สภาผู้บริโภคยื่นค้านขึ้นค่าโดยสารสายสีเขียวต่อขยาย สภากทม.รับเรื่องหารือฝ่ายบริหาร

สภาผู้บริโภคยื่นหนังสือถึงประธานสภากทม.ค้านขึ้นค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายจากเดิม 15 บาทเป็น 17-45 บาท ชี้ประชาชนเกือบ 4 แสนคนได้รับผลกระทบ ด้านตัวแทนสภากทม.รับเรื่อง เตรียมนำหารือฝ่ายบริหารต่อไป

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 31 ตุลาคม 2568 นายเนติภูมิ มิ่งรุจิราลัย รองประธานสภากรุงเทพมหานคร (สภากทม.) คนที่หนึ่ง ได้รับมอบจากนายวิพุธ ศรีวะอุไร ประธานสภากทม.รับเรื่องร้องเรียนจากสภาองค์กรของผู้บริโภคถึงปัญหาผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประชาชนจากประกาศของกรุงเทพมหานคร (กทม.) ในประเด็นการปรับเปลี่ยนการจัดเก็บอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย 1 และ 2 ทั้งสามช่วง ได้แก่ หมอชิต-คูคต, บางจาก-สมุทรปราการ, และโพธิ์นิมิต-บางหว้า จากเดิม 15 บาทตลอดสาย เป็นคำนวณตามระยะทาง เริ่มต้น 17-45 บาท และสูงสุดไม่เกิน 65 บาท เมื่อเดินทางข้ามช่วงระหว่างสายสัมปทานหลักและส่วนต่อขยาย และจะเริ่มเก็บค่าโดยสารใหม่ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2568 เป็นต้นไปนั้น ประชาชนจำนวนกว่า 380,000 คน/วัน ที่ต้องเดินทางจากชานเมืองเข้ามาทำงานภายในเขตเมืองชั้นในจะได้รับผลกระทบและต้องแบกรับภาระจ่ายค่าโดยสารเพิ่มสูงสุดเฉพาะในส่วนต่อขยายมากถึง 200% หรือ 3 เท่าจากค่าโดยสารส่วนต่อขยายที่เคยจ่ายอยู่ในปัจจุบัน

นายเนติภูมิ กล่าวต่อสภาองค์กรของผู้บริโภคว่า สภากทม.เห็นถึงความสำคัญในเรื่องค่าใช้จ่ายและค่าครองชีพของประชาชน ในขั้นแรกจะดำเนินการยื่นเรื่องร้องเรียนนี้ไปยังคณะกรรมการวิสามัญเพื่อศึกษาปัญหาของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ซึ่งตั้งขึ้นมาเพื่อดำเนินการในเรื่องของรถไฟฟ้าสายสีเขียวมาโดยตลอด และคณะกรรมการการจราจรและการขนส่ง คณะกรรมการสามัญประจำสภากรุงเทพมหานคร โดยในวันนี้ก็ได้มีส.ก.รัตติกาล แก้วเกิดมี หนึ่งในกรรมการของคณะกรรมการการจราจรและการขนส่งเข้ารับเรื่องร้องเรียนด้วย เพื่อนำข้อร้องเรียนเข้าที่ประชุมหารือถึงแนวทางแก้ปัญหาร่วมกับผู้บริหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกรุงเทพมหานครต่อไป