"...หากกรรมการบริหารหลักสูตรผู้บริหารกระบวนการยุติธรรมระดับสูง (บ.ย.ส) ทุกท่านซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นแบบอย่างขององค์กรที่เกี่ยวข้องกับหลักสูตรนี้ยังเห็นว่าระบบอุปถัมภ์เป็นเรื่องปกติ ในอีกไม่นานระบบนี้จะกลายเป็นบรรทัดฐานของสังคม เมื่อถึงวันนั้นความสุจริต ความรู้ความสามารถ ระบบคุณธรรม และหลักนิติธรรมจะเป็นคุณสมบัติที่ทุกคนไม่จำเป็นต้องมีอีกต่อไปในประเทศนี้ และในที่สุดทุกองค์กรจะมีแต่บุคคลที่ไม่มีคุณภาพและการทุจริตในทุกลำดับชั้นซึ่งจะนำประเทศไปสู่ความล่มสลายในที่สุด..."
หมายเหตุ สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) : จากกรณีปรากฏข่าวว่า เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา นายบุญเขตร์ พุ่มทิพย์ อธิบดีผู้พิพากษาศาลภาษีอากรกลางช่วยทำงานชั่วคราวในตำแหน่งผู้พิพากษาศาลฎีกา กรรมการบริหารศาลยุติธรรม และ นายอนุรักษ์ สง่าอารีย์กูล ผู้พิพากษาศาลฎีกาและกรรมการตุลาการ ทำถึงหนังสือถึงคณะกรรมการบริหารหลักสูตรผู้บริหารกระบวนการยุติธรรมระดับสูง (บ.ย.ส.) ที่มีนางชนากานต์ ธีรเวชพลกุล ประธานศาลฏีกาเป็นประธาน เพื่อขอให้กรรมการทุกคนกราบเรียนท่านประธานศาลฎีกาให้ยกเลิกหลักสูตรผู้บริหารกระบวนการยุติธรรมระดับสูง (บ.ย.ส.) ซึ่งจะมีการประชุมวันที่ 19 สิงหาคม 2568 เพื่อพิจารณากำหนดรายชื่อผู้เข้าอบรม บ.ย.ส. รุ่น 30 ประจำปี 2568 ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการตรวจสอบคุณสมบัติผู้เข้าร่วมการอบรมและเสนอรายชื่อให้คณะกรรมการฯ พิจารณาอนุมัติในการประชุมนัดดังกล่าว
ขณะที่ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2568 เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ 2569 วาระที่ 2 และ 3 นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ได้หยิบยกเรื่องการจัดอบรมหลักสูตรผู้บริหารกระบวนการยุติธรรมระดับสูง (บ.ย.ส.) ขึ้นมาอภิปรายเสนอปรับลดงบประมาณ 16 ล้านบาท และเห็นว่าเป็นเรื่องเสี่ยงต่อการสร้างระบบอุปถัมภ์ จนถูกมองว่าเป็นการเอื้อประโยชน์ตัดสินคดีของผู้พิพากษาและกระทบความเป็นอิสระของศาล

ต่อไปนี้เป็นรายละเอียดในหนังสือของ นายบุญเขตร์ พุ่มทิพย์ อธิบดีผู้พิพากษาศาลภาษีอากรกลางช่วยทำงานชั่วคราวในตำแหน่งผู้พิพากษาศาลฎีกา กรรมการบริหารศาลยุติธรรม และ นายอนุรักษ์ สง่าอารีย์กูล ผู้พิพากษาศาลฎีกาและกรรมการตุลาการ ทำถึงหนังสือถึงคณะกรรมการบริหารหลักสูตรผู้บริหารกระบวนการยุติธรรมระดับสูง (บ.ย.ส.) ดังกล่าวข้างต้น
**************
เรื่อง ขอให้ยกเลิกหลักสูตรผู้บริหารกระบวนการยุติธรรมระดับสูง (บ.ย.ส.)
เรียน กรรมการบริหารหลักสูตรผู้บริหารกระบวนการยุติธรรมระดับสูง (บ.ย.ส.) พ.ศ.2568
ตามที่ข้าฯ ได้มีบันทึกข้อความกราบเรียนท่านประธานศาลฎีกาฉบับลงวันที่ 14 มกราคม 2568 เรื่องขอให้ยกเลิกหลักสูตรผู้บริหารกระบวนการยุติธรรมระดับสูง (บ.ย.ส.) และกำหนดไม่ให้ผู้พิพากษาเข้าร่วมอบรมหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร (ว.ป.อ.) ฯลฯ และบันทึกข้อความฉบับลงวันที่ 10 มิถุนายน 2568 เรื่องผลสำรวจความเห็นของผู้พิพากษาเกี่ยวกับหลักสูตรผู้บริหารกระบวนการยุติธรรมระดับสูง (บ.ย.ส.) ซึ่งมีผู้พิพากษาของศาลยุติธรรม 1,455 คน จากผู้พิพากษา 5,638 คน (ตามกรอบอัตรากำลังผู้พิพากษา ข้อมูล ณ วันที่ 1 ตุลาคม 2567) ตอบแบบสอบถาม
ผลสรุปคือ
1. ผู้พิพากษาร้อยละ 95.1 เห็นว่าการพิจารณาพิพากษาต้องทำด้วยความยุติธรรมแล้ว ยังต้องแสดงออกให้เห็นโดยปราศความสงสัยว่าเป็นเช่นนั้น (Justice should not only be done, but should manifestly and undoubtedly be seen to be done)" มีความสำคัญต่อการพิจารณาคดีของตน
2. ผู้พิพากษาร้อยละ 87.1 เห็นว่าหลักสูตรผู้บริหารกระบวนการยุติธรรมระดับสูง (บ.ย.ส.) กระทบต่อความน่าเชื่อถือ คือเชื่อถือในความบริสุทธิ์ยุติธรรม ความเป็นกลางที่ปราศจากอคติ ความเป็นอิสระ และความซื่อสัตย์สุจริตของผู้พิพากษา
3. ผู้พิพากษาร้อยละ 70.1 เห็นว่าหลักสูตรผู้บริหารกระบวนการยุติธรรมระดับสูง (บ.ย.ส.) ส่งเสริมระบอุปถัมภ์ซึ่งนำไปสู่การเลือกปฏิบัติและเพิ่มความเหลื่อมล้ำในสังคม
4. ผู้พิพากษาร้อยละ 82 เห็นว่าควรยกเลิกหลักสูตรผู้บริหารกระบวนการยุติธรรมระดับสูง (บ.ย.ส.) โดยนำงบประมาณที่ใช้สำหรับหลักสูตรนี้ไปเพิ่มให้แก่หลักสูตรอื่น ๆ ที่มีขึ้นเพื่ออบรมข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม

@ ชนากานต์ ธีรเวชพลกุล
นอกจากความเห็นของผู้พิพากษาจากผลสำรวจดังกล่าวแล้วยังมีผู้สนับสนุนให้ยกเลิกหลักสูตรผู้บริหารกระบวนการยุติธรรมระดับสูง (บ.ย.ส.) อย่างกว้างขวางจากทุกสาขาอาชีพดังที่ปรากฏแพร่หลายตามสื่อมวลชนดังที่เห็นประจักษ์
โดยเห็นตรงกันว่าหลักสูตรนี้นอกจากไม่ก่อเกิดประโยชน์ใด ๆ แก่ศาลยุติธรรมแล้วยังเป็นการใช้งบประมาณที่ไม่คุ้มค่า ที่สำคัญหลักสูตรนี้สนับสนุนระบบอุปถัมภ์และการผูกขาดซึ่งทำให้เกิดการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรมเป็นผลให้ทุกภาคส่วนของสังคมอ่อนแอทำให้เกิดปัญหาต่าง ๆ รวมถึงการทุจริตตั้งแต่เล็กน้อยจนถึงขั้นวิกฤติ ตั้งแต่ระดับประเทศเรื่อยลงมาเช่นที่เห็นได้ในปัจจุบัน
ดังนั้น หากกรรมการบริหารหลักสูตรผู้บริหารกระบวนการยุติธรรมระดับสูง (บ.ย.ส) ทุกท่านซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นแบบอย่างขององค์กรที่เกี่ยวข้องกับหลักสูตรนี้ยังเห็นว่าระบบอุปถัมภ์เป็นเรื่องปกติ ในอีกไม่นานระบบนี้จะกลายเป็นบรรทัดฐานของสังคม เมื่อถึงวันนั้นความสุจริต ความรู้ความสามารถ ระบบคุณธรรม และหลักนิติธรรมจะเป็นคุณสมบัติที่ทุกคนไม่จำเป็นต้องมีอีกต่อไปในประเทศนี้ และในที่สุดทุกองค์กรจะมีแต่บุคคลที่ไม่มีคุณภาพและการทุจริตในทุกลำดับชั้นซึ่งจะนำประเทศไปสู่ความล่มสลายในที่สุด
ดังนั้น ศาลยุติธรรมซึ่งเป็นสถาบันหลักของประเทศในการอำนวยความยุติธรรมที่ตั้งอยู่บนหลักสุจริตธรรม และนิติธรรมต้องเป็นตัวอย่างให้สาธารณชนเห็นว่าศาลยุติธรรมไม่สนับสนุนระบบอุปถัมภ์และการผูกขาด
โดยขอให้ท่านในฐานะกรรมการบริหารหลักสูตรผู้บริหารกระบวนการยุติธรรรมระดับสูง (บ.ย.ส.) กราบเรียนท่านประธานศาลฎีกาให้ยกเลิกหลักสูตรผู้บริหารกระบวนการยุติธรรมระดับสูง (บ.ย.ส.) ซึ่งเป็นหลักสูตรที่อยู่ในความรับผิดชอบของศาลยุติธรรม ก่อนที่จะสายเกินไป
ข้าฯ เชื่อมั่นว่ากรรมการทุกท่านรักประเทศนี้เช่นเดียวกับคนไทยทุกคน
จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา


- ขอ ปธ.ศาลฏีกา เลิกจัดอบรม บ.ย.ส.-ห้าม 'พ.'ร่วมหลักสูตรดัง ชี้ไม่เกิดปย.เสริมระบบอุปถัมภ์
- เสนอผลสำรวจหลักสูตร บ.ย.ส.ให้ ปธ.ศาลฏีกา - ผู้พิพากษาร้อยละ 82 'เห็นควรยกเลิก'
- ฉบับเต็ม! ผลสำรวจเชิงประจักษ์ ผู้พิพากษา เห็นพ้องยกเลิกหลักสูตร บ.ย.ส. ขจัดระบบอุปถัมภ์

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา