
"...สิ่งที่ปฏิเสธได้ค่อนข้างยากคือ การเคลื่อนเกมของ ‘นายใหญ่’ ที่ดำเนินการเอาจริงเรื่อง ‘เขากระโดง’ ในครั้งนี้ ถูกหลายฝ่ายมองว่าเป็นปฏิบัติการ ‘เอาคืน’ จาก ‘เครือข่ายสีน้ำเงิน’ ที่ดอดเซ็นคำสั่งเพิกถอนที่ดิน ‘อัลไพน์’ ผ่านรองปลัดกระทรวงมหาดไทย ในช่วงที่ ‘บิ๊กสีน้ำเงิน’ ยังกุมอำนาจใน ‘กระทรวงคลองหลอด’ แบบเบ็ดเสร็จ ตั้งแต่ มท.1 ยัน มท.3..."
เงื่อนปมร้อนข้อพิพาท ‘เขากระโดง’ ดูท่าว่าจะไม่จบง่าย
พลันที่ นายเนวิน ชิดชอบ ‘ครูใหญ่อีสานใต้’ ส่งทนายความ แถลงการณ์คัดค้านคำสั่งของ 2 บิ๊กมหาดไทย อย่าง ‘ภูมิธรรม เวชยชัย’ มท.1 และ ‘เดชอิศม์ ขาวทอง’ มท.3 ในฐานะกำกับดูแลกรมที่ดิน ที่เพิกถอนเอกสารสิทธิที่ดินเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ กว่า 5,083 ไร่
โดยหนึ่งในนั้นมีอย่างน้อย 12 แปลง 288 ไร่เศษ ที่เป็นของ ‘เครือข่ายตระกูลชิดชอบ’ กลับคืนสู่การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)

@ เนวิน ชิดชอบ
ข้อมูลจากฝั่ง ‘ทนายความ’ มาแถลงพร้อมด้วยตัวแทนของชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบหลายร้อยคน เมื่อ 7 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยอ้างถึง ‘หลักนิติธรรม’ ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 145 มี 3 หลัก แบ่งเป็น
1.คำพิพากษาศาลฎีกาต้องถึงที่สุดก่อน
2.ในคำพิพากษาของศาล มีผลบังคับเฉพาะคู่ความในคดี มิได้รวมถึงประชาชนผู้ถือเอกสารสิทธิตามกฎหมายในที่ดินแปลงอื่น เป็นไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1373 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 127 และประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 2 และ 3 นอกจากนี้ยังได้รับความคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 37 สุดท้าย
3.ในคำพิพากษาระบุตอนหนึ่งว่า “อาจใช้ยัน” ซึ่งคำนี้ไม่ใช่การบังคับ แต่หมายถึงต้องฟ้องเป็นคดีใหม่
นอกจากนี้ยังอ้างว่า ปัจจุบันไม่มี พ.ร.ฎ.กำหนดเขตและจัดซื้อที่ดินฯ พร้อมกับแผนที่แนบท้ายใน พ.ร.ฎ.ดังกล่าว ที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษารับรองให้ รฟท.เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ ดังนั้นที่ดินพิพาทตรงนี้ จึงไม่อาจตกเป็นของ รฟท.ได้ ดังนั้นการที่ ‘มท.อ้วน’ ภูมิธรรม เวชยชัย พยายามจะดำเนินการเพิกถอนโฉนดโดยยึดข้อมูลจาก รฟท.เพียงฝั่งเดียว อาจถูกมองว่าเป็นการสนองนโยบายทางการเมือง หรือ ‘มีใบสั่ง’ หรือไม่?

@ ภูมิธรรม เวชยชัย
หากสรุปข้อเท็จจริงจากการแถลงของ ‘ทีมทนายความ’ ฝั่ง ‘ชิดชอบ-ชาวบ้าน’ คือ ถ้า ‘มหาดไทย’ ในยุค ‘ก๊กแดง’ อยากได้ที่ดินคืน ก็ต้องไปฟ้องเอาเป็น ‘รายบุคคล-รายแปลง’ มิใช่เอาคำพิพากษาในคดีอื่น มาเหมาะรวมทุกแปลงในพื้นที่พิพาทดังกล่าว
นั่นเท่ากับว่า คดีนี้แม้จะเริ่มกลับเข้าที่เข้าทางในกระบวนการยุติธรรม อาจต้องยืดเยื้อไปอีก
ถัดมาเมื่อ 9 ส.ค.ที่ผ่านมา ชนินทร์ แก่นหิรัญ ทนายความคดีพิพาทที่ดินเขากระโดง ยังออกมาขยี้เงื่อนปมดังกล่าวอีกครั้ง ในประเด็นประวัติศาสตร์ที่ดินเขากระโดง และเอกสารราชการสมัยรัชกาลที่ 5 โดยชกหมัดตรงไปถึง ‘มท.อ้วน’ ภูมิธรรม เวชยชัย ว่า “ท่านรัฐมนตรีอาจได้รับข้อมูลไม่ครบถ้วน จึงควรเปิดใจรับฟังหลักฐานประวัติศาสตร์และข้อกฎหมายอย่างรอบด้าน การตัดสินใจและการสื่อสารต่อสาธารณะควรตั้งอยู่บนข้อเท็จจริง
ไม่ใช่ความเชื่อที่เกิดจาก “ใบสั่ง” หรือคำบอกเล่าฝ่ายเดียว”
มิใช่แค่ประเด็น ‘ข้อกฎหมาย’ เพียงอย่างเดียว
แต่ ‘เครือข่ายครูใหญ่’ ซึ่งเชี่ยวชาญ ‘งานมวลชน’ ยังวางหมากด้วยการรวบรวมชาวบ้านในพื้นที่ ซึ่งมีเอกสารสิทธิ มารวมตัวกันคัดค้านการเพิกถอนตามคำสั่ง มท.ดังกล่าว โดยมีหลายร้อยคนยืนกรานว่า จะไม่ย้ายออกจากพื้นที่อย่างเด็ดขาด ทำให้เรื่องนี้ดูท่าจะชุลมุนกันอีกยกใหญ่
นี่ยังไม่นับความเคลื่อนไหวทางการเมืองที่บรรดาลูกหาบ ‘ก๊กแดง-ก๊กน้ำเงิน’ ออกมาตอบโต้กันนัวเนียแทบจะรายวัน บ้างเป็นข้อเท็จจริง บ้างเพื่อเบี่ยงเบนประเด็นหลักไปสูเรื่องการ ‘สางแค้น’ ทางการเมืองอย่างเดียว
อย่างไรก็ดีสิ่งที่ปฏิเสธได้ค่อนข้างยากคือ การเคลื่อนเกมของ ‘นายใหญ่’ ที่ดำเนินการเอาจริงเรื่อง ‘เขากระโดง’ ในครั้งนี้ ถูกหลายฝ่ายมองว่าเป็นปฏิบัติการ ‘เอาคืน’ จาก ‘เครือข่ายสีน้ำเงิน’ ที่ดอดเซ็นคำสั่งเพิกถอนที่ดิน ‘อัลไพน์’ ผ่านรองปลัดกระทรวงมหาดไทย ในช่วงที่ ‘บิ๊กสีน้ำเงิน’ ยังกุมอำนาจใน ‘กระทรวงคลองหลอด’ แบบเบ็ดเสร็จ ตั้งแต่ มท.1 ยัน มท.3
สำหรับที่ดิน ‘สนามกอล์ฟอัลไพน์’ ถือเป็นอีกหนึ่ง ‘กล่องดวงใจ’ ในทรัพย์สิน ‘ตระกูลชินวัตร’ รวมถึง ‘แผลเป็น’ ที่ยากจะลบเลือน โดยเฉพาะข้อกล่าวหา ‘ธรณีสงฆ์’ มีคดีความมาอย่างยาวนาน ‘บิ๊กเนมทางการเมือง’ หลายคนเคยถูกตรวจสอบ หลายคดีหมดอายุความ เหลือแค่กรณีของ ‘ยงยุทธ วิชัยดิษฐ์’ อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เมื่อครั้งเป็นปลัดกระทรวงมหาดไทย คนเซ็นเพิกถอนคำสั่งอธิบดีกรมที่ดิน มีเจตนาช่วยเหลือบริษัท อัลไพน์เรียลเอสเตท จำกัด บริษัท อัลไพน์ กอล์ฟ แอนด์ สปอร์ตคลับ จำกัด และผู้ถือกรรมสิทธิ์ที่ดินในเวลาต่อมาให้ได้รับประโยชน์โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยศาลฎีกามีคำพิพากษาจำคุก ‘ยงยุทธ’ ไปแล้ว 2 ปี

@ ยงยุทธ วิชัยดิษฐ์

@ ทักษิณ ชินวัตร
ลับลมคมในของ ‘ก๊กสีน้ำเงิน’ ก่อนหน้านี้กับกรณี ‘อัลไพน์’ ทำให้ ‘บริษัท อัลไพน์ กอล์ฟ แอนด์ สปอร์ตคลับ จำกัด’ กล่องดวงใจ ‘ชินวัตร’ สุ่มเสี่ยงต้องตกเป็นหนึ่งในตัวละครร่วมที่จะต้องจ่ายค่าเสียหายทางแพ่งกว่า 7.7 พันล้านบาท ให้กับประชาชนที่เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินปัจจุบัน โดยปัจจุบันความคืบหน้าเรื่องนี้ ยังอยู่ระหว่างรอ ‘มหาดไทย’ ชี้ขาด
ทำให้บรรดาเครือข่าย ‘ก๊กน้ำเงิน’ แถลงผ่านสื่อ จับตาดูท่าทีของ ‘ก๊กแดง’ ว่า ‘จะกล้า’ เพิกถอนที่ดินอัลไพน์ เทียบเคียงกับกรณีข้อพิพาท ‘เขากระโดง’ ตามที่ ‘มท.อ้วน’ ยืนยันผ่านสื่อบ่อยครั้งว่า ใช้มาตรฐานเดียวกัน ไม่มีกลั่นแกล้ง
ฉากรบของ ‘ก๊กแดง-ก๊กน้ำเงิน’ หลังจากผ่านสมรภูมิ ‘รบไป-คุยไป’ จนพ้นสถานะพรรคร่วมรัฐบาล กลายมาเป็น ‘ศัตรู’ เต็มตัว กำลังเริ่มเปิดฉากใหม่อีกครั้ง โดยมีผลประโยชน์ของรัฐอย่าง ‘เขากระโดง-อัลไพน์’ กลายเป็น ‘ตัวประกันทางการเมือง’ อีกรอบ
บทสรุปสุดท้ายของเรื่องนี้ จะออกมาหน้าไหน ‘เขากระโดง-อัลไพน์’ จะกลับมาคืนสู่รัฐได้หรือไม่ คงต้องติดตามกันอย่างใกล้ชิด!

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา