
สืบค้นงบการเงินย้อนหลังปี 2545 -2567 บ.ไทยสเปเชียลฯ ลูกหนี้ ‘อนุทิน ชาญวีรกูล’ พบลงรายการหนี้สิน-กู้กก. 155 ล้าน ไม่ทำสัญญา ไม่คิดดอกเบี้ย ไร้หลักประกัน ก่อนนายกฯโชว์ตั๋วสัญญาใช้เงิน 135.9 ล้าน ปี 2551 ในบัญชีฯ ป.ป.ช. ไขข้อสงสัย กู้ยืมกันจริงหรือไม่ ไฉนไม่คิดดอกเบี้ย ไม่มีหลักประกัน ?
กรณีนายอนุทิน ชาญวีรกูล ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) กรณีพ้นตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร วันที่ 19 ก.ค.2568 ระบุมีเงินให้กู้ยืม จำนวน 5 ราย รวม 159.9 ล้านบาท ในจำนวนนี้ 1 ราย เป็นรายการเงินให้กู้ยืมแก่ บริษัท ไทยสเปเชียล สตีล จำกัด วันให้กู้ยืม 13 พ.ย. 2551 ยอดหนี้คงเหลือ 135,988,731.74 บาท (135.9 ล้านบาท)
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานแล้ว่า ลูกหนี้รายนี้เป็นบริษัทเก่าของนายอนุทินและครอบครัว นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล เป็นกรรมการและถือหุ้นใหญ่ นายอนุทินเป็นกรรมการในช่วงปี 2533-2547 ก่อนทำสัญญากู้เงิน มีการโอนหุ้นอย่างน้อย 2 ครั้ง กระทั่ง น.ส.รัชดา น้อยศิริ เป็นกรรมการและถือหุ้นใหญ่ในปัจจุบัน ขณะที่งบการเงินตั้งแต่ปี 2548 - 2567 หรือ 20 ปี ผลประกอบการขาดทุน 15 ปี ล่าสุดรอบปีสิ้นสุด 31 ธ.ค.2567 รายได้ 5.41 บาท ขาดทุน 10,818.65 บาท งบดุล สินทรัพย์ 2,654 บาท ขาดทุนสะสม 199.2 ล้านบาท

ต่อมาตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า ตั๋วสัญญาใช้เงิน (PROMISSORY NOTE ) ของ บริษัท ไทยสเปเชียลสตีล จำกัด เลขที่ TSS 08/01 วันที่ 13 พ.ย. 2551 ตามที่นายอนุทินแจ้งต่อ ป.ป.ช. ระบุ “อัตราดอกเบี้ย - ให้แก่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล เงื่อนไขการชำระเงินต้นและดอกเบี้ย เมื่อทวงถาม” ทำให้เกิดข้อสงสัยเบื้องต้นว่า นับตั้งแต่ พ.ย.2551 หรือ ประมาณ 17 ปี ทั้งสองฝ่ายมีการชำระเงินต้นหรือดอกเบี้ยหรือไม่ ? และหรือ มีการติดตามทวงถามกันหรือไม่ ? หรือ เพียงทำขึ้นลอยๆ เท่านั้น ?
ขณะที่นายอนุทินก็ไม่ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงในเรื่องนี้แต่อย่างใดเพียงบอกขอชี้แจงต่อ ป.ป.ช.เท่านั้น
ข้อสงสัยต่อเรื่องนี้ก็คือ มีการกู้ยืมกันจริงหรือไม่ ? และหากกู้ยืมกันจริงเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่?
ก่อนที่จะมีคำตอบอย่างหนึ่งอย่างใด ?
สำนักข่าวอิศรานำงบการเงิน บริษัท ไทยสเปเชียลสตีล จำกัด ลูกหนี้มาประกอบการพิจารณา
จากการสืบค้นข้อมูลย้อนหลังในปี 2545 ก่อนทำสัญญา จนถึงล่าสุด หรือ ประมาณ 23 ปี พบข้อมูลดังนี้
@งบฯปี 2545-2546 ระบุชัด กู้ยืม กก. 155 ล. ไม่ทำสัญญา/ไม่คิดดอกเบี้ย
รอบปีบัญชีสิ้นสุด 31 ธ.ค.2545
หมายเหตุประกอบงบการเงินระบุ
บริษัทมีผลขาดทุนสะสม 144.99 ล้านบาท มีหนี้สินรวมสูงกว่าสินทรัพย์รวม 82.99 ล้านบาท บริษัทได้หยุดดำเนินการแล้ว มีหนี้สิน 155,215,556.74 บาท เป็นเงินกู้ยืมจากกรรมการ 155,034,731.74 บาท
“บริษัท กู้เงินจากกรรมการของบริษัท ซึ่งมียอดคงเหลือ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2545 จำนวน 155.0 ล้านบาท เป็นการกู้โดยไม่มีการทำสัญญาเงินกู้ และไม่มีการคิดดอกเบี้ยระหว่างกัน” (งบการเงินลงนามโดยนายอนุทิน และนายวรพันธ์ ช้อนทอง กรรมการ)
รอบปีสิ้นสุด 31 ธ.ค. 2546 หนี้สิน - บริษัทกู้เงินจากกรรมการ 155.0 ล้านบาท โดยไม่มีการทำสัญญาเงินกู้ และไม่มีการคิดดอกเบี้ยระหว่างกัน
รอบปีสิ้นสุด 31 ธ.ค. 2547 หนี้สินหมุนเวียน – เงินกู้ยืมระยะสั้นจากบุคคลหรือกิจการที่เกี่ยวข้องกัน จำนวน 155,034,731.74 บาท “โดยไม่มีการคิดดอกเบี้ย ไม่มีหลักประกันการกู้ยืม และระยะเวลาชำระคืนที่แน่นอน จะชำระคืนเมื่อทวงถาม”
รอบปีสิ้นสุด 31 ธ.ค.2548 หนี้สินหมุนเวียน ยอดเดียวกับรอบปี 31 ธ.ค. 2547
รอบปีสิ้นสุด 31 ธ.ค.2549 หนี้สินหมุนเวียน ยอดเดียวกับรอบปี 31 ธ.ค. 2547
รอบปีสิ้นสุด 31 ธ.ค.2550 (ก่อนกู้ยืมเงิน-ทำตั๋วสัญญาใช้เงิน 13 พ.ย.2551 ) หนี้สิน เงินกู้ยืมระยะสั้นจากบุคคลหรือกิจการที่เกี่ยวข้องกัน 154,988,731.74 บาท


@ ทำสัญญาปลายปี 2551 เหลือ 135.9 ล. ไม่คิดดอก ไร้หลักประกัน
รอบปีสิ้นสุด 31 ธ.ค.2551 หนี้สินหมุนเวียน-เงินกู้ยืมระยะสั้นจากบุคคลหรือกิจการที่เกี่ยวข้องกัน จำนวน 135,988,731.74 บาท (จำนวนตรงกันกับจำนวนที่นายอนุทินเป็นเจ้าหนี้ที่แจ้งในบัญชีทรัพย์สิน) “โดยไม่มีการคิดดอกเบี้ย ไม่มีหลักประกันการกู้ยืม และระยะเวลาชำระคืนที่แน่นอน จะชำระคืนเมื่อทวงถาม”
หลังทำสัญญาให้กู้
รอบปีสิ้นสุด 31 ธ.ค.2552 หนี้สินหมุนเวียน-เงินกู้ยืมระยะสั้นฯ ยอดเดียวกับรอบปี 31 ธ.ค. 2551
รอบปีสิ้นสุด 31 ธ.ค.2553 หนี้สินหมุนเวียน- เงินกู้ยืมระยะสั้นฯ 135,997,314.74 บาท
รอบปีสิ้นสุด 31 ธ.ค.2554 หนี้สินหมุนเวียน- เงินกู้ยืมระยะสั้นฯ 136,006,314.74 บาท
“โดยไม่มีการคิดดอกเบี้ย ไม่มีหลักประกันการกู้ยืม และระยะเวลาชำระคืนที่แน่นอน จะชำระคืนเมื่อทวงถาม”
รอบปีสิ้นสุด 31 ธ.ค.2555 หนี้สินหมุนเวียน- เงินกู้ยืมระยะสั้นฯ 136,014,814.74
รอบปีสิ้นสุด 31 ธ.ค.2556 หนี้สินหมุนเวียน- เงินกู้ยืมระยะสั้นฯ 136,023,814.74 บาท
รอบปีสิ้นสุด 31 ธ.ค.2557 หนี้สินหมุนเวียน- เงินกู้ยืมระยะสั้นฯ 136,032,814.74 บาท
“โดยไม่มีการคิดดอกเบี้ย ไม่มีหลักประกันการกู้ยืม และระยะเวลาชำระคืนที่แน่นอน จะชำระคืนเมื่อทวงถาม”
รอบปีสิ้นสุด 31 ธ.ค.2558 หนี้สินหมุนเวียน- เงินกู้ยืมระยะสั้นฯ 136,032,814.74 บาท
รอบปีสิ้นสุด 31 ธ.ค.2559 หนี้สินหมุนเวียน- เงินกู้ยืมระยะสั้นฯ 136,040,814.74 บาท
รอบปีสิ้นสุด 31 ธ.ค.2560 หนี้สินหมุนเวียน- เงินกู้ยืมระยะสั้นฯ 136,048,814.74 บาท
รอบปีสิ้นสุด 31 ธ.ค.2561 หนี้สินหมุนเวียน- เงินกู้ยืมระยะสั้นฯ 136,730,226.74 บาท

@ปี 2562-2567 เพิ่มเป็น 137.2 ล. ไม่คิดดอก-ไร้หลักประกัน-ไม่มีระยะเวลาชำระคืนที่แน่นอน
รอบปีสิ้นสุด 31 ธ.ค.2562 - รอบปีสิ้นสุด 31 ธ.ค.2563 หนี้สินหมุนเวียน - เงินกู้ยืมระยะสั้นฯ จำนวน 137,241,726.74 บาท เป็นเงินกู้ยืมจากบุคคลหรือกิจการที่เกี่ยวข้องกัน
“โดยไม่มีการคิดดอกเบี้ย ไม่มีหลักประกันการกู้ยืม และระยะเวลาชำระคืนที่แน่นอน จะชำระคืนเมื่อทวงถาม”
รอบปีสิ้นสุด 31 ธ.ค.2564 หนี้สินหมุนเวียน - เงินกู้ยืมระยะสั้นฯ จำนวน 137,248,726.74 บาท
รอบปีสิ้นสุด 31 ธ.ค.2565 หนี้สินหมุนเวียน - เงินกู้ยืมระยะสั้นฯ จำนวน 137,257,726.74 บาท
รอบปีสิ้นสุด 31 ธ.ค.2566 หนี้สินหมุนเวียน - เงินกู้ยืมระยะสั้นฯ จำนวน 137,274,726.74 บาท
รอบปีสิ้นสุด 31 ธ.ค.2567 หนี้สินหมุนเวียน - เงินกู้ยืมระยะสั้นฯ จำนวน 137,285,726.74 บาท เป็นเงินกู้ยืมจากบุคคลหรือกิจการที่เกี่ยวข้องกับบริษัท “ไม่มีหลักประกันการกู้ยืม ไม่กำหนดชำระคืนที่ และไม่คิดดอกเบี้ยระหว่างกัน”

จากข้อมูลเห็นได้ว่า
ในช่วงปี 2545 - 2550 บริษัทฯกู้ยืมจากกรรมการหรือ จากบุคคลหรือกิจการที่เกี่ยวข้องประมาณ 155 ล้านบาท แต่ไม่ได้ระบุว่า กู้ยืมจากบุคคลใด? เป็นการกู้ยืมโดยไม่มีการทำสัญญาเงินกู้ ไม่มีการคิดดอกเบี้ยระหว่างกัน ไม่มีระยะเวลาชำระคืนที่แน่นอน จะชำระคืนเมื่อทวงถาม กระทั่งบุคคลภายนอกมาทราบข้อมูล ‘ผู้ให้กู้’ที่ชัดเจนในรอบปี 2551 ว่าเป็นนายอนุทิน จำนวน 135,988,731.74 บาท “โดยไม่มีการคิดดอกเบี้ย ไม่มีหลักประกันการกู้ยืม และระยะเวลาชำระคืนที่แน่นอน จะชำระคืนเมื่อทวงถาม” เมื่อมีการแจ้งในบัญชีฯ ป.ป.ช.
ดังนั้น เป็นไปได้หรือไม่ นายอนุทินเป็น “ผู้ให้กู้” ตั้งแต่ปี 2545 แล้ว (หรือก่อนหน้านั้น) โดยไม่ได้ทำสัญญา ไม่คิดดอกเบี้ย ไม่มีหลักประกัน เพิ่งมาทำตั๋วสัญญาใช้เงินเมื่อเดือน พ.ย. 2551 (ตามที่แจ้ง ป.ป.ช.)
หากเป็นดังที่ว่า ไฉน!ก่อนหน้านั้นจึงไม่ทำสัญญา? หรือเป็นเพราะลูกหนี้รายนี้เป็นบริษัทของตนหรือของคนในครอบครัว แม้กรรมการและหรือผู้ถือหุ้นใหญ่ในช่วงถัดเป็นบุคคลอื่นซึ่งก็เป็นคนในบริษัทเครือข่ายก็ตาม จึงไม่มีความจำเป็น และทำไมมาทำสัญญาในปี 2551 ?
กรณีเป็นการกู้ยืมกันจริง มีการถอนเงินจากบัญชีไหน โอนเข้าบัญชีไหน เมื่อไหร่ อย่างไร?
ไม่ว่ามีการกู้ยืมกันจริงหรือไม่ก็ตาม ถ้าบริษัทลูกหนี้รายนี้ซึ่งมีทุนจดทะเบียน 62 ล้านบาท ประกอบการผลิตโลหะ เป็นบริษัทของนายอนุทิน (เป็นเจ้าของแท้จริง) จะต้องแจ้งบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช.ด้วยหรือไม่ ตั้งแต่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข รัฐบาลทักษิณ ชินวัตร ปี 2547 เป็นต้นมา รวมทั้ง เงินให้กู้ยืมในช่วงก่อนปี 2551 ด้วย?
จึงยังเป็นข้อสงสัยต่อผู้ดำรงตำแหน่งนายกฯ น่าจะชี้แจงให้กระจ่างชัด !
เรื่องเกี่ยวข้อง
- อนุทิน เดือด โยงสนามกอล์ฟครอบครัว ทับที่ดิน ส.ป.ก. ซัด หน้าตัวเมีย-เล่นนอกเกม
- ทำความรู้จัก บ.กอล์ฟเขาใหญ่ เจ้าของ‘แรนโช ชาญวีร์’ น้องสาว ‘อนุทิน’ 463.5 ล.
- สุดลึก! เปิดโฉนด-น.ส.3 ก. 24 แปลง สนามกอล์ฟเขาใหญ่ น้องสาว‘อนุทิน’ 508 ไร่
- ส่องภาพที่ตั้งโฉนด5 แปลง 181 ไร่ สนามกอล์ฟเขาใหญ่ น้องสาว‘อนุทิน’
- ตามเจาะ หลังโฉนด5 แปลง สนามกอล์ฟเขาใหญ่ น้องสาว ‘อนุทิน’ ได้มาจากไหนบ้าง ?
- ส่องให้สุด! ที่ตั้งโฉนดอีก14 แปลง 210 ไร่ สนามกอล์ฟเขาใหญ่น้องสาวอนุทิน
- ขุดชัด ๆ โฉนดอีก5 แปลง สนามกอล์ฟน้องสาว‘อนุทิน’ ซื้อจากนักธุรกิจอยู่กรุงเทพฯ
- ตามไปบ้านคนขายโฉนด สนามกอล์ฟน้องสาว‘อนุทิน’ -อ้างยายถือครองมา 30-40 ปีแล้ว
- เปิด 9 แปลง! โฉนดสนามกอล์ฟน้องสาว‘อนุทิน’ ซื้อจาก 6 คน/ จาก‘แปลงสินทรัพย์เป็นทุน’
- 'อนุทิน' ชี้แจงที่ดินสนามกอล์ฟ แรนโช ชาญวีร์ ได้มาถูกกม.-ยินดีให้ตรวจสอบ
- เปิดโฉม น.ส.3 ก. 5 แปลง สนามกอล์ฟเขาใหญ่ น้องสาว‘อนุทิน’- ซื้อจากบ.อสังหาฯด้วย
- บ.โฮลดิ้งฯผู้ขาย น.ส.3 ก. สนามกอล์ฟ น้องสาว‘อนุทิน’ คนสกุล‘มหากิจศิริ’พวกหุ้นใหญ่
- อยู่ในตึกแถวย่านบางรัก! บ.ขาย น.ส.3 ก.สนามกอล์ฟน้องสาว‘อนุทิน’-แจงผู้เกี่ยวข้องไม่อยู่แล้ว
- ตามเจาะงบฯ ปีล่าสุด สนามกอล์ฟน้องสาว‘อนุทิน’ รายได้ 2 ล. - ซื้อที่ดินเพิ่ม 5 ล.
- ข้อมูลใหม่! กก./ผู้ถือหุ้นใหญ่ สนามกอล์ฟ เขาใหญ่ เป็นลูกหนี้‘อนุทิน’ปล่อยกู้ 5 ล.
- เปิดสัญญากู้ยืม5 ล.‘อนุทิน -หุ้นใหญ่สนามกอล์ฟแรนโช’-ร่วมธุรกิจลูกสาวด้วย
- เบื้องหลังลูกสาว‘อนุทิน’ ถือหุ้น บ.พัฒนาที่ดิน เขาใหญ่ 5 ล. ที่แท้รับโอนจาก‘เสี่ยหนู’
- เปิดโฉมโฉนดเขาใหญ่5 ฉบับ‘อนุทิน ชาญวีรกูล’ แปลงเป็นหุ้น ก่อนโอนให้ลูกสาว
- ‘อนุทิน’ ไม่ตอบที่มาที่ดิน-สัญญากู้เงิน 5 ล. บอกมีคำอธิบายกับ ป.ป.ช.
เรื่องเกี่ยวข้องกับสนามบินปากช่อง
- ขุดสนามบินปากช่อง‘อนุทิน ชาญวีรกูล’ โอนหุ้น 25 ล้าน ให้ลูกสาว
- เปิดที่ดินสนามบินปากช่อง17 แปลง 174 ไร่ -‘อนุทิน ชาญวีรกูล’62 ไร่ มี น.ส.3 ก.ด้วย
- เผยโฉมโฉนด/น.ส.3 ก. สนามบิน ‘อนุทิน-ลูกสาว’6 แปลง-ห้ามโอน 5 ปี/ซื้อจากใครบ้าง?
- เจาะ11 แปลงที่ดินสนามบินปากช่อง ลูกหนี้/น้อง ‘อนุทิน’– ซื้อจาก บ.กลุ่มมหากิจศิริด้วย
- ส่องรันเวย์สนามบินปากช่อง บ.เจริญคีรี‘อนุทิน’ โฉนด 3 แปลงในชื่อ 2 คน-ถนนคั่นกลาง
- ตามส่องที่ตั้งโฉนดอีก 3 แปลง ‘อนุทิน’ ใกล้รันเวย์ สนามบินปากช่อง อยู่ตรงไหนบ้าง ?
- ลอต 3! เปิดภาพที่ตั้งโฉนดอีก 7 แปลงสนามบินปากช่อง ชื่อหุ้นส่วน/ลูกหนี้‘อนุทิน’
อินโฟกราฟิก
- INFO : ที่ดิน 174 ไร่ สนามบินปากช่อง เขาใหญ่ อนุทิน ชาญวีรกูล /ลูกสาว/คนใกล้ชิด
เรื่องเกี่ยวข้องกับเงินกู้ 135.9 ล.
- ส่อง บ.ลูกหนี้นายกฯ‘อนุทิน’135.9 ล. หญิงสาวหุ้นใหญ่/ ขาดทุน 15 ปี รายได้ 5.41 บาท
- ขุดลึก เงินให้กู้ 135.9 ล.! ที่แท้ บ.เก่า‘อนุทิน’ - ‘ชวรัตน์’ ถือหุ้นใหญ่ / โอน 2 ตลบ
- เปิดตั๋วสัญญาใช้เงิน 135.9 ล. บ.ลูกหนี้‘อนุทิน’! ชำระเงินต้น-ดอกเบี้ย เมื่อทวงถาม
- ตามไปดู บ.ลูกหนี้ ‘อนุทิน’ กู้ยืม 135.9 ล. ตอนนี้เป็นที่ดินรกร้างริมคลอง
- ‘อนุทิน’ ปัดตอบปมปล่อยกู้‘ไทยสเปเชียลฯ’135.9 ล. ชี้แจงป.ป.ช.ไปแล้ว ไม่มีหน้าที่ตอบสื่อ
- ตามไปดู (2) ที่ตั้งเก่าบ.ลูกหนี้ ‘อนุทิน’ กู้ 135.9 ล.เป็นห้องคอนโดไม่มีคนอยู่มา 3 ปีแล้ว
- อิศราตามหาหญิงถือหุ้น 62 ล้าน บ.ลูกหนี้‘อนุทิน’- พบข้อมูลใหม่ เคยทำงานซิโนไทย
- ตามหา กก.สาวอีกคน บ.ลูกหนี้ 9 ล.‘อนุทิน’ อยู่จ.ปทุมฯ-คนใกล้ชิดเผยทำงานซิโนไทย
- 2 กก.สาวลูกหนี้ 135.9 ล.‘อนุทิน’! ถือหุ้น 30 ล. บ.ครอบครัวนายกฯ-อีกราย‘คนทำบัญชี

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา