ศาลรัฐธรรมนูญ รอความเห็น กกต. ก่อน วินิจฉัย ปม ภูมิธรรม-ทวี แทรกแซง ‘คดีฮั้วเลือกสว.’

ศาลรัฐธรรมนูญรอความเห็น-เอกสารหลักฐานจากเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง กรณีประธานวุฒิสภา ร้อง ภูมิธรรม เวชยชัย-พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ใช้กรมสอบสอบคดีพิเศษ เป็นเครื่องมือแทรกแซงคดีฮั้วเลือกสมาชิกวุฒิสภา ระบุ เพื่อประโยชน์แห่งการพิจารณาก่อนนำไปสู่การวินิจฉัย

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 17 กันยายน 2568 ศาลรัฐธรรมนูญ เผยแพร่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ข่าวที่ 35/2568 ศาลรัฐธรรมนูญประชุมปรึกษาคดี เรื่องพิจารณาที่ 8/2568 กรณีประธานวุฒิสภาส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และพันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่

สืบเนื่องจากสมาชิกวุฒิสภาเข้าชื่อเสนอคำร้องต่อประธานวุฒิสภา (ผู้ร้อง) โดยกล่าวอ้างว่า การที่ผู้ถูกร้องทั้งสองมีมติให้การกระทำความผิดทางอาญาอื่นเป็นคดีพิเศษตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 21 วรรคหนึ่ง (2) เป็นการแทรกแซงหรือครอบงำหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการการเลือกตั้ง โดยใช้กรมสอบสวนคดีพิเศษเป็นเครื่องมือแทรกแชงกระบวนการตรวจสอบการเลือกสมาชิกวุฒิสภา อันเป็นการกลั่นแกล้ง กดดัน ข่มขู่ และครอบงำสมาชิกวุฒิสภาซึ่งเป็นฝ่ายนิติบัญญัติ ขัดต่อหลักการแบ่งแยกอำนาจและฝ่าฝืนหลักนิติธรรม จึงถือได้ว่าผู้ถูกร้องทั้งสองไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์และมีพฤติกรรมเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 (4) และ (5) เป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีของผู้ถูกร้องทั้งสองสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่

ผลการพิจารณา ศาลรัฐธรรมนูญอภิปรายเพื่อนำไปสู่การวินิจฉัยแล้วเห็นว่า เพื่อประโยชน์แห่งการพิจารณาให้รอความเห็นและเอกสารหลักฐานจากเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้งตามที่ศาลรัฐธธรรมนูญอนุญาตให้ขยายระยะเวลาจัดทำความเห็นและจัดส่งเอกสารหลักฐาน