
ทภ.2 สรุปสถานการณ์ขัดแย้งกัมพูชา-ไทย เผยฝ่ายกัมพูชายังระดมยิง BM-21 ใส่ 4 จังหวัดชายแดน ขณะฝ่ายไทยตอบโต้กลับทำทหารกัมพูชาตาย 102 นาย ทำลายรถถีงได้ 6 คัน โดรนอีก 64 ลำ ขณะยอดตายทหารไทย 9 นายแล้ว
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวความขัดแย้งไทยและกัมพูชา อ้างอิงข่าวจากเฟซบุ๊กกองทัพภาคที่ 2 (ทภ.2) ระบุว่าตามที่เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2568 กัมพูชาได้ทำการยิงใส่ชุดลาดตระเวนของทหารไทยในพื้นที่ภูผาเหล็ก อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ เป็นเหตุให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บ 2 นาย และได้เริ่มเปิดฉากการยิงด้วยปืนใหญ่และจรวดหลายลำกล้อง (BM-21) เข้ามายังพื้นที่ดินแดนไทยตลอดแนวชายแดน ได้แก่ จังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ และบุรีรัมย์ ทำให้บ้านเรือนของประชาชน พื้นที่การเกษตร และสถานพยาบาลในพื้นที่ได้รับความเสียหายอย่างมาก
ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ได้เร่งอพยพประชาชนเข้าพื้นที่ปลอดภัย ณ ศูนย์พักพิงประจำจังหวัดที่ได้จัดเตรียมไว้ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน หลังจากนั้นฝ่ายเราจึงได้ ทำการยิงตอบโต้ตามกฎการใช้กำลังอย่างได้สัดส่วนไปยังพื้นที่ที่เกิดภัยคุกคาม ด้วยอาวุธวิถีตรงและวิถีโค้งต่อฝ่ายกัมพูชา เพื่อสกัดกั้น ยับยั้งและทำลายอันตรายที่สร้างความเสียหายให้กับประชาชนในพื้นที่ อันประกอบด้วยพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน 13 แนวรบ ดังนี้.
1. ด้าน จ.อุบลราชธานี จำนวน 2 แนวรบหลัก ได้แก่
1.1 พื้นที่ช่องบก
1.2 พื้นที่ช่องอานม้า
2. ด้าน จ.ศรีสะเกษ จำนวน 5 แนวรบหลัก ได้แก่
2.1 พื้นที่ซำแต
2.2 โดนตรวล-ภูผี-สัตตะโสม-พนมประสิทธิโส-ช่องตาเฒ่า
2.3 ผามออีแดง และห้วยตามาเรีย
2.4 ภูมะเขือ-ช่องโดนเอาว์-พลาญยาว-พลาญหินแปดก้อน
2.5 ช่องสะงำ
3. ด้าน จ.สุรินทร์ จำนวน 5 แนวรบหลัก
3.1 ช่องจอม-ช่องเปรอ-ช่องระยี
3.2 พื้นที่คนา
3.3 พื้นที่ตาควาย
3.4 พื้นที่ช่องกร่าง
3.5 พื้นที่ตาเมือนธม
4. ด้าน จ.บุรีรัมย์ จำนวน 1 แนวรบหลัก
- ช่องสายตะกู :
@ผลการปฏิบัติที่สำคัญในวันที่ 11 ธ.ค. 68
1. ช่องอานม้า : เข้าควบคุมพื้นที่ได้บางส่วน
2. เข้าทำลายฐานปฏิบัติการข้าศึก บริเวณพื้นที่ซำแต
3. พื้นที่ช่องระยี - ช่องเปรอ : เข้ายึดพื้นที่คืนถึงเส้นปฏิบัติการ แต่ยังถูกต่อต้านเป็นระยะ
4. พื้นที่คนา : เข้ายึดแล้ว 2 ที่หมาย ปัจจุบันถูกตีโต้ตอบจากฝ่ายตรงข้าม
5. พื้นที่ตาควาย : ยิงทำลายฐานทหารรอบปราสาท และเนิน 350 แต่ยังเข้าควบคุมไม่ได้ เนื่องจากถูกต่อต้านอย่างหนักจากอาวุธยิงสนับสนุน โดรน และกับระเบิดของฝ่ายกัมพูชาอย่างหนาแน่น
จากการปฏิบัติของฝ่ายเรา ตั้งแต่วันที่ 7 ธันวาคม ที่ผ่านมาคาดว่า
1. ทหารกัมพูชา เสียชีวิต 102 ราย
2. ทำลายรถถัง T-55 จำนวน 6 คัน (ในพื้นที่พนมประสิทธิโส)
3. ทำลายจรวดหลายลำกล้อง (BM-21) จำนวน 1 คัน
4. ทำลายระบบโดรน จำนวน 64 ลำ
5. ทำลายแอนตี้โดรน 1 ระบบ ในพื้นที่ห้วยตามาเรีย
การอพยพประชาชน ปัจจุบันในพื้นที่ 31 อำเภอ 4 จังหวัดชายแดน และ 4 อำเภอ 1 จังหวัดพื้นที่ตอนใน ได้เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราว 751 แห่ง รวม 222,548 คน ประกอบด้วย จ.อุบลราชธานี 34,104 คน จ.ศรีษะเกษ 106,691 คน จ.สุรินทร์ 74,640 คน จ.บุรีรัมย์ 6,780 คน และ จ.นครราชสีมา 333 คน
ยอดอพยพประชาชนกลุ่มเปาะบาง จำนวน 182 จุด ประชาชน จำนวน 22,999 คน ประกอบด้วย จังหวัด อุบลราชธานี จำนวน 175 คน จังหวัดศรีษะเกษ จำนวน 91 คน จังหวัดสุรินทร์ จำนวน 22,112 คน และจังหวัดบุรีรัมย์ จำนวน 621 คน
สำหรับยอดเสียชีวิตฝั่งไทย มีผู้เสียชีวิตเป็นทหาร 9 นาย ประชาชน 3 คน และมีผู้บาดเจ็บรวม 120 คน โดยรายชื่อผู้เสียชีวิตในฝั่งทหาร แบ่งเป็นรายวันประกอบด้วย
วันที่ 8 ธ.ค.2568
1.จ.ส.อ.ศตวรรษ สุจริต สังกัดกองร้อยทหารม้าลาดตระเวนที่ 6 เสียชีวิตพื้นที่ฐานป้องไพร ช่องบก
วันที่ 9 ธ.ค. 2568
2. พลทหาร วายุ ขวัญเสือ สังกัด กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่31 รักษาพระองค์ เสียชีวิต จากสะเก็ดระเบิดอาวุธวิถีโค้ง พื้นที่ฐานปฏิบัติการ 225 จ.สุรินทร์
3. ส.อ.ชวกร เดชขุนทด สังกัด กองพันทหารม้าที่ 11 กรมทหารม้าที่ 4 รักษาพระองค์ เสียชีวิต จากเครื่องยิงลูกระเบิด พื้นที่พระวิหาร
4.จ.ส.ท.จิระวัฒน์ มุ่งกลาง สังกัดกองพันทหารช่างที่ 1 รักษาพระองค์ (ช.พัน.1 รอ.) เสียชีวิต จากการถูกทหารกัมพูชายิงด้วยปืนไร้แรงสะท้อนถอยหลัง (ปรส.) จากบริเวณเนิน 677 ช่องอานม้า จ.อุบลราชธานี
วันที่ 10 ธ.ค. 2568
6. จ.ส.อ.อนันดา อุดร สังกัดกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 16 (ร.16 พัน 3) กองพลทหารราบที่ 6 (พล.ร.6) ค่ายบดินทรเดชา จังหวัดยโสธร เสียชีวิตในสมรภูมิภูมะเขือ
7. พลทหาร ธนรัตน์ จันทร์ประทัด ตำแหน่ง พลปืนเล็ก สังกัดกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 112 (ร.112 พัน 3) เสียชีวิตจากการโดนกระสุนปืน ค. ตกใส่ บริเวณ จต.16 สมรภูมิคลองแผง เป็นแผลฉกรรจ์ บริเวณขาขวา
วันที่ 11 ธ.ค. 2568
8.พลทหารชาญชัย ผดุงโชค อายุ 22 ปี กองกำลังรบกองทัพภาคที่ 1 สังกัดกรมทหารราบที่ 112 กองพันทหารราบที่ 3 (ร.112 พัน.3) ตำแหน่งพลยิงปืนกล เสียชีวิตที่สมรภูมิบึงตะกวน-บ้านคลองแผง อ.ตาพระยา จากการถูกกระสุนปืน ค. ฝ่ายกัมพูชาตกใส่
9.พลทหารธนกร สิงหาชาติ สังกัดกองร้อยทหารราบที่ 211 กองพันทหารราบที่ 21 ตำแหน่งพลยิงลูกระเบิด 40 มม. ปืน M203 เสียชีวิตจากการถูกสะเก็ดกระสุน ปืน ค.ของฝ่ายกัมพูชาที่ปราสาทตาเมือนธม
ขณะที่รายชื่อผู้เสียชีวิตในฝั่งพลเรือนประกอบด้วย
1นายประหยัด ปาลี – ไม่ทราบอายุ เสียชีวิตจากอาการแน่นหน้าอก หายใจไม่ออก เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. 68 เวลา 19.00 น. พื้นที่ จ.อุบลราชธานี
2.นางสมจิตร สุกรี - อายุ 48 ปี เสียชีวิตจากช็อกและหมดสติ เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. 68 เวลา 19.30 น. พื้นที่ จ.บุรีรัมย์
3.พระศักดา ฉิมมาลา - อายุ 82 ปี เสียชีวิตจากหัวใจล้มเหลว เนื่องจากตกใจเสียงปืนใหญ่ เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. 68 เวลา 15.00 น. พื้นที่ จ.สระแก้ว

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา