“…เมื่อผู้ฟ้องคดีทั้งสอง (บริษัท เซท เอนเนอยี จำกัด และ SPCG) เป็นบุคคลภายนอก ไม่ได้เป็นคู่สัญญาตามสัญญาเลขที่ PVEEC 2563 ลงวันที่ 25 พ.ย.2563 กับผู้ถูกฟ้องคดี (กฟภ.) กรณีจึงไม่อาจถือว่า ผู้ฟ้องคดีทั้งสองมีข้อโต้แย้งเกี่ยวกับสัญญาทางปกครอง ที่จะมีสิทธิฟ้องคดีเพื่อโต้แย้งการไม่อนุญาตให้โอนสิทธิและหน้าที่ตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าดังกล่าวได้…”
...............................
จากกรณีที่ ศาลปกครองกลาง มีคำสั่งในคดีหมายเลขดำที่ 287/2568 คดีหมายเลขแดงที่ 628/2568 ซึ่งเป็นคดีที่ บริษัท เซท เอนเนอยี จำกัด (ผู้ฟ้องคดีที่ 1) และ บริษัท เอสพีซีจี จำกัด (มหาชน) หรือ SPCG (ผู้ฟ้องคดีที่ 2) ยื่นฟ้อง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) (ผู้ถูกฟ้องคดี) ต่อศาลปกครอง เรียกร้องค่าเสียหายจาก กฟภ. เป็นเงิน 3,709.30 ล้านบาท
กรณี กฟภ. กระทำละเมิดต่อทั้ง 2 บริษัท โดยยกเลิกการให้ความยินยอมในการโอนสิทธิและหน้าที่ตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าในโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์สำหรับใช้ในพื้นที่เมืองใหม่ EEC กำลังการผลิตติดตั้งไม่น้อยกว่า 500 เมกะวัตต์ มูลค่าลงทุน 23,000 ล้านบาท ให้แก่ บริษัท เซท เอนเนอยี จำกัด ทำให้ทั้ง 2 บริษัทฯได้รับความเสียหาย
โดยคดีนี้ ศาลปกครองกลาง มีคำสั่งไม่รับคำฟ้องไว้พิจารณา เนื่องจากเห็นว่า การที่ กฟภ. โอนสิทธิหน้าที่ในสัญญาซื้อขายไฟฟ้าในโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์สำหรับใช้ในพื้นที่เมืองใหม่ EEC ให้แก่ บริษัท เซท เอนเนอยี จำกัด นั้น ยังไม่มีผลสมบูรณ์ตามกฎหมาย ดังนั้น บริษัท เซท เอนเนอยี จำกัด จึงไม่ได้อยู่ในฐานะเป็นคู่สัญญากับ กฟภ.
บริษัท บริษัท เซท เอนเนอยี จำกัด และ SPCG จึงเป็นบุคคลภายนอก ไม่ได้เป็นคู่สัญญาที่มีสิทธิฟ้องคดี เพื่อโต้แย้งการไม่อนุญาตให้โอนสิทธิและหน้าที่ตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าฯได้ นั้น (อ่านประกอบ : ไม่ใช่คู่สัญญา! 'ศาลปค.'ไม่รับฟ้อง'SPCG'เรียกค่าเสียหาย'กฟภ.'3.7 พันล.-รอลุ้นผล'คดีแพ่ง')
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) จึงขอนำเสนอรายละเอียดของ ‘คำวินิจฉัย’ ของศาลปกครองกลางในคดีนี้ ก่อนที่ศาลฯจะมีคำสั่งไม่รับคำฟ้องไว้พิจารณา ดังนี้
@อ้างยกเลิก‘สิทธิซื้อขายไฟฟ้า’มิชอบ ทำให้บริษัทฯเสียหาย
ศาลได้ตรวจพิจารณาเอกสารทั้งหมดในสำนวนคดี รวมทั้งกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ ฯลฯ ที่เกี่ยวข้องประกอบด้วยแล้ว
กรณีมีประเด็นที่ต้องวินิจฉัยในชั้นนี้ว่า คำฟ้องนี้เป็นคำฟ้องที่ศาลรับไว้พิจารณา ได้หรือไม่
พิเคราะห์แล้วเห็นว่า... คดีนี้ผู้ฟ้องคดีทั้งสอง (บริษัท เซท เอนเนอยี จำกัด และบริษัท เอสพีซีจี จำกัด (มหาชน) หรือ SPCG) ฟ้องว่า ผู้ฟ้องคดีที่ 1 (บริษัท เซท เอนเนอยี จำกัด) เป็นบริษัทจำกัด ซึ่งเกิดจากการร่วมทุนของผู้ฟ้องคดีที่ 2 กับ (SPCG) บริษัท พีอีเอ เอ็นคอม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของผู้ถูกฟ้องคดี (กฟภ.) จัดตั้งขึ้นตาม พ.ร.บ.การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค พ.ศ.2503 มาตรา 42 (6) มีผู้ถูกฟ้องคดีเป็นผู้ถือหุ้นทั้งหมด
ผู้ฟ้องคดีทั้งสอง และบริษัท พีอีเอ เอ็นคอมฯ ซึ่งเป็นบริษัท ในเครือของผู้ถูกฟ้องคดี (กฟภ.) ได้ทำสัญญาความร่วมมือโครงการพัฒนาโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ (Smart Grid) พลังงานอัจฉริยะ (Smart Energy) และสิ่งแวดล้อมอัจฉริยะ (Smart Environment) ในพื้นที่โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ตามสัญญา ลงวันที่ 26 มี.ค.2563
สัญญาร่วมจัดหาพลังงานไฟฟ้าพลังงานสะอาด พลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงานสำรอง ระบบกักเก็บพลังงาน เพื่อใช้ในเขตพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ตามสัญญา ลงวันที่ 5 ส.ค.2563 และต่อมาได้ทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้าโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ สำหรับใช้ในพื้นที่เมืองใหม่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) สัญญาเลขที่ PEA ENCOM PVEEC 2563 ลงวันที่ 26 พ.ย.2563
โดยบริษัท พีอีเอ เอ็นคอมฯ จะสนับสนุนเพื่อให้เกิดวันที่จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (Commercial Operation Date : (COD) กับผู้ถูกฟ้องคดี (กฟภ.) โดยจะโอนสิทธิและหน้าที่ในสัญญาซื้อขายไฟฟ้าโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์สำหรับใช้ในพื้นพื้นที่ EEC ระหว่างผู้ถูกฟ้องคดี (กฟภ.) กับ บริษัท พีอีเอ เอ็นคอมฯ ตามสัญญาเลขที่ PVEEC 2563 ลงวันที่ 25 พ.ย.2563 ให้กับผู้ฟ้องคดีที่ 1 (บริษัท เซท เอนเนอยี จำกัด) เพื่อดำเนินโครงการ
ต่อมาวันที่ 19 พ.ค.2566 ผู้ถูกฟ้องคดี (กฟภ.) มีหนังสือถึง บริษัท พีอีเอ เอ็นคอมฯ แจ้งผลการพิจารณาโอนสิทธิตามสัญญาเลขที่ PVEEC 2563 ลงวันที่ 25 พ.ย.2563 ว่า ผู้ถูกฟ้องคดีเห็นชอบในการโอนสิทธิและหน้าที่ของผู้ผลิตไฟฟ้าตามสัญญาดังกล่าว จากบริษัท พีอีเอ เอ็นคอมฯ เป็นผู้ฟ้องคดีที่ 1 (บริษัท เซท เอนเนอยี จำกัด) ทั้งนี้ สัญญาโอนสิทธิดังกล่าวจะมีผลสมบูรณ์ เมื่อ สกพอ. (สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก) ให้ความเห็นชอบในการดำเนินการแล้ว
แต่หลังจากนั้น ผู้ถูกฟ้องคดี (กฟภ.) ได้มีหนังสือที่ มท 5310.17/36717 ลงวันที่ 22 เม.ย.2567 ถึงผู้ฟ้องคดีที่ 1 (บริษัท เซท เอนเนอยี จำกัด) แจ้งยกเลิกการให้ความเห็นชอบในการโอนสิทธิและหน้าที่ให้แก่ผู้ฟ้องคดีที่ 1 ตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ สำหรับใช้ในพื้นที่เมืองใหม่ เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) สัญญาเลขที่ PVEEC 2563 ลงวันที่ 25 พ.ย.2563 จากบริษัท พีอีเอ เอ็นคอมฯ เป็นผู้ฟ้องคดีที่ 1 ตามหนังสือของผู้ถูกฟ้องคดี ฉบับลงวันที่ 19 พ.ค.2566
และแจ้งว่าผู้ฟ้องคดีที่ 1 (บริษัท เซท เอนเนอยี จำกัด) ไม่ใช่คู่สัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับผู้ถูกฟ้องคดี (กฟภ.) ที่จะอ้างหรือใช้สิทธิการขอขยายระยะเวลาตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าได้
ผู้ฟ้องคดีที่ 1 ไม่เห็นด้วย จึงมีหนังสือที่ CEO-145/2567 ลงวันที่ 2 พ.ค.2567 อุทธรณ์คำสั่งดังดังกล่าวของผู้ถูกฟ้องคดี (กฟภ.) แต่ผู้ถูกฟ้องคดีมีหนังสือที่ มท 5310.17/40369 ลงวันที่ 21 พ.ค.2567 วินิจฉัยยกอุทธรณ์ของผู้ฟ้องคดีทั้งสอง โดยสรุปว่า การให้ความยินยอมในการโอนสิทธิและหน้าที่ตามสัญญาซื้อขายให้แก่ผู้ฟ้องคดีที่ 1 นั้น ต้องได้รับความยินยอมจาก กพอ. (คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก) ก่อน
และการจะให้เอกชนเป็นผู้ดำเนินการต้องดำเนินการตาม พ.ร.บ.เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ.2561 มิใช่กระบวนการตามหลักเกณฑ์การคัดเลือกผู้ร่วมลงทุนตามแนวทางการคัดเลือกความเหมาะสมในการเข้าร่วมลงทุนกับพันธมิตรธุรกิจของบริษัท พีอีเอ เอ็นคอมฯ
ผู้ฟ้องคดีทั้งสอง (บริษัท เซท เอนเนอยี จำกัด และ SPCG) เห็นว่า คำสั่งตามหนังสือที่ มท 5310.17/36717 ลงวันที่ 22 เม.ย.2567 ของผู้ถูกฟ้องคดี (กฟภ.) ที่แจ้งยกเลิกการให้ความยินยอมในการโอนสิทธิและหน้าที่ให้แก่ผู้ฟ้องคดีที่ 1 (บริษัท เซท เอนเนอยี จำกัด) ตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าตามหนังสือฉบับลงวันที่ 19 พ.ค.2566 ก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้ฟ้องคดีทั้งสอง ซึ่งเป็นเอกชนที่มาร่วมลงทุนกับบริษัท พีอีเอ เอ็นคอมฯ โดยสุจริต
ทั้งยังเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติ มาตรา 41 แห่ง พ.ร.บ.การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค พ.ศ.2503 ด้วย ทำให้ผู้ฟ้องคดีทั้งสองได้รับความเสียหายแก่ทรัพย์สินอย่างมหาศาล โดยเฉพาะผู้ฟ้องคดีที่ 2 (SPCG) ที่สูญเสียโอกาสทางธุรกิจ ความน่าเชื่อถือ และความน่าลงทุน
ผู้ฟ้องคดีทั้งสอง จึงนำคดีมาฟ้องต่อศาลขอให้ศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่งให้ผู้ถูกฟ้องคดีชดใช้ค่าสินไหมทดแทนพร้อมดอกเบี้ยให้แก่ผู้ฟ้องคดีทั้งสอง
@‘เซท เอนเนอยีฯ-SPCG’ไม่ใช่‘คู่สัญญา’-หมดสิทธิ์ฟ้องคดี
คดีนี้ แม้ตามคำฟ้องของผู้ฟ้องคดีทั้งสอง (บริษัท เซท เอนเนอยี จำกัด และ SPCG) จะบรรยายฟ้องว่า การให้ความยินยอมในการโอนสิทธิและหน้าที่ตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระหว่างผู้ถูกฟ้องคดี (กฟภ.) กับบริษัท พีอีเอ เอ็มคอม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ตามสัญญาเลขที่ PVEEC 2563 ลงวันที่ 25 พ.ย.2563 ที่กำหนดไว้ในข้อ 8 ของสัญญาดังกล่าว
เป็นการใช้อำนาจเหนือของผู้ถูกฟ้องคดี (กฟภ.) ที่มีดุลพินิจโดยเด็ดขาดเพียงผู้เดียวในการให้ความยินยอมในการโอนสิทธิและหน้าที่ตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าดังกล่าว ถือเป็นการออกคำสั่งทางปกครองที่กระทบสิทธิในการดำเนินการของผู้ฟ้องคดีที่ 1 โดยตรง
การกระทำของผู้ถูกฟ้องคดี (กฟภ.) ที่แจ้งยกเลิกการให้ความยินยอมในการโอนสิทธิหน้าที่ตามสัญญาซื้อชายไฟฟ้า เป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติมาตรา 41 แห่ง พ.ร.บ.การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค พ.ศ.2503 จึงถือว่าเป็นการออกคำสั่งทางปกครองที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และเป็นการกระทำละเมิดเป็นเหตุให้ผู้ฟ้องคดีทั้งสองได้รับความเสียหาย
จึงมีสิทธิได้รับ ค่าสินไหมทดแทนความเสียหายอันเกิดจากการกระทำละเมิดของผู้ถูกฟ้องคดี และมีคำขอให้ศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่งให้ผู้ถูกฟ้องคดีขดใช้ค่าสินไหมทดแทน พร้อมดอกเบี้ยให้แก่ผู้ฟ้องคดีทั้งสองก็ตาม
แต่เมื่อพิจารณาการกระทำของผู้ถูกฟ้องคดี (กฟภ.) ที่มีหนังสือที่ มท 5310.17/36717 ลงวันที่ 22 เม.ย.2567 แจ้งผู้ฟ้องคดีที่ 1 ((บริษัท เซท เอนเนอยี จำกัด) ว่า การให้ความยินยอมให้บริษัท พีอีเอ เอ็นคอมฯ โอนสิทธิหน้าที่ในสัญญาซื้อขายไฟฟ้าให้กับผู้ฟ้องคดีที่ 1 ยังไม่มีผลสมบูรณ์ตามกฎหมาย อีกทั้งจะต้องมีการลงนามทำสัญญาเกี่ยวกับการดังกล่าวตามพิธีการ จึงจะถือเป็นสัญญาโดยสมบูรณ์
เมื่อยังมิได้มีการดำเนินการดังกล่าว การโอนสิทธิและหน้าที่ตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า จึงยังไม่มีผลผูกพัน ผู้ฟ้องคดีที่ 1 (บริษัท เซท เอนเนอยี จำกัด) จึงยังมิใช่คู่สัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับผู้ถูกฟ้องคดี (กฟภ.) ที่จะอ้างสิทธิการขอขยายระยะเวลาตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า สัญญาเลขที่ PVEEC 2563 ลงวันที่ 25 พ.ย.2563 กับผู้ถูกฟ้องคดีได้
และหนังสือของผู้ถูกฟ้องคดี (กฟภ.) ที่ มท 5310.17/36717 ลงวันที่ 22 เม.ย.2567 ที่แจ้งบริษัท พีอีเอ เอ็นคอมฯ ความว่า เพื่อมิให้เข้าใจเจตนาของผู้ถูกฟ้องคดีผิดไป จึงขอยกเลิกหนังสือแจ้งให้ความยินยอมในการโอนสิทธิและหน้าที่ตามสัญญาชื่อขายไฟฟ้าของผู้ถูกฟ้องคดี ที่ มท 5304.3/16999 ลงวันที่ 19 พ.ย.2566 และผู้ถูกฟ้องคดี (กฟภ.) ไม่ได้อยู่ในฐานะเป็นคู่สัญญากับบริษัทผู้ฟ้องคดีที่ 1 (บริษัท เซท เอนเนอยี จำกัด) ในการที่จะดำเนินการใดๆ ได้ ซึ่งผู้ถูกฟ้องคดีขอยืนยันให้บริษัท พีอีเอ เอ็นคอนฯ เป็นคู่สัญญาในการดำเนินโครงการดังกล่าว
จึงเห็นได้ว่า เป็นกรณีที่ผู้ถูกฟ้องคดี (กฟภ.) ซึ่งเป็นผู้รับซื้อไฟฟ้าตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระหว่าง ผู้ถูกฟ้องคดี กับ บริษัท พีอีเอ เอ็นคอมฯ ไม่อนุญาตให้โอนสิทธิและหน้าที่ตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าตามข้อ 8 ของสัญญาซื้อขายไฟฟ้า โครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ สำหรับใช้ในพื้นที่เมืองใหม่ เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) สัญญาเลขที่ PVEEC 2563 ลงวันที่ 25 พ.ย.2563 ระหว่างผู้ถูกฟ้องคดี กับ บริษัท พีอีเอ เอ็นคอมฯ ให้แก่ผู้ฟ้องคดีที่ 1
อันเป็นการพิจารณาและดำเนินการตามสิทธิและหน้าที่ตามข้อสัญญา ซึ่งมีผลผูกพันระหว่างคู่สัญญา มิได้เป็นการใช้อำนาจตามกฎหมายของเจ้าหน้าที่ที่มีผลเป็นการสร้างนิติสัมพันธ์ขึ้นระหว่างบุคคล ในอันที่จะก่อ เปลี่ยนแปลง โอน สงวน ระงับ หรือมีผลกระทบต่อสถานภาพของสิทธิหรือหน้าที่ของผู้ฟ้องคดีทั้งสองโดยตรง อันจะถือเป็นคำสั่งทางปกครองแต่อย่างใด
ทั้งข้อความตามหนังสือของผู้ถูกฟ้องคดี (กฟภ.) ดังกล่าว ก็มิได้แสดงให้เห็นว่า มีเจตนาจะให้เป็นคำสั่งทางปกครองคดีนี้ จึงมิได้เป็นคดีพิพาทเกี่ยวกับการกระทำละเมิดของหน่วยงานทางปกครอง หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐอันเกิดจากคำสั่งทางปกครอง ตามมาตรา 9 วรรคหนึ่ง (3) แห่ง พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.2542 แต่เป็นคดีพิพาทเกี่ยวกับสัญญาทางปกครอง ตามมาตรา 9 วรรคหนึ่ง (4) แห่ง พ.ร.บ.เดียวกัน
อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้ฟ้องคดีทั้งสอง (บริษัท เซท เอนเนอยี จำกัด และ SPCG) เป็นบุคคลภายนอก ไม่ได้เป็นคู่สัญญาตามสัญญาเลขที่ PVEEC 2563 ลงวันที่ 25 พ.ย.2563 กับผู้ถูกฟ้องคดี (กฟภ.) กรณีจึงไม่อาจถือว่า ผู้ฟ้องคดีทั้งสองมีข้อโต้แย้งเกี่ยวกับสัญญาทางปกครอง ที่จะมีสิทธิฟ้องคดีเพื่อโต้แย้งการไม่อนุญาตให้โอนสิทธิและหน้าที่ตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าดังกล่าวได้ ตามมาตรา 42 วรรคหนึ่ง แห่ง พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.2542
ศาลจึงไม่อาจรับคำฟ้องของผู้ฟ้องคดีทั้งสองไว้พิจารณาพิพากษาได้
จึงมีคำสั่งไม่รับคำฟ้องนี้ไว้พิจารณา
ทั้งนี้ บริษัท เซท เอนเนอยี จำกัด และ SPCG ยังมีสิทธิ์ยื่นอุทธรณ์คำสั่งไม่รับคำฟ้องไว้พิจารณาในคดีนี้ ต่อศาลปกครองสูงสุด จึงต้องติดตามกันต่อไปว่าท้ายที่สุดแล้วบทสรุปของคดีนี้จะเป็นอย่างไร?
อ่านประกอบ :
ไม่ใช่คู่สัญญา! 'ศาลปค.'ไม่รับฟ้อง'SPCG'เรียกค่าเสียหาย'กฟภ.'3.7 พันล.-รอลุ้นผล'คดีแพ่ง'
‘มท.1’สั่งสอบฯโซลาร์ฟาร์ม‘พีอีเอ เอ็นคอม’ 2.3 หมื่นล. หลัง‘บอร์ด กฟภ.’พบความไม่ปกติ
รอมติกพช.! ‘พีอีเอ เอ็นคอม’ ชะลอลงทุนโซล่าร์ฟาร์ม 2.3 หมื่นล้าน-ยันพร้อมเปิดประมูล
ฉบับเต็ม! ‘ก.พลังงาน’ ไข 6 ปม แตะเบรก 'กฟภ.-SPCG' ลงขันโซล่าร์ฟาร์ม 2.3 หมื่นล.
เบรกโซลาร์ฟาร์ม'กฟภ.' 2.3 หมื่นล.! สนพ.ชี้ต้องเสนอ 'พลังงาน-ครม.' อนุมัติ-เปิดประมูล
ให้‘กฟภ.’ดำเนินการ! ‘สกพอ.’ แจงปมเลือกเอกชนร่วมลงทุนโซล่าร์ฟาร์ม 2.3 หมื่นล้าน
ยึดพ.ร.บ.อีอีซี! ‘พีอีเอ เอ็นคอม’ แจงร่วมทุนโซล่าร์ฟาร์ 2.3 หมื่นล.ไม่ต้องเปิดประมูล
พลิกกม.ร่วมทุนฯ! โซล่าร์ฟาร์ม 2.3 หมื่นล้าน เข้าข่ายต้องเปิดประมูล?
ขอชี้แจงผู้ตรวจการฯก่อน! ‘พีอีเอ เอ็นคอม’ ยังไม่ตอบปมโซลาร์ฟาร์ม 2.3 หมื่นล้าน
มีผู้ร้องไม่เปิดประมูล! ‘ผู้ตรวจการแผ่นดิน’ สอบข้อเท็จจริงโซลาร์ฟาร์ม 2.3 หมื่นล้าน