
“…ในการใช้จ่ายเงินเพื่อดำเนินการตามแผนเพื่อให้ได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภาในครั้งนี้พรรค XXX และคณะกรรมการบริหารพรรค XXX ได้กำหนดให้ไปรับเงินจากนาง ร. ที่บริเวณชั้น 4 ห้องประชุมของสำนักงานใหญ่พรรค XXX กรุงเทพมหานคร โดยให้ทุกคนมีการลงลายมือชื่อรับเงินทุกครั้ง สำหรับในส่วนของเอกสารใบลาออกจากสมาชิกวุฒิสภานั้น มีการกำหนดให้หัวหน้าทีมแต่ละสายจัดการทำเอกสารใบลาออกจากสมาชิกวุฒิสภาไว้เป็นการล่วงหน้า โดยให้มีการลงลายมือชื่อไว้โดยไม่ต้องลงวันที่…”
หมายเหตุ : สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) สืบเนื่องจากกรณีนายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวระหว่างอภิปรายนโยบายรัฐบาลนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า นายอนุทิน เป็นผู้ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เรียกให้ไปรับทราบข้อกล่าวหาในลำดับที่ 187 ใช่หรือไม่ รวมถึงนายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา อยู่ลำดับที่ 3
ต่อมาจากการตรวจสอบพบว่า เป็นลำดับที่ตรงกับที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยตั้งแต่ลำดับที่ 187 ซึ่งเป็นลำดับของนายอนุทิน นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) เป็นต้นไป เป็นผู้บริหารของพรรคภูมิใจไทย อาทิ ลำดับที่ 188 นายสุรศักดิ์ พันธุ์เจริญวรกุล ลำดับที่ 189 นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ลำดับที่ 190 นายไชยชนก ชิดชอบ ลำดับที่ 191 นายเจเศรษฐ์ ไทยเศรษฐ์ ลำดับที่ 194 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล ลำดับที่ 195 นางศุภมาส อิศรภักดี ลำดับที่ 196 นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล ลำดับที่ 198 นายชลัฐ รัชกิจประการ ลำดับที่ 205 นายภราดร ปริศนานันทกุล สำหรับ นายเนวิน ชิดชอบ อยู่ลำดับที่ 228
อ่านข่าวประกอบ :
- เปิด 229 ชื่อ กกต.เรียกรับทราบข้อกล่าวหา คดีฮั้วเลือกสว. ‘อนุทิน’ ลำดับ 187-‘เนวิน’ 228
- ‘อนุทิน’โต้‘คดีฮั้วเลือกสว.’ไม่ใช่‘ผู้ต้องหา’ของ DSI - ‘อดิศร’ เปิดโพยหมายเรียกลำดับ 187
ต่อไปนี้เป็นรายละเอียดในบันทึกการแจ้งและรับทราบข้อกล่าวหาที่แจ้งยังไปยังบุคคลที่เพิ่งได้รับการแต่งตั้งเป็น ตำแหน่งใหญ่ในทำเนียบรัฐบาล และเป็น ผู้บริหารในพรรคการเมืองใหญ่ในรัฐบาล เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.68 เพื่อมาให้ถ้อยคำ หรือแสดงพยานหลักฐานแก้ข้อกล่าวหา ต่อคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน (ส่วนกลาง) คณะที่ 26 สำนักงานคณะกรรมการ กกต.
ด้วยในการเลือกสว.ระดับประเทศ เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.67 ตามพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) ให้มีการเลือก สว. พ.ศ. 2567 มีเหตุอันควรสงสัยหรือความปรากฎว่า ท่านได้กระทำการอันเป็นการทุจริตในการเลือกหรือร่วมกับบุคคลอื่นกระทำการหรือรู้เห็นกับการกระทำของบุคคลอื่น อันเป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. พ.ศ. 2561 มาตรา 70 ประกอบมาตรา 36 มาตรา 76 และมาตรา 77 (1) ซึ่งการกระทำดังกล่าวทำให้การเลือกมิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม ตามพ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. พ.ศ. 2561 มาตรา 62 คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน ส่วนกลาง คณะที่ 26 ตามคำสั่ง กกต. ที่ 1107/2568 ลงวันที่ 19 มี.ค.68 และตามคำสั่ง กกต. ที่ 1581/2568 ลงวันที่ 30 เม.ย.68 จึงจัดทำบันทึกการแจ้งและรับทราบข้อกล่าวหาเพื่อแจ้งให้ท่านทราบโดยสรุป ดังนี้

สำหรับ พฤติการณ์ ของผู้ถูกเชิญไปรับทราบข้อกล่าวหาคนดังกล่าวที่อยู่ใน บันทึกการแจ้งและรับทราบข้อกล่าวหา ของคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน (ส่วนกลาง) คณะที่ 26 สำนักงานคณะกรรมการ กกต. มีรายละเอียด ดังต่อไปนี้
@ ผู้คิดริเริ่ม-วางแผน-ผู้ร่วมกระบวนการ
1.เมื่อประมาณเดือน เมษายน 2567 XXX หัวหน้าพรรค XXX ได้กระทำหรือร่วมกันกระทำ หรือ ก่อ สนับสนุน หรือ รู้เห็นเป็นใจกับการกระทำของคณะกรรมการบริหารพรรค XXX ที่มีนาย ภ.XXX ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่ง XXX หัวหน้าพรรค XXX เป็นแกนนำและผู้คิดริเริ่มในการวางแผนเพื่อให้ได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภาตามพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2567 ที่มิได้เป็นไปโดยชอบด้วยรัฐธรรมนูญและกฎหมาย ทั้งยังขัดต่อหลักการพื้นฐานของการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
โดยมีผู้ร่วมกระบวนการเริ่มแรก คือ นาย ช. นาย ธ. นาย ก. นาย จ. นางสาว บ. นาย ว. และกรรมการบริหารพรรค XXX คนอื่น ซึ่งเมื่อบุคคลที่ร่วมวางแผนได้นำกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องมาวิเคราะห์แล้ว จึงได้มอบหมายให้นาย ภ. กับนาย ธ. เป็นตัวหลักในการจัดทำและวางระบบปฏิบัติการขึ้นมาในลักษณะเป็นโปรแกรม offline
จากนั้น คณะบุคคล ดังกล่าวที่เป็นคนคิดริเริ่มได้นำแผนการที่ได้คิดเตรียมไว้ไปนำเสนอในการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค XXX ณ สำนักงานใหญ่พรรค XXX กรุงเทพมหานคร ซึ่งมีการนำเสนอแผนผ่านหน้าจอในการประชุมของพรรค XXX โดยมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรค XXX และ นาย น. เข้าร่วมประชุมในการเสนอแผนดังกล่าวด้วย ซึ่งมีสาระสำคัญดังนี้
(1) พรรค XXX ซึ่งมีท่านเป็น XXX หัวหน้าพรรค XXX ได้กำหนดให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรค XXX เป็นผู้ปฏิบัติในการเตรียม จัดหา ผู้สมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภาระดับอำเภอให้ครบทุกกลุ่มอาชีพ ทั้ง 20 กลุ่ม โดยเป็นการเตรียมการ และจัดหาผู้สมัครทั้งประเทศเพื่อที่ต่อไปไม่ว่าผู้สมัครในกลุ่มใดจะมีการจับฉลากไปเลือกไขว้กลุ่มใดของสายใด ก็จะพบเจอกันในระหว่างดำเนินการเลือก เพราะได้มีการวางคนไว้ทุกกลุ่มแล้ว โดยมีโปรแกรมในการคิดคำนวณคะแนนของผู้ที่จะได้รับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภาระดับประเทศในรอบไขว้ของแต่ละคนเป็นหลักประกันไว้ คือ จำนวน 60 คะแนน
@ จ่ายเงินสด-ขั้นต่ำจังหวัดละ 1 ล้าน
(2) สำหรับแผนในเรื่องค่าใช้จ่ายนั้น พรรค XXX ซึ่งมีท่านเป็น XXX หัวหน้าพรรค XXX จะให้เงินสดเป็นค่าใช้จ่ายในแต่ละจังหวัดไม่เท่ากัน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับความสามารถของแต่ละจังหวัด โดยมีเงินขั้นต่ำ จำนวน 1,000,000 บาท และกำหนดให้ไปรับเงินสดที่สำนักงานใหญ่พรรค XXX กรุงเทพมหานคร โดยในการเลือกสมาชิกวุฒิสภาระดับอำเภอ มีการกำหนดค่าใช้จ่ายให้แก่ผู้สมัครที่จะเป็นโหวตเตอร์ (voter) ตั้งแต่ 10,000 บาท ถึง 50,000 บาท ในระดับจังหวัดจะให้ค่าตอบแทน จำนวน 50,000 บาท และในระดับประเทศจะให้ค่าตอบแทน จำนวน 200,000 บาท ทั้งนี้ ค่าตอบแทนที่ได้รับอาจมีจำนวนไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับความยากหรือง่ายในการหาผู้สมัครหรือผู้มีสิทธิเลือกในแต่ละกลุ่มอาชีพ
โดยในการจัดหาผู้สมัครนั้น ให้มุ่งเน้นในจังหวัดเป้าหมายสำคัญ เช่น จังหวัดพิจิตร จังหวัดอ่างทอง จังหวัดอุทัยธานี จังหวัดบุรีรัมย์ จังหวัดอำนาจเจริญ จังหวัดเลย จังหวัดสตูล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นต้น
(3) หลังจากผ่านการเลือกมาชิกวุฒิสภาระดับจังหวัดแล้ว ได้มีการวางแผนเตรียมการกำหนดจัดหาสถานที่ในการเข้าพักก่อนที่จะเดินทางไปเลือกสมาชิกวุฒิสภาระดับประเทศในวันที่ 26 มิถุนายน 2567 ซึ่งเป็นสถานที่ที่ให้แต่ละทีมจัดหากันเอง โดยให้มีระยะห่างจากเมืองทองธานี กรุงเทพมหานคร ซึ่งจัดเป็นสถานที่เลือกระดับประเทศ ไม่เกินประมาณ 30 ถึง 100 กิโลเมตร เช่น จังหวัดปทุมธานี จังหวัดนครนายก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นต้น เพื่อที่จะให้แต่ละทีมจะได้ดำเนินการจัดประชุมเพื่อบงการหรือชี้นำให้ผู้มีสิทธิเลือกสมาชิกวุฒิสภาระดับประเทศ จัดทำโพยที่มีหมายเลขประจำตัวผู้สมัครที่มีการจัดทำไว้ล่วงหน้า หรือเลขชุด หรือบล็อกโหวต (โพยฮั้ว)
โดยแต่ละสถานที่จะมีทีมงานที่เรียกว่า “ทีมงานติวเตอร์” เช่น ทีมงานติวเตอร์ของเจ๊ ร. หรือนาง ส. XXX หรือทีมงานติวเตอร์ของโก ก. หรือนายส. XXX เป็นต้น ซึ่งทีมติวเตอร์จะทำหน้าที่เป็นเป็นผู้อธิบายกระบวนการ หรือ ขั้นตอนในการจัดทำโพยฮั้วดังกล่าวโดยละเอียด เพื่อให้ผู้มีสิทธิเลือกสมาชิกวุฒิสภาระดับประเทศสามารถนำโพยที่มีหมายเลขประจำตัวผู้สมัครที่มีการจัดทำไว้ล่วงหน้า หรือเลขชุด หรือบล็อกโหวต (โพยฮั้ว) ซึ่งมีหมายเลขประจำตัวผู้สมัครที่กำหนดไว้ล่วงหน้านั้น ไปใช้ในการลงคะแนนในบัตรลงคะแนนเลือกสมาชิกวุฒิสภาระดับประเทศในวันที่ 26 มิถุนายน 2567 ทั้งในรอบแรก คือ รอบลงคะแนนเลือกผู้มีสิทธิเลือกระดับประเทศภายในกลุ่มเดียวกัน ซึ่งมีจำนวน 10 หมายเลข และรอบสอง คือ รอบลงคะแนนเลือกผู้มีสิทธิเลือกระดับประเทศในกลุ่มอื่นแต่ละกลุ่มในสายเดียวกัน (เลือกไขว้) ซึ่งมีจำนวน กลุ่มละ 5 หมายเลข ตามที่มีการกำหนดกันไว้ล่วงหน้า
@ รับเงินจาก ‘นาง ร.’ - ลงชื่อทุกครั้ง - เซ็นใบลาออกไมระบุวันที่ล่วงหน้า
(4) เมื่อมีการปฏิบัติตามแผนดังกล่าวจนกระทั่งได้ผู้ได้รับเลือกเป็นผู้มีสิทธิเลือกสมาชิกวุฒิสภาระดับประเทศแล้ว พรรค XXX และคณะกรรมการบริหารพรรค XXX ได้มีการกำหนดเป็นหลักเกณฑ์หรือเงื่อนไขว่า ถ้าทีมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใดหรือทีมใดมีผู้มีสิทธิเลือกสมาชิกวุฒิสภาระดับประเทศในทีมของตนเอง จำนวน 20 คน หรือจำนวนประมาณ 15 ถึง 20 คน จะได้โควต้าในการเป็นสมาชิกวุฒิสภา จำนวน 1 คน และขั้นตอนต่อจากนั้นจะให้หัวหน้าทีมแต่ละทีมจัดส่งรายชื่อ นามสกุล หมายเลขประจำตัวประชาชน หมายเลขประจำตัวผู้สมัครและกลุ่มอาชีพ เพื่อจะได้นำหมายเลขประจำตัวผู้สมัครของบุคคลตามรายชื่อที่ส่งมาไปกำหนดไว้ในโพยฮั้วในรอบไขว้ เพื่อเป็นหลักประกันให้แก่รายชื่อบุคคลแต่ละคนที่ส่งมาว่าจะได้รับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา

โดยในทางปฏิบัติกำหนดให้ส่งรายชื่อให้แก่นาง ร. จากนั้นนาง ร. จะส่งให้นาง ส. และทีมงาน จากนั้นนาง ส. จะจัดส่งต่อให้นาย ภ. และทีมงาน ซึ่งเป็นผู้คิดริเริ่ม เพื่อดำเนินการต่อไปในการจัดทำโพยที่มีหมายเลขประจำตัวผู้สมัครที่มีการจัดทำไว้ล่วงหน้า หรือเลขชุด หรือบล็อกโหวต (โพยฮั้ว) โดยมีวิธีการจัดทำโพยฮั้วในรอบเลือกไขว้ เป็นชุด ๆ แต่ละชุดมี 5 หมายเลข เมื่อรวมกันทุกชุดแล้ว จะมีเพียง 7 หมายเลข หมายความว่า จะได้สมาชิกวุฒิสภาในแต่ละกลุ่ม กลุ่มละ 7 คน โดยมีหลักประกันของคะแนนที่แต่ละคนจะได้รับของบุคคลตามรายชื่อที่ส่งมาซึ่งคำนวณจากโปรแกรมดังกล่าวได้ จำนวน 60 คะแนน และในเบื้องต้นระบบโปรแกรมดังกล่าวได้คำนวณคร่าวๆว่า รายชื่อที่พรรค XXX ดำเนินการนั้น จะได้เป็นสมาชิกวุฒิสภา ประมาณ 110 คน ถึง 120 คน
(5) ในการใช้จ่ายเงินเพื่อดำเนินการตามแผนเพื่อให้ได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภาในครั้งนี้พรรค XXX และคณะกรรมการบริหารพรรค XXX ได้กำหนดให้ไปรับเงินจากนาง ร. ที่บริเวณชั้น 4 ห้องประชุมของสำนักงานใหญ่พรรค XXX กรุงเทพมหานคร โดยให้ทุกคนมีการลงลายมือชื่อรับเงินทุกครั้ง สำหรับในส่วนของเอกสารใบลาออกจากสมาชิกวุฒิสภานั้น มีการกำหนดให้หัวหน้าทีมแต่ละสายจัดการทำเอกสารใบลาออกจากสมาชิกวุฒิสภาไว้เป็นการล่วงหน้า โดยให้มีการลงลายมือชื่อไว้โดยไม่ต้องลงวันที่ จากนั้นมีการกำหนดให้หัวหน้าทีมแต่ละสายทุกคนต้องส่งใบลาออกที่ผู้มีสิทธิเลือกสมาชิกวุฒิสภาระดับประเทศได้ลงลายมือชื่อไว้โดยไม่ได้ลงวันที่ให้แก่นาง ร. เพื่อจัดเก็บรวบรวมไว้
@ รู้เห็นเป็นใจกับการกระทำของ ‘นาย น.’
ต่อมาท่านและคณะกรรมการบริหารพรรค XXX รวมทั้งทีมงานต่าง ๆ ของท่าน ได้มีการดำเนินการตามแผนที่ได้วางไว้ตามสถานที่ในจังหวัดต่าง ๆ ดังกล่าวข้างต้น เพื่อจัดทำโพยที่มีหมายเลขประจำตัวผู้สมัครที่มีการจัดทำไว้ล่วงหน้า หรือเลขชุด หรือบล็อกโหวต (โพยฮั้ว) ซึ่งมีหมายเลขประจำตัวผู้สมัครที่กำหนดไว้ล่วงหน้า ไปใช้ในการลงคะแนนในบัตรลงคะแนนเลือกสมาชิกวุฒิสภาระดับประเทศในวันที่ 26 มิถุนายน 2567 และข้อเท็จจริงปรากฏว่า ผู้มีสิทธิเลือกสมาชิกวุฒิสภาระดับประเทศได้ใช้โพยที่มีหมายเลขประจำตัวผู้สมัครที่มีการจัดทำไว้ล่วงหน้า หรือเลขชุด หรือบล็อกโหวต (โพยฮั้ว) ดังกล่าวในการลงคะแนนเลือกสมาชิกวุฒิสภาระดับประเทศจนทำให้ผู้มีสิทธิเลือกสมาชิกวุฒิสภาระดับประเทศที่มีหมายเลขประจำตัวผู้สมัครปรากฏอยู่ตามโพยฮั้วดังกล่าว ได้รับคะแนนจากการลงคะแนนเลือกอยู่ในลำดับที่จะได้รับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภาตามจำนวนที่ใกล้เคียงกับที่ท่านและคณะกรรมการบริหาร XXX ได้วางแผนไว้
และภายหลังจากคณะกรรมการการเลือกตั้งได้ประกาศผลการเลือกวุฒิสภาแล้ว XXX หัวหน้าพรรค XXX และคณะกรรมการบริหารพรรค XXX ได้กระทำหรือร่วมกันกระทำ หรือก่อ สนับสนุน หรือรู้เป็นใจกับการกระทำของนาย น. ในการดำเนินการเพื่อให้สมาชิกวุฒิสภาเดินทางไปรวมตัวประชุมกันที่โรงแรม XXX (ซอยXXX) กรุงเทพมหานคร เพื่อรับนโยบายกันนาย น. โดยนาย น. ซึ่งเป็นสมาชิกพรรค XXX เป็นผู้กำหนดว่าจะให้บุคคลใดตำแหน่งประธานวุฒิสภา และรองประธานวุฒิสภา รวมทั้งประธานกรรมาธิการชุดต่าง ๆ ในวุฒิสภา

การกระทำดังกล่าวของท่านและคณะกรรมการบริหารพรรค XXX รวมทั้งทีมงานต่าง ๆ ของท่านเป็นกระบวนการวางแผนและลงมือกระทำร่วมกันหรือแบ่งหน้าที่กันทำเพื่อให้ได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภาที่มิได้เป็นไปโดยชอบด้วยรัฐธรรมนูญและกฎหมาย ทั้งยังขัดต่อหลักการพื้นฐานของการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข กระทำดังกล่าวเป็นการสมยอมหรือช่วยเหลือกันในการลงคะแนนเลือกสมาชิกวุฒิสภาที่รับรู้กันมาก่อนเป็นการล่วงหน้า โดยผู้มีสิทธิเลือกสมาชิกวุฒิสภาระดับประเทศแต่ละคนที่มาประชุมขาดความเป็นอิสระในการลงคะแนนเลือกสมาชิกวุฒิสภา ทำให้การเลือกสมาชิกวุฒิสภาไม่เป็นความลับซึ่งขัดต่อหลักการพื้นฐานของการเลือกตั้งที่ต้องเป็นไปโดยลับและโดยเสรีและเป็นการกระทำที่ไม่ปฏิบัติตามวิธีการและเงื่อนไขในการแนะนำตัวที่คณะกรรมการการเลือกตั้งกำหนด การกระทำดังกล่าวของท่านจึงเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 70 ประกอบมาตรา 36 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561
อีกทั้งการกระทำของท่านยังเป็นการให้ เสนอให้เงินหรือทรัพย์สิน หรือผลประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้แก่ผู้ใด เพื่อจูงใจให้ผู้สมัคร หรือผู้มีสิทธิเลือกลงคะแนนหรือไม่ลงคะแนนให้แก่ผู้ใด หรือเพื่อจูงใจให้ผู้อื่นกระทำการใด ๆ ให้ผู้นั้นหมดสิทธิที่จะเลือกหรือได้รับเลือก เป็นการฝ่าฝืนมาตรา 77 (1) แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 ซึ่งการกระทำดังกล่าวของท่านและคณะกรรมการบริหารพรรค XXX รวมทั้งทีมงานต่างๆ ของท่าน มีผลให้การเลือกสมาชิกวุฒิสภาระดับประเทศมิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรมตามมาตรา 62 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญดังกล่าว

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา