
อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย โยน ทำประชามติ ยุติความเห็นต่าง เอ็มโอยู 43 - เอ็มโอยู 44 ย้ำ ไม่เปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา จนกว่าภัยจะหมดไป ปัด นำรูปปั้นองค์นรสิงห์ ยุคพล.อ.ประยุทธ์ หวัง อยู่ 8 ปี
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 26 กันยายน 2568 ที่บริเวณสนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยให้สัมภาษณ์ถึงกรณีจุดยืนการยกเลิกหรือไม่ยกเลิกบันทึกความเข้าใจ (Memorandum of Understanding : MOU) 2543 และ 2544 ว่า อยู่ในนโยบายรัฐบาลที่จะแถลงต่อรัฐสภาในวันที่ 29 และ 30 กันยายน 2568 เพื่อไม่ให้เป็นการมีข้อขัดแย้งเพิ่มขึ้นไปอีก ซึ่งขณะนี้ให้สภาผู้แทนราษฎรมีการตั้งคณะศึกษาอยู่แล้ว ที่ชื่อคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาบันทึกความเข้าใจ MOU 2543 และ 2544 ระหว่างประเทศไทยกับประเทศกัมพูชา ที่มี นายไชชนก ชิดชอบ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย เป็นประธาน แต่ในส่วนของนโยบายรัฐบาลจะมีการเสนอให้มีการทำประชามติในเรื่องนี้ เพื่อไม่ต้องการให้มีความเห็นต่างใดๆ
นายอนุทินยังตอบคำถามผู้สื่อข่าวถึงสถานการณ์บริเวณชายแดนไทยกับกัมพูชา ว่า มีการยั่วยุตลอดเวลา ฝ่ายกองทัพไทยมีความอดทนเป็นอันมาก และมีความพร้อมตรึงกำลังไม่ให้มีการล่วงล้ำใด ๆ
“ผมได้ยืนยันกับพล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย รมว.กลาโหม และพล.ท.อดุลย์ บุญธรรมเจริญ รมช.กลาโหม ท่าทีของรัฐบาลของผม ซึ่งทั้งสองท่านได้รับทราบแล้ว เมื่อสักครู่ก็ได้มีโอกาสคุยทางโทรศัพท์กับพล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ตอนนี้มั่นใจว่า ความเข้าใจในการทำงานและการปฏิบัติการตรงกัน”นายอนุทินกล่าว
เมื่อถามว่าจะมีการยกหูคุยกับฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา หรือ สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชาและนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ด้วยตัวเองหรือไม่ เพื่อให้เกิดการคลี่คลายปัญหา นายอนุทินกล่าวว่า เรื่องของการรักษาดินแดน รักษาอธิปไตย รักษาความปลอดภัยของประเทศและประชาชน เรื่องนี้เป็นเรื่องของกองทัพที่จะมีอำนาจอย่างเต็มที่ เรื่องเปิดด่าน ไม่มี จนกว่าความเป็นภัยของประเทศกัมพูชาต่อประเทศไทยจะหมดไป ส่วนเรื่องทางการทูตนั้น ได้มอบนโยบายและนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รมว.ต่างประเทศไปแล้ว ซึ่งไม่ว่าจะมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน หรือ การบริหารสถานการณ์ที่มีความขัดแย้งกัน ต้องหารือกันและหากมีมาตรการอะไรก็จะใช้ดุลพินิจในการตัดสินใจ
ผู้สื่อข่าวยังถามถึงการนำรูปปั้นองค์นรสิงห์สมัยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี ขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าว่า เป็นสิ่งครูบาอาจารย์แนะนำว่า รูปปั้นองค์นรสิงห์ได้ถูกประดิษฐานอยู่ที่นี่อยู่แล้ว ก็ไปเชิญกลับมาอยู่ในที่เหมาะสม
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีคนมองไว้อาจจะไม่ได้อยู่ 4 เดือน แต่จะอยู่ 4+4 ปี นายอนุทินกล่าวว่า “ไม่เกี่ยว อย่าไปคิดมาก คนละเรื่องกัน อะไรที่ทำแล้วสบายใจ แล้วรู้สึกว่ามีความเป็นสิริมงคลกับประเทศ กับประชาชน กับตัวเอง ทำไปก็ไม่เสียหายอะไร”

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา