เปิดรายงานกมธ.ฯงบปี 69 วุฒิสภา ‘มหาดไทย-ยุติธรรม’ ต้องเป็นกลาง-อิสระ-ไม่มีใบสั่งนักการเมือง

“…ควรมีความเป็นอิสระเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งทางการเมือง และไม่ดำเนินคดีหรือละเว้นการดำเนินคดีตามคำสั่งของนักการเมือง เพื่อป้องกันวิกฤตศรัทธาในระบบยุติธรรม การขาดความเป็นอิสระและการถูกชี้นำทางการเมืองจะสร้างความรู้สึกว่าประชาชนไม่ได้รับการปฏิบัติอย่างเสมอภาคต่อหน้ากฎหมาย และนำไปสู่การขาดความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรรมโดยรวม…”

ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท ภายหลังจากผ่านการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร วาระที่สาม ขั้นตอนต่อไป คือ การพิจารณาของวุฒิสภา ซึ่งเตรียมบรรจุเข้าสู่วาระการประชุมในระหว่างวันที่ 1-2 กันยายน 2568

ท่ามกลางกระแสข่าววุฒิสภาโหวตคว่ำ!

นอกจากการจับตาการลงมติของวุฒิสภาว่าจะ ‘โหวตรับ’ หรือ ‘โหวตคว่ำ’ เนื้อหา-สาระ คือ รายงานการพิจารณาศึกษาร่าง พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 วุฒิสภา ที่มีนายประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล สมาชิกวุฒิสภา (สว.) เป็นประธานฯ มีจำนวน 5 ด้าน ประกอบด้วย 1.ด้านเศรษฐกิจ 2.ด้านสังคม 3.ด้านความมั่นคง 4.ด้านภัยพิบัติและทรัพยากรธรรมชาติ 5. ด้านบริหารและอื่นๆ ได้แก่ ด้านบริหาร แผนงานบูรณาการ และ พื้นที่

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ขอนำ (ร่างเบื้องต้น) รายงานข้อสังเกตและข้อเสนอแนะหน่วยงานใน ‘ด้านความมั่นคง’ ของกระทรวงมหาดไทย ที่มีนายภูมิธรรม เวชยชัย เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งกระทรวงมหาดไทยได้รับการจัดสรรงบประมาณ จำนวนประมาณ 238,276 ล้านบาท และกระทรวงยุติธรรม ที่มี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เป็นเจ้ากระทรวง ซึ่งกระทรวงยุติธรรมได้รับการจัดสรรงบประมาณ จำนวนประมาณ 15,558 ล้านบาท ซึ่งโดยที่สองกระทรวงรวมกันได้รับการจัดสรรงบประมาณรวมกัน ประมาณ 253,834 ล้านบาท ดังนี้

@ ภาพรวมด้านความมั่นคง

ด้านความมั่นคง

ปัญหาด้านความมั่นคงของประเทศไทยยังคงมีลักษณะที่หลากหลายและซับช้อนทั้งความมั่นคงชายแดนและอาณาเขต ความตึงเครียดในบางพื้นที่ชายแดนจากสถานการณ์ประเทศเพื่อนบ้าน การลักลอบนำเข้าสินค้าผิดกฎหมาย ปัญหาพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้

นอกจากนั้น ยังมีภัยคุกคามทางไซเบอร์ (Cybersecurity) ที่กำลังทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการหลอกลวงออนไลน์ข่าวปลอม (Fake News) และข้อมูลบิดเบือนที่ส่งผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อย การระบาดของยาเสพติดในหมู่เยาวชน และขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติ เช่น การค้ามนุษย์ การพนันออนไลน์ การฟอกเงิน ความเสี่ยงจากการพึ่งพาแหล่งพลังงานจากต่างประเทศ และภัยคุกคามจากการลงทุนต่างชาติในกิจการสำคัญ

การจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ในด้านความมั่นคงพบว่า ได้มีการกำหนดวงเงินงบประมาณด้านความมั่นคงไว้ที่จำนวน 680,374.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2568 จำนวน 14,866.2 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นจากปี 2568 ร้อยละ 2.23 กระจายอยู่ใน 3 กระทรวง และ 5 หน่วยรับงบประมาณที่รับผิดชอบงานด้านความมันคง ได้แก่ กระทรวงยุติธรรรม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร และศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล

โดยในการจัดสรรงบประมาณจำนวนดังกล่าวนี้ได้มีการคาดการณ์ว่าจะได้รับประโยชน์ในด้านความมั่นคงหลายประการ อาทิ การบังคับใช้กฎหมาย อำนวยความยุติธรรรม และบริการประชาชน เสริมสร้างประสิทธิภาพในการป้องกันปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติดย่างเด็ดขาดและครบวงจร การจัดการปัญหาแรงงานต่างด้าวและการค้ามนุษย์ การเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติภารกิจเพื่อช่วยเหลือประชาชน ป้องกันและรักษาผลประโยชน์ของชาติ การตรวจสอบ ป้องกัน ปราบปราม การทุจริตและประพฤติมิชอบในภาครัฐและการฟอกเงิน และเพิ่มศักยภาพและประสิทธิภาพในการแก้ปัญหาอาชญากรรม อาชญากรรมออนไลน์ อาชญากรรมข้ามชาติ เป็นต้น

@ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม @

@ ไม่สามารถบังคับคดีได้ทั้งหมด

กระทรวงยุติธรรม

1. ปัญหายาเสพติดเป็นนโยบายสำคัญเร่งด่วนของรัฐบาลและส่งผลต่อปัญหาผู้ต้องขังล้นเรือนจำ จึงควรให้ความสำคัญกับการจัดการปัญหานี้ให้เกิดผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรม โดยเน้นบทบาทการเป็นเจ้าภาพหลักในการบูรณาการงานป้องกัน ปราบปราม และบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติด

การวัดประสิทธิภาพการใช้จ่ายงบประมาณควรพิจารณาจากการลดลงของระดับความร้ายแรงของปัญหา ไม่ใช่เพียงปริมาณงานที่ดำเนินการได้ เช่น จำนวนยาเสพติดที่ยึดได้ จำนวนคดี จำนวนผู้ต้องหา หรือมูลค่าทรัพย์สินที่ยึดได้ แต่ควรมุ่งเน้นไปที่การลดลงของความร้ายแรงของปัญหาที่เกิดขึ้นจริงในสังคม

2. ควร จัดตั้งศูนย์บำบัดผู้ติดยาเสพติดแบบครบวงจร ในทุกอำเภอทั่วประเทศ โดยมีระบบรั้วป้องกันที่มั่นคงและปลอดภัย พร้อมบุคลากรทางการแพทย์ พยาบาลและนักจิตวิทยาผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง รวมถึงจัดให้มีสถานที่ออกกำลังกาย กิจกรรมสันทนาการและศูนย์ฝึกอาชีพ เพื่อป้องกันการกลับไปกระทำผิดซ้ำของผู้ป่วย

3. ควรบูรณาการการทำงานของหน่วยงานป้องกันยาเสพติดในเชิงรุก ไม่จำกัดเพียงการปราบปราม โดยพิจารณาจัดสรรงบประมาณหรือสิ่งอำนวยความสะดวกที่เพียงพอแก่เจ้าหน้าที่ เช่น งบประมาณค่าน้ำมันสำหรับตำรวจสายตรวจ เพื่อลดปัญหาการสมยอมปล่อยตัวผู้กระทำผิด นอกจากนี้ ควรมีการตรวจสอบภายในและกำหนดบทลงโทษอย่างเด็ดขาดต่อเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง

4. รัฐบาลควรจัดสรรงบประมาณระยะยาวเพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติด พร้อมตั้งเป้าหมายลดจำนวนผู้ป่วยซ้ำซากภายใน 5 ปี โดยดำเนินงานทั้งด้านการป้องกัน การปราบปรามและการบำบัดรักษาไปพร้อมกัน แม้การปฏิบัติจะมีความยากลำบาก แต่เนื่องจากปัญหานี้แพร่กระจายลึกถึงระดับรากฐานและส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่และความปลอดภัยของประชาชนในวงกว้างจึงจำเป็นต้องดำเนินการอย่างจริงจัง

5. ควรกำหนดนโยบายและมาตรการปราบปรามเว็บพนันออนไลน์อย่างจริงจัง เนื่องจากยังพบโฆษณาเว็บพนันออนไลน์จำนวนมากบนแพลตฟอร์มอย่าง Facebook ซึ่งเยาวชนสามารถเข้าถึงได้ง่ายและเป็นอันตรายอย่างยิ่ง จึงควรประสานความร่วมมือกับแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น Facebook เพื่อให้มีการตรวจสอบและควบคุมการลงโฆษณาที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์

สำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม

ควรเผยแพร่ข้อมูลค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคดีที่ประชาชนได้รับบริการจากสภาทนายความ เนื่องจากสภาทนายความได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลจำนวน 100 ล้านบาทต่อปี เพื่อให้สามารถประเมินได้ว่าเงินอุดหนุนดังกล่าวก่อให้เกิดประโยชน์และเข้าถึงประชาชนโดยตรงหรือไม่และมีความคุ้มค่ากับการใช้งบประมาณหรือไม่

กรมบังคับคดี

ควรประเมินผลการบังคับคดีที่ศาลมีคำตัดสิน โดยเฉพาะคดีจากศาลปกครองและศาลยุติธรรม เนื่องจากคดีที่เข้าสู่กระบวนการบังคับคดีต้องมีการยื่นคำร้อง และไม่สามารถบังคับคดีได้ทั้งหมด การประเมินผลการดำเนินงานจึงควรสะท้อนจำนวนคดีที่สามารถบังคับใช้กฎหมายได้จริง โดยเน้นการประเมินประสิทธิภาพเชิงรุก แทนที่จะจำกัดอยู่เพียงการรอรับคำร้องเพื่อบังคับคดีเท่านั้น

กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน

จากสถิติพบว่าอัตราการกระทำความผิดซ้ำในกลุ่มเด็กและเยาวชนยังคงเป็นปัญหา โดยเฉพาะคดีลักทรัพย์และยาเสพติด แม้จะได้รับโอกาสในการกลับตัวและให้คำมั่นว่าจะปรับปรุงพฤติกรรมแล้ว แต่ก็มักกลับเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมอีกครั้ง จึงควรพัฒนาแนวทางป้องกันและระบบติดตามผลที่มีประสิทธิภาพภายหลังเด็กและเยาวชนพ้นจากสถานพินิจ

@ แนะ ย้ายเรือนจำคลองเปรม

กรมราชทัณฑ์

1. ประเทศไทยมีจำนวนผู้ต้องขังสูงเป็นอันดับ 6 ของโลก ทำให้การบริหารจัดการเรือนจำเผชิญความท้าทาย ควรพิจารณาแยกสถานที่ควบคุมผู้ต้องขังระหว่างผู้ต้องโทษและผู้ต้องหาอย่างชัดเจนเพื่อให้การบริหารจัดการมีระบบและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

นอกจากนี้ ควรนำกำไลอิเล็กทรอนิกส์มาใช้เป็นมาตรการทางเลือกในการควบคุมผู้ต้องขังบางประเภท ซึ่งจะช่วยลดจำนวนผู้ต้องขังในเรือนจำ บรรเทาปัญหาความแออัด และประหยัดงบประมาณที่ต้องใช้ในการขยายพื้นที่หรือก่อสร้างเรือนจำใหม่

2. โครงการยกระดับการควบคุมดูแลผู้ต้องขังตามข้อกำหนดมาตรฐานขั้นต่ำแห่งสหประชาชาติว่าด้วยการปฏิบัติต่อผู้ต้องขัง หรือ Mandela Rules มีข้อสังเกตว่า จากกรณีการเสียชีวิตของผู้ต้องขังในเรือนจำ ยังไม่แน่ชัดว่าการดูแลผู้ต้องขังเป็นไปตามข้อกำหนดดังกล่าวอย่างเพียงพอหรือไม่

3. ควรพิจารณาย้ายเรือนจำที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองและนำพื้นที่เดิมมาใช้ประโยชน์ด้านอื่น เช่น เรือนจำคลองเปรมซึ่งเป็นที่ราชพัสดุมีพื้นที่กว่า 300 ไร่ และมีมูลค่าที่ดินคาดว่าไม่น้อยกว่า 15,000 ล้านบาท หากสามารถประสานกับกรมธนารักษ์เพื่อนำพื้นที่ไปใช้ก่อสร้างที่พักสำหรับข้าราชการและประชาชนทั่วไป และนำรายได้ไปสร้างเรือนจำแห่งใหม่ ก็จะได้เรือนจำที่มีมาตรฐานระดับโลก โดยการก่อสร้างเรือนจำแห่งใหม่ควรเลือกพื้นที่ที่อยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 20 กิโลเมตร เพื่อให้มีพื้นที่เพียงพอรองรับจำนวนผู้ต้องขังที่อาจเพิ่มขึ้นในอนาคต

4. ควรให้ความสำคัญกับการส่งเสริมและพัฒนาทักษะอาชีพของผู้ต้องขัง โดยมุ่งเน้นสาขางานฝีมือที่ตลาดมีความต้องการสูง เช่น การแกะสลัก การวาดรูป หรือการทำอาหารเพื่อเพิ่มโอกาสในการมีงานทำหลังพ้นโทษและป้องกันการกลับไปกระทำผิดซ้ำ เนื่องจากขาดอาชีพ ควรจัดหลักสูตรฝึกอาชีพที่หลากหลายและสอดคล้องกับความสามารถของผู้ต้องขัง พร้อมจัดให้มีหน่วยงาน บริษัท หรือสถาบันที่สามารถรับผู้พ้นโทษเข้าทำงานหรือเป็นอาจารย์ เพื่อสร้างโอกาสในการประกอบอาชีพอย่างยั่งยืน

5. กรมราชทัณฑ์มีงบประมาณที่เกี่ยวข้องกับปัญหายาเสพติดจำนวน 2 โครงการ ได้แก่ โครงการสร้างบำบัดและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ต้องขังติดยาเสพติด งบประมาณ 31 ล้านบาท และโครงการภูมิคุ้มกันและป้องกันปัญหายาเสพติดในเรือนจำ งบประมาณ 48 ล้านบาท จึงมีข้อสังเกต ว่าเหตุใดยังจำเป็นต้องใช้งบประมาณจำนวนมากสำหรับโครงการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภายในเรือนจำ ทั้งที่กระบวนการเข้าเยี่ยมผู้ต้องขังมีมาตรการตรวจสอบอย่างเข้มงวด’

@ ไม่ดำเนินคดีหรือละเว้นการดำเนินคดีตามคำสั่งของนักการเมือง

กรมสอบสวนคดีพิเศษ

1. ตัวชี้วัดการใช้งบประมาณของกรมสอบสวนคดีพิเศษที่ประเมินจากความเชื่อมั่นของประชาชนและมูลค่าทรัพย์สินที่ปกป้องหรือเรียกคืนได้ อาจมีความโน้มเอียงตามกระแสสังคม ส่งผลให้มีการเลือกดำเนินการเฉพาะคดีที่ได้รับความสนใจสูงหรือคดีที่สามารถคำนวณมูลค่าความเสียหายได้ง่าย ทำให้คดีที่ซับซ้อนแต่มีผลกระทบสำคัญต่อสังคมอาจไม่ได้รับการพิจารณาอย่างเหมาะสม การกำหนดตัวชี้วัดในลักษณะนี้อาจเป็นปัจจัยที่ก่อให้เกิดการเลือกปฏิบัติในการดำเนินคดี และนำไปสู่ข้อสงสัยเกี่ยวกับความไม่เป็นกลางของหน่วยงาน

2. ควรมีความเป็นอิสระเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งทางการเมือง และไม่ดำเนินคดีหรือละเว้นการดำเนินคดีตามคำสั่งของนักการเมือง เพื่อป้องกันวิกฤตศรัทธาในระบบยุติธรรม การขาดความเป็นอิสระและการถูกชี้นำทางการเมืองจะสร้างความรู้สึกว่าประชาชนไม่ได้รับการปฏิบัติอย่างเสมอภาคต่อหน้ากฎหมาย และนำไปสู่การขาดความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรรมโดยรวม

สถาบันนิติวิทยาศาสตร์

สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ประสบปัญหาด้านการบริหารจัดการจากการขาดแคลนบุคลากร โดยเฉพาะนักวิทยาศาสตร์เฉพาะทาง เช่น ผู้เชี่ยวชาญด้านดีเอ็นเอ พิษวิทยาและชีววิทยา ซึ่งส่งผลให้การตรวจพิสูจน์หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ล่าช้า กระทบโดยตรงต่อการสนับสนุนกระบวนการยุติธรรม

นอกจากนี้ ยังมีข้อจำกัดด้านเครื่องมือและเทคโนโลยีที่ไม่เพียงพอต่อปริมาณงานที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เครื่องมือที่ไม่ทันสมัยหรือมีจำนวนจำกัดย่อมทำให้การดำเนินงานล่าช้าและอาจกระทบต่อคุณภาพของผลการตรวจพิสูจน์ ปัญหานี้ควรได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วนเพื่อให้กระบวนการยุติธรรมดำเนินไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูงสุด

สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด

1. ควรกำหนดมาตรการที่เข้มงวดและเป็นรูปธรรรมในการควบคุมไม่ให้เจ้าหน้าที่ภาครัฐเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ไม่ว่าจะในฐานะผู้เสพ ผู้ค้า หรือผู้ที่ได้รับผลประโยชน์จากขบวนการค้ายาเสพติด ซึ่งบ่อนทำลายความน่าเชื่อถือของภาครัฐและขัดขวางการปราบปรามยาเสพติดอย่างรุนแรง

นอกจากมาตรการควบคุมภายในองค์กรแล้ว ควรขยายการตรวจสอบไปยังข้าราชการทั่วประเทศ ครอบคลุมการตรวจหาสารเสพติดในร่างกาย และการตรวจสอบพฤติกรรมหรือความเชื่อมโยงกับเครือข่ายยาเสพติด โดยเฉพาะในกลุ่มเจ้าหน้าที่ที่มีความเสี่ยงสูงหรือถูกตั้งข้อสังเกตว่าอาจเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์จากยาเสพติด การดำเนินการเช่นนี้จะช่วยสร้างความโปร่งใส ป้องกันการทุจริต และเสริมสร้างธรรมาภิบาลในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ภาครัฐ อันจะนำไปสู่การแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างยั่งยืน

2. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดควรมีความเป็นอิสระและขึ้นตรงต่อสำนักนายกรัฐมนตรีโดยตรง เนื่องจากแม้จะเป็นหน่วยงานหลักในการดูแลแผนบูรณาการปราบปรามยาเสพติด แต่บุคลากรส่วนใหญ่ที่ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติภารกิจมีตำแหน่งระดับสูง ทำให้เกิดความยุ่งยากในการบังคับบัญชาและเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินงาน อีกทั้งยังอาจนำไปสู่การแทรกแซงกระบวนการปราบปรามยาเสพติดได้ง่าย

สถาบันอนุญาโตตุลาการ

การดำเนินงานของสถาบันอนุญาโตตุลาการมีลักษณะซ้ำซ้อนกับคณะกรรมการตุลาการที่ศาลจัดตั้งขึ้น และส่วนใหญ่เป็นการไกล่เกลี่ยข้อพิพาททางแพ่งในธุรกิจเอกชนมากกว่าการช่วยเหลือประชาชนทั่วไป อีกทั้งยังมีอำนาจเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเองโดยไม่ต้องนำส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน

แม้จะมีรายได้จากค่าธรรมเนียมดังกล่าว แต่ในปีงบประมาณถัดไปยังคงขอรับการจัดสรรงบประมาณจากรัฐอีก 46.47 ล้านบาท จึงมีข้อสงสัยว่าเหตุใดจึงไม่นำงบประมาณที่มีอยู่มาใช้ในการดำเนินงาน

สถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย (องค์การมหาชน)

สถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทยได้จัดทำรายงานและงานวิจัยที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนากระบวนการยุติธรรม แต่ปัญหาสำคัญคือการนำข้อเสนอแนะไปสู่การปฏิบัติจริงยังไม่ทั่วถึงและครอบคลุม เช่น การดูแลผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาคดี แม้จะมีโครงการที่มุ่งเน้นกลุ่มนี้ แต่ในทางปฏิบัติยังไม่สามารถดำเนินการได้อย่างทั่วถึง ทำให้ผู้ต้องขังจำนวนมากไม่ได้รับสิทธิและการดูแลตามที่ควร จึงควรเร่งหาแนวทางแก้ไขเพื่อนำข้อเสนอแนะจากงานวิจัยของสถาบันมาใช้ให้เกิดผลสัมฤทธิ์อย่างแท้จริงและเป็นรูปธรรม

กองทุนยุติธรรม

ควรแก้ไขหลักเกณฑ์การพิจารณาทุนของกองทุนเพื่อให้ประชาชนมีสิทธิสู้คดีได้อย่างเท่าเทียมและเต็มที่ เนื่องจากปัจจุบันกำหนดให้คณะกรรมการต้องมี หลักฐานที่น่าเชื่อถือ ว่าบุคคลนั้นไม่น่าจะเป็นผู้กระทำผิด จึงจะอนุมัติทุนได้ ซึ่งขัดต่อหลักสันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นผู้บริสุทธิ์

@ ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย @

@ ภาพรวมกระทรวงมหาดไทย

กระทรวงมหาดไทย

1. ควรขยายผลการยกเลิกการเรียกสำเนาบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านจากผู้ยื่นคำขออนุมัติ อนุญาต จดทะเบียน จดแจ้ง หรือแจ้ง ที่ดำเนินการเสร็จสิ้นตามกฎหมาย กฎ ระเบียบ คำสั่ง ข้อบังคับ หรือประกาศที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมการปกครองไปยังส่วนราชการต่าง ๆ ในสังกัดกระทรวงมหาดไทย โดยให้กระทรวงมหาดไทยเป็นเจ้าภาพขับเคลื่อนการขยายผลไปยังส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐอื่น ๆ พร้อมทั้งอาศัยกลไกตามพระราชบัญญัติปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2565 เพื่อบูรณาการข้อมูลร่วมกัน

2. ควรปรับปรุงแก้ไขระบบการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2562 โดยคำนึงถึงการส่งเสริมการใช้ประโยชน์ที่ดินให้เหมาะสมและสอดคล้องกับศักยภาพของพื้นที่เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดและสอดคล้องกับบริบทท้องถิ่นอย่างแท้จริง

ทั้งนี้ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตเมืองอาจได้รับประโยชน์จากรายได้ภาษีที่สูงขึ้น แต่ประชาชนอาจประสบปัญหาจากภาระภาษีที่เพิ่มขึ้นมาก ขณะเดียวกัน ในเขตพื้นที่ชนบทหรือพื้นที่อุทยานแห่งชาติ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกลับมีรายได้จากภาษีลดลงจากการบังคับใช้หลักเกณฑ์ดังกล่าว ส่งผลให้ขาดโอกาสในการพัฒนาท้องถิ่น

สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย

สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทยซึ่งมีหน่วยงานอยู่ทุกจังหวัด ควรมีบทบาทในการแก้ไขปัญหาหนี้สินภาคครัวเรือน โดยยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ควบคู่กับการพัฒนาบุคลากรที่มีความรู้และความเชี่ยวชาญเพื่อให้คำปรึกษาและแก้ไขปัญหาในระดับหมู่บ้าน ตำบลหรืออำเภอ พร้อมทั้งแสวงหาความร่วมมือกับสถาบันการเงินของรัฐเพื่อบูรณาการการทำงานร่วมกันสร้างช่องทางการเข้าถึงแหล่งเงินทุน การสร้างอาชีพ และการเพิ่มรายได้ให้แก่ประชาชนในพื้นที่

กรมการปกครอง

1. ควรเตรียมความพร้อมรองรับการปฏิบัติงานตามพระราชบัญญัติการอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตและการให้บริการแก่ประชาชนฉบับใหม่ ซึ่งมุ่งยกระดับบริการภาครัฐให้ประชาชนได้รับประโยชน์ในหลายมิติ เช่น การขยายขอบเขตกฎหมายให้ครอบคลุมงานบริการและการทดลองประกอบกิจการที่ต้องขอรับอนุญาต โดยใช้ระบบแจ้งไปพลางก่อนชั่วคราวระหว่างรอการอนุญาต การจัดช่องทางพิเศษแบบเร่งด่วนสำหรับผู้ที่มีความจำเป็นหรือต้องการได้รับอนุญาตหรือบริการอย่างรวดเร็ว การจัดทำแบบบฟอร์มคำขอใบอนุญาตเป็นภาษาอังกฤษหรือภาษาอื่น การจัดตั้งศูนย์รับคำขอกลางทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อให้ประชาชนสามารถยื่นคำขอและขอรับบริการ ณ จุดเดียว และการพัฒนาบริการดิจิทัลให้สามารถเข้าถึงได้สะดวกทุกที่ทุกเวลา

2. กรมการปกครองมีกองกำลังเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบงานด้านความมั่นคง การสืบสวนสอบสวน และการต่อต้านการค้ามนุษย์ตามบทบาทหน้าที่และอำนาจของกระทรวงมหาดไทย ซึ่งมีผลการปฏิบัติงานที่มีประสิทธิภาพ แต่ยังขาดการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบ ทั้งที่ประชาชนสามารถเข้าถึงหน่วยงานของกระทรวงมหาดไทยได้รวดเร็วกว่าหน่วยงานอื่น จึงควรเพิ่มการประชาสัมพันธ์เพื่อให้ประชาชนตระหนักถึงบทบาทหน้าที่และช่องทางการติดต่อมากยิ่งขึ้น

กรมพัฒนาชุมชน

ควรพัฒนารูปแบบการดำเนินกิจการของ บริษัท ประชารัฐรักสามัคคี วิสาหกิจเพื่อสังคม (ประเทศไทย) ให้เป็นตลาดรองรับและกระจายสินค้า OTOP อย่างครบวงจร ทั้งในรูปแบบจุดจำหน่ายสินค้าส่งหรือปลีกโดยตรง และช่องทางการจำหน่ายสินค้าออนไลน์ร่วมกับแพลตฟอร์มทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อส่งเสริมการผลิตและการจำหน่ายสินค้า OTOP ของประชาชนให้ขยายตัวและเข้าถึงตลาดได้มากยิ่งขึ้น

@ เร่งบริหารจัดการ ที่ดิน ส.ป.ก.

กรมที่ดิน

1. ควรนำระบบเทคโนโลยีมาใช้ในการเฝ้าระวัง ตรวจสอบ และจัดการที่ดิน เช่น การใช้ใดรนหรือระบบวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อสำรวจที่ดิน จัดทำแผนที่ และกำหนดขอบเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติและเขตอนุรักษ์ธรรมชาติให้ชัดเจน การใช้เทคโนโลยีดังกล่าวจะช่วยลดจำนวนบุคลากรในการปฏิบัติงานและเพิ่มความแม่นยำในการดำเนินการ

2. ควรเร่งบริหารจัดการที่ดิน เช่น ที่ดิน ส.ป.ก. ที่อยู่ระหว่างการขึ้นทะเบียนทบทวนสิทธิ์ครอบครองและการใช้ประโยชน์ เนื่องจากขอบเขตอำนาจของหน่วยงานที่ดินและป่าไม้ยังไม่มีความชัดเจน ทำให้ไม่สามารถกำหนดเขตพื้นที่ที่ดินหรือป่าได้อย่างแม่นยำ จึงควรเพิ่มอัตรากำลังคนหรือบุคลากรเพื่อสำรวจรังวัดและกำหนดเขตพื้นที่ให้ชัดเจน เพื่อลดความขัดแย้งและเร่งรัดการจัดการปัญหาที่ดินของราษฎรในพื้นที่ป่าและพื้นที่ของประชาชนให้รวดเร็วและป้องกันปัญหาในอนาคต

3. กรมที่ดิน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเร่งแก้ไขปัญหาที่ดินและสิ่งปลูกสร้างหลังการถ่ายโอนโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล โดยต้องประสานหารือร่วมกันหลายภาคส่วนเพื่อให้ปัญหาดังกล่าวได้รับการแก้ไข โดยเฉพาะการพัฒนาและปรับปรุงสถานบริการซึ่งมีความยากลำบาก เนื่องจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นยังไม่สามารถสนับสนุนงบประมาณได้ และสถานที่ตั้งโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลส่วนใหญ่เป็นที่ดินของกรมธนารักษ์หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

4. ควรแก้ไขปัญหาความล่าช้าในการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดิน เนื่องจากความไม่ชัดเจนของแนวเขตที่ดินของรัฐ ส่งผลต่อการเข้าถึงเอกสารสิทธิ์และความมั่นคงในกรรมสิทธิ์การอยู่อาศัยและทำกินของประชาชน โดยนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อยกระดับประสิทธิภาพ ลดขั้นตอนการดำเนินงาน และเร่งรัดการปฏิบัติงานให้รวดเร็วยิ่งขึ้น

5. การดำเนินงานโครงการสำคัญของกรมที่ดิน เช่น โครงการค้นหาตำแหน่งที่ดิน (LandsMaps) ซึ่งเปิดโอกาสให้ประชาชนสามารถค้นหาและตรวจสอบข้อมูลที่ดินทั่วประเทศผ่านช่องทางออนไลน์ ควรเพิ่มเติมรายละเอียดข้อมูลพื้นที่ว่างเปล่าหรือพื้นที่ที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ นอกเหนือจากข้อมูลในแปลงที่ไม่ใช่โฉนด หากระบบสามารถแสดงสัญลักษณ์ระบุข้อมูลดังกล่าว จะเป็นประโยชน์อย่างยิงต่อประชาชนและหน่วยงานราชการที่ต้องใช้ข้อมูลดังกล่าวในการดำเนินภารกิจต่าง ๆ

สำหรับโครงการยุทธศาสตร์การเติบโตอย่างยั่งยืน (โครงการ RTK) ที่มีเป้าหมายจัดทำแผนที่ที่ดินของรัฐ โดยเฉพาะในพื้นที่เกาะที่มีลักษณะพื้นที่ซับซ้อน เช่น เกาะภูเก็ตและเกาะสมุย ควรเพิ่มระบบตรวจสอบความถูกต้องในการออกเอกสารสิทธิ์เพื่อให้เกิดความแม่นยำและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

6. ควรพัฒนาและปรับปรุงระบบเซิฟเวอร์ของระบบภูมิสารสนเทศที่ดิน (Land Maps Application/Web) เพื่อแก้ไขปัญหาการใช้งานที่ติดขัดหรือล่าช้า พร้อมทั้งเพิ่มการแสดงรายละเอียดสำคัญ เช่น ที่ดินประเภทอื่นนอกเหนือจากโฉนด ได้แก่ น.ส.3, ส.ค.1 และพื้นที่ว่างเปล่าเพื่อให้ข้อมูลครบถ้วน ลดความเข้าใจคลาดเคลื่อน และสามารถแจ้งพื้นที่เสี่ยงต่อการรุกล้ำพื้นที่อุทยาน หรือป่าไม้ได้

นอกจากนี้ ควรแก้ไขปัญหาความไม่สอดคล้องของข้อมูลกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช และกรมป้าไม้ เพื่อให้สามารถตรวจสอบเขตที่ดินได้อย่างชัดเจน ป้องกันการหลอกลวงและปัญหาการทุจริตในการซื้อขายที่ดิน

7. ควรวางแนวนโยบายหรือแนวทางการพัฒนาแอปพลิเคชันของกรมที่ดินเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เช่น การพัฒนาระบบป้องกันเมื่อมีการโอนที่ดินเข้าชื่อบริษัทเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาทับถมกับปัญหาเดิมที่มีอยู่ เพื่อมิให้เกิดเป็นปัญหาสะสมที่จะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเศรษฐกิจและโครงสร้างสินทรัพย์โดยรวม

8. ควรมีการขึ้นทะเบียนอาชีพนายหน้าอสังหาริมทรัพย์อย่างเป็นรูปธรรม โดยมีการตรวจสอบการจัดตั้งสมาคมหรือการรับรองอย่างชัดเจน เพื่อให้นายหน้าที่ขึ้นทะเบียนมีการเสียภาษีเงินได้อย่างถูกต้อง โดยร่วมมือกับกรมสรรพากรในการตรวจสอบข้อมูลภาษีย้อนหลังเพื่อให้การจัดเก็บภาษีเป็นระบบและป้องกันการชักชวนคนต่างด้าวทำผิดกฎหมาย เช่น การจ่ายเงินใต้โต๊ะ การเปลี่ยนชื่อผู้ถือหุ้นชั่วคราว เป็นต้น

อีกทั้งควรห้ามคนต่างชาติประกอบอาชีพนายหน้าในประเทศไทยในลักษณะเดียวกับอาชีพมัคคุเทศก์ พร้อมกำหนดบทลงโทษในกรณีที่นายหน้าไม่ได้รับการขึ้นทะเบียนหรือกระทำผิดกฎหมายโดยมีโทษปรับและจำคุก

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย

1. ควรบูรณาการการทำงานและงบประมาณร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ เพื่อสร้างกลไกบริหารจัดการน้ำอย่างสมดุลและส่งเสริมการใช้ทรัพยากรงบประมาณในการแก้ไขปัญหาภัยพิบัติร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุด

2. ควรจัดตั้งป้ายเตือนภัยสึนาให้เพียงพอและชัดเจนโดยไม่ให้ถูกบดบังด้วยป้ายโฆษณา พร้อมกำหนดข้อมูลทิศทางการหนีและตำแหน่งที่ถูกต้องโดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงอันตราย เช่น เกาะพีพี

นอกจากนี้ควรปรับปรุงและแก้ไขหอเตือนภัย รวมถึงอาคารอพยพให้พร้อมใช้งานและมีสภาพสมบูรณ์อย่างต่อเนื่อง พร้อมดำเนินการซ้อมแผนอพยพหนีภัยในพื้นที่ท่องเที่ยวอย่างเพียงพอและประชาสัมพันธ์ขั้นตอนการเตือนภัยและการอพยพให้แก่โรงแรมในพื้นที่เพื่อให้สามารถแจ้งข้อมูลข่าวสารแก่นักท่องเที่ยวได้อย่างเหมาะสม

3. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยควรแจ้งข้อมูลการย้ายหอเตือนภัยให้ประชาชนในพื้นที่รับทราบอย่างทั่วถึง ทั้งนี้ การย้ายหอเตือนภัยไปยังพื้นที่ริมทะเลซึ่งมักไม่มีประชาชนอาศัยอยู่ส่งผลให้ไม่สามารถได้ยินเสียงเตือนภัยในช่วงทดสอบสัญญาณ จึงควรจัดสรรงบประมาณสำหรับบำรุงรักษาหอเตือนภัยให้เพียงพอและพร้อมใช้งานในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน รวมถึงควรใช้แบตเตอรี่หรือไฟฟ้าแทนโซล่าร์เซลล์สำหรับหอเตือนภัย เนื่องจากพื้นที่ภาคใต้มีฝนตกเป็นประจำอาจทำให้สัญญาณเตือนภัยจากหอเตือนภัยขาดหาดหายและทำให้ประชาชนไม่สามารถอพยพได้ทันเวลา

@ เสริมความแข็งแรงของอาคารลดผลกระทบจากแผ่นดินไหว

กรมโยธาธิการและผังเมือง

1. ควรแก้ไขปัญหาผลกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่รอยต่อของประเทศไทยที่มักประสบปัญหาการประท้วงในการก่อสร้างเขื่อนป้องกันประเทศ พร้อมทั้งกรมโยธาธิการและผังเมืองควรสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งในพื้นที่รอยต่อไทย-เมียนมาให้มากขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่แคบ เช่น กระบุรี-ระนอง ซึ่งมีการเคลื่อนย้ายเข้าออกระหว่างไทยและเมียนมา เพื่อเสริมความมั่นคงในเขตชายแดนและรักษาผลประโยชน์ของชาติบริเวณพื้นที่ชายแดน

2. ควรปรับปรุงกระบวนการขออนุญาตปลูกสร้างที่ยังเกิดความล่าช้า โดยเฉพาะการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งและสิ่งก่อสร้างเพื่อป้องกันการกัดเซาะพื้นที่ชายฝั่งทะเล ซึ่งตามพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย ต้องขออนุญาตปลูกสร้างสิ่งล่วงล้ำลำน้ำและผ่านการพิจารณาจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมเจ้าท่า องค์กรูปกครองส่วนท้องถิ่น คณะกรรมการะดับจังหวัดในการตรวจสอบความสอดคล้องกับแผนพัฒนาจังหวัด กรมโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดเพื่อตรวจสอบความสอดคล้องกับผังเมือง และสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเพื่อตรวจสอบความสอดคล้องกับสภาพแวดล้อมในพื้นที่ กระบวนการเตรียมพื้นที่ดังกล่าวก่อให้เกิดความล่าช้า ส่งผลกระทบต่อการเบิกจ่ายงประมาณและทำให้การเบิกจ่ายล่าช้า รวมถึงส่งส่งผลกระทบต่อการประเมินองค์กรด้วย

3. ควรพิจารณาความจำเป็นเร่งด่วนในการสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งโดยเฉพาะในพื้นที่ชายแดนหรือแม่น้ำรอยต่อระหว่างประเทศ เพื่อป้องกันการสูญเสียดินแดนและสร้างความชัดเจนในขอบเขตอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากยังพบการดำเนินการที่แตกต่างกันระหว่างฝั่งไทยและประเทศเพื่อนบ้าน

4. ควรกำหนดแนวทางปฏิบัติเชิงรุกในการจัดรูปที่ดินและผังเมืองโดยนำมาตรการบังคับทางกฎหมายมาใช้ในการจัดการผังเมืองอย่างเคร่งครัด พร้อมวางแผนและกำหนดข้อกำหนดด้านผังเมืองเพื่อประโยชน์ในการใช้ที่ดินและอาคารในอนาคตอย่างเหมาะสม รวมทั้งกำหนดมาตรการควบคุมอาคารเพื่อให้การพัฒนาเมืองเป็นไปในทิศทางเดียวกัน และปรับปรุงระบบผังเมืองให้ได้มาตรฐานสากลโดยเน้นการวางผังเมืองเพื่อรองรับอุทกภัยควบคู่กับบริบทสภาพแวดล้อมในพื้นพื้นที่ เช่น การก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างที่ขวางทางน้ำ เพื่อบรรเทาปัญหาเมื่อเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ

5. ควรดำเนินการเชิงรุกในการทวงคืนพื้นที่ที่มีปัญหาการรุกล้ำลำน้ำควบคู่กับการบังคับใช้กฎหมาย โดยเฉพาะในพื้นที่แม่น้ำลำคลอง เพื่อให้การกำหนดผังเมืองและการใช้ประโยชน์ที่ดินเป็นไปอย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ

6. ควรแก้ไขปัญหาความล่าช้าในการปรับปรุงผังเมือง โดยให้มีการอัพเดตทุก ๆ 5 ปี พร้อมปรับปรุงให้สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงของเมืองในปัจจุบันและตอบสนองความต้องการใช้ประโยชน์ในพื้นที่โดยเฉพาะในพื้นที่เศรษฐกิจ เช่น เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC)

7. ควรพิจารณาแก้ไขระเบียบหรือกฎเกณฑ์เพื่อเปิดโอกาสให้อุตสาหกรรมเดิมที่มีมลพิษสูงสามารถปรับปรุงเป็นประเภทที่สร้างมลพิษน้อยลงได้ เพื่อแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมและส่งเสริมโอกาสพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่โดยไม่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาอุตสาหกรรม เช่น การขยายโรงงานในที่ดินเดิมหรือการเปลี่ยนประเภทโรงงานจากที่ก่อมลพิษสูงไปสู่โรงงานอุตสาหกรรมสะอาด เช่น โรงงานน้ำดื่ม เป็นต้น

8. ควรผลักดันการเสริมความแข็งแรงของอาคารเพื่อลดผลกระทบจากแผ่นดินไหว โดยเริ่มจากกรุงเทพมหานครซึ่งเป็นพื้นที่เสียงและได้รับผลกระทบหนักจากเหตุการณ์ที่ผ่านมา เนื่องจากลักษณะพื้นที่ที่เป็นดินอ่อนทำให้เกิดผลกระทบได้ง่าย ควรนำร่องที่อาคารของรัฐเป็นตัวอย่างก่อนขยายไปยังอาคารของภาคเอกชน โดยต้องคำนึงถึงข้อจำกัดด้านงบประมาณและกระบวนการขออนุญาต

9. ควรติดตั้งเซ็นเซอร์ตรวจสอบอาคาร โดยเฉพาะอาคารสูงที่เป็นอาคารสำคัญของรัฐ เช่น โรงพยาบาล เพื่อประเมินสถานการณ์ล่วงหน้ากรณีเกิดแผ่นดินไหว และสนับสนุนการตัดสินใจอพยพผู้ป่วยวิกฤตอย่างปลอดภัย

@ สนับสนุนนงบประมาณก่อสร้าง ปรับปรุง ซ่อมแซมถนนทางหลวงท้องถิ่น

กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น

1. ควรร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขปัญหาระบบบัญชีคอมพิวเตอร์ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (Electronic Local Administrative Accounting System หรือ ระบบ New e-LAAS) ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพและความโปร่งใสขององค์กรปกรองส่วนท้องถิ่น โดยระบบประสบปัญหาล่มบ่อยครั้ง ส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ เกิดการทำงานซ้ำซ้อนและความล่าช้าในการดำเนินงาน

2. ควรเร่งแก้ไขปัญหาสำคัญที่เกิดขึ้นกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เช่น ปัญหาการบริหารงานบุคคลในกรณีการแต่งตั้งตำแหน่งที่ก่อให้เกิดความไม่ชัดเจนในอำนาจหน้าที่และความล่าช้าในการแต่งตั้งผู้ดำรงตำแหน่ง การรักษาการที่เป็นเพียงการปฏิบัติหน้าที่แทนชั่วคราวอาจก่อให้เกิดปัญหาตามมาได้ และควรให้ความสำคัญพร้อมระมัดระวังในการคัดเลือกบุคลากรเข้ารับตำแหน่งสำคัญต่าง ๆ เช่น ตำแหน่งด้านการเงินการคลัง เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการบริหารงานของท้องถิ่นและให้สามารถตอบสนองนโยบายของผู้บริหารและประชาชนได้อย่างเต็มที่ รวมทั้งควรให้ความสำคัญต่อปัญหาการทุจริตในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอย่างเข้มงวด

3. ควรจัดสรรเงินอุดหนุนด้านบริการสาธารณสุขให้ครอบคลุมถึงกลุ่มประชากรแฝงหรือกลุ่มแรงงานต่างด้าว และจัดสรรให้สอดคล้องกับสัดส่วนข้อมูลประชากรที่แท้จริง รวมทั้งสอดคล้องกับจำนวนประชากรแฝงหรือกลุ่มแรงงานต่างด้าวที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ต่าง ๆ โดยปัจจุบันการจัดสรรเงินอุดหนุนมุ่งเฉพาะประชากรที่มีชื่อยู่ในทะเบียนบ้านเท่านั้น ทั้งที่ประชากรกลุ่มดังกล่าวยังคงใช้ระบบบริการสาธารณสุขของประชาชนในพื้นที่ด้วย

4. ควรทบทวนการจัดสรรงบเงินอุดหนุนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้เหมาะสมกับบทบาทและภารกิจในแต่ละพื้นที่ เช่น การสนับสนุนนงบประมาณสำหรับงานก่อสร้าง ปรับปรุง และซ่อมแซมถนนทางหลวงท้องถิ่นให้เพิ่มขึ้น เนื่องจากถนนในความรับผิดชอบขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีจำนวนมากและก่อให้เกิดปัญหาความเดือดร้อนแก่ประชาชน พร้อมทั้งควรทบทวนรูปแบบการใช้จ่ายเงินเพื่อการรักษาพยาบาลของข้าราชการและพนักงานท้องถิ่นให้เป็นไปในลักษณะเดียวกับการเบิกจ่ายของข้าราชการที่ดำเนินการภายใต้กรมบัญชีกลาง

5. ควรแก้ไขปัญหาการก่อสร้างโรงเผาขยะที่เกาะสมุย ซึ่งปัจจุบันยังถูกทิ้งร้างให้สามารถใช้การได้ เนื่องจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ไม่สามารถก่อสร้างโรงเผาขยะเองได้ ส่งผลให้มีปริมาณขยะของเกาะสมุยจำนวนมากต้องขนย้ายไปกำจัดที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีซึ่งก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายในการขนส่งสูงเป็นจำนวนมากต่อปี

การประปาส่วนภูมิภาค

ควรปรับปรุงแรงดันน้ำให้ได้มาตรฐานสากลหรือใกล้เคียงกับมาตรฐานในเขตเมือง รวมทั้งเร่งดำเนินโครงการน้ำประปาดื่มได้ในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ เพื่อเพิ่มโอกาสให้ประชาชนเข้าถึงน้ำสะอาด ลดค่าใช้จ่ายในการซื้อน้ำดื่ม และยกระดับคุณภาพชีวิต พร้อมทั้งควรบริหารจัดการน้ำสูญเสียให้เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นเพื่อรักษาทรัพยากรน้ำและลดต้นทุนการดำเนินงานในในระดับหนึ่ง

องค์การจัดการน้ำเสีย

ควรนำความรู้ การศึกษาวิจัย นวัตกรรม และเทคโนโลยีจากมหาวิทยาลัยหรือสถาบันการศึกษาที่เกี่ยวข้องมาใช้ให้เกิดประโยชน์ในการรักษาสิ่งแวดล้อมและสุขภาพชุมชน โดยเฉพาะในด้านการบำบัดน้ำเสีย การกำจัดตะกอน และการควบคุมคุณภาพน้ำ

กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี

1. ควรจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมให้กับกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีเพื่อเสริมสร้างโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินของสตรี พร้อมปรับหลักเกณฑ์และเงื่อนไขให้เหมาะสม รวมทั้งรณรงค์ให้สตรีสมัครเป็นสมาชิกกองทุน โดยเฉพาะสตรีกลุ่มเปราะบางและกลุ่มนักเรียนนักศึกษาที่สร้างรายได้จากอาชีพเสริมแต่ยังขาดเงินทุน เพื่อเพิ่มโอกาสให้สตรีเข้าถึงแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำ

สำหรับการลงทุนพัฒนาอาชีพ สร้างงาน สร้างรายได้ และเสริมสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจตามวัตถุประสงค์ของกองทุน โดยสตรีถือเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจฐานรากของชุมชนและกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีเป็นกำลังหลักในการส่งเสริมอาชีพกลุ่มสตรี พร้อมช่วยลดปัญหาการปล่อยสินเชื่อนอกระบบด้วย

2. ควรอบรมพัฒนาทักษะผู้นำสตรีในระดับท้องถิ่นและส่งเสริมสื่อที่สร้างภาพลักษณ์เชิงบวกของผู้หญิงเพื่อเปลี่ยนค่านิยมดั้งเดิมและส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ นอกจากนี้ ควรปรับหลักเกณฑ์การกู้ยืมเงินจากเดิมที่กำหนดให้รวมกลุ่มไม่น้อยกว่า 3 คน เป็นให้สตรีเพียงคนเดียวสามารถกู้เงินได้ โดยพิจารณาสัดส่วนที่เหมาะสมกับความสามารถในการชำระหนี้ พร้อมกำหนดเงื่อนไขหรือหลักประกันที่เข้มงวดขึ้น เนื่องจากปัญหาที่ผ่านมาพบว่าสมาชิกกลุ่มบางรายไม่รับผิดชอบ ส่งผลให้สมาชิกคนอื่นต้องรับภาระหนี้แทน

3. กองทุนพัฒนาบทบาทสตรีกับกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัวซึ่งอยู่ภายใต้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์มีภารกิจคล้ายคลึงกัน จึงควรบูรณาการทำงานร่วมกัน นอกจากนี้ ประธานคณะกรรมการพัฒนาสตรีในแต่ละระดับควรเป็นบุคคลเดียวกับหัวหน้าคณะทำงานขับเคลื่อนกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีในแต่ละระดับ เพื่อให้เกิดการบูรณาการและดำเนินงานที่เป็นเอกภาพ มีแนวทางทิศทางเดียวกัน รวมทั้งกลุ่มงานที่รับผิดชอบภารกิจของคณะทำงานขับเคลื่อนกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีและคณะกรรมการพัฒนาสตรีควรเป็นกลุ่มงานเดียวกันเพื่อให้การทำงานมีความสอดคล้องและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน

ที่มาภาพ : เว็บไซต์ รัฐบาลไทย (https://www.thaigov.go.th/)