให้เชื่อมโยงทั้งภายในพื้นที่ พื้นที่ใกล้เคียง และต่างประเทศ ริเริ่มพื้นที่ทดลองเชิงนโยบาย (Policy Sandbox) ด้านการเงิน การคลัง และการจัดการลงทุนในระบบขนส่งมวลชนที่หลากหลาย พัฒนาพื้นที่ให้มีการจัดต้นแบบของการวางแผนและบริหารการลงทุนเชิงพื้นที่ตามแนวคิดภูมินิเวศและการพัฒนาเมืองสมัยใหม่ สร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจชุมชนโดยใช้ทุนทางวัฒนธรรม องค์ความรู้ และภูมิปัญญาท้องถิ่นในการผลิตสินค้าและบริการที่มีคุณภาพ
5) การพัฒนาระบบคมนาคมและโลจิสติกส์ให้เชื่อมโยงไร้รอยต่อตั้งแต่ระดับภูมิภาค อนุภูมิภาค และชายแดน เพิ่มขีดความสามารถและความเพียงพอของโครงสร้างพื้นฐานทางราง ยกระดับมาตรฐานการให้บริการและเพิ่มศักยภาพการขนส่งทางลำน้ำและชายฝั่ง พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบขนส่งสาธารณะที่มีความครอบคลุมและออกแบบเพื่อคนทุกกลุ่ม เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการโลจิสติกส์เพื่อลดต้นทุนและลดอุปสรรคการค้าการลงทุน
ส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนและนวัตกรรมประหยัดพลังงานในทุกภาคส่วน พัฒนาเทคโนโลยีด้านสมาร์ทกริดเพื่อเชื่อมโยงและบริหารจัดการการประจุไฟฟ้าแบบบูรณาการ ส่งเสริมการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในการผลิตไฟฟ้า พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัล ที่มีคุณภาพ ครอบคลุม เพียงพอ และเข้าถึงได้ทั้งในด้านพื้นที่และราคา ขยายความครอบคลุมของโครงข่าย สื่อสารหลักภายในประเทศ บรอดแบนด์ความเร็วสูง และโครงข่ายอินเทอร์เน็ตเคลื่อนที่ให้มีเสถียรภาพและสอดคล้องกับแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีดิจิทัล
6) การส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจสีเขียว (Green Transition) และเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Transition) พัฒนาเครื่องมือ ผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่มีความหลากหลายและการค้ำประกันสินเชื่อ พัฒนาช่องทางการเข้าถึงแหล่งทุนที่เหมาะสมและนวัตกรรมรูปแบบใหม่ สนับสนุนสินเชื่อสีเขียว (Green Loan) และตราสารหนี้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (Green Bond) ส่งเสริมผู้ประกอบการในการออกแบบสินค้าและบริการที่มีคุณภาพและได้มาตรฐาน พัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่มีอัตลักษณ์และตราสินค้าที่เด่นชัด
ปรับปรุงสภาพแวดล้อมและกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินธุรกิจและกำกับให้เกิดการแข่งขันที่เป็นธรรม พัฒนาระบบสิทธิประโยชน์จูงใจ สนับสนุน SMEs ในการเปลี่ยนผ่านตามแนวทางการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม มีความรับผิดชอบต่อสังคม และมีการบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาล (Environmental, Social and Governance : ESG)
7) การขับเคลื่อนการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษให้เป็นฐานเศรษฐกิจสำคัญของประเทศโดยส่งเสริมและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจและสังคม ระบบโลจิสติกส์ ระบบดิจิทัล และสิ่งอำนวยความสะดวกที่สอดคล้องกับอุตสาหกรรมการผลิต การท่องเที่ยวและการบริการ และความต้องการของพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ รวมทั้งเชื่อมโยงเขตเศรษฐกิจพิเศษกับพื้นที่เศรษฐกิจหลัก พื้นที่ใกล้เคียงและประเทศในภูมิภาค
ส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายพิเศษที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ยกระดับการผลิตสินค้าและบริการที่สร้างมูลค่าเพิ่ม เพิ่มประสิทธิภาพการเข้าถึงแหล่งทุนโดยส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมการผลิตและบริการที่สอดคล้องกับศักยภาพและความต้องการของพื้นที่ กำหนดสิทธิประโยชน์ทั้งด้านภาษีมิใช่ภาษี มาตรการจูงใจ และอำนวยความสะดวกเพื่อดึงดูดให้เกิดการลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษ
8) การส่งเสริมการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมที่มุ่งตอบโจทย์ภาคการผลิตและบริการเป้าหมาย เพื่อสร้างเทคโนโลยีสำคัญและเทคโนโลยีขั้นสูงที่ยกระดับผลิตภาพและความสามารถในการแข่งขันสนับสนุนการประยุกต์ใช้ผลงานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อต่อยอดสู่เศรษฐกิจสีเขียว กำหนดมาตรการสนับสนุนการวิจัย สิทธิประโยชน์ และมาตรการทางการเงิน การคลัง และภาษี เพื่อจูงใจให้ภาคเอกชนน้ำผลงานไปใช้ประโยชน์ ดึงดูดและพัฒนาบุคลากรวิจัยคุณภาพสูงควบคู่กับการยกระดับทักษะอย่างต่อเนื่องสร้างเครือข่ายความร่วมมือการวิจัยและพัฒนาทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ
3.ยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์
1) การสร้างความเข้มแข็งของสถาบันศาสนา ป้องกันและขจัดการบ่อนทำลายพระพุทธศาสนา และศาสนาอื่น สร้างระบบนิเวศที่เอื้อต่อการพัฒนาสื่อ รูปแบบและช่องทางการสื่อสาร เพื่อปลูกฝังค่านิยมขนบธรรมเนียมประเพณี และวัฒนธรรมที่ดีงามของคนในสังคม
2) การสนับสนุนให้เด็กมีพัฒนาการอย่างรอบด้าน ส่งเสริมการเรียนรู้ที่มุ่งพัฒนาทักษะทางสมอง (Executive Functions) ทักษะพื้นฐานชีวิต (Foundational Skills) อาทิ ทักษะการอ่าน ทักษะด้านดิจิทัล ทักษะทางสังคมและอารมณ์ พัฒนาสมรรถนะแรงงานให้สอดคล้องกับศักยภาพเฉพาะบุคคล และความต้องการของตลาดแรงงาน โดยพัฒนาทักษะความรู้ใหม่ (Upskill) และพัฒนาทักษะเดิม (Reskill) สร้างกลไกเพื่อรวบรวมกำลังคนที่มีสมรรถนะสูงเพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมเป้าหมาย สร้างงานที่ยืดหยุ่นและเหมาะสมให้กับผู้สูงอายุและสนับสนุนการประกอบอาชีพหลังเกษียณ
3) การส่งเสริมการพัฒนาการเรียนรู้ตลอดช่วงชีวิต สนับสนุนการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (Al) เพื่อพัฒนาศักยภาพของผู้เรียน พัฒนาหลักสูตรการจัดการศึกษาและระบบการเรียนรู้ที่เน้นการลงมือปฏิบัติยกระดับการเรียนการสอนในสถาบันการศึกษาให้เทียบเท่ากับระดับนานาชาติ เพื่อให้ผู้เรียนมีสมรรถนะเป็นที่ต้องการของตลาดงาน
4) การยกระดับการดูแลสุขภาพเชิงรุก โดยส่งเสริมสุขภาพกายและจิต การป้องกันโรค และการจัดการโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) อย่างมีประสิทธิภาพ พัฒนาระบบการดูแลระยะยาว (Long-term Care) ที่มีคุณภาพและเข้าถึงได้ ขยายผลการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลทางการแพทย์ อาทิ การแพทย์ทางไกล (Telemedicine) ส่งเสริมความครอบคลุมและประสิทธิภาพของระบบบริการสาธารณสุขระดับปฐมภูมิสนับสนุนการผลิตและพัฒนากำลังคนสุขภาพทั้งระบบ มีระบบการเตรียมความพร้อมด้านสุขภาพเพื่อรองรับการบริหารจัดการภาวะฉุกเฉิน โรคอุบัติใหม่ โรคอุบัติซ้ำ และโรคติดต่ออันตราย
5) การสนับสนุนการเข้าร่วมแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติในทุกระดับ ยกระดับมาตรฐานการจัดการแข่งขันกีฬาเพื่อความเป็นเลิศทั้งในระดับชาติและนานาชาติ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการศึกษาและผู้ฝึกสอน และสร้างเครือข่ายด้านการกีฬาและวิทยาศาสตร์การกีฬา ส่งเสริมการพัฒนาสมรรถนะของนักกีฬา
4.ยุทธศาสตร์ด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม
1) การส่งเสริมการบูรณาการการทำงานของภาคีเครือข่าย ยกระดับศักยภาพบทบาทสตรีความเสมอภาคทางเพศ และสิทธิมนุษยชน เพิ่มขีดความสามารถของชุมชนท้องถิ่นให้เข้มแข็งสามารถบริหารจัดการและพึ่งตนเองได้ ขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะที่เน้นการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน พัฒนาทักษะกลุ่มก่อนวัยเกษียณให้มีความพร้อมด้านเศรษฐกิจและพัฒนาระบบบริการดูแลสุขภาพเพื่อรองรับยามสูงอายุ
2) การพัฒนามาตรการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ ลดภาระหนี้สิน ถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการบริหารจัดการหนี้สิน การออม และการลงทุนให้กับผู้มีรายได้น้อย ยกระดับและพัฒนาผู้ประกอบการเศรษฐกิจฐานรากและวิสาหกิจชุมชนโดยใช้ประโยชน์ของงานวิจัยในการสร้างมูลค่าเพิ่มและเสริมความเข้มแข็งของเศรษฐกิจชุมชน ยกระดับคุณภาพสินค้าและบริการของชุมชนให้สามารถแข่งขันและเติบโตได้อย่างยั่งยืน ขยายโอกาสในการเข้าถึงสิทธิที่ดิน ที่อยู่อาศัย และที่ดินทำกิน ให้เพิ่มขึ้นอย่างเป็นระบบ
3) การปรับปรุงรูปแบบการจัดความคุ้มครองทางสังคมให้ทุกกลุ่มคนได้รับสวัสดิการที่เหมาะสม สนับสนุนการจ้างงานรูปแบบใหม่ที่ตอบสนองต่อความต้องการของแรงงานทั้งในและนอกระบบปรับปรุงรูปแบบการจ่ายเงินสมทบและการให้บริการที่เข้าถึงได้ง่าย พัฒนากลไกกำกับดูแลและบริหารจัดการ ต้นทุนและค่าบริการทางการแพทย์ให้มีประสิทธิภาพ โปร่งใส และคุ้มค่า ส่งเสริมการเกิดและเติบโตของเด็กทุกคนอย่างมีคุณภาพ เท่าเทียม และพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุให้เข้าถึงบริการการดูแล ด้านสาธารณสุขระยะยาว
5.ยุทธศาสตร์ด้านการสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
1) การส่งเสริมการรักษาทรัพยากรธรรมชาติเพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว โดยบริหารจัดการเพื่ออนุรักษ์ฟื้นฟูระบบนิเวศป่าไม้และทรัพยากรธรรมชาติ หยุดยั้งการบุกรุกทำลายพื้นที่ป่า เฝ้าระวังการเกิดไฟป่า อนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลและพื้นที่ชายฝั่ง ส่งเสริมการพัฒนาความร่วมมือกับต่างประเทศในการบริหารจัดการภัยธรรมชาติ ผลักดันสังคมคาร์บอนต่ำเพื่อให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2593 ป้องกันและลดการเผาในภาคการเกษตร เพื่อลดปัญหา ฝุ่นละออง PM2.5
ส่งเสริมและพัฒนาระบบตลาดคาร์บอนและการสร้างรายได้จากการเก็บกักคาร์บอนให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล เพิ่มประสิทธิภาพระบบบริหารจัดการขยะอย่างเป็นระบบ บริหารจัดการ ปัญหามลพิษจากแหล่งกำเนิดในเชิงพื้นที่ รวมทั้งผลักดันกฎหมาย นโยบาย และมาตรการด้านสิ่งแวดล้อม
2) การบริหารจัดการและวางแผนการใช้น้ำอย่างบูรณาการเป็นระบบและสมดุล จัดระบบการบริหารจัดการพิบัติภัยด้านน้ำให้มีการพยากรณ์และระบบเตือนภัยที่มีประสิทธิภาพ ส่งเสริมการพัฒนาและฟื้นฟูระบบชลประทานและการกระจายน้ำในพื้นที่เขตชลประทาน พัฒนาและบริหารจัดการแหล่งน้ำ นอกเขตชลประทานและแหล่งน้ำชุมชน ส่งเสริมและผลักดันการเพิ่มพื้นที่ป่าต้นน้ำและป่าเศรษฐกิจ ที่สร้างรายได้ในพื้นที่ที่ไม่เหมาะสมสำหรับการปลูกพืช เพื่อเพิ่มปริมาณน้ำตามธรรมชาติให้มีเพียงพอต่อการใช้งานทั้งระบบ
6.ยุทธศาสตร์ด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ
1) การพัฒนารัฐบาลดิจิทัลเต็มรูปแบบ นำเทคโนโลยีและอุปกรณ์ดิจิทัลมาสนับสนุนการปฏิบัติงาน พัฒนาการบริการภาครัฐในรูปแบบดิจิทัลแบบเบ็ดเสร็จ เสริมสร้างเสถียรภาพทางการเงินและการคลังให้สอดคล้องกับเงื่อนไขทางเศรษฐกิจ เพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บรายได้ พัฒนาประสิทธิภาพภาคการเงิน ส่งเสริมให้เกิดการชำระเงินทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ ทบทวน ปรับปรุงกฎหมาย นโยบายและมาตรการที่เกี่ยวข้องให้เอื้อต่อการดำเนินงาน
ส่งเสริมบทบาทองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้เป็นหน่วยงานที่มีสมรรถนะสูง สามารถบริหารจัดการตนเองได้มีประสิทธิภาพ ตั้งอยู่บนหลักธรรมาภิบาล โดยพัฒนาแผนพัฒนาท้องถิ่นที่ตอบสนองความต้องการของประชาชน ปรับระบบการบริหารทรัพยากรบุคคลภาครัฐให้เอื้อต่อการพัฒนาประเทศและการขับเคลื่อนการเป็นรัฐบาลดิจิทัล พร้อมทั้งการพัฒนาระบบการประเมินผลบุคลากรภาครัฐ
2) การสร้างความโปร่งใสและธรรมาภิบาลภาครัฐ โดยต้องยึดหลักคุณธรรม ความโปร่งใส และมาตรฐานด้านจริยธรรมอย่างเคร่งครัด ปลูกฝังและปลุกจิตสำนึกคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมต่อต้านการทุจริตในเด็กและเยาวชน ปรับปรุงระบบงานและกระบวนการปราบปรามการทุจริตให้มีประสิทธิภาพรวดเร็ว โปร่งใส และไม่เลือกปฏิบัติ โดยพัฒนากลไกตรวจสอบภายในให้เป็นอิสระและมืออาชีพ
3) การยกเลิกกฎหมายที่หมดความจำเป็น พัฒนากฎหมายที่เอื้อต่อการพัฒนาประเทศ และปรับปรุงกระบวนการยุติธรรมให้มีประสิทธิภาพ กำหนดให้มีหน่วยงานกลางดำเนินการเร่งรัดการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายที่ล้าสมัย หรือเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินงานและการปรับตัวให้ทันการณ์ของภาครัฐ
รายการค่าดำเนินการภาครัฐ ประกอบด้วย รายจ่ายเพื่อรองรับกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น รายจ่ายเพื่อการชำระหนี้ภาครัฐ และรายจ่ายเพื่อชดใช้เงินคงคลัง
อ่านประกอบ :
ครม.เคาะงบปี 70 วงเงิน 3.788 ล้านล. 'รายจ่ายประจำ' 2.77 ล้านล้าน-คืนต้นเงินกู้ 1.5 แสนล.
ชำแหละ 6 ยุทธศาสตร์ งบปี 69 วงเงิน 3.78 ล้านล. สานฝัน นโยบายเรือธง รบ.แพทองธาร
ส่องยุทธศาสตร์งบปี 68 'เพื่อไทย'ดัน'ซอฟต์พาวเวอร์-ผู้ว่าฯCEO' ลุย'ปราบอิทธิพล'-ต่อยอดEEC
เปิดยุทธศาสตร์งบ 67 รบ.'เศรษฐา'ดัน 28 เรื่องด่วน-คาดทูลเกล้าฯ'ร่างพ.ร.บ.งบฯ'เม.ย.ปีหน้า

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา