
มูลนิธิโรคไตแห่งประเทศไทย ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดประชุมเชิงปฏิบัติการอาหารและโภชนาการ ป้องกันโรคไตในกลุ่มเสี่ยงและกลุ่มผู้ป่วย
ปัจจุบัน ประเทศไทยมีผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จากระบบคลังข้อมูลด้านการแพทย์และสุขภาพ พบผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังกว่า 1 ล้านคน เป็นผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังระยะที่ 3 กว่า 4 แสนคน ระยะที่ 4 กว่า 1 แสนคน และระยะที่ 5 ซึ่งต้องล้างไตก็มีมากกว่า 1 แสนคน และจะยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญของประเทศ จึงต้องเร่งป้องกันผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง และให้การดูแลรักษาผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง เพื่อป้องกันหรือชะลอไม่ให้เกิดโรคไตวายระยะสุดท้ายที่ต้องเข้ารับการบำบัดทดแทนไต ได้แก่ การล้างช่องท้องด้วยน้ำยา การฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม และการผ่าตัดปลูกถ่ายไต ซึ่งปัจจุบันมีผู้ป่วยรอรับการผ่าตัดอยู่เป็นจำนวนมาก
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงตระหนักถึงปัญหาและความจำเป็นในเรื่องนี้ ว่า การป้องกันดีกว่าการรักษา ได้พระราชทานพระราโชวาทว่า ’การรณรงค์เผยแพร่ความรู้แก่ประชาชนเรื่องอาหารและโภชนาการ ตลอดจนวิธีปฏิบัติตนให้ปลอดพ้นจากโรคไต เป็นทางหนึ่งที่จะช่วยลดจำนวนผู้ป่วยโรคไตลงได้‘

มูลนิธิโรคไตแห่งประเทศไทยจึงขอพระราชทานพระราชานุญาต จัดทำ “โครงการป้องกันโรคไต อันเนื่องมาจากพระราชดำริ” ขึ้น โดยร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ได้แก่ สมาคมนักกำหนดอาหารแห่งประเทศไทย กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สมาคมโรคไตแห่งประเทศไทย และสมาคมเพื่อนโรคไต จัดประชุมเชิงปฏิบัติการอาหารและโภชนาการ รวมทั้งโรคไตในกลุ่มเสี่ยงและกลุ่มผู้ป่วย เป็นเวลา 2 วัน ในวันที่ 14 และ 15 ธันวาคม 2567 ระหว่างเวลา 09.00 - 15.30 น. ที่ห้องประชุมสลากกินแบ่งรัฐบาล ชั้น 9 ตึกกัลยาณิวัฒนา โรงพยาบาลสงฆ์ ถนนศรีอยุธยา กรุงเทพฯ เพื่อให้ความรู้แก่ประชาชน เกี่ยวกับโรคไต สาเหตุ การป้องกัน การดูแลรักษาผู้ป่วย และกิจกรรมต่างๆ เช่น เทคนิคการเลือกอาหารชะลอไตเสื่อม
ทั้งนี้ อาหาร เป็น 1 ในปัจจัย 4 ของชีวิต ถ้าร่างกายได้รับอาหารน้อยไปจะเกิดภาวะการขาดอาหาร ถ้าได้รับมากเกินไปก็จะเกิดโทษต่ออวัยวะต่างๆ และถ้าได้รับอาหารที่ไม่ถูกกับสภาวะอวัยวะของร่างกาย ก็อาจจะเกิดอันตรายต่อชีวิตได้ การเรียนรู้เรื่องการกินอาหารให้ถูกกับโรค โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคไต ทั้งในกลุ่มเสี่ยงที่ยังไม่เป็นโรคไต และในกลุ่มผู้ป่วยโรคไตระยะต่างๆ จึงมีความจำเป็น เพราะคนไทยมีแนวโน้มบริโภคโซเดียมมากเกินไป อาจมาจากความชอบรับประทานอาหารเค็ม ติดรสเค็ม หรือจากความไม่รู้ส่วนประกอบของปริมาณโซเดียมในอาหารประเภทนั้นๆ ซึ่ง ร่างกายคนเราควรบริโภคโซเดียมไม่เกินวันละ 2,000 มิลลิกรัมหรือเทียบเท่าเกลือ 1 ช้อนชา หากบริโภคโซเดียมมากเกินไปเป็นระยะเวลานาน จะก่อให้เกิดโรคต่างๆ ทั้งโรคหัวใจ หลอดเลือดสมอง ความดันโลหิตสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคไตเรื้อรังได้




Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา