อิศรา' อัพเดตความเคลื่อนไหวสถานการณ์ไวรัสโคโรน่า หรือโรคโควิดยอดสะสมล่าสุด 20.4 ล. -'ทรัมป์'อัดฉัด 4.7 หมื่นล้าน ตุนวัคซีนโควิดอีก 100 ล้านโดส-'ปูติน'ประกาศ'รัสเซีย'ประเทศแรกของโลกพัฒนาวัคซีนต้านโควิดสำเร็จ- หัวหน้ากองทุนความมั่งคั่ง'รัสเซีย'ทดลองระยะ 3 แน่ในต่างประเทศ โวได้รับยอดสั่งล่วงหน้าแล้วพันล้านโดส-'WHO' เตือน สถานการณ์ระเบิด 'เลบานอน' ส่อทำโควิดระบาดเพิ่มอีก-'ญีปุ่น'ตัวเลขติดเชื้อทั่ว ปท.ลดลง-'นิวซีแลนด์'ประกาศปิดเมือง'โอ๊คแลนด์'หลังพบผู้ติดเชื้อ 1 ราย
------------------
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานความคืบหน้าสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อโคโรน่าไวรัสหรือ โรคโควิด-19 ล่าสุด ว่า ในช่วงเช้าวันที่ 12 ส.ค. 2563 ตามเวลาประเทศไทย เว็บไซต์ World Meter ได้รายงานจำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อว่า มีจำนวนทั้งสิ้น 20,492,877ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 247,307ราย เสียชีวิต 744,131ราย เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 5,829 ราย
สำหรับสถานการณ์ใน ทวีปอเมริกาเหนือ สหรัฐอเมริกา ยังคงเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสะสม และผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุดในโลก จำนวนผู้ติดเชื้อล่าสุดอยู่ที่ 5,303,602 ราย ติดเชื้อรายใหม่ 52,164 ราย เสียชีวิต 167,547ราย เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 1,355 ราย ทำให้สหรัฐฯกลับมาเป็นประเทศที่มีจำนวนผู้เสียชีวิตรายวันอีกครั้งหนึ่ง
โดยรัฐที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อสูงสุดในสหรัฐฯ คือ รัฐแคลิฟอเนียร์ มีผู้ติดเชื้อใหม่ทั้งสิ้น 11,500ราย
ส่วนความเคลื่อนไหวอื่นๆในสหรัฐฯมีรายงานว่าทีมบริหารของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯได้บรรลุข้อตกลงกับบริษัทมอร์เดอน่า คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 1.525 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (47,488,500,000 บาท) ในการที่บริษัทจะส่งมอบวัคซีนรักษาโควิด 19 ที่กำลังพัฒนาจำนวน 100 ล้านโดส เมื่อวัคซีนได้รับการอนุมัติว่าใช้งานได้แล้ว
ส่วนสถานการณ์ที่ประเทศเม็กซิโก มีผู้ติดเชื้อสะสม485,836 ราย ติดเชื้อใหม่ 5,558 ราย เสียชีวิต 53,003 ราย เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 705 ราย
ทวีปอเมริกาใต้บราซิล มียอดผู้ติดเชื้อสะสมอันดับ 1 ของทวีปและเป็นอันดับ 2 ของโลก จำนวนผู้ติดเชื้อมีทั้งสิ้น 3,112,393 ราย ติดเชื้อใหม่ 54,923 ราย เสียชีวิต 103,099 ราย เสียชีวิตใหม่ 1,242 ราย
ทวีปยุโรป ประเทศรัสเซีย มีผู้ติดเชื้อมากที่สุด 897,599 ราย ติดเชื้อใหม่ 4,945 ราย เสียชีวิต 15,131 ราย เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 130 ราย
โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 10 ส.ค. นายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียได้ประกาศระหว่างหว่างการประชุมกับรัฐมนตรีว่าว่า รัสเซียได้ประกาศขึ้นทะเบียนวัคซีนต่อต้านไวรัสโควิด 19 ที่เป็นประเทศแรกของโลก โดยตัวเขายืนยันว่าวัคซีนตัวนี้ปลอดภัย และลูกสาวคนหนึ่งของเขาฉีดวัคซีนนี้ด้วย โดยมีอาการแค่มีไข้เล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งทางการรัสเซียได้ตั้งชื่อเล่นกับวัคซีนชนิดนี้ว่าสปุ๊ตนิก 5
นายปูตินกล่าวต่อถึงกำหนดการการทดลองวัคซีนว่า ณ เวลานี้การทดลองทางการรักษายังไม่เสร็จสมบูรณ์ โดยการทดลองระยะการรักษาระยะที่ 3 ที่ทดลองกับอาสาสมัครจำนวน 2,000 คนนั้นจะเริ่มในวันพุธที่ 12 ส.ค.
ขณะที่องค์การอนามัยโลกหรือ WHO ได้ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับการพัฒนาวัคซีนของประเทศรัสเซียว่าการเร่งการวิจัยวัคซีนควรจะมีการดำเนินตามขั้นตอนที่ได้วางเอาไว้อย่างเหมาะสม เพื่อจะทำให้เกิดความมั่นใจได้ว่าวัคซีนที่จะเข้าสู่กระบวนการผลิตนั้นมีประสิทธิภาพและปลอดภัย ซึ่งวัคซีนที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยก็จะเป็นประโยชน์ต่อประชาคมโลกตามไปด้วย ดังนั้นทาง WHO จึงเรียกร้องว่าการพัฒนาวัคซีนที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลก ณ เวลานี้นั้นควรจะมีทั้งความรวดเร็ว ความถูกต้อง และความเท่าเทียมกันในการเข้าถึงเพื่อการใช้ในการรักษา
ขณะที่นายคิริล ดมิทรีฟ (Kirill Dmitriev) หัวหน้ากองทุนเพื่อการลงทุนของประเทศรัสเซีย ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นของสหรัฐฯว่า ประเทศรัสเซียได้มีความร่วมมือกับคู่ค้าจากต่างประเทศ โดยขณะนี้ก็มีความพร้อมในการผลิตวัคซีนมากกว่า 500 ล้านโดสต่อปี ใน 5 ประเทศด้วยกัน และจะได้เพิ่มขีดความสามารถในการผลิตวัคซีนให้มากขึ้นไปอีก
นายคิริลกล่าวต่อว่า ณ เวลานี้ ประเทศในแถบละตินอเมริกา ตะวันออกกลาง และในเอเชียได้แสดงความสนใจในวัคซีนของรัสเซีย และขณะนี้ประเทศรัสเซียกำลังจะได้ข้อสรุปเกี่ยวกับตัวเลขของคู่ค้าที่จะซื้อวัคซีนจากทางประเทศรัสเซีย
เมื่อถามเกี่ยวกับวัคซีนที่ยังไม่ผ่านการทดลองการรักษาในระยะ 3
นายคิริลกล่าวว่าการทดลองเหล่านั้นจะมีการดำเนินการในต่างประเทศ โดยตอนนี้รัสเซียได้มีข้อตกลงด้านการทดลองรักษาของสถาบันวิจัยวิทยาการระบาดและจุลชีววิทยาแห่งชาติกามาเลอี (Gamalei National Research Center for Epidemiology and Microbiology) ที่ได้ทำสัญญากับประเทศคู่เจรจาได้แก่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ซาอุดิอาระเบีย และประเทศอื่นๆอีก
"ขณะนี้มีความพยายามของสื่อที่จะโจมตีวัคซีนของประเทศรัสเซีย โดยเป็นความพยายามที่จะทำลายความน่าเชื่อถือและปกปิดความความถูกต้องของประเทศรัสเซียในการพัฒนาอุตสาหกรรมวงการยา ส่วนข้อวิจารณ์เรื่องที่ว่าเราไม่ได้ทดลองวัคซีนในระยะ 3 นั้น ผมต้องขอเรียนว่าตามกฎหมายของประเทศรัสเซีย ในช่วงเวลาที่มีเหตุการณ์โรคระบาดแบบนี้ เราสามารถดำเนินการทดลองวัคซีนระยะ 3 กับบุคลากรทางการแพทย์และกลุ่มเสี่ยงในประเทศรัสเซียได้เลย ซึ่งสิ่งที่เราทำนั้นเรารู้ว่าเป็นแนวทางที่ถูกต้องและมีเหตุมีผล และทั้งโลกก็รับรู้เช่นกันว่า เราได้พัฒนาวัคซีนตามหลักวิทยาศาสตร์ ดังจะเห็นได้จากตอนนี้ที่เรามียอดสั่งซื้อวัคซีนล่วงหน้าเป็นจำนวน 1 พันล้านโดสแล้ว ซึ่งท้ายที่สุด ผมเชื้อว่าเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์แนวทางของประเทศรัสเซียเอง"นายคิริลกล่าว
ติดตามวิดีโอการให้สัมภาษณ์นายค ได้ที่เฟสบุ๊กของสำนักข่าวซีเอ็นเอ็น
สำหรับสถานการณ์ทวีปเอเชีย อินเดียยังคงมีผู้ติดเชื้อเป็นอันดับ 1 ของทวีป มีผู้ติดเชื้อสะสม 2,328,405 ราย ติดเชื้อใหม่ 61,252 ราย เสียชีวิตสะสม 46,188 ราย เสียชีวิตใหม่ 835 ราย จึงทำให้ ณ เวลานี้อินเดียกลายเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อเป็นอันดับหนึ่งของโลก
ขณะที่ประเทศเลบานอน มีผู้ติดเชื้อใหม่ 309 ราย และมีผู้เสียชีวิตใหม่ 7 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 7,121 ราย และเสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 87 ราย
ขณะที่นายทาริค จารเซวิค (Tarik Jarasevic) โฆษก WHO ได้รายงานไปยังที่ประชุมสหประชาชาติในกรุงเจนีวาว่าจากสถานการณ์การระเบิดของสารแอมโมเนียมไนเตรทที่เกิดขึ้นที่ท่าเรือกรุงเบรุตเมื่อวันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา จึงทำให้มีความเสี่ยงที่ประชาชนเลบานอนจำนวนมากจะเคลื่อนย้ายออกจากประเทศเพื่อหนีจากภัยทุกข์ยาก อันจะเป็นปัจจัยเร่งให้เกิดการระบาดของไวรัสโควิด 19 เพิ่มเติมอีก
นายทาริคกล่าวต่อไปว่าสถานการณ์ฉุกเฉินในกรุงเบรุตทำให้มาตรการป้องกันไวรัสโควิด 19 ต่างๆนั้นไม่สามารถบังคับใช้ได้อย่างเต็มที่ จึงจะทำให้มีความเสี่ยงว่าจะมีการแพร่เชื้อและจะมีผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมากในช่วงไม่กี่สัปดาห์หลังจากนี้
โดยมีรายงานว่าจากสถานการณ์การระเบิดทำให้ตอนนี้กรุงเบรุตมีสถานพยาบาลเพียงแค่ 47 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่สามารถใช้งานได้
ส่วนที่ประเทศจีน มีผู้ติดเชื้อใหม่ 44 ราย เป็นการระบาดจากต่างประเทศจำนวน 31 ราย และอีก 13 ราย เป็นการระบาดในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์
ขณะที่ เขตปกครองพิเศษฮ่องกง มีผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่ม 33 ราย และเสียชีวิต 3 ราย
ที่ประเทศญี่ปุ่น มีรายงานผู้ติดเชื้อใหม่จำนวน 694 ราย เสียชีวิตใหม่ 3 ราย โดยจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ทั้งหมด 188 ราย เป็นผู้ติดเชื้อในกรุงโตเกียว
และขณะนี้มีรายงานว่าหลายพื้นที่ทั่วประเทศญี่ปุ่นมีตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด 19 รายใหม่อยู่ในเส้นที่ลดลงอีกครั้งหนึ่ง โดยที่จังหวัดไอจิมีผู้ติดเชื้อมีผู้ติดเชื้อใหม่ 67 ราย ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 15 วันที่จังหวัดนี้มีผู้ติดเชื้อต่ำกว่า 100 ราย
สำหรับสถานการณ์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียน ประเทศฟิลิปปินส์ มีผู้ติดเชื้อสะสมสูงสุด 139,538 ราย ติดเชื้อใหม่ 2,987 ราย เสียชีวิตสะสม 2,312 ราย เสียชีวิตใหม่ 19 ราย
ที่อินโดนีเซีย มีผู้ติดเสียชีวิตสะสมสูงสุด 5,824 ราย เสียชีวิตใหม่ 59 ราย ทำให้อินโดนีเซีย ยังคงเป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิตสะสม และผู้เสียชีวิตรายวันสูงที่สุดในอาเซียน
ส่วนประเทศเพื่อนบ้านของไทย ประเทศมาเลเซีย มีผู้ติดเชื้อใหม่ 9 ราย กัมพูชามีผู้ติดเชื้อ 15 ราย และเวียดนามมีผู้ติดเชื้อใหม่ 16 รายและเสียชีวิต 1 ราย
ทวีปแอฟริกาประเทศแอฟริกาใต้ ยังเป็นประเทศที่ติดเชื้ออันดับ 1 ในทวีป มีผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น 566,109 ราย ติดเชื้อใหม่2,511 ราย เสียชีวิต10,751 ราย เสียชีวิตรายใหม่ 130 ราย
ส่วนความเคลื่อนไหวใน ภูมิภาคโอเชียเนีย ออสเตรเลีย มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 353 ราย และมีผู้เสียชีวิตใหม่อีก 18 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ในรัฐวิกตอเรีย 331ราย และในรัฐนิวเซาท์เวลส์ 22 ราย และล่าสุดมีรายงานตัวเลขวันที่ 12 ส.ค.อย่างไม่เป็นทางการว่าออสเตรเลียมีผู้ติดเชื้อใหม่ 410 ราย และมีผู้เสียชีวิตใหม่ 21 ราย
และล่าสุดทางผู้เชี่ยวชาญได้ออกประกาศเตือนว่าประเทศออสเตรเลียนั้นมีรายงานผู้เสียชีวิตซึ่งเป็นคนชราที่อาศัยอยู่ในบ้านพักคนชราจากไวรัสโควิด 19 สูงเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากประเทศแคนาดาที่มีผู้เสียชีวิตในบ้านพักคนชราด้วยอัตรา 80 เปอร์เซ็นต์
ส่วนนิวซีแลนด์มีผู้ติดเชื้อใหม่ 1 ราย ในเมืองโอ๊คแลนด์ ซึ่งเป็นการติดเชื้อในประเทศนิวซีแลนด์เป็นครั้งแรกในรอบ 102 วัน ทำให้ทางการเมืองโอ๊คแลนด์ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในนิวซีแลนด์ได้ประกาศใช้มาตรการปิดเมืองเพื่อควบคุมการระบาดแล้ว
เรียบเรียงจาก:https://www.aljazeera.com/topics/events/coronavirus-outbreak.html,https://www.worldometers.info/coronavirus/,https://www.theguardian.com/world/coronavirus-outbreak
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage