อ่างเก็บน้ำที่มีชื่อว่าซานตาอิเนซ (Santa Ynez Reservoir) ถูกออกแบบมาให้บรรจุน้ำที่สามารถดื่มได้ 117 ล้านแกลลอน แต่ว่าอ่างเก็บน้ำนี้ถูกสั่งปิดในช่วงไม่กี่เดือนก่อนเพื่อซ่อมแซมรอยรั่วที่ฝาครอบอ่างเก็บน้ำ โดยฝาครอบดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันสิ่งแปลกปลอมที่จะตกลงไปในอ่างเก็บน้ำจนกระทบคุณภาพน้ำดื่ม
ส่องคดีทุจริตโลก สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) สัปดาห์นี้ขอนำเสนอกรณีเหตุภัยพิบัติไฟป่า ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ซึ่งมีรายงานข่าวว่าหัวดับเพลิงในพื้นที่หลายแห่งในนครลอสแอนเจลิส (แอลเอ) ประสบปัญหาไม่มีน้ำใช้งาน
โดยมีรายงานว่าในช่วงเหตุเพลิงไหม้ พนักงานดับเพลิงต้องถูกบังคับให้มองดูย่านแปซิฟิก พาลิเซด (Pacific Palisades) ซึ่งเป็นหนึ่งในหนึ่งในย่านที่สวยงามและเต็มไปด้วยที่อยู่อาศัยคนดังต่างๆในแอลเอ ต้องถูกเพลิงไหม้เป็นเวลานานนับชั่วโมง เพราะหัวดับเพลิงใช้งานไม่ได้
ทางด้านของนายริค คารูโซ เจ้าของห้างในย่านพาลิเซดกล่าวว่าพนักงานดับเพลิงมาแล้วแต่พวกเขาทำอะไรไม่ได้ เนื่องจากไม่มีน้ำในหัวดับเพลิง ซึ่งเรื่องนี้ไม่ควรเกิดขึ้นเลย
นางคาเรน แบส ไม่ตอบคำถามของผู้สื่อข่าวต่อกรณีปัญหาการจัดการไฟป่า (อ้างอิงวิดีโอจาก AP)
ส่วนสำนักข่าวเดลี่เมล์ของอังกฤษได้มีการนำเสนอบทความความว่าแท้จริงแล้วบุคคลที่ต้องรับผิดชอบในเรื่องนี้น่าจะเป็นประธานคณะกรรมการผู้บริหารหรือซีอีโอกรมน้ำและพลังงานของแอลเอหรือ LADWP ชื่อว่านางเจนิส ควิโนเนส ซึ่งได้รับค่าจ้างให้ทำงานต่อปีถึง 7.5 แสนดอลลาร์สหรัฐฯ (26,045,989 บาท) หรือมากกว่าซีอีโอคนก่อนหน้าถึงสองเท่า
สำหรับการดำรงตำแหน่งของนายควิโนเนส มาจากคำสั่งของนางคาเรน แบส นายกเทศมนตรีนครแอลเอ ซึ่งต้องการใช้งบประมาณไปเพื่อดึงดูดผู้มีความสามารถจากภาคส่วนเอกชนให้ช่วยงานรัฐ ส่งผลทำให้นางควิโนเนสได้รับการว่าจ้างเมื่อปีที่แล้ว
ตอนนี้นางควิโนเนสนั้นถูกกล่าวหาจากบุคคลวงในหน่วยงานดับเพลิงแอลเอหรือ LAFD ที่กล่าวหาว่าเธอทำให้อ่างเก็บน้ำในบริเวณใกล้เคียงไม่สามารถจ่ายน้ำให้กับหัวจ่ายน้ำดับเพลิง และปล่อยให้มีหัวดับเพลิงเสียหายเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว นี่ส่งผลทำให้มีภาพนักผจญเพลิงไม่มีน้ำระหว่างผจญเพลิง
ทางเดลี่เมล์ยังได้สืบทราบมาอีกว่าอดีตนายจ้างของนางควิโนเนส ยังมีประวัติเชื่อมโยงกับกรณีอื้อฉาวอันเกี่ยวข้องกับเหตุเพลิงไหม้ เพราะเธอเคยดำรงตำแหน่งรองประธานในบริษัทไฟฟ้าชือว่า พีจี แอนด์ อี (PG&E) ในช่วงปี 2564-2566 ซึ่งบริษัทนี้ล้มละลายเพราะว่าต้องเผชิญกับข้อกล่าวหาเกี่ยวข้องกับเหตุไฟป่าหลายครั้งในแคลิฟอร์เนีย
มีรายงานว่าในปี 2561 สายส่งไฟฟ้าของบริษัทนี้เคยเกิดเหตุลัดวงจรส่งผลทำใหเกิดเหตุเพลิงไหม้ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองในรัฐแคลิฟอร์เนีย ส่งผลทำให้บริษัทพีจี แอนด์ อี ต้องจ่ายเงินระงับข้อพิพาททางกฎหมายไปถึง 1.35 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (468,827,812,350 บาท)
ความรับผิดชอบของบริษัทที่มีการกล่าวหาในช่วงที่บริษัทยื่นล้มละลายในปี 2561 ก็คือว่าบริษัททำให้เกิดเหตุไฟป่าความเสียหายถึง 3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (1,041,839,583,000 บาท) และในปี 2563 บริษัทแห่งนี้ก็ออกจากการล้มละลาย
สำหรับตัวนางควิโนเนสเข้าทำงานในบริษัท พีจี แอนด์ อี ในเดือน เม.ย. 2564 ในฐานะรองประธานอาวุโสฝ่ายวิศวกรรมและแก๊ส ย้ายไปเป็นรองประธานอาวุโสฝ่ายปฏิบัติการไฟฟ้าในเดือน ก.ค.2565 ก่อนจะลาออกจากบริษัทในเดือน ธ.ค.2566
นางเจนิส ควิโนเนส ประธาน LADWP เรียกร้องให้ประชาชนประหยัดน้ำเพื่อรับมือเหตุไฟป่า (อ้างอิงวิดีโอจากฟอร์บส์ )
สำหรับกรณีไฟป่าครั้งนี้ทางแหล่งข่าวให้ข้อมูลกับเดลี่เมล์ว่าหลังจากการว่าจ้างนางควิโนเนส เธอได้สั่งมีการปิดและล้างอ่างเก็บน้ำในย่านแปซิฟิก พาลิเซด ในช่วงฤดูไฟป่า
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าการปิดอ่างเก็บน้ำหมายความว่านักผจญเพลิงจะใช้น้ำจนหมดอย่างรวดเร็วมากกว่าเดิม
โดยอ่างเก็บน้ำที่มีชื่อว่าซานตาอิเนซ (Santa Ynez Reservoir) ถูกออกแบบมาให้บรรจุน้ำที่สามารถดื่มได้ 117 ล้านแกลลอน แต่ว่าอ่างเก็บน้ำนี้ถูกสั่งปิดในช่วงไม่กี่เดือนก่อนเพื่อซ่อมแซมรอยรั่วที่ฝาครอบอ่างเก็บน้ำ โดยฝาครอบดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันสิ่งแปลกปลอมที่จะตกลงไปในอ่างเก็บน้ำจนกระทบคุณภาพน้ำดื่ม
สำนักข่าว LA ไทม์สได้รายข่าวเกี่ยวกับการปิดอ่างเก็บน้ำครั้งแรกเมื่อวันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมา
ขณะที่นายมาร์ติน อดัมส์ อดีตผู้จัดการที่ LADWP ให้สัมภาษณ์ยอมรับว่าการมีอ่างเก็บน้ำซานตาอิเนซใช้งานได้ จะช่วยได้เป็นอย่างยิ่งในการต่อสู้กับเหตุเพลิงไหม้ที่แปซิฟิก พาลิเซด ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้จะไม่สามารถแก้วิกฤติได้ทั้งหมดก็ตาม
นายอดัมส์กล่าวว่าอ่างเก็บน้ำถูกปิดช่วงระยะเวลาหนึ่งแต่ไม่ทราบนานเท่าใด แต่แหล่งข่าวในแผนกดับเพลิงแอลเอ (LAFD) กล่าวว่าเจ้าหน้าที่ LADWP บอกพวกเขาว่า 'ถ้าไม่ได้ปิดอ่างเก็บน้ำ พวกเขาคงรับมือสถานการณ์ได้และมีน้ำเพียงพอสําหรับรับมือเหตุไฟไหม้'
เจ้าหน้าที่ดับเพลิงใช้น้ำจากมหาสมุทรแปซิฟิกรับมือไฟป่า (อ้างอิงวิดีโอจาก CBS)
ขณะที่นางควิโนเนสกล่าวในการแถลงข่าวสัปดาห์ที่ผ่านมาว่าเหตุที่น้ำสำหรับใช้ดับเพลิงหมดในย่านแปซิฟิก พาลิเซด ก็เนื่องมาจากแรงดันน้ำต่ำในระบบ เพราะว่านักดับเพลิงใช้น้ำหมดเร็วกว่าที่เติม
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่อาวุโสของ LAFD กล่าวว่ากรณีปัญหาการขาดน้ำนั้นเป็นปัญหาทั่วไปอยู่แล้ว แต่มันรุนแรงขึ้นเนื่องจาก DWP ล้มเหลวในการจ่ายน้ำแก่หัวดับเพลิง
“ทุกปี แผนกดับเพลิงจะไปตรวจสอบหัวดับเพลิงทุกหัว ซึ่งตลอดอาชีพผม เราทำกันแบบนี้ทุกปี แล้วส่งรายงานไปให้กับหน่วยรับผิดชอบหัวดับเพลิงว่ามีปัญหาอะไรบ้าง ซึ่งในทุกๆปีพบว่ามีปัญหาเดิมๆซ้ำๆที่ไม่ได้แก้ไขเกิดขึ้น” เจ้าหน้าที่ไม่ระบุนามกล่าวและกล่าวว่าตัวอย่างหนึ่งก็คือว่าหัวดับเหลิงที่โรงเรียนมันธยมในพาลิเซดบริเวณ เทเมสคาลแคนยอน (Temescal Canyon) พวกมันแห้งมาหลายครั้งแล้ว เมื่อเราเข้าไปตรวจสอบ ทาง DWP ก็รู้ถึงปัญหาที่ต้องใช้เวลาหลายเดือนในการแก้ไข ซึ่งนี่เป็นปัญหาทั้งเมืองกับ DWP แต่ตัวเขาเชื่อว่า DWP ไม่ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาอะไรเลย และดีไม่ดีพวกเขาอาจจะไม่มีเอกสารเกี่ยวกับปัญหานี้ด้วยก็ได้
อ่างเก็บน้ำซานตาอิเนซไม่มีน้ำเหลือ (อ้างอิงวิดีโอจากเอบีซี)
ขณะที่ LADWP ไม่ได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าวที่สอบถามไปเกี่ยวกับปัญหาหัวจ่ายน้ำดับเพลิงในครั้งนี้
ทางด้านของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของ LAFD ที่ยังดำรงตำแหน่งในปัจจุบันแต่ไม่ขอระบุนามยังได้ให้สัมภาษณ์กับเดลี่เมล์ว่าบางหัวจ่ายดับเพลิงในพาลิเซดนั้นไม่ทำงานเมื่อนักผจญเพลิงพยายามจะใช้งาน และปัญหานั้นไม่ได้รับการแก้ไขเนื่องจากการตัดงบประมาณ โดยนางแบส นายกเทศมนตรีแอลเอ
เดลี่เมล์ยังได้รับข้อมูลเพิ่มเติมเป็นบันทึกจากผู้บริหารระดับสูงในหน่วยงานดับเพลิงแอลเอที่มีการส่งมาเมื่อวันที่ 6 ม.ค. หรือก่อนเหตุเพลิงไหมในพาลิเซดเพียงหนึ่งวัน เนื้อหาระบุถึงข้อเรียกร้องของนางแบสว่าให้มีการตัดงบหน่วยงานดับเพลิงลงไปอีก 49 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (1,701,671,318) ซึ่งอยู่นอกเหนือการตัดงบ 17.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (611,212,555 บาท) ที่สภาเทศบาลได้ลงมติไปก่อนหน้านี้แล้ว
ส่วนสำนักข่าวแอลเอเดลี่นิวส์ ก็ได้เคยรายงานเกี่ยวกับการใช้ง่ายงบประมาณทั้งหมดของหน่วยงานดับเพลิงไปว่าพบว่ามีการเพิ่มขึ้นไปถึง 53 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (1,840,583,263 บาท) ในช่วงปีงบประมาณ ค.ศ.2024-2025 ซึ่งจะไปสิ้นสุดปีงบประมาณในช่วงเดือน ก.ค.นี้ อย่างไรก็ตามพบว่ามีการโยกงบแยกไปจำนวน 7 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (243,095,902 บาท) ไปยังกองทุนแยกต่างหากสำหรับบุคลากร ในขณะที่ยังมีการเจรจาจ่ายค้าจ้างที่ยังค้างอยู่ โดยนี่ส่งผลทำให้เกิดการขาดดุลทางบัญชี 17.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
นักดับเพลิงมากประสบการณ์นายหนึ่งกล่าวว่าผลกระทบสุทธิในเรื่องเกี่ยวกับความไม่ชอบมาพากลในด้านงบประมาณ ส่งผลทำให้มีนักผจญเพลิงลงพื้นที่น้อยลงเป็นเวลาหลายปีแล้ว
สถานะของ LADWP ที่ผ่านมานั้นยังอยู่ในภาวะเพิ่งฟื้นฟูจากเหตุอื้อฉาวครั้งใหญ่ โดยเฉพาะในกรณีปี 2565 เมื่อนายเดวิด ไรท์ อดีตผู้จัดการทั่วไปของ LADWP ถูกพิพากษาจำคุก 6 ปีในข้อหาว่ารับเงินสินบน
ตามรายงานของอัยการกลางระบุว่านายไรท์ได้มีการรับสินบนจากนายพอล พาราดิส ทนายความ โดยแลกกับการช่วยเหลือให้สำนักกฎหมายของนายพาราดิสได้รับสัญญาระยะเวลา 3 ปี มูลค่า 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (1,041,839,583 บาท)
นายพาราดิสยังรับเงินใต้โต๊ะที่ผิดกฎหมายคิดเป็นมูลค่า 2.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (76,401,569 บาท) ผ่านโครงข่ายที่ซับซ้อน ซึ่งเขาทำหน้าที่เป็นตัวแทนของ LADWP ตามสัญญา และเกิดเหตุว่าผู้อยู่อาศัยในพาลิเซด ร่วมกันฟ้องร้องต่อ LADWP ในประเด็นเรื่องปัญหาอุปสรรคของระบบการเก็บเงินค่าบริการสาธารณูปโภคที่เข้าขั้นหายนะ
ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียสั่งสอบสวนเหตุหัวดับเพลิงไม่มีน้ำ (อ้างอิงวิดีโอจาก KCRA)
ย้อนไปเมื่อปี 2556 LADWP ใช้ระบบการเรียกเก็บเงินแบบใหม่ ส่งผลทำให้ค่าบริการสาธารณูปโภคสูงเกินจริงอย่างมาก
นายพาราดิสทำหน้าที่เป็นตัวแทนของเมืองแอลเอในฐานะที่ปรึกษาพิเศษ แต่ขณะเดียวกันเขาก็อ้างว่าเป็นตัวแทนของผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากระบบเก็บเงินที่ล้มเหลว นี่ส่งผลทำให้เขาและตัวลูกค้าของเขาได้รับผลประโยชน์ที่ดีที่สุด ส่งผลทำให้ในปี 2566 ศาลได้ตัดสินจำคุกนายพาราดิส 3 ปี
เรียบเรียงจาก:https://www.dailymail.co.uk/news/article-14272399/LA-water-chief-Janisse-Quinones-fire-hydrants-reservoir-failures-Palisades.html,