ครม.เห็นชอบกรอบเจรจาข้อตกลงเขตการค้าเสรี ‘อาเซียน-แคนาดา’ หวังเปิดประตูการค้าสู่ภูมิภาค ‘อเมริกาเหนือ’ เปิดโต๊ะเจรจานัดแรก 17 พ.ย.นี้
...............................
เมื่อวันที่ 9 พ.ย. น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบให้ประเทศไทยเข้าร่วมเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรี (FTA) อาเซียน-แคนาดา พร้อมทั้งเห็นชอบกรอบการเจรจา FTA อาเซียน-แคนาดา ของไทย และร่างเอกสารขอบเขตสาระที่จะเจรจาในการจัดทำข้อตกลง FTA อาเซียน-แคนาดา ซึ่งจะมีการเจรจาในการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน-แคนาดา ครั้งที่ 10 ในวันที่ 17 พ.ย.นี้
“การเจรจามีเป้าหมายเพื่ออำนวยความสะดวกการขยายการค้าและการลงทุนระหว่างกัน โดยเปิดเสรีทางการค้า ผ่านการลดอุปสรรคทางการค้าทางภาษีและที่มิใช่ภาษีในสินค้าทั้งหมดอย่างค่อยเป็นค่อยไป ส่งเสริมการค้าบริการในสาขาที่สำคัญ และขยายโอกาสด้านการลงทุน ซึ่งการเจรจาในชั้นนี้ยังไม่มีผลผูกผันทางกฎหมาย” น.ส.รัชดา ระบุ
น.ส.รัชดา กล่าวว่า ประโยชน์ที่ไทยจะได้รับการเจรจาจัดทำ FTA อาเซียน-แคนนาดาในครั้งนี้ เช่น จะทำให้ GDP ของไทยเพิ่มขึ้น ประมาณการได้ตั้งแต่ 7,968-254,953 ล้านบาท ตามสมมติฐานที่แตกต่างกัน และช่วยเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทานของไทยไปยังภูมิภาคอเมริกาเหนือ ซึ่งไทยยังไม่เคยมี FTA ด้วยมาก่อน
ขณะที่กลุ่มสินค้าที่คาดว่าไทยจะส่งออกไปแคนาดาเพิ่มขึ้น อาทิ สินค้าเกษตรและอาหาร เช่น ผักและผลไม้แปรรูป ผลิตภัณฑ์ปรุงรส ,ผลิตภัณฑ์ยาง เช่น ยางรถยนต์ ถุงมือยาง เครื่องมือและเครื่องจักร เช่น เครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น เครื่องซักผ้า ส่วนกลุ่มสินค้าที่คาดว่าไทยจะนำเข้าจากแคนาดามากขึ้น อาทิ ผลิตภัณฑ์จากสัตว์ เช่น เนื้อหมูและเครื่องใน เนื้อปลาแช่แข็ง ,ธัญพืช เช่น ข้าวสาลี และไม้แปรรูป เช่น แผ่นชิ้นไม้อัดเรียงแถว เฟอร์นิเจอร์ไม้
อย่างไรก็ตาม การเจรจาจัดทำ FTA อาเซียน-แคนาดา อาจส่งผลให้ภาคเกษตร อุตสาหกรรม บริการ และผู้ประกอบการของไทยต้องเผชิญกับการแข่งขันที่สูงขึ้น และต้องมีการยกระดับมาตรการกฎระเบียบในเรื่องต่างๆ ให้เป็นสากลมากขึ้น เช่น การคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา การค้าดิจิทัล สิทธิแรงงาน สิ่งแวดล้อม การแข่งขันทางการค้า และการจัดซื้อจัดจ้างโดยรัฐ ซึ่งข้อกังวลในเรื่องต่างๆนี้ รัฐบาลจะเจรจาเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศไทย
นางสาวรัชดา ระบุว่า ปัจจุบันไทยจัดทำความตกลงการค้าเสรี FTA จำนวน 13 ฉบับ กับ 18 ประเทศ โดยเป็นประเทศสมาชิกอาเซียน 9 ประเทศ คือ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ญี่ปุ่น จีน เกาหลีใต้ ฮ่องกง อินเดีย เปรู และชิลี และไทย ซึ่งครอบคลุม 63% ของการค้าทั้งหมดของไทย โดยเฉพาะข้อตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ที่จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2565 เป็นต้นไป จะทำให้สินค้าไทยกว่า 2.9 หมื่นรายการ ได้รับการลดภาษีเหลือ 0% ทันที
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage