
"...โดยได้ทำการเปรียบเทียบผลประโยชน์ตอบแทน ‘ก่อน-หลัง’ การแก้ไขสัญญางานให้สิทธิประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร และสัญญางานให้สิทธิประกอบกิจการบริหารจัดการกิจกรรมเชิงพาณิชย์ฯ ทั้ง 3 ฉบับ ระหว่าง ทอท. และกลุ่มบริษัท คิงพาวเวอร์ ผลปรากฏว่า หลังการแก้ไขสัญญาทั้ง 3 ฉบับ แล้ว ทอท.จะได้รับผลประโยชน์ตอบแทน 'ขั้นต่ำ' ลดลงจากสัญญาเดิม เป็นเงินปีละ 18,021 ล้านบาท/ปี..."
"
......................................
สืบเนื่องจากกรณีที่ บริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด (KPD) ได้มีหนังสือถึง บมจ.ท่าอากาศยานไทย (ทอท.) ขอหารือแนวทาง ‘ยกเลิก’ สัญญาอนุญาตให้ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร (ดิวตี้ฟรี) ณ ท่าอากาศยาน 5 แห่ง ได้แก่ สุวรรณภูมิ ดอนเมือง ภูเก็ต เชียงใหม่ และหาดใหญ่
เนื่องจากได้รับผลกระทบจากปัจจัยต่างๆ ได้แก่ การหยุดดำเนินการร้านค้าปลอดอากรขาเข้าจากนโยบายภาครัฐ การลดภาษีสินค้าประเภทไวน์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อยอดจำหน่ายภายในร้านค้าปลอดอากร
การขอคืนพื้นที่ประกอบกิจการของ ทอท. การขาดมาตรการเชิงรุกของภาครัฐในการบริหารจัดการความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว ส่งผลต่อการลดลงของนักท่องเที่ยวชาวจีน
สถานการณ์ภายในประเทศไทยที่ส่งผลทางลบต่อจำนวนนักท่องเที่ยวและจำนวนผู้โดยสาร สถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 รวมถึงสถานการณ์สงครามและการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก
ปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ ส่งผลทั้งในทางตรงและทางอ้อมให้ KPD ไม่สามารถประกอบกิจการและปฏิบัติตามสัญญาที่ได้ตกลงไว้ อีกทั้งยังส่งผลให้ KPD ต้องประสบกับภาวะการขาดทุนมาโดยตลอด โดยที่ปัจจัยข้างต้นเป็นเหตุสุดวิสัยที่ไม่ได้เกิดจากการกระทำหรือความผิดของ KPD แต่ประการใด
กระทั่งต่อมาในวันที่ 16 มิ.ย.2568 บมจ.ท่าอากาศยานไทย (ทอท.) แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า ทอท.ได้รับหนังสือดังกล่าวจาก KPD โดย KPD มีวัตถุประสงค์เพื่อขอหารือแนวทางในการแก้ไขปัญหา เพื่อให้สามารถยังคงประกอบกิจการต่อไปได้ หรือข้อยุติอื่นๆ รวมถึงแนวทางในการพิจารณา หากจะมีการขอยกเลิกสัญญาฯ
ทอท. และ KPD ควรต้องเจรจาร่วมกัน เพื่อให้เกิดแนวทางแก้ไขอันเป็นธรรมต่อคู่สัญญาทั้งสองฝ่าย ซึ่งสอดคล้องและสามารถดำเนินการได้ตามที่ระบุในเงื่อนไขสัญญาฯ
ปัจจุบัน ทอท.อยู่ระหว่างการพิจารณาเพื่อหารือแนวทางกับ KPD รวมถึงการดำเนินการจัดจ้างที่ปรึกษาที่เป็นสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ เพื่อศึกษาและวิเคราะห์ทางเลือกที่เป็นไปได้ ในการแก้ไขปัญหาในการประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานของ ทอท.
พร้อมทั้งเสนอแนะทางเลือกที่ได้จากผลการศึกษาและวิเคราะห์ที่เหมาะสมที่สุด ในการดำเนินการที่สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อ ทอท. และเป็นธรรมกับผู้ประกอบการ นั้น (อ่านประกอบ : ทอท.แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ‘คิงเพาเวอร์’ขอเลิกดิวตี้ฟรี 5 สนามบิน รวม‘สุวรรณภูมิ-ดอนเมือง’)
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) จึงขอนำสาธารณชนย้อนกลับไปดู ‘ไทม์ไลน์’ และ 'ผลกระทบ' ที่ ทอท. ได้รับจากแก้ไขสัญญาฯ จำนวน 3 สัญญา เมื่อปี 2563 เพื่อช่วยเหลือและเยียวยา 'กลุ่มคิงเพาเวอร์ ในฐานะคู่สัญญา ซึ่งได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 สรุปได้ ดังนี้
@ย้อนสัญญา‘ดิวตี้ฟรี-บริหารพื้นที่’จ่ายขั้นต่ำ 2.3 หมื่นล.
4 ก.ค.2562 บมจ.ท่าอากาศยานไทย (ทอท.) ได้ลงนามในสัญญาให้สิทธิการประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร (ดิวตี้ฟรี) และสัญญาการให้สิทธิประกอบกิจการบริหารจัดการกิจกรรมเชิงพาณิชย์ภายในอาคารผู้โดยสาร กับ ‘กลุ่มคิงเพาเวอร์’ ซึ่งเป็นผู้ชนะการประมูลฯ จำนวน 3 ฉบับ
โดยกลุ่มคิงเพาเวอร์ จะจ่ายผลประโยชน์ตอบแทน ‘ขั้นต่ำ’ ให้ ทอท. เป็นเงิน 23,548 ล้านบาท/ปี หรือคิดเป็นจำนวนเงินไม่ต่ำกว่า 235,480 ล้านบาท ตลอดระยะเวลาสัญญา 10 ปี ประกอบด้วย
1.สัญญาอนุญาตให้ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สัญญาที่ ทสภ. (CM) DF-1-20-2562 ลงวันที่ 4 ก.ค.2562 โดย ทอท. ทำสัญญาอนุญาตให้ บริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด (KPD) ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร (ดิวตี้ฟรี) ณ ภายในอาคารผู้โดยสาร ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีอายุสัญญา 10 ปี 6 เดือน ระหว่างวันที่ 28 ก.ย.2563 ถึงวันที่ 31 มี.ค.2574
ในสัญญากำหนดให้ บริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด (KPD) ชำระค่าผลประโยชน์ตอบแทนให้ ทอท. รายเดือนในอัตราร้อยละ 20 ของยอดรายได้จากการประกอบกิจการในรอบเดือนนั้นๆ ก่อนหักค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น หรือตาม Minimum Guarantee (ผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำ) โดยในปีแรกเป็นจำนวนเงิน 15,419 ล้านบาท แล้วแต่จำนวนใดจะสูงกว่า
2.สัญญาอนุญาตให้ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานภูเก็ต ท่าอากาศยานเชียงใหม่ และท่าอากาศยานหาดใหญ่ สัญญาที่ ทอท. DF-1-022-2562 ลงวันที่ 4 ก.ค.2562 โดย ทอท. ทำสัญญาอนุญาตให้ บริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด (KPD) ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานภูเก็ต ท่าอากาศยานเชียงใหม่ และท่าอากาศยานหาดใหญ่ มีอายุสัญญา 10 ปี 6 เดือน ระหว่างวันที่ 28 ก.ย.2563 ถึงวันที่ 31 มี.ค.2574
ในสัญญากำหนดให้ บริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด (KPD) ชำระค่าผลประโยชน์ตอบแทนให้ ทอท. รายเดือนในอัตราร้อยละ 20 ของยอดรายได้จากการประกอบกิจการในรอบเดือนนั้นๆ ก่อนหักค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น หรือตาม Minimum Guarantee (ผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำ) โดยในปีแรกเป็นจำนวนเงิน 2,331 ล้านบาท แล้วแต่จำนวนใดจะสูงกว่า
3.สัญญาอนุญาตให้ประกอบกิจการบริหารจัดการกิจกรรมเชิงพาณิชย์ภายในอาคารผู้โดยสาร ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สัญญาที่ ทสภ. (CM) MC-1-21-2562 ลงวันที่ 4 ก.ค.2562 โดย ทอท. อนุญาตให้ บริษัท คิง เพาเวอร์ สุวรรณภูมิ จำกัด (KPS) ประกอบกิจการบริหารจัดการกิจกรรมเชิงพาณิชย์ ณ ภายในอาคารผู้โดยสาร ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีอายุสัญญา 10 ปี 6 เดือน ระหว่างวันที่ 28 ก.ย.2563 ถึงวันที่ 31 มี.ค.2574
ในสัญญากำหนดให้ บริษัท คิง เพาเวอร์ สุวรรณภูมิ จำกัด (KPS) ชำระค่าผลประโยชน์ตอบแทนให้ ทอท. รายเดือนในอัตราร้อยละ 15 ของยอดรายได้จากการประกอบกิจการในรอบเดือนนั้นๆ ก่อนหักค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น หรือตาม Minimum Guarantee (ผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำ) โดยในปีแรกเป็นจำนวนเงิน 5,798 ล้านบาท แล้วแต่จำนวนใดจะสูงกว่า
@ทอท.แก้สัญญาอุ้ม'คิงเพาเวอร์'-ปรับเงื่อนไขจ่าย‘ปย.’
ต่อมาในช่วงปลายเดือน ม.ค.2563 เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 คณะกรรมการ (บอร์ด) ทอท. มีมติเห็นชอบการกำหนดมาตรการให้ความช่วยเหลือสายการบินและผู้ประกอบการฯ ซึ่งเป็นผู้สัญญากับ ทอท. ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ดังนี้
19 ก.พ.2563 คณะกรรมการ ทอท. ครั้งที่ 3/2563 อนุมัติแนวทางให้ความช่วยเหลือกับผู้ประกอบการที่เป็นคู่สัญญากับ ทอท. โดยเรียกเก็บเฉพาะค่าผลประโยชน์ตอบแทนในอัตราร้อยละจากยอดรายได้ประกอบกิจการ โดยยกเว้นการเรียกเก็บค่าตอบแทนขั้นต่ำ ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.2563 ถึงวันที่ 31 มี.ค.2565 รวมทั้งขยายระยะเวลาการชำระค่าผลประโยชน์ตอบแทน สำหรับงวดที่ครบกำหนดชำระปกติตั้งแต่เดือน ก.พ.-ก.ค.2563 ออกไปเป็นระยะเวลา 6 เดือน
22 เม.ย.2563 คณะกรรมการ ทอท. ครั้งที่ 5/2563 อนุมัติการกำหนดอัตราค่าผลประโยชน์ตอบแทนคงที่ และอัตราค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำ จากการประกอบกิจกรรมเชิงพาณิชย์ ภายหลังสิ้นสุดมาตรการให้ความช่วยเหลือตามมติคณะกรรมการ ทอท. ครั้งที่ 3/2563 ในวันที่ 31 มี.ค.2565 แล้ว โดย ทอท.จะเรียกเก็บเงินค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำ โดยใช้อัตราผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำของปี 2562 เป็นฐานในการคำนวณ
นอกจากนี้ ยังกำหนดมาตรการให้ความช่วยเหลือสายการบินเพิ่มเติม เช่น การลดค่าธรรมเนียมในการขึ้น-ลงของอากาศยาน ค่าธรรมเนียมที่เก็บอากาศยาน ค่าเช่าพื้นที่ในการประกอบกิจการ ในอัตราร้อยละ 50 เป็นต้น พร้อมทั้งกำหนดแนวทางในการนำอัตราค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำมาใช้ภายหลังสิ้นสุดมาตรการฯ
24 ก.ค.2563 คณะกรรมการ ทอท. ครั้งที่ 8/2563 อนุมัติให้ขยายระยะเวลาการเลื่อนชำระค่าผลประโยชน์ตอบแทนของผู้ประกอบการและสายการบิน สำหรับยอดที่ครบกำหนดชำระตั้งแต่เดือน ก.พ.-ก.ค.2563 ออกไปอีก จาก 6 เดือน เป็น 12 เดือน เนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ยังไม่คลี่คลายลง
สำหรับมาตรการให้ความช่วยเหลือ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ซึ่งได้รับการคัดเลือกให้เป็นผู้ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ,ท่าอากาศยานภูเก็ต ,ท่าอากาศยานภูเก็ต และท่าอากาศยานหาดใหญ่ และการประกอบกิจการบริหารจัดการกิจกรรมเชิงพาณิชย์ ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จำนวน 3 สัญญา มีดังนี้
17 มิ.ย.2563 คณะกรรมการ ทอท. ครั้งที่ 7/2563 มีมติอนุมัติให้ผู้ประกอบการ (KPD และ KPS) เลื่อนเวลาการเข้าปรับปรุงตกแต่งพื้นที่ฯออกไปอีก 1 ปี เนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ผู้ประกอบการไม่สามารถเข้าปรับปรุงตกแต่งพื้นที่ได้ตามกำหนด รวมทั้งส่งผลต่อแผนการเปิดใช้อาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (Satellite 1: SAT-1) จากเดิมซึ่งมีกำหนดเปิดให้บริการภายในปี 2563 ต้องเลื่อนออกไป
พร้อมทั้งขยายระยะเวลาสิ้นสุดของการประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ,ท่าอากาศยานภูเก็ต ,ท่าอากาศยานภูเก็ต และท่าอากาศยานหาดใหญ่ และการประกอบกิจการบริหารจัดการกิจกรรมเชิงพาณิชย์ ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ของกลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์ ทั้ง 3 ฉบับ ออกไปอีก 1 ปี จากสิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.2574 เป็นสิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.2575
29 ก.ค.2563 คณะกรรมการ ทอท. ครั้งที่ 8/2563 มีอนุมัติให้ปรับการเรียกเก็บค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำ (Minimum Guarantee) โดยใช้ผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำต่อผู้โดยสาร (Sharing per Head) ที่กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ยื่นเสนอไว้เดิมในการประมูล มาคำนวณร่วมกับจำนวนผู้โดยสารที่เกิดขึ้นจริงในปีนั้นๆ ในขณะที่ยังคงเรียกเก็บค่าผลประโยชน์ตอบแทนในอัตราร้อยละเหมือนเดิม
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.2565 จนถึงปีที่จำนวนผู้โดยสารจริงของ ทอท. มีจำนวนเท่ากับหรือมากกว่าจำนวนผู้โดยสารตามประมาณการของผู้อนุญาตในปี 2564 ที่อ้างอิงจากข้อเสนอของผู้รับอนุญาตเกี่ยวกับโครงการ/กิจกรรมตามสัญญาเดิม (เมื่อจำนวนผู้โดยสารกลับมาเท่ากับจำนวนผู้โดยสารตามประมาณการที่กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ได้ยื่นเสนอราคาไว้ จะปรับค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำตามสูตรที่กำหนดไว้ในสัญญา)
@แก้สัญญา 3 ฉบับ ‘ทอท.’ได้ปย.ตอบแทนลด 1.8 หมื่นล./ปี
อย่างไรก็ดี การแก้ไขสัญญาทั้ง 3 ฉบับ ระหว่าง ทอท. และ กลุ่มบริษัท คิงพาวเวอร์ ได้แก่ สัญญาอนุญาตให้ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สัญญาที่ ทสภ. (CM) DF-1-20-2562 ,สัญญาอนุญาตให้ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานภูเก็ต ท่าอากาศยานเชียงใหม่ และท่าอากาศยานหาดใหญ่ สัญญาที่ ทอท. DF-1-022-2562
และสัญญาอนุญาตให้ประกอบกิจการบริหารจัดการกิจกรรมเชิงพาณิชย์ภายในอาคารผู้โดยสาร ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สัญญาที่ ทสภ. (CM) MC-1-21-2562 ที่ดำเนินการ โดยการเสนอเรื่องให้คณะกรรมการ ทอท. พิจารณาอนุมัติ และแก้ไขสัญญาโดยอาศัยมติคณะกรรมการ ทอท. ไม่ว่าจะเป็นการปรับเปลี่ยนการคำนวณผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำที่แตกต่างไปจากเงื่อนไขที่กำหนดไว้ใน TOR และในสัญญาฉบับก่อนแก้ไข รวมทั้งขยายระยะเวลาของสัญญา นั้น
ส่งผลกระทบต่อรายได้หรือผลประโยชน์ตอบแทนที่ 'ทอท.' ควรจะได้รับตามสัญญาฯเดิม เป็นจำนวนเงินนับหมื่นล้านบาท/ปี
ล่าสุด ทอท. ได้จัดทำสรุปรายงานผลการตรวจสอบเกี่ยวกับการแก้ไขสัญญาอนุญาตให้ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร และสัญญาอนุญาตให้ประกอบกิจการบริหารจัดการกิจกรรมเชิงพาณิชย์ฯ ส่งให้กับสำนักงานป้องกันและปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) เพื่อศึกษานำไปจัดทำข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันทุจริต กรณีการแก้ไขสัญญาสัมปทานงานให้สิทธิประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากรฯ
โดยได้ทำการเปรียบเทียบผลประโยชน์ตอบแทน ‘ก่อน-หลัง’ การแก้ไขสัญญางานให้สิทธิประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร และสัญญางานให้สิทธิประกอบกิจการบริหารจัดการกิจกรรมเชิงพาณิชย์ฯ ทั้ง 3 ฉบับ ระหว่าง ทอท. และกลุ่มบริษัท คิงพาวเวอร์
ผลปรากฏว่า หลังการแก้ไขสัญญาทั้ง 3 ฉบับ แล้ว ทอท.จะได้รับผลประโยชน์ตอบแทน 'ขั้นต่ำ' ลดลงจากสัญญาเดิม เป็นเงินปีละ 18,021 ล้านบาท/ปี ประกอบด้วย
1.สัญญาอนุญาตให้ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สัญญาที่ ทสภ. (CM) DF-1-20-2562 ก่อนการแก้ไขสัญญา ทอท. ได้รับผลประโยชน์ตอบแทน 15,419 ล้านบาท แต่หลังการแก้ไขสัญญา ทอท. ได้รับผลประโยชน์ตอบแทนเพียง 8,877.79 ล้านบาท มีส่วนต่าง 14,541 ล้านบาท/ปี
2.สัญญาอนุญาตให้ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานภูเก็ต ท่าอากาศยานเชียงใหม่ และท่าอากาศยานหาดใหญ่ สัญญาที่ ทอท. DF-1-022-2562 ก่อนการแก้ไขสัญญา ทอท. ได้รับผลประโยชน์ตอบแทน 2,331 ล้านบาท แต่หลังการแก้ไขสัญญา ทอท. ได้รับผลประโยชน์ตอบแทน 1,404.51 ล้านบาท มีส่วนต่าง 925.48 ล้านบาท/ปี
3.สัญญาอนุญาตให้ประกอบกิจการบริหารจัดการกิจกรรมเชิงพาณิชย์ภายในอาคารผู้โดยสาร ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สัญญาที่ ทสภ. (CM) MC-1-21-2562 ก่อนการแก้ไขสัญญา ทอท. ได้รับผลประโยชน์ตอบแทน 5,798 ล้านบาท แต่หลังการแก้ไขสัญญา ทอท. ได้รับผลประโยชน์ตอบแทนเพียง 3,476.79 ล้านบาท มีส่วนต่าง 2,321.20 ล้านบาท/ปี

อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณาจากเอกสารที่ ทอท. ส่งให้สำนักงานคณะกรรมการ ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) มีข้อน่าสังเกตว่า ในสัญญาอนุญาตให้ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สัญญาที่ ทสภ. (CM) DF-1-20-2562 ซึ่งปรากฎว่าตัวเลขหลังแก้ไขสัญญา ทอท. ว่า ได้รับผลประโยชน์ตอบแทน 8,877.79 ล้านบาท เมื่อหักลบกับตัวเลขก่อนแก้สัญญา จะมีส่วนต่าง 6,641.21 ล้านบาท ซึ่งทำให้ส่วนต่างผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำ ทั้ง 3 สัญญา ที่ ทอท. จะได้รับลดลงมาอยู่ที่ 9,887 ล้านบาท
ขณะที่ในปัจจุบันยังไม่มีการรายงานตัวเลขที่แท้จริงจาก ทอท. ว่า หลังจากแก้สัญญาฯทั้ง 3 ฉบับแล้ว ทอท.มีรายได้จากสัญญาฯดังกล่าว เป็นจำนวนเท่าใด
เหล่านี้เป็น ‘ไทม์ไลน์’ และ ‘ผลกระทบ’ จากการที่ ‘ทอท.’ แก้สัญญาดิวตี้ฟรีและสัญญาการบริหารจัดการพื้นที่เชิงพาณิชย์ จำนวน 3 ฉบับ เพื่อช่วยเหลือ ‘กลุ่มคิงเพาเวอร์’ ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งภายใต้สัญญาฉบับที่แก้ไขใหม่ นั้น ทำให้ ทอท. ต้องสูญเสียผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำ เป็นเงินปีละ 1.8 หมื่นล้านบาท ในขณะที่ 'ทอท.' เตรียมจะเข้าช่วยเหลือ 'กลุ่มคิงเพาเวอร์' เป็นรอบที่สอง!
อ่านประกอบ :
ทอท.แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ‘คิงเพาเวอร์’ขอเลิกดิวตี้ฟรี 5 สนามบิน รวม‘สุวรรณภูมิ-ดอนเมือง’
คิงเพาเวอร์ขอเลิกสัญญาดิวตี้ฟรี 3 สนามบินทอท. ‘ภูเก็ต-เชียงใหม่-หาดใหญ่’
‘ป.ป.ช.’ตั้ง‘คกก.ไต่สวน’ ปม‘ทอท.’แก้สัญญา‘ดิวตี้ฟรี-พื้นที่พาณิชย์’ส่อเอื้อ‘คิงเพาเวอร์’
ครม.รับทราบแนวทางยกเลิก‘ดิวตี้ฟรี’ขาเข้า กระตุ้น'นักท่องเที่ยว'จับจ่ายใช้สอยในประเทศ
'ชาญชัย'อุทธรณ์คดีฟ้อง'ทอท.'ปมแก้ไขสัญญาดิวตี้ฟรี หลัง'ศาลคดีทุจริตฯ'ชี้ไม่ใช่ผู้เสียหาย
ไม่ใช่ผู้เสียหาย! 'ศาลอาญาคดีทุจริตฯ'ยกฟ้องคดี'ทอท.'แก้สัญญาดิวตี้ฟรี-'ชาญชัย'จ่ออุทธรณ์
พลิกคำแถลงฯ‘อัยการ’แก้ต่าง คดีฟ้อง‘ทอท.’แก้สัญญา‘ดิวตี้ฟรี’มิชอบ ก่อนศาลฯนัดชี้มูล ก.พ.66
‘ศาลคดีทุจริตฯ’นัดชี้มูล คดี‘ทอท.’แก้สัญญา‘ดิวตี้ฟรี-พื้นที่เชิงพาณิชย์’ 28 ก.พ.ปีหน้า
ศาลคดีทุจริตฯ นัดสืบพยานปาก 'ผู้แทน สศค.' คดี 'ทอท.' แก้สัญญา' ดิวตี้ฟรี 7 ธ.ค.นี้
'ศาลคดีทุจริตฯ'นัด'พยานปากสุดท้าย'ไต่สวนมูลฟ้อง คดี'ทอท.'แก้สัญญา'ดิวตี้ฟรี' ต.ค.นี้
ย้อนบันทึก'บอร์ด ทอท.' ต่อเวลาอุ้ม'สายการบิน-ดิวตี้ฟรี' พยุงรายได้ปี 65 แตะ 2 หมื่นล.
'ศาลคดีทุจริตฯ'แจ้ง'ผู้ตรวจการแผ่นดิน'ส่งผู้แทนเบิกความเป็นพยาน คดีแก้สัญญา'ดิวตี้ฟรี'
ศาลคดีทุจริตฯ เรียก 5 หน่วยงาน ให้ข้อเท็จจริง คดีฟ้อง'ทอท.'แก้สัญญา'ดิวตี้ฟรี'มิชอบ
เป็นอำนาจบอร์ด! 'ทอท.' ย้ำแก้สัญญา ‘ดิวตี้ฟรี’ ไม่เข้าข่ายพ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังฯ
‘สคร.กลับลำ! ร่อนหนังสือแจ้ง‘ทอท.’แก้สัญญาดิวตี้ฟรี ไม่เข้าข่าย พ.ร.บ.วินัยการเงินฯ
'ศาลอุทธรณ์' พิพากษากลับ ยกฟ้อง ‘ชาญชัย’ คดีหมิ่นประมาท ‘คิงเพาเวอร์’
‘สคร.’ร่อน‘หนังสือลับ’สั่ง‘ทอท.’แจงปมแก้ไขสัญญา‘ดิวตี้ฟรี-บริหารพื้นที่เชิงพาณิชย์’
เลื่อนนัดสืบพยานฝ่ายโจทก์! คดี‘ชาญชัย’ฟ้อง‘ทอท.’แก้สัญญา'ดิวตี้ฟรี'เสียหาย 4.2 หมื่นล.

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา